ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ซาดีโย มาเน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mr.BuriramCN (คุย | ส่วนร่วม)
มาเน่จะไปมาดริด
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
'''ซาดีโย มาเน''' ({{lang-fr|Sadio Mané}}; เกิดวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลชาวเซเนกัล ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งปีกให้กับ[[มาดริด|เรอัลมาดริด]]ในลาลีก้าและ[[ฟุตบอลทีมชาติเซเนกัล|ทีมชาติเซเนกัล]]
{{Infobox football biography
| name = ซาดีโย มาเน
| image = [[ไฟล์:Sadio Mané Senegal.jpg|220px]]
| caption = มาเนกับ[[ฟุตบอลทีมชาติเซเนกัล|เซเนกัล]]ในการแข่งขัน[[ฟุตบอลโลก 2018]]
| fullname = ซาดีโย มาเน<ref>{{cite web |title=Premier League Clubs submit Squad Lists |url=http://www.premierleague.com/content/dam/premierleague/site-content/News/publications/squad-lists/Premier-League-squad-lists-September-2014.pdf |publisher=Premier League |date=3 September 2014 |accessdate=2 January 2015 }}</ref>
| birth_date = {{birth date and age|1992|4|10|df=y}}
| birth_place = [[เซดีลู]] เซเนกัล
| height = {{height|m=1.75}}<ref name="Southampton F.C.">{{cite web |url=http://www.saintsfc.co.uk/team/player-profile/sadio-mane/10 |title= Sadio Mané: Southampton Player Profiles |publisher=Southampton F.C. |accessdate=7 March 2016}}</ref>
| position = [[กองกลาง#ปีก|ปีก]]<ref>{{cite web |url= http://www.premierleague.com/en-gb/players/profile.overview.html/sadio-mane |title= Premier League Player Profile Sadio Mané |author=<!--Staff writer(s); no by-line.--> |date= 2015 |website= Premier League |publisher= Barclays Premier League|accessdate= 12 January 2015}}</ref>
| currentclub = [[สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล|ลิเวอร์พูล]]
| clubnumber = 10
|youthyears1 =
|youthclubs1 = อคาเดมีเจเนเรชันฟุต
| years1 = 2011–2012 |clubs1 = [[สโมสรฟุตบอลแม็ส|แม็ส]] |caps1 = 22 |goals1 = 2
| years2 = 2012–2014 |clubs2 = [[สโมสรฟุตบอลเร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค|เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค]] |caps2 = 63 |goals2 = 31
| years3 = 2014–2016 |clubs3 = [[สโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน|เซาแทมป์ตัน]] |caps3 = 67 |goals3 = 21
| years4 = 2016– |clubs4 = [[สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล|ลิเวอร์พูล]] |caps4 = 118 |goals4 = 59
| nationalyears1 = 2012 |nationalteam1 = [[ฟุตบอลทีมชาติเซเนกัลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี|เซเนกัล อายุไม่เกิน 23 ปี]] |nationalcaps1 = 4 |nationalgoals1 = 0
| nationalyears2 = 2012– |nationalteam2 = [[ฟุตบอลทีมชาติเซเนกัล|เซเนกัล]] |nationalcaps2 = 69 |nationalgoals2 = 19
| pcupdate = 7 มีนาคม 2020 (UTC)
| ntupdate = 17 พฤศจิกายน 2019
}}
'''ซาดีโย มาเน''' ({{lang-fr|Sadio Mané}}; เกิดวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลชาวเซเนกัล ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งปีกให้กับ[[ลิเวอร์พูล]]ในพรีเมียร์ลีกและ[[ฟุตบอลทีมชาติเซเนกัล|ทีมชาติเซเนกัล]]


== สโมสรอาชีพ ==
== สโมสรอาชีพ ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:36, 18 เมษายน 2563

ซาดีโย มาเน (ฝรั่งเศส: Sadio Mané; เกิดวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลชาวเซเนกัล ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งปีกให้กับเรอัลมาดริดในลาลีก้าและทีมชาติเซเนกัล

