ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ซาดีโย มาเน"
Mr.BuriramCN (คุย | ส่วนร่วม) |
มาเน่จะไปมาดริด ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
⚫ | |||
{{Infobox football biography |
|||
| name = ซาดีโย มาเน |
|||
| image = [[ไฟล์:Sadio Mané Senegal.jpg|220px]] |
|||
| caption = มาเนกับ[[ฟุตบอลทีมชาติเซเนกัล|เซเนกัล]]ในการแข่งขัน[[ฟุตบอลโลก 2018]] |
|||
| fullname = ซาดีโย มาเน<ref>{{cite web |title=Premier League Clubs submit Squad Lists |url=http://www.premierleague.com/content/dam/premierleague/site-content/News/publications/squad-lists/Premier-League-squad-lists-September-2014.pdf |publisher=Premier League |date=3 September 2014 |accessdate=2 January 2015 }}</ref> |
|||
| birth_date = {{birth date and age|1992|4|10|df=y}} |
|||
| birth_place = [[เซดีลู]] เซเนกัล |
|||
| height = {{height|m=1.75}}<ref name="Southampton F.C.">{{cite web |url=http://www.saintsfc.co.uk/team/player-profile/sadio-mane/10 |title= Sadio Mané: Southampton Player Profiles |publisher=Southampton F.C. |accessdate=7 March 2016}}</ref> |
|||
| position = [[กองกลาง#ปีก|ปีก]]<ref>{{cite web |url= http://www.premierleague.com/en-gb/players/profile.overview.html/sadio-mane |title= Premier League Player Profile Sadio Mané |author=<!--Staff writer(s); no by-line.--> |date= 2015 |website= Premier League |publisher= Barclays Premier League|accessdate= 12 January 2015}}</ref> |
|||
| currentclub = [[สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล|ลิเวอร์พูล]] |
|||
| clubnumber = 10 |
|||
|youthyears1 = |
|||
|youthclubs1 = อคาเดมีเจเนเรชันฟุต |
|||
| years1 = 2011–2012 |clubs1 = [[สโมสรฟุตบอลแม็ส|แม็ส]] |caps1 = 22 |goals1 = 2 |
|||
| years2 = 2012–2014 |clubs2 = [[สโมสรฟุตบอลเร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค|เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค]] |caps2 = 63 |goals2 = 31 |
|||
| years3 = 2014–2016 |clubs3 = [[สโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน|เซาแทมป์ตัน]] |caps3 = 67 |goals3 = 21 |
|||
| years4 = 2016– |clubs4 = [[สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล|ลิเวอร์พูล]] |caps4 = 118 |goals4 = 59 |
|||
| nationalyears1 = 2012 |nationalteam1 = [[ฟุตบอลทีมชาติเซเนกัลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี|เซเนกัล อายุไม่เกิน 23 ปี]] |nationalcaps1 = 4 |nationalgoals1 = 0 |
|||
| nationalyears2 = 2012– |nationalteam2 = [[ฟุตบอลทีมชาติเซเนกัล|เซเนกัล]] |nationalcaps2 = 69 |nationalgoals2 = 19 |
|||
| pcupdate = 7 มีนาคม 2020 (UTC) |
|||
| ntupdate = 17 พฤศจิกายน 2019 |
|||
}} |
|||
⚫ | |||
== สโมสรอาชีพ == |
== สโมสรอาชีพ == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:36, 18 เมษายน 2563
ซาดีโย มาเน (ฝรั่งเศส: Sadio Mané; เกิดวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลชาวเซเนกัล ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งปีกให้กับเรอัลมาดริดในลาลีก้าและทีมชาติเซเนกัล
สโมสรอาชีพ
เซาแทมป์ตัน
ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ระหว่างฤดูกาล 2014–15 มาเนได้ทำแฮททริกในนัดที่เซาแทมป์ตันพบกับแอสตันวิลลา ด้วยเวลาเพียง 2.56 นาที นับเป็นแฮททริกที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ทำลายสถิติเดิมของร็อบบี ฟาวเลอร์ ของลิเวอร์พูลที่ทำไว้ในนัดที่พบกับอาร์เซนอล เมื่อปี ค.ศ. 1994 และถือเป็นแฮททริกที่เร็วที่สุดในโลกเป็นอันดับ 8[1]
ลิเวอร์พูล
ฤดูกาล 2016-17
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e5/Sadio_Mane_%2834665518422%29.jpg/170px-Sadio_Mane_%2834665518422%29.jpg)
ในวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 2016 มาเนย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญา 5 ปี[2] [3] และเป็นสถิติการซื้อตัวผู้เล่นชาวแอฟริกาที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร[4]
ในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 2016 อินเตอร์เนชันแนลแชมเปียนส์คัพ ฤดูกาล 2016 ลิเวอร์พูล เจอกับ บาร์เซโลนา ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ มาเนทำประตูแรกในช่วงปรีซีซั่น ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาร์เซโลนา 4-0[5] ต่อมา ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2016 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2016–17 มาเนทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 4-3[6] ต่อมา ในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2016 มาเนไม่ได้ลงสนามในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 0-2 เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ ต่อมา ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2016 อีเอฟแอลคัพ รอบ 2 มาเนกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงและจ่ายบอลให้เพื่อนทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบอร์ตันอัลเบียน 5-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 3 อีเอฟแอลคัพ ได้สำเร็จ[7] ต่อมา ในวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 2016 มาเนทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 4-1[8] ต่อมา ในวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2016 มาเนทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัลล์ซิตี 5-1[9] ต่อมา ในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2016 มาเนทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 2-1[10] ต่อมา ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 มาเนยิง 2 ประตูให้ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 6-1[11] ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2016 มาเนยิงประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ บอร์นมัท 1-0 แต่สุดท้ายก็แพ้ไป 3-4[12]
ในวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2016 ลิเวอร์พูล ทำศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี บุกไปเยือนที่กูดิสันพาร์ก เจอกับ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมือง โดย มาเนยิงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+4 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0[13] ต่อมา ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ ที่สเตเดียมออฟไลต์ 2-2[14]
ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 มาเนยิง 2 ประตูให้ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ชนะนัดแรกในลีกนับตั้งแต่ขึ้นปี 2017[15] ต่อมา ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1[16] ต่อมา ในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1[17] หลังจบเกมส์ มาเนมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่เอ็นเข่าฉีก ส่งผลให้มาเนหมดสิทธิ์ลงเล่นตลอดทั้งฤดูกาล[18]
ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2017 มาเนติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ 2016-17 หลังจากยิงไป 13 ประตูในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลแรกให้กับลิเวอร์พูล ต่อมา ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 มาเนคว้า 2 รางวัลของสโมสรลิเวอร์พูล ได้แก่ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ ในงานประกาศรางวัล Players' Awards 2017[19]
ฤดูกาล 2017-18
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/42/Spartak_Moscow_VS._Liverpool_%289%29.jpg/220px-Spartak_Moscow_VS._Liverpool_%289%29.jpg)
ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2017 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2017–18 มาเนทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ วอตฟอร์ด ที่วิคาริจโรด 3-3[20] ต่อมา ในวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2017 มาเนยิงประตูชัยในช่วงครึ่งหลัง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 1-0[21] ต่อมา ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 4-0[22] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ มาเนได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนสิงหาคมของพรีเมียร์ลีก[23] ต่อมา ในวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 2017 มาเนโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในช่วงครึ่งแรก จากจังหวะยกเท้าสูงใส่หน้าผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ซิตี แอเดร์ซง โมไรซ์ จนใบหน้าของแอเดร์ซงได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวจนต้องส่งผู้รักษาประตูสำรองมาแทน ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม 0-5 ทำให้ มาเนโดนแบน 3 นัด[24] ต่อมา ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E มาเนทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เซบิยา จากสเปน 3-3[25] ต่อมา ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 มาเนทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สโตกซิตี ที่บริแทนเนียสเตเดียม 3-0[26] ต่อมา ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สปาร์ตัคมอสโก จากรัสเซีย 7-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[27] ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 2-1[28] ต่อมา ในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 4-3[29]
ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก มาเนทำแฮตทริกครั้งแรกของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 5-0 ทำให้ มาเนเป็นนักเตะคนที่ 4 ที่ทำแฮตทริกให้กับลิเวอร์พูลในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ต่อจาก ไมเคิล โอเวน, ยอสซี เบนายูน และฟีลีปี โกชิญญู[30] ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-1[31] ต่อมา ในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-0[32] ต่อมา ในวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-1[33] ต่อมา ในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก มาเนทำประตูที่ 7 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-0[34] ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[35] ต่อมา ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก มาเนทำประตูที่ 8 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ โรมา จากอิตาลี 5-2[36] ต่อมา ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 มาเนทำประตูที่ 9 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ โรมา ที่สตาดีโอโอลิมปีโก 2-4 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ โรมา 7-6 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[37]
ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2018 ลิเวอร์พูล เจอกับแชมป์เก่า เรอัลมาดริด ที่สนามโอลิมปิสกีเนชันแนลสปอตส์คอมเพล็กซ์ ในเคียฟ ประเทศยูเครน มาเนทำประตูตีเสมอ 1-1 แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เรอัลมาดริด 1-3 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก อย่างน่าเสียดาย[38]
ฤดูกาล 2018-19
ก่อนจะเริ่มฤดูกาล 2018-19 มาเนเปลี่ยนสวมเสื้อหมายเลข 10 แทนหมายเลข 19[39] ต่อมา ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2018 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2018–19 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-0[40] ต่อมา ในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2016 มาเนทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-0[41] ต่อมา ในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงพาวเวอร์สเตเดียม 2-1[42] ต่อมา ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C มาเนทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เรดสตาร์ เบลเกรด จากเซอร์เบีย 4-0[43] ต่อมา ในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2018 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 4-1[44]
ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 มาเนตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล ต่อมา ในวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะคู่ปรับตลอดกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-1[45] ต่อมา ในวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 5-1[46] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-3[47] ต่อมา ในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เลสเตอร์ซิตี 1-1[48] ต่อมา ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 1-1[49] ต่อมา ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[50] ต่อมา ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 5-0[51] ต่อมา ในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2019 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบิร์นลีย์ 4-2[52] ต่อมา ในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาเยิร์นมิวนิก ที่อัลลีอันทซ์อาเรนา 3-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาเยิร์นมิวนิก 3-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[53] ต่อมา ในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟูลัม ที่เครเวนคอตทิจ 