ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ย้อนด้วยมือ
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ความหมายอื่น|หน่วยงานของรัฐไทย|สถานีโทรทัศน์|สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส}}
{{issues|ปรับภาษา=yes|ต้องการอ้างอิง=yes||ล้าสมัย=yes}}
{{กล่องข้อมูล หน่วยงานของรัฐ 2
|ชื่อหน่วยงาน = องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
|สัญลักษณ์ _บรรยาย =
|ตรา =
|ตรา_กว้าง = 150px
| =
|วันก่อตั้ง = 15 มกราคม พ.ศ. 2551 ({{Age|2008|1|15}} ปี)
|สืบทอดจาก_1 = [[สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี]]
|วันยุบเลิก =
|สืบทอดโดย =
|เขตอำนาจ =
|กองบัญชาการ = 145 [[ถนนวิภาวดีรังสิต]] แขวงตลาดบางเขน [[เขตหลักสี่]] [[กรุงเทพมหานคร]] 10210
|latd= |latm= |lats= |latNS=
|longd= |longm= |longs= |longEW=
|รหัสภูมิภาค =
|บุคลากร =
|งบประมาณ = จากการจัดเก็บภาษีเหล้าและบุหรี่เพิ่มเติมในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อปี โดยไม่เกินปีละ 2,000 ล้านบาท<ref>https://www.change.org/p/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B0-%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%AA-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%87l</ref>
|หัวหน้า1_ชื่อ = รศ.ดร.[[เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง]]<ref>[https://bog.thaipbs.or.th/news?id=3438 ราชกิจจาเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง 5 กรรมการนโยบายไทยพีบีเอส วาระ 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 63]</ref>
|หัวหน้า1_ตำแหน่ง = ประธานกรรมการนโยบาย
|หัวหน้า2_ชื่อ = รศ.[[วิลาสินี พิพิธกุล]]
|หัวหน้า2_ตำแหน่ง = ผู้อำนวยการ<ref>http://org.thaipbs.or.th/announce/detail/1652 ประกาศแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (รองศาสตราจารย์วิลาสินี พิพิธกุล)</ref>

|ประเภทหน่วยงาน = [[หน่วยงานของรัฐ]]ซึ่งเป็น[[นิติบุคคลมหาชน]]<ref>[https://www.egov.go.th/th/government-agency/1612/ แนะนำเว็บไซต์หน่วยงานภาครัฐ ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย]</ref>
|ต้นสังกัด =
|กำกับดูแล =
|ลูกสังกัด_1 = [[สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส]]
|ลูกสังกัด_2 = [[สถานีวิทยุไทยพีบีเอสออนไลน์]]
|ลูกสังกัด_3 = [[สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ]]

|เอกสารหลัก_1= [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2551/A/008/1.PDF พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551]

|เว็บไซต์ = [https://org.thaipbs.or.th/home ThaiPBS.or.th]
|หมายเหตุ =
}}

{| class="navbox" style="float: right; margin: 0.8em; width:24em"
|+ <big>'''[[อับราฮัม ลินคอล์น|<span lang="th">อั</span>]]กษรย่อที่ใช้ในบทความนี้'''</big><br />'''(เรียงตามลำดับอักษรไทย)'''
|-
| style = "background:#f68ca1;" align=center| <span style="color:white">'''อักษรย่อ'''<span>
! style="background:#f4ccd4;"| <span style="color:#5b5b5b">คำเต็ม</span>
|-
| ส.ส.ท.
| องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
|-
| พ.ร.บ. ส.ส.ท.
| พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551
|-
|colspan="2"|การใช้อักษรย่อในนี้เพื่อมิให้บทความเยิ่นเย้อเท่านั้น แต่โดยปรกติแล้วควรเขียนด้วยคำเต็มไม่ควรย่อ เช่น ''"พ.ร.บ. ส.ส.ท. 2551"''' ควรเขียนว่า ''"พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551"''
|}