สโมสรอาชีพ

เซาแทมป์ตัน

ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ระหว่างฤดูกาล 2014–15 มาเนได้ทำแฮททริกในนัดที่เซาแทมป์ตันพบกับแอสตันวิลลา ด้วยเวลาเพียง 2.56 นาที นับเป็นแฮททริกที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ทำลายสถิติเดิมของร็อบบี ฟาวเลอร์ ของลิเวอร์พูลที่ทำไว้ในนัดที่พบกับอาร์เซนอล เมื่อปี ค.ศ. 1994 และถือเป็นแฮททริกที่เร็วที่สุดในโลกเป็นอันดับ 8[1]

ลิเวอร์พูล

ฤดูกาล 2016-17

มาเน ในปี ค.ศ. 2017

ในวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 2016 มาเนย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญา 5 ปี[2] [3] และเป็นสถิติการซื้อตัวผู้เล่นชาวแอฟริกาที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร[4]

ในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 2016 อินเตอร์เนชันแนลแชมเปียนส์คัพ ฤดูกาล 2016 ลิเวอร์พูล เจอกับ บาร์เซโลนา ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ มาเนทำประตูแรกในช่วงปรีซีซั่น ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาร์เซโลนา 4-0[5] ต่อมา ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2016 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2016–17 มาเนทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 4-3[6] ต่อมา ในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2016 มาเนไม่ได้ลงสนามในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 0-2 เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ ต่อมา ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2016 อีเอฟแอลคัพ รอบ 2 มาเนกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงและจ่ายบอลให้เพื่อนทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบอร์ตันอัลเบียน 5-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 3 อีเอฟแอลคัพ ได้สำเร็จ[7] ต่อมา ในวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 2016 มาเนทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 4-1[8] ต่อมา ในวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2016 มาเนทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัลล์ซิตี 5-1[9] ต่อมา ในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2016 มาเนทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 2-1[10] ต่อมา ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 มาเนยิง 2 ประตูให้ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 6-1[11] ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2016 มาเนยิงประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ บอร์นมัท 1-0 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 3-4[12]

ในวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2016 ลิเวอร์พูล ทำศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี บุกไปเยือนที่กูดิสันพาร์ก เจอกับ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมือง โดย มาเนยิงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+4 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0[13] ต่อมา ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ ที่สเตเดียมออฟไลต์ 2-2[14]

ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 มาเนยิง 2 ประตูให้ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ชนะนัดแรกในลีกนับตั้งแต่ขึ้นปี 2017[15] ต่อมา ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1[16] ต่อมา ในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1[17] หลังจบเกมส์ มาเนมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่เอ็นเข่าฉีก ส่งผลให้มาเนหมดสิทธิ์ลงเล่นตลอดทั้งฤดูกาล[18]

ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2017 มาเนติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ 2016-17 หลังจากยิงไป 13 ประตูในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลแรกให้กับลิเวอร์พูล ต่อมา ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 มาเนคว้า 2 รางวัลของสโมสรลิเวอร์พูล ได้แก่ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ ในงานประกาศรางวัล Players' Awards 2017[19]

ฤดูกาล 2017-18

มาเนลงเล่นให้กับลิเวอร์พูล ในปี ค.ศ. 2017

ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2017 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2017–18 มาเนทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ วอตฟอร์ด ที่วิคาริจโรด 3-3[20] ต่อมา ในวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2017 มาเนยิงประตูชัยในช่วงครึ่งหลัง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 1-0[21] ต่อมา ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 4-0[22] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ มาเนได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนสิงหาคมของพรีเมียร์ลีก[23] ต่อมา ในวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 2017 มาเนโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในช่วงครึ่งแรก จากจังหวะยกเท้าสูงใส่หน้าผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ซิตี แอเดร์ซง โมไรซ์ จนใบหน้าของแอเดร์ซงได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวจนต้องส่งผู้รักษาประตูสำรองมาแทน ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม 0-5 ทำให้ มาเนโดนแบน 3 นัด[24] ต่อมา ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E มาเนทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เซบิยา จากสเปน 3-3[25] ต่อมา ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สโตกซิตี ที่บริแทนเนียสเตเดียม 3-0[26] ต่อมา ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สปาร์ตัคมอสโก จากรัสเซีย 7-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[27] ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 2-1[28] ต่อมา ในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 4-3[29]

ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก มาเนทำแฮตทริกครั้งแรกของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 5-0 ทำให้ มาเนเป็นนักเตะคนที่ 4 ที่ทำแฮตทริกให้กับลิเวอร์พูลในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ต่อจาก ไมเคิล โอเวน, ยอสซี เบนายูน และฟีลีปี โกชิญญู[30] ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-1[31] ต่อมา ในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-0[32] ต่อมา ในวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-1[33] ต่อมา ในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก มาเนทำประตูที่ 7 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-0[34] ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[35] ต่อมา ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก มาเนทำประตูที่ 8 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ โรมา จากอิตาลี 5-2[36] ต่อมา ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 มาเนทำประตูที่ 9 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ โรมา ที่สตาดีโอโอลิมปีโก 2-4 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ โรมา 7-6 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[37]

ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2018 ลิเวอร์พูล เจอกับแชมป์เก่า เรอัลมาดริด ที่สนามโอลิมปิสกีเนชันแนลสปอตส์คอมเพล็กซ์ ในเคียฟ ประเทศยูเครน มาเนทำประตูตีเสมอ 1-1 แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เรอัลมาดริด 1-3 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก อย่างน่าเสียดาย[38]

ฤดูกาล 2018-19

ก่อนจะเริ่มฤดูกาล 2018-19 มาเนเปลี่ยนสวมเสื้อหมายเลข 10 แทนหมายเลข 19[39] ต่อมา ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2018 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2018–19 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-0[40] ต่อมา ในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2016 มาเนทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-0[41] ต่อมา ในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงพาวเวอร์สเตเดียม 2-1[42] ต่อมา ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C มาเนทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เรดสตาร์ เบลเกรด จากเซอร์เบีย 4-0[43] ต่อมา ในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2018 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 4-1[44]

ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 มาเนตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล ต่อมา ในวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะคู่ปรับตลอดกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-1[45] ต่อมา ในวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 5-1[46] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-3[47] ต่อมา ในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เลสเตอร์ซิตี 1-1[48] ต่อมา ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 1-1[49] ต่อมา ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[50] ต่อมา ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 5-0[51] ต่อมา ในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2019 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบิร์นลีย์ 4-2[52] ต่อมา ในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาเยิร์นมิวนิก ที่อัลลีอันทซ์อาเรนา 3-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาเยิร์นมิวนิก 3-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[53] ต่อมา ในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟูลัม ที่เครเวนคอตทิจ 2-1[54] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ มาเนได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนมีนาคมของพรีเมียร์ลีก[55] ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชลซี 2-0[56] ต่อมา ในวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 มาเนทำประตูที่ 4 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 4-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู 6-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[57] ต่อมา ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2019 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 5-0[58] ต่อมา มาเนยังได้ติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ร่วมกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน และ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ 3 นักเตะของลิเวอร์พูล อีกด้วย

ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย มาเนยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 2-0 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 4-1 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[59] มาเนยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 22 ประตูจาก 36 นัด ทำให้ มาเนคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครอง ร่วมกับ มุฮัมมัด เศาะลาห์ และ ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ ต่อมา ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน มาเนช่วยให้ลิเวอร์พูลได้จุดโทษ ก่อนที่ ซาลาห์ทำประตูขึ้นนำ 1-0 สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[60]

