ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เทศบาลนครหาดใหญ่"
ป้ายระบุ: แก้ไขด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ย้อนการแก้ไขที่ 6081856 สร้างโดย 101.108.242.227 (พูดคุย) |
||
บรรทัด 25: | บรรทัด 25: | ||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
=== ยุค |
=== ยุคสุขาภิบาลหาดใหญ่ === |
||
หาดใหญ่ เป็นชื่อรวมของหมู่บ้านโคกเสม็ดชุนและบ้านหาดใหญ่ เดิมดินแดนหาดใหญ่เป็นเนินสูง มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มากนัก การคมนาคมไม่สะดวก เป็นป่าต้นเสม็ดชุน โดยทั่วไปชาวบ้านจึงเรียกว่า บ้านโคกเสม็ดชุน เมื่อทางการได้ตัดทางรถไฟมาถึงท้องถิ่นนี้ จึงมีประชาชนอพยพมาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินและเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ สมัยนั้นชุมทางรถไฟอยู่ที่[[สถานีรถไฟอู่ตะเภา]] (ด้านเหนือของ[[สถานีรถไฟหาดใหญ่]] ในปัจจุบันเป็นเพียงที่หยุดรถไฟ) เนื่องจากสถานีอู่ตะเภาเป็นที่ลุ่ม น้ำท่วมเป็นประจำ ทาง[[การรถไฟแห่งประเทศไทย|การรถไฟ]]จึงได้ย้ายสถานีมาอยู่ที่[[สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่]] ประชาชนได้ทยอยย้ายบ้านเรือนมาสร้างตามบริเวณสถานีนั่นเอง ฉะนั้นอาจกล่าวได้ว่ากิจการรถไฟมีบทบาทต่อการขยับขยายและความเจริญก้าวหน้าของนครหาดใหญ่ตลอดมา |
หาดใหญ่ เป็นชื่อรวมของหมู่บ้านโคกเสม็ดชุนและบ้านหาดใหญ่ เดิมดินแดนหาดใหญ่เป็นเนินสูง มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มากนัก การคมนาคมไม่สะดวก เป็นป่าต้นเสม็ดชุน โดยทั่วไปชาวบ้านจึงเรียกว่า บ้านโคกเสม็ดชุน เมื่อทางการได้ตัดทางรถไฟมาถึงท้องถิ่นนี้ จึงมีประชาชนอพยพมาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินและเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ สมัยนั้นชุมทางรถไฟอยู่ที่[[สถานีรถไฟอู่ตะเภา]] (ด้านเหนือของ[[สถานีรถไฟหาดใหญ่]] ในปัจจุบันเป็นเพียงที่หยุดรถไฟ) เนื่องจากสถานีอู่ตะเภาเป็นที่ลุ่ม น้ำท่วมเป็นประจำ ทาง[[การรถไฟแห่งประเทศไทย|การรถไฟ]]จึงได้ย้ายสถานีมาอยู่ที่[[สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่]] ประชาชนได้ทยอยย้ายบ้านเรือนมาสร้างตามบริเวณสถานีนั่นเอง ฉะนั้นอาจกล่าวได้ว่ากิจการรถไฟมีบทบาทต่อการขยับขยายและความเจริญก้าวหน้าของนครหาดใหญ่ตลอดมา |
||
ต่อมาได้มีผู้เห็นการไกลกล่าวว่าบริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่นี้ ต่อไปภายหน้าจะต้องเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน จึงได้มีการจับจองและซื้อที่ดินแปลงใหญ่จากราษฏรพื้นบ้าน ในที่สุดปี พ.ศ. 2471 หาดใหญ่จึงมีฐานะเป็น[[ |
ต่อมาได้มีผู้เห็นการไกลกล่าวว่าบริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่นี้ ต่อไปภายหน้าจะต้องเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน จึงได้มีการจับจองและซื้อที่ดินแปลงใหญ่จากราษฏรพื้นบ้าน ในที่สุดปี พ.ศ. 2471 หาดใหญ่จึงมีฐานะเป็น[[สุขาภิบาล]] ซึ่งประกาศใช้พระราชบัญญัติสุขาภิบาลเมื่อวันที่ [[29 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2471]] ตามประกาศใน[[ราชกิจจานุเบกษา]] ลงวันที่ [[29 กรกฎาคม]] พ.ศ. 2471 |
||
=== ยุคเทศบาลตำบลหาดใหญ่ === |
=== ยุคเทศบาลตำบลหาดใหญ่ === |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:00, 24 กรกฎาคม 2558
เทศบาลนครหาดใหญ่ | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Thetsaban Tambon Hat Yai City |
ภาพมุมสูงของหาดใหญ่ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 | |
คำขวัญ: มหานครแห่งการค้า นำพาความศิวิไลช์ หาดใหญ่แดนสันติสุข | |