'''องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย''' ชื่อย่อ '''"ส.ส.ท."''' ({{lang-en|TPBS}}) เป็นหน่วยงานของรัฐ มีสถานะเป็น[[นิติบุคคลมหาชน]]<ref>[https://www.egov.go.th/th/government-agency/1612/ แนะนำเว็บไซต์หน่วยงานภาครัฐ ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง: องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย]</ref> จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551<ref name=":0">ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2551/A/008/1.PDF พระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551], เล่ม 125, ตอน 8ก, 14 มกราคม พ.ศ. 2551, หน้า 1</ref> มีหน้าที่เป็น[[สื่อสาธารณะ]]ด้าน[[วิทยุกระจายเสียง]]และ[[วิทยุโทรทัศน์]]

ส.ส.ท. เกิดขึ้นหลังจากการที่[[สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี]]ยึด[[สัมปทาน]]คืนจาก[[ไอทีวี]] และรัฐบาลพลเอก[[สุรยุทธ์ จุลานนท์]] นำช่องสัญญาณดังกล่าวมาจัดตั้งเป็น ''สถานีโทรทัศน์สาธารณะ'' โดยให้[[กรมประชาสัมพันธ์]]เป็นผู้ดำเนินงานชั่วคราว ก่อนมีการจัดตั้ง ส.ส.ท. โดยได้รับโอนกิจการและเข้ามาบริหารงาน ''[[สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส]]'' เริ่มออกอากาศอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 หลังทดลองออกอากาศ 1 เดือน

== ประวัติ ==
== ประวัติ ==
เมื่อปี 2549 [[ศาลปกครองสูงสุด]]มีคำสั่งเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ให้[[ไอทีวี]] กลับไปจ่ายค่าสัมปทานปีละ 1,000 ล้านบาทต่อปีตามเดิม และต้องปรับผังรายการใน[[ช่วงเวลายอดนิยม]]ให้มีรายการสาระประโยชน์ร้อยละ 70 และรายการบันเทิงร้อยละ 30 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2547<ref>[https://www.ryt9.com/s/prg/78486 คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีไอทีวี]</ref> หลังจากนั้น[[ไอทีวี]] ไม่สามารถจ่ายค่าปรับจำนวน 101,000,000,000 บาท<ref>[https://www.isranews.org/isranews-other-news/65860-mgronline-65860.html เงียบไปนาน สปน.เดินหน้าสู้คดีเรียกค่าปรับ“ไอทีวี” 1 แสนล้าน]</ref><ref>[https://www.thansettakij.com/content/politics/430979 ปลุกผีค่าเสียหายไอทีวี 2.9 พันล้านสปน.หืดขึ้นคอ]</ref> ดังกล่าวให้กับ[[สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี]]ได้ ทำให้สัมปทานคลื่นความถี่ดังกล่าวถูกยึดคืนมาเป็นของรัฐ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2550 ในระยะแรกรัฐบาล โดยกรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการออกอากาศ[[สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี]]ชั่วคราว<ref>[http://info.gotomanager.com/news/printnews.aspx?id=57137 “ทีไอทีวี”-ไอทีวีแปลงร่าง?]</ref> ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2550<ref>[https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2065674897058725/ 7 มีนาคม 2550 ไอทีวี ออกอากาศวันสุดท้าย]</ref> ถึงวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2551<ref>[http://tnews.teenee.com/etc/19365.html ปิดฉากแล้ว ทีไอทีวี]</ref>
เมื่อปี 2549 [[ศาลปกครองสูงสุด]]มีคำสั่งเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ให้[[ไอทีวี]] กลับไปจ่ายค่าสัมปทานปีละ 1,000 ล้านบาทต่อปีตามเดิม และต้องปรับผังรายการใน[[ช่วงเวลายอดนิยม]]ให้มีรายการสาระประโยชน์ร้อยละ 70 และรายการบันเทิงร้อยละ 30 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2547<ref>[https://www.ryt9.com/s/prg/78486 คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีไอทีวี]</ref> หลังจากนั้น[[ไอทีวี]] ไม่สามารถจ่ายค่าปรับจำนวน 101,000,000,000 บาท<ref>[https://www.isranews.org/isranews-other-news/65860-mgronline-65860.html เงียบไปนาน สปน.เดินหน้าสู้คดีเรียกค่าปรับ“ไอทีวี” 1 แสนล้าน]</ref><ref>[https://www.thansettakij.com/content/politics/430979 ปลุกผีค่าเสียหายไอทีวี 2.9 พันล้านสปน.หืดขึ้นคอ]</ref> ดังกล่าวให้กับ[[สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี]]ได้ ทำให้สัมปทานคลื่นความถี่ดังกล่าวถูกยึดคืนมาเป็นของรัฐ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2550 ในระยะแรกรัฐบาล โดยกรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการออกอากาศ[[สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี]]ชั่วคราว<ref>[http://info.gotomanager.com/news/printnews.aspx?id=57137 “ทีไอทีวี”-ไอทีวีแปลงร่าง?]</ref> ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2550<ref>[https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2065674897058725/ 7 มีนาคม 2550 ไอทีวี ออกอากาศวันสุดท้าย]</ref> ถึงวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2551<ref>[http://tnews.teenee.com/etc/19365.html ปิดฉากแล้ว ทีไอทีวี]</ref>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:28, 27 กุมภาพันธ์ 2564