ฤดูกาล 2019-20

ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 เจอกับ เชลซี แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018–19 ที่สนามโวดาโฟนพาร์ก, อิสตันบูล ประเทศตุรกี ในช่วง 120 นาที มาเนยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี 2-2 ทำให้ต้องตัดสินในการยิงจุดโทษ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[61] ต่อมา ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะทีมเก่าของเขา เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-1[62] ต่อมา ในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 3-0[63] ต่อมา ในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2019 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 3-1[64] ทำให้ มาเนเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ลงเล่น 50 นัดในบ้านให้สโมสรเดียว โดยไม่แพ้ใคร ต่อมา ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E มาเนทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะทีมเก่าของเขา เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค จากออสเตรีย 4-3[65] ต่อมา ในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2019 มาเนลงสนามให้กับลิเวอร์พูลนัดที่ 100 และทำประตูที่ 50 ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 2-1[66]

ในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม E มาเนทำประตูที่ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เคงก์ จากเบลเยียม 4-1[67] ต่อมา ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตันวิลลา ที่วิลลาพาร์ก 2-1[68] ต่อมา ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-1[69] ต่อมา ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-1[70] ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 5-2[71] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ มาเนได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนพฤศจิกายนของพรีเมียร์ลีก[72] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ ฟลาเม็งกู ตัวแทน คอนเมบอล ในฐานะแชมป์เก่าของ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ที่สนามกีฬาแห่งชาติคาลิฟา ในโดฮา, ประเทศกาตาร์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเม็งกู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก สมัยแรกได้สำเร็จ[73] ต่อมา ในวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 1-0[74]

ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 2-0[75] ต่อมา ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริชซิตี ที่แคร์โรว์โรด 1-0[76] ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3-2[77] ต่อมา ในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 14 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 2-1[78]

ทีมชาติเซเนกัล

ทีมเยาวชน

ทีมชุดใหญ่

ทีมชาติเซเนกัลเรียกตัวมาเนติดรายชื่อ 23 คน ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดย เซเนกัล ได้อยู่กลุ่มจี ร่วมกับ โปแลนด์, โคลอมเบีย และ ญี่ปุ่น ต่อมา ในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูแรกในฟุตบอลโลก ในนัดที่ เซเนกัล เสมอกับ ญี่ปุ่น 2-2

สถิติอาชีพ

สโมสร

ณ วันที่ 11 มีนาคม 2020[79][80]
Club performance ลีก ฟุตบอลถ้วย ลีกคัพ ยุโรป Other รวม
ฤดูกาล สโมสร ลีก ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
Metz 2011–12 Ligue 2 19 1 0 0 0 0 19 1
2012–13 Championnat National 3 1 0 0 1 0 4 1
รวม 22 2 0 0 1 0 0 0 23 2
เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค 2012–13 Austrian Bundesliga 26 16 3 3 29 19
2013–14 33 13 4 5 13[a] 5 50 23
2014–15 4 2 1 1 3[b] 0 8 3
รวม 63 31 8 9 0 0 16 5 87 45
เซาแทมป์ตัน 2014–15 พรีเมียร์ลีก 30 10 0 0 2 0 32 10
2015–16 37 11 1 0 2 3 3[c] 1 43 15
รวม 67 21 1 0 4 3 3 1 75 25
ลิเวอร์พูล 2016–17 พรีเมียร์ลีก 27 13 0 0 2 0 29 13
2017–18 29 10 2 0 0 0 13[b] 10 44 20
2018–19 36 22 0 0 1 0 13[b] 4 50 26
2019–20 26 14 1 0 0 0 8[b] 2 3[d] 2 38 18
รวม 118 59 3 0 3 0 34 16 3 2 161 77
รวมทั้งหมด 270 113 11 9 8 3 53 22 3 2 346 149
  1. Two appearances in UEFA Champions League, eleven appearances and five goals in UEFA Europa League
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 Appearances in UEFA Champions League
  3. Appearances in UEFA Europa League
  4. One appearance and two goals in UEFA Super Cup, two appearances in FIFA Club World Cup

ทีมชาติ

ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2019[81]
เซเนกัล
ปี ลงเล่น ประตู
2012 6 2
2013 8 1
2014 9 3
2015 9 3
2016 7 1
2017 9 4
2018 9 1
2019 11 4
รวม 69 19