2-1[54] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ มาเนได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนมีนาคมของพรีเมียร์ลีก[55] ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชลซี 2-0[56] ต่อมา ในวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 มาเนทำประตูที่ 4 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 4-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู 6-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[57] ต่อมา ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2019 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 5-0[58] ต่อมา มาเนยังได้ติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ร่วมกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน และ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ 3 นักเตะของลิเวอร์พูล อีกด้วย
ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย มาเนยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 2-0 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 4-1 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[59] มาเนยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 22 ประตูจาก 36 นัด ทำให้ มาเนคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครอง ร่วมกับ มุฮัมมัด เศาะลาห์ และ ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ ต่อมา ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน มาเนช่วยให้ลิเวอร์พูลได้จุดโทษ ก่อนที่ ซาลาห์ทำประตูขึ้นนำ 1-0 สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[60]
ฤดูกาล 2019-20
ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 เจอกับ เชลซี แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018–19 ที่สนามโวดาโฟนพาร์ก, อิสตันบูล ประเทศตุรกี ในช่วง 120 นาที มาเนยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี 2-2 ทำให้ต้องตัดสินในการยิงจุดโทษ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[61] ต่อมา ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะทีมเก่าของเขา เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-1[62] ต่อมา ในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 3-0[63] ต่อมา ในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2019 มาเนยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 3-1[64] ทำให้ มาเนเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ลงเล่น 50 นัดในบ้านให้สโมสรเดียว โดยไม่แพ้ใคร ต่อมา ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E มาเนทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะทีมเก่าของเขา เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค จากออสเตรีย 4-3[65] ต่อมา ในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2019 มาเนลงสนามให้กับลิเวอร์พูลนัดที่ 100 และทำประตูที่ 50 ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 2-1[66]
ในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม E มาเนทำประตูที่ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เคงก์ จากเบลเยียม 4-1[67] ต่อมา ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตันวิลลา ที่วิลลาพาร์ก 2-1[68] ต่อมา ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-1[69] ต่อมา ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-1[70] ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 5-2[71] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ มาเนได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนพฤศจิกายนของพรีเมียร์ลีก[72] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ ฟลาเม็งกู ตัวแทน คอนเมบอล ในฐานะแชมป์เก่าของ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ที่สนามกีฬาแห่งชาติคาลิฟา ในโดฮา, ประเทศกาตาร์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเม็งกู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก สมัยแรกได้สำเร็จ[73] ต่อมา ในวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2019 มาเนทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 1-0[74]
ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 2-0[75] ต่อมา ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริชซิตี ที่แคร์โรว์โรด 1-0[76] ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3-2[77] ต่อมา ในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 14 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 2-1[78]