ประวัติ

เมื่อปี 2549 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ให้ไอทีวี กลับไปจ่ายค่าสัมปทานปีละ 1,000 ล้านบาทต่อปีตามเดิม และต้องปรับผังรายการในช่วงเวลายอดนิยมให้มีรายการสาระประโยชน์ร้อยละ 70 และรายการบันเทิงร้อยละ 30 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2547[1] หลังจากนั้นไอทีวี ไม่สามารถจ่ายค่าปรับจำนวน 101,000,000,000 บาท[2][3] ดังกล่าวให้กับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ ทำให้สัมปทานคลื่นความถี่ดังกล่าวถูกยึดคืนมาเป็นของรัฐ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2550 ในระยะแรกรัฐบาล โดยกรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการออกอากาศสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีชั่วคราว[4] ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2550[5] ถึงวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2551[6]

ช่วงกลางปี 2550 ในรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ได้เสนอร่างกฎหมายให้ไอทีวีเป็นสถานีโทรทัศน์สาธารณะ ตาม พ.ร.บ. ส.ส.ท. ส่งผลให้กรมประชาสัมพันธ์ได้ยุติการดำเนินการและส่งต่อภารกิจดังกล่าวให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินการในช่วงเปลี่ยนผ่าน ต่อมา ส.ส.ท. ได้รับโอนบรรดากิจการ อำนาจหน้าที่ ทรัพย์สิน งบประมาณ หนี้ สิทธิ คลื่นความถี่ และภาระผูกพันของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ. ส.ส.ท.[7][8]

โครงสร้างการบริหาร

พ.ร.บ. ส.ส.ท. กำหนดโครงสร้างการบริหารของ ส.ส.ท. เป็น 2 ส่วน คือ คณะกรรมการนโยบาย และคณะกรรมการบริหาร โดยบทเฉพาะกาลมาตรา 58 กำหนดให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการไม่เกิน 5 คน เป็นคณะกรรมการนโยบายชั่วคราว จนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายที่ได้มีการสรรหาไว้แล้วภายใน 180 วันนับแต่วันใช้บังคับ โดยให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการ

คณะกรรมการนโยบาย

คณะกรรมการนโยบายมีจำนวนทั้งหมด 9 คน ประกอบด้วย ประธานกรรมการ และกรรมการอื่น ๆ อีกไม่เกิน 8 คน ซึ่งมาจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านสื่อสารมวลชน 2 คน ด้านบริหารจัดการองค์กร 3 คน และด้านประชาสังคม 4 คน