ประตูในนามทีมชาติ

As of match played 4 June 2016. Senegal score listed first, score column indicates score after each Mané goal.[82]
International goals by date, venue, cap, opponent, score, result and competition
No. วันที่ สนาม Cap คู่แข่งขัน ประตู ผล การแข่งขัน
1 2 June 2012 Stade Léopold Sédar Senghor, Dakar, Senegal 2 ธงชาติไลบีเรีย ไลบีเรีย 3–1 3–1 ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก
2 14 November 2012 Stade Général Seyni Kountché, Niamey, Niger 5 ธงชาติไนเจอร์ ไนเจอร์ 1–1 1–1 เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร
3 7 September 2013 Stade de Marrakech, Marrakesh, Morocco 11 ธงชาติยูกันดา ยูกันดา 1–0 1–0 2014 FIFA World Cup qualification
4 5 March 2014 Stade Municipal Saint-Leu-la-Forêt, Saint-Leu-la-Forêt, France 14 ธงชาติมาลี มาลี 1–0 1–1 เกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร
5 5 September 2014 Stade Léopold Sédar Senghor, Dakar, Senegal 17 ธงชาติอียิปต์ อียิปต์ 2–0 2–0 2015 Africa Cup of Nations qualification
6 10 September 2014 Botswana National Stadium, Gaborone, Botswana 18 ธงชาติบอตสวานา บอตสวานา 1–0 2–0 2015 Africa Cup of Nations qualification
7 13 June 2015 Stade Léopold Sédar Senghor, Dakar, Senegal 26 ธงชาติบุรุนดี บุรุนดี 3–1 3–1 2017 Africa Cup of Nations qualification
8 5 September 2015 Sam Nujoma Stadium, Windhoek, Namibia 27 ธงชาตินามิเบีย นามิเบีย 2–0 2–0 2017 Africa Cup of Nations qualification
9 13 November 2015 Mahamasina Municipal Stadium, Antananarivo, Madagascar 30 ธงชาติมาดากัสการ์ มาดากัสการ์ 2–2 2–2 ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก
10 4 June 2016 Prince Louis Rwagasore Stadium, Bujumbura, Burundi 36 ธงชาติบุรุนดี บุรุนดี 1–0 2–0 2017 Africa Cup of Nations qualification
11 15 มกราคม 2017 Stade de Franceville, Franceville, Gabon 41 ธงชาติตูนิเซีย ตูนิเซีย 1–0 2–0 2017 Africa Cup of Nations
12 19 มกราคม 2017 Stade de Franceville, Franceville, Gabon 42 ธงชาติซิมบับเว ซิมบับเว 1–0 2–0 2017 Africa Cup of Nations
13 27 March 2017 Stade Sébastien Charléty, Paris, France 45 ธงชาติโกตดิวัวร์ โกตดิวัวร์ 1–0 1–1 Friendly
14 5 September 2017 Stade du 4 Août, Ouagadougou, Burkina Faso 47 ธงชาติบูร์กินาฟาโซ บูร์กินาฟาโซ 2–2 2–2 2018 FIFA World Cup qualification
15 24 June 2018 Central Stadium, Yekaterinburg, Russia 54 ธงชาติญี่ปุ่น ญี่ปุ่น 1–0 2–2 2018 FIFA World Cup
16 26 March 2019 Stade Léopold Sédar Senghor, Dakar, Senegal 60 ธงชาติมาลี มาลี 1–1 2–1 Friendly
17 1 July 2019 30 June Stadium, Cairo, Egypt 62 ธงชาติเคนยา เคนยา 0–2 0–3 2019 Africa Cup of Nations
18 1 July 2019 30 June Stadium, Cairo, Egypt 62 ธงชาติเคนยา เคนยา 0–3 0–3 2019 Africa Cup of Nations
19 5 July 2019 Cairo International Stadium, Cairo, Egypt 63 ธงชาติยูกันดา ยูกันดา 1–0 1–0 2019 Africa Cup of Nations