ทีมชาติเซเนกัล
ทีมเยาวชน
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ทีมชุดใหญ่
ทีมชาติเซเนกัลเรียกตัวมาเนติดรายชื่อ 23 คน ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดย เซเนกัล ได้อยู่กลุ่มจี ร่วมกับ โปแลนด์, โคลอมเบีย และ ญี่ปุ่น ต่อมา ในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2018 มาเนทำประตูแรกในฟุตบอลโลก ในนัดที่ เซเนกัล เสมอกับ ญี่ปุ่น 2-2
สถิติอาชีพ
สโมสร
Club performance | ลีก | ฟุตบอลถ้วย | ลีกคัพ | ยุโรป | Other | รวม | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ฤดูกาล | สโมสร | ลีก | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู |
Metz | 2011–12 | Ligue 2 | 19 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | — | — | 19 | 1 | ||
2012–13 | Championnat National | 3 | 1 | 0 | 0 | 1 | 0 | — | — | 4 | 1 | |||
รวม | 22 | 2 | 0 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | — | 23 | 2 | |||
เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค | 2012–13 | Austrian Bundesliga | 26 | 16 | 3 | 3 | — | — | — | 29 | 19 | |||
2013–14 | 33 | 13 | 4 | 5 | — | 13[a] | 5 | — | 50 | 23 | ||||
2014–15 | 4 | 2 | 1 | 1 | — | 3[b] | 0 | — | 8 | 3 | ||||
รวม | 63 | 31 | 8 | 9 | 0 | 0 | 16 | 5 | — | 87 | 45 | |||
เซาแทมป์ตัน | 2014–15 | พรีเมียร์ลีก | 30 | 10 | 0 | 0 | 2 | 0 | — | — | 32 | 10 | ||
2015–16 | 37 | 11 | 1 | 0 | 2 | 3 | 3[c] | 1 | — | 43 | 15 | |||
รวม | 67 | 21 | 1 | 0 | 4 | 3 | 3 | 1 | — | 75 | 25 | |||
ลิเวอร์พูล | 2016–17 | พรีเมียร์ลีก | 27 | 13 | 0 | 0 | 2 | 0 | — | — | 29 | 13 | ||
2017–18 | 29 | 10 | 2 | 0 | 0 | 0 | 13[b] | 10 | — | 44 | 20 | |||
2018–19 | 36 | 22 | 0 | 0 | 1 | 0 | 13[b] | 4 | — | 50 | 26 | |||
2019–20 | 26 | 14 | 1 | 0 | 0 | 0 | 8[b] | 2 | 3[d] | 2 | 38 | 18 | ||
รวม | 118 | 59 | 3 | 0 | 3 | 0 | 34 | 16 | 3 | 2 | 161 | 77 | ||
รวมทั้งหมด | 270 | 113 | 11 | 9 | 8 | 3 | 53 | 22 | 3 | 2 | 346 | 149 |
- ↑ Two appearances in UEFA Champions League, eleven appearances and five goals in UEFA Europa League
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 Appearances in UEFA Champions League
- ↑ Appearances in UEFA Europa League
- ↑ One appearance and two goals in UEFA Super Cup, two appearances in FIFA Club World Cup
ทีมชาติ
- ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2019[81]
เซเนกัล | |||
---|---|---|---|
ปี | ลงเล่น | ประตู | |
2012 | 6 | 2 | |
2013 | 8 | 1 | |
2014 | 9 | 3 | |
2015 | 9 | 3 | |
2016 | 7 | 1 | |
2017 | 9 | 4 | |
2018 | 9 | 1 | |
2019 | 11 | 4 | |
รวม | 69 | 19 |
ประตูในนามทีมชาติ
- As of match played 4 June 2016. Senegal score listed first, score column indicates score after each Mané goal.[82]
เกียรติประวัติ
สโมสร
เรดบูลล์ซัลบูร์ก
- Austrian Bundesliga: 2013–14
- Austrian Cup: 2013–14
ลิเวอร์พูล
รางวัลส่วนตัว
- CAF Team of the Year: 2015, 2016, 2018
- PFA Premier League Team of the Year: 2016–17, 2018–19
- Premier League Player of the Month: สิงหาคม 2017[83], มีนาคม 2019, พฤศจิกายน 2019
- นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล: 2016–17
- Liverpool FC Players' Player of the Year: 2016–17
- FIFA FIFPro World XI 4th team: 2018
- FIFA FIFPro World11 nominee: 2019 (4th forward)
- Premier League Golden Boot: 2018–19
- UEFA Champions League Squad of the Season: 2018–19
- CAF Africa Cup of Nations Team of the Tournament: 2019
- UEFA Team of the Year: 2019
- African Footballer of the Year: 2019
- Onze d'Or: 2018–19
- The Best FIFA Men's Player: 2019 (5th place)
- IFFHS Men's World Team: 2019
- Ballon d'Or: 2019 (4th place)
- Standard Chartered Liverpool Player of the Month: สิงหาคม 2016[84], กุมภาพันธ์ 2017[85], มกราคม 2019[86], มีนาคม 2019[87], พฤศจิกายน 2019[88]
- PFA Fans' Player of the Month: สิงหาคม 2016, กันยายน 2016[89], สิงหาคม 2018[90], มีนาคม 2019[91]
- ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์: กุมภาพันธ์ 2017[92], กุมภาพันธ์ 2018[93], มีนาคม 2019
อ้างอิง