มีหน้าที่หลักในการกำหนดนโยบาย ให้ความเห็นชอบในแผนการดำเนินงาน แผนการจัดผังรายการ และแผนงบประมาณขององค์การ กำหนดระเบียบการดำเนินงาน และคุ้มครองสวัสดิภาพ และความอิสระในการทำงานของพนักงานในองค์การ รวมถึงการควบคุมดำเนินงานคณะกรรมการบริหาร โดยที่คณะกรรมการนโยบายมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี

คณะกรรมการนโยบายชุดปัจจุบัน ประกอบด้วยดังนี้[9][10][11][12] [13] [14]

ด้านการบริหารจัดการองค์กร

  1. ผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ (29 กันยายน 2563 - ปัจจุบัน)
  2. ผศ.ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (29 กันยายน 2563 - ปัจจุบัน)
  3. รศ. ดร.ธีรภัทร สงวนกชกร (13 ธันวาคม 2561 - ปัจจุบัน) วาระ 4 ปี

ด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย การพัฒนาชุมชนฯ หรือ ท้องถิ่นการเรียนรู้และศึกษา การคุ้มครองและพัฒนาเด็ก เยาวชนหรือครอบครัว หรือ การส่งเสริมสิทธิของผู้ด้อยโอกาสทางสังคม

  1. รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง (29 กันยายน 2563 - ปัจจุบัน)[15] (ประธานคณะกรรมการนโยบาย)[16]
  2. นายบุญเลิศ คชายุทธเดช (29 กันยายน 2563 - ปัจจุบัน)
  3. นางสาวอุษาสินี ริ้วทอง (29 กันยายน 2563 - ปัจจุบัน)
  4. นายชัยรัตน์ แสงอรุณ (13 ธันวาคม 2561 - ปัจจุบัน) โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี

ด้านกิจการสื่อสารมวลชน

  1. นางสาวรุ่งมณี เมฆโสภณ (30 พฤศจิกายน 2557 - 29 พฤศจิกายน 2561 และ 13 ธันวาคม 2561 - ปัจจุบัน) โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี
  2. นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล (13 ธันวาคม 2561 - ปัจจุบัน) โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี

คณะกรรมการบริหาร

คณะกรรมการบริหารมีทั้งหมด 11 คน ประกอบด้วยผู้อำนวยการเป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง รองผู้อำนวยการจำนวนไม่เกิน 6 คน และกรรมการบริหารจำนวนไม่เกิน 4 คน ทำหน้าที่ในการควบคุมดูแลการผลิตรายการของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส การดำเนินงานขององค์การ การจัดทำแผนการดำเนินงาน รวมไปจนถึงการประเมินคุณภาพของรายการ ทั้งนี้คณะกรรมการบริหารมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปีเช่นเดียวกับคณะกรรมการนโยบาย

แต่งตั้งเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560[17][18] โดยมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 มีดังต่อไปนี้

  1. รศ. ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. (ประธานกรรมการ)
  2. อนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท.[19] (กรรมการ)
  3. สุดารัตน์ ดิษยวรรธนะ จันทราวัฒนากุล รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. (กรรมการ)
  4. สุวรรณา สมบัติรักษาสุข รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. (กรรมการ)
  5. พิภพ พานิชภักดิ์ รองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. (กรรมการ)
  6. ก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าว (กรรมการ)
  7. โยธิน สิทธิบดีกุล ผู้อำนวยการสำนักโทรทัศน์และวิทยุ (กรรมการ)
  8. เจษฎา อนุจารี (กรรมการบริหารอื่น)
  9. พูลประโยชน์ ชัยเกียรติ (กรรมการบริหารอื่น)
  10. สุธีร์ รัตนนาคินทร์ (กรรมการบริหารอื่น)