เกียรติประวัติ

สโมสร

เรดบูลล์ซัลบูร์ก

  • Austrian Bundesliga: 2013–14
  • Austrian Cup: 2013–14

ลิเวอร์พูล

รางวัลส่วนตัว

  • CAF Team of the Year: 2015, 2016, 2018
  • PFA Premier League Team of the Year: 2016–17, 2018–19
  • Premier League Player of the Month: สิงหาคม 2017[83], มีนาคม 2019, พฤศจิกายน 2019
  • นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล: 2016–17
  • Liverpool FC Players' Player of the Year: 2016–17
  • FIFA FIFPro World XI 4th team: 2018
  • FIFA FIFPro World11 nominee: 2019 (4th forward)
  • Premier League Golden Boot: 2018–19
  • UEFA Champions League Squad of the Season: 2018–19
  • CAF Africa Cup of Nations Team of the Tournament: 2019
  • UEFA Team of the Year: 2019
  • African Footballer of the Year: 2019
  • Onze d'Or: 2018–19
  • The Best FIFA Men's Player: 2019 (5th place)
  • IFFHS Men's World Team: 2019
  • Ballon d'Or: 2019 (4th place)
  • Standard Chartered Liverpool Player of the Month: สิงหาคม 2016[84], กุมภาพันธ์ 2017[85], มกราคม 2019[86], มีนาคม 2019[87], พฤศจิกายน 2019[88]
  • PFA Fans' Player of the Month: สิงหาคม 2016, กันยายน 2016[89], สิงหาคม 2018[90], มีนาคม 2019[91]
  • ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์: กุมภาพันธ์ 2017[92], กุมภาพันธ์ 2018[93], มีนาคม 2019