- ↑ "มาเน่ทำสถิติซัดแฮตทริกเร็วสุดอันดับ8โลก". สยามสปอร์ต. May 16, 2015.
- ↑ สโมสรลิเวอร์พูลประกาศคว้าตัวซาดิโอ มาเน่
- ↑ 8 สถิติที่น่าสนใจของมาเน่ นักเตะใหม่หงส์แดง
- ↑ "13 ทีม พรีเมียร์ลีก ที่ทุบสถิติสโมสรซื้อแข้งค่าตัวแพงในซัมเมอร์นี้". guideball. September 3, 2016.
- ↑ มาเน่โชว์ฟอร์มเด่นในเกมลิเวอร์พูลถล่มบาร์เซโลนา
- ↑ ลิเวอร์พูลกบุกไปกำชัยเหนืออาร์เซนอลในเกมเปิดฤดูกาล
- ↑ ลิเวอร์พูลยิง 5 ประตู พร้อมผ่านเข้ารอบต่อไปในถ้วยลีกคัพ
- ↑ ลิเวอร์พูลถล่มเลสเตอร์ ในเกมประเดิมเมน สแตนด์ ที่แอนฟิลด์
- ↑ ลิเวอร์พูลฟอร์มเยี่ยม เปิดแอนฟิลด์ถล่มฮัลล์ 5-1
- ↑ มาเน่ และคูตินโญ่ ยิงคว้าชัยเหนือเวสต์บรอมที่แอนฟิลด์
- ↑ ลิเวอร์พูลครองจ่าฝูง หลังถล่มวัตฟอร์ดที่แอนฟิลด์
- ↑ บอร์นมัธพลิกชนะลิเวอร์พูล
- ↑ มาเน่ยิงช่วงทดเจ็บให้ลิเวอร์พูลบุกชนะเอฟเวอร์ตันที่กูดิสัน พาร์ก
- ↑ ลิเวอร์พูลเก็บได้เพียงแต้มเดียว หลังถูกซันเดอร์แลนด์ตามตีเสมอ
- ↑ มาเน่เหมาสองประตูให้ลิเวอร์พูลเก็บสามแต้มเหนือสปอร์ส
- ↑ สามประตู สามแต้มที่แอนฟิลด์
- ↑ ลิเวอร์พูลคว้าชัยในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี ที่แอนฟิลด์
- ↑ "แฟนหงส์เศร้า! "มาเน่" เจ็บ หมดสิทธิ์เล่นทั้งฤดูกาล"
- ↑ ซาดิโอ มาเน่ คว้ารางวัลใหญ่ในงานประกาศรางวัลของลิเวอร์พูล
- ↑ ลิเวอร์พูลถูกวัตฟอร์ดตามตีเสมอในนาทีสุดท้าย
- ↑ ลิเวอร์พูลเฉือนพาเลซ คว้าสามแต้มเต็มที่แอนฟิลด์
- ↑ ลิเวอร์พูลถล่มอาร์เซนอลขาดลอยที่แอนฟิลด์
- ↑ ซาดิโอ มาเน่ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ประจำเดือนสิงหาคม
- ↑ เผยภาพสุดสยอง! ‘เอแดร์สัน’ ต้องเย็บหน้า 8 เข็มหลังโดนมาเนถีบ https://www.thairath.co.th/content/1067020
- ↑ ลิเวอร์พูลถูกเซบิยาไล่ตีเสมอ 3-3 ท้ายเกมที่สเปน
- ↑ ซูเปอร์ซับ! ซาลาห์เหมาสองให้ลิเวอร์พูลบุกไปถล่มสโต๊ก ซิตี้
- ↑ คูตินโญ่กดแฮตทริก! ลิเวอร์พูลถล่มสปาร์ตัก มอสโก 7-0 พร้อมเข้ารอบแชมเปียนส์ลีก
- ↑ ประตูของคลาวานในช่วงทดเจ็บ ช่วยลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้มเป็นของขวัญวันปีใหม่
- ↑ ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนฯ ซิตี้ ไปอย่างสุดมันส์ 4-3
- ↑ 5 สิ่งที่เราชื่นชอบจากเกมลิเวอร์พูลชนะปอร์โต้
- ↑ ลิเวอร์พูลขยับขึ้นอันดับ 2 หลังถล่มเวสต์แฮม
- ↑ ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มพร้อมคลีนชีต
- ↑ ลิเวอร์พูลไล่กลับมาชนะพาเลซ พร้อมขยับขึ้นอันดับ 2
- ↑ ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือแมนฯ ซิตี้ ในเกมแชมเปียนส์ลีก เลกแรก
- ↑ ลิเวอร์พูลคว้า 3 แต้ม จากประตูของ 3 ประสาน
- ↑ ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะเหนือโรม่าในเกมเลกแรก รอบรองฯ แชมเปียนส์ลีก
- ↑ ลิเวอร์พูลพ่ายที่โรมแต่เข้ารอบชิงชนะเลิศ แชมเปียนส์ลีกที่เคียฟ!
- ↑ ลิเวอร์พูลพ่ายเรอัลมาดริด ในเกมชิงชนะเลิศ แชมเปียนส์ลีก
- ↑ ซาดิโอ มาเน่ จะสวมเสื้อหมายเลข 10 ในฤดูกาลนี้
- ↑ Match Report: หงส์แดงถล่มขุนค้อน 4-0 คว้าสามแต้มแรกของฤดูกาล 2018-19
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มพร้อมคลีนชีตในแมตช์มันเดย์ ไนท์
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปเฉือนเลสเตอร์ 2-1
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มเร้ดสตาร์ 4-0 ในแชมเปียนส์ลีก (วิดีโอ)
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ถล่มคาร์ดิฟฟ์ 4-1
- ↑ Match Report: ชากิรีซัดสองประตูให้ลิเวอร์พูลชนะแมนฯ ยูไนเต็ด 3-1
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลพลิกจากตามหลัง ถล่มอาร์เซนอล 5-1
- ↑ Match Report: ซาลาห์เบิ้ลให้ลิเวอร์พูลเฉือนพาเลซ 4-3
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลแบ่งแต้มกับเลสเตอร์ซิตี
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลถูกเวสต์แฮมเบียดเสมอ
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลกลับขึ้นสู่จ่าฝูงหลังเอาชนะบอร์นมัธที่แอนฟิลด์
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มวัตฟอร์ด 5-0 ที่แอนฟิลด์ (วิดีโอ)
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ต้อนเบิร์นลีย์ 4-2
- ↑ Match Report: เข้ารอบ! ลิเวอร์พูลบุกไปชนะบาเยิร์นในแชมเปียนส์ลีก
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลบุกเฉือนฟูแล่ม 2-1
- ↑ มาเน่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีก
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลเอาชนะเชลซี 2-0 ในเกมสุดเร้าใจที่แอนฟิลด์
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลกด 4 ประตูผ่านเข้ารอบรองฯ แชมเปียนส์ลีก