ทุน

ตาม พ.ร.บ. ส.ส.ท. มาตรา 11 กำหนดแหล่งที่มาของเงินทุนที่จะใช้ในการบริหารงานของ ส.ส.ท. ไว้ดังต่อไปนี้

  1. เงินบำรุงองค์การที่จัดเก็บตามมาตรา 12
  2. เงินและทรัพย์สินที่ได้รับโอนมาตามมาตรา 57 หรือตามกฎหมายอื่น (ในที่นี้ เงินและทรัพย์สินตามมาตรา 57 คือเงิน และทรัพย์สินของสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีเดิม)
  3. ทุนประเดิมที่รัฐจ่ายให้เป็นการอุดหนุนตามมาตรา 60 (รัฐประเดิมทุนให้ได้สูงสุดไม่เกิน 2,000 ล้านบาท)
  4. ค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าบริการ หรือค่าตอบแทนอื่นใดในการให้บริการ
  5. เงินหรือทรัพย์สินอื่นใดที่ได้รับจากผู้สนับสนุนองค์การ
  6. รายได้หรือการหาประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาขององค์การ
  7. ดอกผลที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินขององค์การ

สำหรับการรับเงินตามข้อ 5 ต้องไม่ทำให้องค์การขาดความเป็นอิสระในการดำเนินงาน หรือให้กระทำการอันขัดหรือแย้งต่อวัตถุประสงค์ขององค์การฯ และตามข้อ 2 และ 3 ต้องใช้สนับสนุนพัฒนาศักยภาพ และให้โอกาสสร้างสรรค์แก่ผู้ผลิตรายการอิสระในอัตราที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด แต่ต้องไม่เกินร้อยละสิบของรายได้ดังกล่าว ทั้งนี้ รายได้ขององค์การฯ ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ[8]

พ.ร.บ. ส.ส.ท. กำหนดให้ ส.ส.ท. มีอำนาจจัดเก็บเงินบำรุงองค์การจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยสุราและกฎหมายว่าด้วยยาสูบ ในอัตราร้อยละ 1.5 ของภาษีที่เก็บจากสุราและยาสูบตามกฎหมายว่าด้วยสุราและกฎหมายว่าด้วยยาสูบ และจัดสรรให้เป็นรายได้ขององค์การ โดยให้มีรายได้ สูงสุดปีงบประมาณละไม่เกิน 2,000 ล้านบาท (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอำนาจปรับเพดานสูงสุดของเงินได้ทุก ๆ 3 ปี)[8]

อาคารสำนักงานใหญ่

ในช่วงระยะเริ่มแรกของการก่อตั้ง ส.ส.ท. ได้ใช้พื้นที่ชั้น 13 อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ซึ่งเป็นสำนักงานของสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีเดิม เป็นสำนักงานชั่วคราว ต่อมา ส.ส.ท. ได้สร้างอาคารสำนักงานถาวร ติดกับสโมสรตำรวจ เริ่มทำงานที่สำนักงานใหญ่ตั้งแต่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554 และเริ่มออกอากาศจากสำนักงานใหญ่อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ปีเดียวกัน และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดสำนักงานใหญ่ ในวันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555[20]

อาคารสำนักงานใหญ่ ส.ส.ท. ประกอบด้วยกลุ่มอาคาร 4 หลัง ได้แก่

  • อาคารอำนวยการ เป็นที่ตั้งของหน่วยงานอำนวยการ หน่วยงานด้านเทคนิคสารสนเทศ และหน่วยงานด้านสื่อสารสังคม
  • อาคารปฏิบัติการ เป็นที่ตั้งของสำนักข่าว และห้องส่งการออกอากาศ
  • อาคารบริการ เป็นที่ตั้งของห้องอาหาร ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ฟิตเนส ห้องพยาบาล และหละหมาด
  • อาคารศูนย์เรียนรู้ ประกอบด้วย นิทรรศการสื่อสาธารณะ ห้องฝึกอบรม ห้องฉายภาพยนตร์ และศูนย์ประชุม [21]