อ้างอิง

  1. "มาเน่ทำสถิติซัดแฮตทริกเร็วสุดอันดับ8โลก". สยามสปอร์ต. May 16, 2015.
  2. สโมสรลิเวอร์พูลประกาศคว้าตัวซาดิโอ มาเน่
  3. 8 สถิติที่น่าสนใจของมาเน่ นักเตะใหม่หงส์แดง
  4. "13 ทีม พรีเมียร์ลีก ที่ทุบสถิติสโมสรซื้อแข้งค่าตัวแพงในซัมเมอร์นี้". guideball. September 3, 2016.
  5. มาเน่โชว์ฟอร์มเด่นในเกมลิเวอร์พูลถล่มบาร์เซโลนา
  6. ลิเวอร์พูลกบุกไปกำชัยเหนืออาร์เซนอลในเกมเปิดฤดูกาล
  7. ลิเวอร์พูลยิง 5 ประตู พร้อมผ่านเข้ารอบต่อไปในถ้วยลีกคัพ
  8. ลิเวอร์พูลถล่มเลสเตอร์ ในเกมประเดิมเมน สแตนด์ ที่แอนฟิลด์
  9. ลิเวอร์พูลฟอร์มเยี่ยม เปิดแอนฟิลด์ถล่มฮัลล์ 5-1
  10. มาเน่ และคูตินโญ่ ยิงคว้าชัยเหนือเวสต์บรอมที่แอนฟิลด์
  11. ลิเวอร์พูลครองจ่าฝูง หลังถล่มวัตฟอร์ดที่แอนฟิลด์
  12. บอร์นมัธพลิกชนะลิเวอร์พูล
  13. มาเน่ยิงช่วงทดเจ็บให้ลิเวอร์พูลบุกชนะเอฟเวอร์ตันที่กูดิสัน พาร์ก
  14. ลิเวอร์พูลเก็บได้เพียงแต้มเดียว หลังถูกซันเดอร์แลนด์ตามตีเสมอ
  15. มาเน่เหมาสองประตูให้ลิเวอร์พูลเก็บสามแต้มเหนือสปอร์ส
  16. สามประตู สามแต้มที่แอนฟิลด์
  17. ลิเวอร์พูลคว้าชัยในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี ที่แอนฟิลด์
  18. "แฟนหงส์เศร้า! "มาเน่" เจ็บ หมดสิทธิ์เล่นทั้งฤดูกาล"
  19. ซาดิโอ มาเน่ คว้ารางวัลใหญ่ในงานประกาศรางวัลของลิเวอร์พูล
  20. ลิเวอร์พูลถูกวัตฟอร์ดตามตีเสมอในนาทีสุดท้าย
  21. ลิเวอร์พูลเฉือนพาเลซ คว้าสามแต้มเต็มที่แอนฟิลด์
  22. ลิเวอร์พูลถล่มอาร์เซนอลขาดลอยที่แอนฟิลด์
  23. ซาดิโอ มาเน่ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ประจำเดือนสิงหาคม
  24. เผยภาพสุดสยอง! ‘เอแดร์สัน’ ต้องเย็บหน้า 8 เข็มหลังโดนมาเนถีบ https://www.thairath.co.th/content/1067020
  25. ลิเวอร์พูลถูกเซบิยาไล่ตีเสมอ 3-3 ท้ายเกมที่สเปน
  26. ซูเปอร์ซับ! ซาลาห์เหมาสองให้ลิเวอร์พูลบุกไปถล่มสโต๊ก ซิตี้
  27. คูตินโญ่กดแฮตทริก! ลิเวอร์พูลถล่มสปาร์ตัก มอสโก 7-0 พร้อมเข้ารอบแชมเปียนส์ลีก
  28. ประตูของคลาวานในช่วงทดเจ็บ ช่วยลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้มเป็นของขวัญวันปีใหม่
  29. ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนฯ ซิตี้ ไปอย่างสุดมันส์ 4-3
  30. 5 สิ่งที่เราชื่นชอบจากเกมลิเวอร์พูลชนะปอร์โต้
  31. ลิเวอร์พูลขยับขึ้นอันดับ 2 หลังถล่มเวสต์แฮม
  32. ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มพร้อมคลีนชีต
  33. ลิเวอร์พูลไล่กลับมาชนะพาเลซ พร้อมขยับขึ้นอันดับ 2
  34. ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือแมนฯ ซิตี้ ในเกมแชมเปียนส์ลีก เลกแรก
  35. ลิเวอร์พูลคว้า 3 แต้ม จากประตูของ 3 ประสาน
  36. ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะเหนือโรม่าในเกมเลกแรก รอบรองฯ แชมเปียนส์ลีก
  37. ลิเวอร์พูลพ่ายที่โรมแต่เข้ารอบชิงชนะเลิศ แชมเปียนส์ลีกที่เคียฟ!
  38. ลิเวอร์พูลพ่ายเรอัลมาดริด ในเกมชิงชนะเลิศ แชมเปียนส์ลีก
  39. ซาดิโอ มาเน่ จะสวมเสื้อหมายเลข 10 ในฤดูกาลนี้
  40. Match Report: หงส์แดงถล่มขุนค้อน 4-0 คว้าสามแต้มแรกของฤดูกาล 2018-19
  41. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มพร้อมคลีนชีตในแมตช์มันเดย์ ไนท์
  42. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปเฉือนเลสเตอร์ 2-1
  43. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มเร้ดสตาร์ 4-0 ในแชมเปียนส์ลีก (วิดีโอ)
  44. Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ถล่มคาร์ดิฟฟ์ 4-1
  45. Match Report: ชากิรีซัดสองประตูให้ลิเวอร์พูลชนะแมนฯ ยูไนเต็ด 3-1
  46. Match Report: ลิเวอร์พูลพลิกจากตามหลัง ถล่มอาร์เซนอล 5-1
  47. Match Report: ซาลาห์เบิ้ลให้ลิเวอร์พูลเฉือนพาเลซ 4-3
  48. Match Report: ลิเวอร์พูลแบ่งแต้มกับเลสเตอร์ซิตี
  49. Match Report: ลิเวอร์พูลถูกเวสต์แฮมเบียดเสมอ
  50. Match Report: ลิเวอร์พูลกลับขึ้นสู่จ่าฝูงหลังเอาชนะบอร์นมัธที่แอนฟิลด์
  51. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มวัตฟอร์ด 5-0 ที่แอนฟิลด์ (วิดีโอ)
