สโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์
![]() | ||||
ชื่อเต็ม |
สโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์ (Blackburn Rovers Football Club) | |||
---|---|---|---|---|
ฉายา |
Rovers, Blue and Whites กุหลาบไฟ (ในภาษาไทย) | |||
ก่อตั้ง | ค.ศ. 1875 | |||
สนาม | อีวูดปาร์ค | |||
ความจุ | 31,367 | |||
ประธาน | พอล อักนิว | |||
ผู้จัดการทีม | โทนี โมวบเรย์ | |||
ลีก | ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป | |||
2017–18 | ลีกวัน อันดับที่ 2 (จาก 22 ทีม (เลื่อนชั้น) | |||
เว็บไซต์ | เว็บไซต์สโมสร | |||
|
สโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์ (อังกฤษ: Blackburn Rovers Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลในระดับลีกวัน ของอังกฤษ เคยเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1994–95 มีฉายาว่า "กุหลาบไฟ" ในภาษาไทย ตั้งอยู่ ณ เมืองแบล็กเบิร์น ในแคว้นแลงคาเชียร์ ประเทศอังกฤษ มีสนามเหย้าชื่อ อีวูดปาร์ค
เนื้อหา
ประวัติของสโมสร[แก้]
แบล็กเบิร์นโรเวอส์ก่อตั้งปี 1875 และได้แชมป์ฟุตบอลลีกครั้งแรกในปี 1911 ได้สมัยที่ 2 ในปี 1913 ในปี 1992 มีการเปลี่ยนชื่อลีกสูงสุดเป็นพรีเมียร์ลีกหรือพรีเมียร์ชิพเป็นปีแรก สโมสรจบด้วยอันดับ 4 แต่ด้วยการทุ่มทุนมหาศาลของแจ็ค วอร์กเกอร์ ประธานสโมสรผู้ทำธุรกิจเหล็กกล้าซึ่งลงทุนจ้างเคนนี ดัลกลิช อดีตผู้จัดการของลิเวอร์พูลพร้อมกับให้เงินดัลกลิชซื้อ อลัน เชียร์เลอร์ มาจับคู่กับ คริส ซัตตัน จนสามารถชนะเลิศพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ อย่างไม่มีใครคาดคิด โดยมีคะแนนมากกว่าคู่แข่งสำคัญอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เพียงคะแนนเดียว แต่ต่อมาในปี 1994–95 มาแบล็กเบิร์นโรเวอส์จบด้วยอันดับ 7 และก็เสียผู้เล่นคนสำคัญอย่างอลัน เชียร์เลอร์, โทนี เกล, เดวิด แบ็ทตี้ ทำให้แบล็กเบิร์นโรเวอส์พยายามซื้อนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงอย่างซีเนอดีน ซีดาน แต่ก็ล้มเหลว ก่อนที่ทีมจะตกชั้นลงไปเล่นเดอะแชมเปียนชิปในปี 1998 และแจ็ค วอร์กเกอร์ได้เสียชีวิตด้วยวัย 71 ปี ในปี 2000 และในปี 2001–02 แบล็คเบิร์นสามารถเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จพร้อมกับคว้าแชมป์คาร์ลิงคัพ มาครองได้สำเร็จ
แบล็กเบิร์นโรเวอส์ อยู่ในพรีเมียร์ลีกมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งในปี 2011–12 แบล็กเบิร์นโรเวอส์ต้องตกชั้นลงไปสู่เดอะแชมเปียนชิป ด้วยอยู่ในอันดับที่ 19 ของตาราง ด้วยคะแนนเพียง 31 คะแนนเท่านั้น[1] [2]
ต่อมาในฤดูกาล 2016–17 แบล็กเบิร์นโรเวอส์ต้องตกลงไปสู่ลีกวัน หรือระดับดิวิชัน 3 ด้วยการจบฤดูกาลที่อันดับที่ 22 แม้นัดสุดท้ายจะเป็นฝ่ายเอาชนะเบรนท์ฟอร์ด ไปได้ถึง 1–3 และแม้จะมีคะแนน 51 คะแนนเท่ากับนอตทิงแฮมฟอเรสต์ แต่ทว่ามีลูกเสียได้น้อยกว่า 2 ลูก ทำให้ต้องตกชั้นลงไปสู่ลีกวัน นับเป็นสโมสรแรกที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกแต่ต้องลงไปเล่นในระดับลีกวัน[3]
อดีตผู้เล่นที่มีชื่อเสียง[แก้]
- อลัน เชียเรอร์
- ฮาคาน ซูเคอร์
- แกรม เลอโซ
- ทิม ฟาวเวอร์
- คริส ซัตตัน
- ร็อบบี้ ฟาวเลอร์
- แอนดี้ โคล
- ดไวท์ ยอร์ค
- เดเมียน ดัฟฟ์
- เดวิด แบ็ตตี้
ผู้เล่นชุดปัจจุบัน[แก้]
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
เกียรติประวัติ[แก้]
- แชมป์ ดิวิชั่น 1 เดิม กับ เอฟเอ พรีเมียร์ลีก: 3 ครั้ง
- 1911–12, 1913–14, 1994–95
- แชมป์ ดิวิชั่นสอง: 1 ครั้ง
- 1938–39
- แชมป์ ดิวิชั่นสาม: 1 ครั้ง
- 1974–75
- แชมป์ เอฟเอคัพ: 6 ครั้ง
- 1884, 1885, 1886, 1890, 1891, 1928
- แชมป์ ฟุตบอลลีกคัพ: 1 ครั้ง
- 2002
- แชมป์ เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ (เดิมคือ ชาริตีชิลด์): 1 ครั้ง
- 1912
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "แบล็คเบิร์นตกชั้น!วีแกนอัด1-0". สนุกดอตคอม.
- ↑ "ตารางคะแนน ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2011-2012". พรีเมียร์ดรีมดอตคอม.
- ↑ หน้า 19, กุหลาบช้ำ. "ตะลุยฟุตบอลโลก" โดย หมวดแซม. ไทยรัฐปีที่ 68 ฉบับที่ 21660: วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 แรม 1 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสร
- เว็บไซต์ของแฟนคลับในประเทศไทย
- สโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์ ที่เฟซบุ๊ก
- สโมสรฟุตบอลแบล็กเบิร์นโรเวอส์ ที่เฟซบุ๊ก