หน่วยงานในสังกัด

อัตลักษณ์ของ ส.ส.ท.
แบบที่ชนะเลิศการประกวด

สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เป็นสถานีโทรทัศน์ออกอากาศผ่านเสาอากาศภาคพื้นดินแห่งที่ 6 ของประเทศไทย เริ่มแพร่ภาพออกอากาศครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 ภายใต้ชื่อ สถานีโทรทัศน์ไอทีวี และภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี แต่เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นมานั้น ได้ออกอากาศเป็นสถานีโทรทัศน์สาธารณะ ชึ่งเป็นรูปแบบปัจจุบัน ก่อนออกอากาศอย่างเป็นทางการในอีก 1 เดือนหลัง คือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน ทางสถานีฯ ส่งสัญญาณออกอากาศทางโทรทัศน์สีในระบบยูเอชเอฟ ช่อง 29 (ระบบแอนะล็อก) และช่อง 3 (ระบบดิจิทัล) จากกรุงเทพมหานคร และมีสถานีเครือข่ายในภูมิภาคอีกด้วย

สถานีฯ ได้นำเสนอการรายงานข่าวสาร สาระบันเทิง รายการเพื่อเด็กและเยาวชน และรายการความรู้ ที่บริหารด้วยความเป็นไทย มีความสมดุล ซื่อตรงต่อจรรยาบรรณ มุ่งดำเนินการโดยปราศจากอคติทางการเมือง และผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ เป็นต้น

สถานีวิทยุไทยพีบีเอส

สถานีวิทยุไทยพีบีเอส เป็นสถานีวิทยุของไทยพีบีเอสที่กระจายเสียงในระบบออนไลน์ ซึ่งเสนอรายการข่าวสาร (บางรายการรับสัญญาณการออกอากาศจากความถี่เสียงของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส) สาระต่างๆ เพื่อประโยชน์สาธารณะและสังคม โดยสามารถรับฟังการกระจายเสียงของสถานีฯ ได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.thaipbsradio.com

สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการ

เป็นส่วนหนึ่งของ ส.ส.ท. ที่มีสมาชิก 50 คน ที่คัดเลือกจากผู้สมัครจากแต่ละกลุ่ม มากลุ่มละ 4 คน และคณะกรรมนโยบายมาคัดเลือกอีกทีหนึ่งโดยคัดเลือกให้เลือกเพียง 50 คนที่ กฎหมาย เพื่อเป็นกลไลในการรับฟังความคิด นอกจากนี้ยังผู้ตรวจสอบภายในและศูนย์เพื่อนไทยพีบีเอส เพื่อให้ไทยพีบีเอส วิทยุไทย และสื่อใน ส.ส.ท. เป็นสิ่งที่ตอบสนองคนทุกกลุ่มได้อย่างชัดเจนและเป็นธรรม

ศูนย์เพื่อนไทยพีบีเอส

เป็นหน่วยงานที่เปิดรับฟังความคิดเห็นและร่วมกันตรวจสอบพฤติกรรมการผลิตและดำเนินรายการต่าง ๆ ของสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ของไทยพีบีเอสไปพร้อมกันกับผู้ชมและผู้ฟังการออกอากาศ