  52. Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ต้อนเบิร์นลีย์ 4-2
  53. Match Report: เข้ารอบ! ลิเวอร์พูลบุกไปชนะบาเยิร์นในแชมเปียนส์ลีก
  54. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกเฉือนฟูแล่ม 2-1
  55. มาเน่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีก
  56. Match Report: ลิเวอร์พูลเอาชนะเชลซี 2-0 ในเกมสุดเร้าใจที่แอนฟิลด์
  57. Match Report: ลิเวอร์พูลกด 4 ประตูผ่านเข้ารอบรองฯ แชมเปียนส์ลีก
  58. Match Report: ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะอย่างสวยงามเหนือฮัดเดอร์สฟิลด์ 5-0
  59. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะวูล์ฟสที่แอนฟิลด์ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล
  60. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกหลังชนะสเปอร์ส 2-0
  61. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพ หลังดวลจุดโทษชนะเชลซี
  62. Match Report: ลิเวอร์พูลเฉือนเซาท์แฮมป์ตันที่เซนต์ แมรีส์
  63. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกถล่มเบิร์นลีย์ที่เทิร์ฟ มัวร์
  64. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือนิวคาสเซิลที่แอนฟิลด์
  65. Match Report: ลิเวอร์พูลเฉือนซัลซ์บวร์ก 4-3 ในแชมเปียนส์ลีก
  66. Match Report: ลิเวอร์พูลเฉือนชนะเลสเตอร์จากจุดโทษท้ายเกม
  67. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปถล่มเกงค์ในเกมแชมเปียนส์ลีก
  68. Match Report: ลิเวอร์พูลพลิกกลับมาชนะวิลลาด้วยประตูชัยช่วงทดเวลา
  69. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะแมนฯ ซิตี้ ที่แอนฟิลด์
  70. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือคริสตัล พาเลซ จากประตูชัยของเฟอร์มิโน่
  71. Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ถล่มเอฟเวอร์ตัน 5-2
  72. มาเน่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีก
  73. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์คลับ เวิลด์ ที่กาตาร์
  74. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าชัยเหนือวูล์ฟส์ในเกมสุดท้ายของปี 2019
  75. Match Report: ลิเวอร์พูลเริ่มต้นปี 2020 ด้วยการเก็บชัยชนะเหนือเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 2-0
  76. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปเฉือนนอริช
  77. Match Report: มาเน่ทำประตูชัยให้ลิเวอร์พูลพลิกกลับมาชนะที่แอนฟิลด์
  78. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะบอร์นมัธในเกมพรีเมียร์ลีก
  79. ข้อมูลของ ซาดีโย มาเน ที่ ซ็อกเกอร์เวย์. เรียกข้อมูลเมื่อ 25 August 2015.
  80. "FIXTURES / RESULTS 2012–13". www.ligue1.com. Ligue 1. สืบค้นเมื่อ 2 September 2014.
  81. "ซาดีโย มาเน". National Football Teams. สืบค้นเมื่อ 20 January 2014.
  82. ข้อมูลของ ซาดีโย มาเน ที่ ซ็อกเกอร์เวย์
  83. "Mane earns EA SPORTS Player of the Month award" (ภาษาอังกฤษ). Premier League.
  84. ซาดิโอ มาเน่ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคม โดยสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด
  85. มาเน่รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน พร้อมกับตั้งเป้า ‘ทำให้แฟนบอลภาคภูมิใจ’
  86. ซาดิโอ มาเน่ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมเดือนมกราคม (วิดีโอ)
  87. ซาดิโอ มาเน่ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมสำหรับเดือนมีนาคมของลิเวอร์พูล
  88. ซาดิโอ มาเน่ คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายนของลิเวอร์พูล
  89. มาเน่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพีเอฟเอ
  90. มาเน่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมพีเอฟเอ เดือนสิงหาคม
  91. มาเน่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน มี.ค. ของพีเอฟเอ
  92. มาเน่คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์
  93. ประกาศผลโหวตประตูยอดเยี่ยมของลิเวอร์พูลประจำเดือนกุมภาพันธ์ (วิดีโอ)

แหล่งข้อมูลอื่น