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะอย่างสวยงามเหนือฮัดเดอร์สฟิลด์ 5-0
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลชนะวูล์ฟสที่แอนฟิลด์ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกหลังชนะสเปอร์ส 2-0
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพ หลังดวลจุดโทษชนะเชลซี
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลเฉือนเซาท์แฮมป์ตันที่เซนต์ แมรีส์
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลบุกถล่มเบิร์นลีย์ที่เทิร์ฟ มัวร์
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือนิวคาสเซิลที่แอนฟิลด์
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลเฉือนซัลซ์บวร์ก 4-3 ในแชมเปียนส์ลีก
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลเฉือนชนะเลสเตอร์จากจุดโทษท้ายเกม
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปถล่มเกงค์ในเกมแชมเปียนส์ลีก
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลพลิกกลับมาชนะวิลลาด้วยประตูชัยช่วงทดเวลา
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลชนะแมนฯ ซิตี้ ที่แอนฟิลด์
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือคริสตัล พาเลซ จากประตูชัยของเฟอร์มิโน่
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ถล่มเอฟเวอร์ตัน 5-2
- ↑ มาเน่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีก
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์คลับ เวิลด์ ที่กาตาร์
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าชัยเหนือวูล์ฟส์ในเกมสุดท้ายของปี 2019
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลเริ่มต้นปี 2020 ด้วยการเก็บชัยชนะเหนือเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 2-0
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปเฉือนนอริช
- ↑ Match Report: มาเน่ทำประตูชัยให้ลิเวอร์พูลพลิกกลับมาชนะที่แอนฟิลด์
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลชนะบอร์นมัธในเกมพรีเมียร์ลีก
- ↑ ข้อมูลของ ซาดีโย มาเน ที่ ซ็อกเกอร์เวย์. เรียกข้อมูลเมื่อ 25 August 2015.
- ↑ "FIXTURES / RESULTS 2012–13". www.ligue1.com. Ligue 1. สืบค้นเมื่อ 2 September 2014.
- ↑ "ซาดีโย มาเน". National Football Teams. สืบค้นเมื่อ 20 January 2014.
- ↑ ข้อมูลของ ซาดีโย มาเน ที่ ซ็อกเกอร์เวย์
- ↑ "Mane earns EA SPORTS Player of the Month award" (ภาษาอังกฤษ). Premier League.
- ↑ ซาดิโอ มาเน่ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคม โดยสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด
- ↑ มาเน่รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน พร้อมกับตั้งเป้า ‘ทำให้แฟนบอลภาคภูมิใจ’
- ↑ ซาดิโอ มาเน่ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมเดือนมกราคม (วิดีโอ)
- ↑ ซาดิโอ มาเน่ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมสำหรับเดือนมีนาคมของลิเวอร์พูล
- ↑ ซาดิโอ มาเน่ คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายนของลิเวอร์พูล
- ↑ มาเน่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของพีเอฟเอ
- ↑ มาเน่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมพีเอฟเอ เดือนสิงหาคม
- ↑ มาเน่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือน มี.ค. ของพีเอฟเอ
- ↑ มาเน่คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์
- ↑ ประกาศผลโหวตประตูยอดเยี่ยมของลิเวอร์พูลประจำเดือนกุมภาพันธ์ (วิดีโอ)
แหล่งข้อมูลอื่น
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/4a/Commons-logo.svg/30px-Commons-logo.svg.png)
- สถิติของ Sadio Mané ที่ Soccerbase
- Sadio Mané profile at FootballDaily
- ข้อมูลของ Sadio Mané ที่ ซ็อกเกอร์เวย์
- FIFA Profile
- Sadio Mané profile at FootNational
- Liverpool FC profile
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2535
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักฟุตบอลชาวเซเนกัล
- ผู้เล่นในออสเตรียนฟุตบอลบุนเดิสลีกา
- ผู้เล่นในพรีเมียร์ลีก
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเรดบูลล์ซัลซ์บวร์ก
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเซาแทมป์ตัน
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล
- กองกลางฟุตบอล
- นักฟุตบอลทีมชาติเซเนกัล
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2018
- ผู้เล่นในแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 2019