บุคคลสำคัญ

ผู้อำนวยการ

รายนามผู้อำนวยการ ส.ส.ท. มีดังต่อไปนี้

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
รายนามผู้อำนวยการ วาระการดำรงตำแหน่ง
1. เทพชัย หย่อง 15 มกราคม พ.ศ. 2551 - 9 ตุลาคม พ.ศ. 2551 (รักษาการผู้อำนวยการสถานี ตามมติคณะกรรมการนโยบายชั่วคราว ส.ส.ท.)
10 ตุลาคม พ.ศ. 2551 - 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555
2. สมชัย สุวรรณบรรณ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558[22]
3. พวงรัตน์ สองเมือง 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558[23] - 31 มกราคม พ.ศ. 2559(ผู้อำนวยการสำนักรายการ รักษาการผู้อำนวยการตามมติคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.)
4. ทันตแพทย์กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559[24] - 15 มีนาคม พ.ศ. 2560[25]
5. อนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ 16 มีนาคม[26]- 15 เมษายน พ.ศ. 2560 (รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ไปพลางก่อน)
6. ก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ 16 เมษายน[27] - 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 (ผู้อำนวยการสำนักข่าว รักษาการผู้อำนวยการตามมติคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.)
7. รองศาสตราจารย์วิลาสินี พิพิธกุล 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 - ปัจจุบัน[28]

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีไอทีวี
  2. เงียบไปนาน สปน.เดินหน้าสู้คดีเรียกค่าปรับ“ไอทีวี” 1 แสนล้าน
  3. ปลุกผีค่าเสียหายไอทีวี 2.9 พันล้านสปน.หืดขึ้นคอ
  4. “ทีไอทีวี”-ไอทีวีแปลงร่าง?
  5. 7 มีนาคม 2550 ไอทีวี ออกอากาศวันสุดท้าย
  6. ปิดฉากแล้ว ทีไอทีวี
  7. คำสั่งกรมประชาสัมพันธ์ ที่ 25/2551 เรื่อง ให้สถานีวิทยุโทรทัศน์ ระบบ ยู เอช เอฟ ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 เดลินิวส์ออนไลน์ 14 มกราคม 2551 21:01 น.
  8. 8.0 8.1 8.2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ :0
  9. รู้จักกรรมการนโยบาย ส.ส.ท.
  10. คณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ชุดปัจจุบัน
  11. ราชกิจจานุเบกษา,ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
  12. ราชกิจจานุเบกษา,แต่งตั้งกรรมการนโยบาย (แทนตำแหน่งที่ว่าง)
  13. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยแทนตำแหน่งที่ว่าง, เล่ม 131, ตอนพิเศษ 228ง, 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, หน้า 11
  14. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย, เล่ม 133, ตอนพิเศษ 218ง, 28 กันยายน พ.ศ. 2559, หน้า 20
  15. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเป็นกรรมการนโยบายไทยพีบีเอส เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะครบวาระ 4 ปี
  16. ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ "แต่งตั้ง 5 กรรมการนโยบายไทยพีบีเอส" วาระ 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 63
  17. ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
  18. คณะกรรมการบริหาร ส.ส.ท. ชุดปัจจุบัน
  19. ประกาศแต่งตั้งรองผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
  20. http://www2.thaipbs.or.th/event/newhome/
  21. http://www2.thaipbs.or.th/event/newhome/
  22. http://org.thaipbs.or.th/content/123 ประกาศเลิกสัญญาจ้าง นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. (ไทยพีบีเอส)
  23. http://org.thaipbs.or.th/media/document/content/2015/12/16/371_1.pdf ประกาศองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เรื่อง แต่งตั้งรักษาการผู้อำนวยการ ส.ส.ท.(นางพวงรัตน์ สองเมือง)
  24. http://org.thaipbs.or.th/media/document/content/2016/01/21/756_1.pdf ประกาศแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย(นายกฤษดา เรืองอารีย์รัชต์)
  25. "นายกฤษดา เรืองอารีย์รัชต์" ลาออก ผู้อำนวยการ ส.ส.ท. รับผิดชอบกรณีซื้อตราสารหนี้
  26. http://org.thaipbs.or.th/document/download?1=5&2=1497&3=1 นายอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รักษาการผู้อำนวยการ ส.ส.ท.
  27. http://org.thaipbs.or.th/announce/detail/1516 แต่งตั้งพนักงานรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท. (นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์)
  28. http://org.thaipbs.or.th/announce/detail/1652 ประกาศแต่งตั้งผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (รองศาสตราจารย์วิลาสินี พิพิธกุล)

แหล่งข้อมูลอื่น