พิกัด: 7°1′N 100°28′E / 7.017°N 100.467°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | [[จังหวัด{{{province}}}|{{{province}}}]] |
อำเภอ | {{{district}}} |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี | นายไพร พัฒโน (พรรคประชาธิปัตย์) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 21 ตร.กม. (8 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2557) | |
• ทั้งหมด | 159,130 คน |
• ความหนาแน่น | 7,577.62 คน/ตร.กม. (19,625.9 คน/ตร.ไมล์) |
รหัส อปท. | {{{code}}} |
ที่อยู่ สำนักงาน | สำนักงานเทศบาลนครหาดใหญ่ เลขที่ 445 ถนนเพชรเกษม ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 90110 |
โทรศัพท์ | 0 7420 0000 |
โทรสาร | 0 7423 5536 |
เว็บไซต์ | http://www.hatyaicity.go.th/ http://www.hatyaicity.go.th/ |
เทศบาลนครหาดใหญ่ หรือ นครหาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หาดใหญ่ถือได้ว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้[1] เนื่องจากเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า และการคมนาคมขนส่งที่สำคัญของภาคใต้ หาดใหญ่ได้ยกฐานะเป็นเทศบาลนครหาดใหญ่ ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่มที่ 112 ตอนที่ 40 ก ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2538 โดยมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2538
ประวัติ
ยุคสุขาภิบาลหาดใหญ่
หาดใหญ่ เป็นชื่อรวมของหมู่บ้านโคกเสม็ดชุนและบ้านหาดใหญ่ เดิมดินแดนหาดใหญ่เป็นเนินสูง มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มากนัก การคมนาคมไม่สะดวก เป็นป่าต้นเสม็ดชุน โดยทั่วไปชาวบ้านจึงเรียกว่า บ้านโคกเสม็ดชุน เมื่อทางการได้ตัดทางรถไฟมาถึงท้องถิ่นนี้ จึงมีประชาชนอพยพมาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินและเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ สมัยนั้นชุมทางรถไฟอยู่ที่สถานีรถไฟอู่ตะเภา (ด้านเหนือของสถานีรถไฟหาดใหญ่ ในปัจจุบันเป็นเพียงที่หยุดรถไฟ) เนื่องจากสถานีอู่ตะเภาเป็นที่ลุ่ม น้ำท่วมเป็นประจำ ทางการรถไฟจึงได้ย้ายสถานีมาอยู่ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ประชาชนได้ทยอยย้ายบ้านเรือนมาสร้างตามบริเวณสถานีนั่นเอง ฉะนั้นอาจกล่าวได้ว่ากิจการรถไฟมีบทบาทต่อการขยับขยายและความเจริญก้าวหน้าของนครหาดใหญ่ตลอดมา
ต่อมาได้มีผู้เห็นการไกลกล่าวว่าบริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่นี้ ต่อไปภายหน้าจะต้องเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน จึงได้มีการจับจองและซื้อที่ดินแปลงใหญ่จากราษฏรพื้นบ้าน ในที่สุดปี พ.ศ. 2471 หาดใหญ่จึงมีฐานะเป็นสุขาภิบาล ซึ่งประกาศใช้พระราชบัญญัติสุขาภิบาลเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2471 ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2471
ยุคเทศบาลตำบลหาดใหญ่
ต่อมาสุขาภิบาลแห่งนี้เจริญขึ้น มีพลเมืองหนาแน่นขึ้น และมีกิจการเจริญก้าวหน้า กระทรวงมหาดไทยจึงได้ประกาศพระราชกฤษฎีกายกฐานะเป็น เทศบาลตำบลหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2478 ซึ่งในขณะนั้นมีเนื้อที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 5,000 คน รวมถึงมีรายได้ประมาณ 60,000 บาท
ยุคเทศบาลเมืองหาดใหญ่
เมื่อประชากรในเขตเทศบาลมีมากขึ้น พร้อมทั้งกิจการได้เจริญขึ้น จึงได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะเทศบาล และมีพระราชกฤษฎีกายกฐานะเทศบาลตำบลหาดใหญ่เป็น เทศบาลเมืองหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2492 ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2492 ซึ่งในขณะนั้นมีเนื้อที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตรเช่นเดิม แต่มีประชากรเพิ่มมากขึ้นเป็นประมาณ 19,425 คน มีรายได้ 374,523.33 บาท
เมื่อท้องที่ในเขตเทศบาลเจริญและมีประชากรอยู่หนาแน่นเพิ่มปริมาณมากขึ้น กระทรวงมหาดไทยจึงได้เปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเมืองหาดใหญ่ จากเนื้อที่ 8 ตารางกิโลเมตร เพิ่มขึ้นอีก 13 ตารางกิโลเมตร รวมเป็นเนื้อที่ทั้งหมด 21 ตารางกิโลเมตร เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2520 ตามราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2520 ในขณะนั้นมีประชากร 68,142 คน มีรายได้ 49,774,558.78 บาท นับได้ว่าเทศบาลเมืองหาดใหญ่เป็นเทศบาลชั้น 1 มีความเจริญก้าวหน้าทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างมาก
ยุคเทศบาลนครหาดใหญ่
หาดใหญ่ยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางบก และทางอากาศ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร หาดใหญ่ยังเป็นชุมทางรถไฟ และศูนย์กลางทางด้านคมนาคม และด้วยศักยภาพที่โดดเด่น และถึงพร้อมด้วยคุณลักษณะรวมไปถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลของผู้บริหาร ทำให้เทศบาลเมืองหาดใหญ่ได้ยกฐานะเป็น เทศบาลนครหาดใหญ่ ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่มที่ 112 ตอนที่ 40 ก ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2538 โดยมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2538 ซึ่งปัจจุบัน เทศบาลนครหาดใหญ่มีพื้นที่ทั้งหมด 21 ตารางกิโลเมตร
การปกครอง
ชุมชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่
|
|
ภูมิอากาศ
นครหาดใหญ่ตั้งอยู่ในเขตอิทธิพลของลมมรสุมเมืองร้อน มีลมมรสุมพัดผ่านประจำทุกปี คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงกลางเดือนมกราคม และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม จากอิทธิพลของลมมรสุมดังกล่าว ส่งผลให้มีฤดูกาลเพียง 2 ฤดู คือ
- ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่ว่างของลมมรสุมจะเริ่มตั้งแต่หลังจากหมดมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว อากาศจะเริ่มร้อนและอากาศจะมีอุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายน แต่อากาศจะไม่ร้อนมากนักเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้ทะเล
- ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน นครหาดใหญ่จะมีฝนตกทั้งในช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ แต่ในช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนตกชุกมากกว่า เนื่องจากพัดผ่านอ่าวไทย ส่วนลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะถูกเทือกเขาบรรทัดปิดกั้นทำให้ฝนตกน้อยลง ในปี พ.ศ. 2546 ฝนตกมากที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม และฝนตกน้อยที่สุดในเดือนเมษายน
ข้อมูลภูมิอากาศของหาดใหญ่ | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 30.8 (87.4) |
32.5 (90.5) |
34.2 (93.6) |
34.6 (94.3) |
33.3 (91.9) |
33.1 (91.6) |
32.9 (91.2) |
32.9 (91.2) |
32.2 (90) |
31.6 (88.9) |
30.1 (86.2) |
29.4 (84.9) |
31.4 (88.5) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 21.4 (70.5) |
21.8 (71.2) |
22.5 (72.5) |
23.4 (74.1) |
23.8 (74.8) |
23.5 (74.3) |
23.1 (73.6) |
23.3 (73.9) |
23.1 (73.6) |
23.2 (73.8) |
22.9 (73.2) |
22.2 (72) |
22.85 (73.13) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 44.7 (1.76) |
14.9 (0.587) |
41.6 (1.638) |
106.3 (4.185) |
181.2 (7.134) |
88.2 (3.472) |
104.6 (4.118) |
100.0 (3.937) |
153.6 (6.047) |
219.6 (8.646) |
294.9 (11.61) |
265.2 (10.441) |
1,614.8 (63.575) |
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย | 7 | 3 | 5 | 11 | 16 | 13 | 13 | 14 | 18 | 21 | 21 | 18 | 160 |
แหล่งที่มา: Thai Meteorological Department |
เศรษฐกิจ
หาดใหญ่เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าและการบริการของภาคใต้ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพพาณิชยกรรม (รองรับกิจกรรมการท่องเที่ยว) และอุตสาหกรรม ได้แก่ อาชีพค้าขาย ธุรกิจบริการ และเป็นลูกจ้างในสถานประกอบการ ลักษณะของเมืองมีขนาดกระชับตัวมาก มีศูนย์กลางเมืองกว้างประมาณ 1 กิโลเมตร ยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ตั้งอยู่ประชิดทางรถไฟ สภาพเมืองขยายตัวออกไปทางทิศตะวันออก ลักษณะของอาคารสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นตึกแถวพาณิชย์ชั้นล่างและอยู่อาศัยชั้นบน อาคารลักษณะเดี่ยวมีน้อยและกระจายตัวอยู่ประปราย จำนวนอาคารสถานประกอบการต่างๆ ดังนี้
- สถานที่จำหน่ายอาหาร (ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข) 1,600 แห่ง
- สถานบริการ (ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ) 239 แห่ง
- โรงพยาบาล และสถานีอนามัย 7 แห่ง
- โรงแรม 96 แห่ง
- โรงภาพยนตร์ 3 แห่ง
- ธนาคาร 10 แห่ง
การท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวในหาดใหญ่ ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้แก่
- วัดหาดใหญ่ใน ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ใกล้สะพานคลองอู่ตะเภา มีพระนอนขนาดใหญ่ คือ พระพุทธหัตถมงคล ซึ่งมีผู้นิยมเดินทางมานมัสการจำนวนมาก
- สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ตั้งอยู่ถนนกาญจนวนิช เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวหาดใหญ่และนักท่องเที่ยว ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท้าวมหาพรหม พระพุทธมงคลมหาราช พระโพธิสัตว์กวนอิมหยก และจุดชมวิวอีกหลายจุดที่สามารถชมเมืองหาดใหญ่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
- ตลาดกิมหยง เป็นตลาดเก่าที่มีมาตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งเมืองหาดใหญ่ มีสินค้าราคาถูก ทั้งผลไม้และของใช้ต่างๆเพื่อเป็นของขวัญและของฝากช่วงเทศกาล
- ตลาดสันติสุข เป็นแหล่งรวมสินค้าราคาถูกมากมายจนขึ้นชื่อว่าเป็น Shopping Paradise
ประชากร
เทศบาลนครหาดใหญ่มีประชากรทั้งสิ้น 158,218 คน เป็นชาย 73,701 คน หญิง 84,517 คน จำนวนบ้าน 58,434 หลัง (ข้อมูล ณ มิถุนายน พ.ศ. 2555) แบ่งเป็น 101 ชุมชน ความหนาแน่นของประชากร 7,529 คนต่อตารางกิโลเมตร (บริเวณกลางเมืองความหนาแน่นถึง 20,000 คนต่อตารางกิโลเมตร) ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่นและอพยพมาจากจังหวัดใกล้เคียง ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ รองลงมาคือศาสนาอิสลาม (ร้อยละ 10 ของประชากร)
การคมนาคม
นครหาดใหญ่มีโครงสร้างพื้นฐานค่อนข้างสมบูรณ์สามารถเชื่อมโยงกับจังหวัดต่าง ๆ เป็นเมืองหลักของภาคใต้ เป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ อุตสาหกรรมและการคมนาคม จึงมีเส้นทางคมนาคมหลักทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และทางอากาศ มีทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงจังหวัด และเส้นทางมาตรฐานหลายสาย ทำให้การเดินทางติดต่อภายในจังหวัด การเดินทางสู่จังหวัดใกล้เคียง และกรุงเทพมหานคร เป็นไปด้วยความสะดวกได้ทั้งภายในภูมิภาค และนานาชาติ
ทางบก
จากกรุงเทพมหานครถึงนครหาดใหญ่ ประมาณ 925 กิโลเมตร มีการคมนาคมโดยทางหลวงแผ่นดิน คือ
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 หรือ ถนนเพชรเกษม จากกรุงเทพมหานคร เข้าแยกปฐมพร จังหวัดชุมพร ผ่านจังหวัดระนอง–จังหวัดพังงา–จังหวัดกระบี่–จังหวัดตรัง–จังหวัดพัทลุง–อำเภอหาดใหญ่–อำเภอสะเดา
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 จากอำเภอเมืองชุมพร ผ่านอำเภอทุ่งสง มาบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ที่จังหวัดพัทลุง
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43 จากอำเภอรัตภูมิ–อำเภอหาดใหญ่-อำเภอนาหม่อม–อำเภอจะนะ
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 406 จากอำเภอรัตภูมิ (สามแยกท่าชะมวง)–จังหวัดสตูล
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 407 หรือ ถนนกาญจนวาณิช จาก อำเภอเมืองสงขลา–อำเภอหาดใหญ่–อำเภอสะเดา
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 414 หรือ ถนนลพบุรีราเมศวร์ จาก แยกน้ำกระจาย อำเภอเมืองสงขลา–อำเภอหาดใหญ่ ไปบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43
- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4135 จากสามแยกโคกเมา–ท่าอากาศยานหาดใหญ่
ทางราง
สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ยังคงมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างอำเภอหาดใหญ่กับกรุงเทพมหานคร และจังหวัดอื่น อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงไปถึงประเทศมาเลเซียได้ โดยชุมทางรถไฟหาดใหญ่เป็นชุมทางรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ เส้นทางรถไฟสายใต้เริ่มต้นจากกรุงเทพมหานครลงไปถึงชุมทางหาดใหญ่ ระยะทางยาวประมาณ 945 กิโลเมตร จากนั้นจะแยกเป็น 2 เส้นทาง คือ เส้นทางสายหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ ความยาว 45 กิโลเมตร เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟของมาเลเซียจนถึงสถานีรถไฟบัตเตอร์เวอร์ธ ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งคือ ทางสายหาดใหญ่–อำเภอสุไหงโก-ลก ความยาว 110 กิโลเมตร หาดใหญ่เป็นสถานีชุมทางต่างประเทศแห่งเดียวของประเทศไทยที่เชื่อมไปยังคาบสมุทรมลายูด้วย เป็นสถานีรถไฟที่มีปริมาณผู้ใช้บริการหนาแน่นมากแห่งหนึ่งของประเทศไทย
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยในอนาคต อาจมี 2 เส้นทาง ได้แก่
- สายสีฟ้า ระยะทาง 6.65 กิโลเมตร บนถนนเพชรเกษม จากตลาดเกษตรหาดใหญ่ใน ถึงแยกคอหงส์ ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลัก ที่มีปริมาณการจราจรสูงสุดของเมืองหาดใหญ่
- สายสีแดง ระยะทาง 6.19 กิโลเมตร บนถนนเพชรเกษม, ถนนราษฎร์ยินดี, ถนนศรีภูวนารถ และถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 3 เป็นเส้นทางวงแหวนสีแดงชั้นใน ที่จะเชื่อมเขตเศรษฐกิจใหม่บนถนนราษฎร์ยินดี เขตใจกลางเมือง หน้าหอนาฬิกา
และจะมีบางช่วงที่สายสีฟ้าและสายสีแดงใช้ทางร่วมกันได้ เรียกว่า จุดซ้อน (Overlap) ซึ่งเป็นระยะทางจาก จุดชุมทาง A และชุมทาง B ระยะทาง 1.78 กิโลเมตร จากแยกโรงแรมวีแอล ถึงแยกเพชรเกษม–ราษฎร์ยินดี
ทางอากาศ
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ และตำบลคลองหลา อำเภอคลองหอยโข่ง ห่างจากเขตเทศบาลประมาณ 12 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ได้รับการยกฐานะเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2515 มีพื้นที่ประมาณ 4.80 ตารางกิโลเมตร หรือ 3,000 ไร่โดยให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00–24.00 น. ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่เป็นท่าอากาศยานที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่นมากเป็นอันดับ 3 ของภาคใต้รองจากท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต และท่าอากาศยานนานาชาติสมุย