ข้ามไปเนื้อหา

ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ)
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก
โลโก้ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ที่ใช้ตั้งแต่ปี 2024
ผู้จัดฟีฟ่า
ก่อตั้ง2000; 25 ปีที่แล้ว (2000)
ภูมิภาคนานาชาติ
จำนวนทีม32 ทีม
(จาก 6 สมาพันธ์)
การแข่งขันที่เกี่ยวข้องฟีฟ่าอินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ
ทีมชนะเลิศปัจจุบันประเทศอังกฤษ เชลซี
(2 สมัย)
ทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดประเทศสเปน เรอัลมาดริด
(5 สมัย)
เว็บไซต์fifa.com/clubworldcup
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025

ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก (อังกฤษ: FIFA Club World Championship) หรือ ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ (อังกฤษ: FIFA Club World Cup)[1][2] เป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมสโมสรของแต่ละสมาพันธ์ฟุตบอลจาก 6 ทวีปทั่วโลก เริ่มทำการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 2000 ที่ประเทศบราซิล ในนาม ฟีฟ่าคลับเวิลด์แชมเปียนชิป โดยฟีฟ่าได้จัดตั้งการแข่งขันรายการนี้ขึ้นเพื่อใช้แทนการแข่งขันรายการเดิมที่ชื่อ อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ หรือโตโยต้าคัพซึ่งถูกยกเลิกในปี ค.ศ. 2004 เพื่อมารวมรายการนี้ ในปี ค.ศ. 2005 ในนาม ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ ทีมที่ชนะเลิศจากทุกทวีปที่จะมาแข่งขันร่วมรายการนี้ โดยทีมชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกจากยุโรปและโกปาลิเบร์ตาโดเรสจากอเมริกาใต้ จะเข้าไปรอแข่งขันในรอบรองชนะเลิศทันที

ทั้งนี้ สโมสรที่ชนะเลิศมากที่สุด คือ เรอัลมาดริด จากสเปน 5 สมัย

สโมสรที่ชนะเลิศล่าสุดในปัจจุบันจะได้รับการติดตราแชมป์สโมสรโลกที่เสื้อสโมสรในรายการแข่งขันของฟีฟ่าไปตลอดจนกว่าจะมีการเปลี่ยนทีมสโมสรที่ชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกในอนาคต

ทีมสโมสรที่ชนะเลิศครั้งล่าสุด คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ ซึ่งชนะเลิศได้เป็นสมัยแรก ในรายการนี้โดยเอาชนะฟลูมิเนนเซ จากบราซิลไป 4-0 ในเวลา 90 นาที ของนัดชิงชนะเลิศ 2023

ผลการแข่งขัน

[แก้]

รอบชิงชนะเลิศ

[แก้]

คำอธิบาย

ครั้งที่ ปี ค.ศ. เจ้าภาพ ชิงชนะเลิศ ชิงอันดับ 3 จำนวนทีม อ้างอิง
ชนะเลิศ ประตู รองชนะเลิศ อันดับ 3 ประตู อันดับ 4
1
 บราซิล ประเทศบราซิล คอรินเทียนส์ ประเทศบราซิล วัชกู ดา กามา ประเทศเม็กซิโก เนกาซา ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
8
[3][4]
 สเปน
การแข่งขันถูกยกเลิกเนื่องจากปัญหาทางการเงิน
12
[5]
2002
ไม่มีการแข่งขัน
[6]
2003
2004
2
 ญี่ปุ่น ประเทศบราซิล เซาเปาลู ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล ประเทศคอสตาริกา ซาปริซา
3–2
ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัล-อิตติฮัด
6
[7][8]
3
 ญี่ปุ่น ประเทศบราซิล อิงเตร์นาซีโยนัล ประเทศสเปน บาร์เซโลนา ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี
2–1
ประเทศเม็กซิโก กลุบอาเมริกา
6
[9][10]
4
 ญี่ปุ่น ประเทศอิตาลี เอซี มิลาน ประเทศอาร์เจนตินา โบกายูนิออร์ส ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์
2–2[n 1]
ประเทศตูนิเซีย อีตวล ดู ซาฮีล
7
[11][12]
5
 ญี่ปุ่น ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ประเทศเอกวาดอร์ แอลดียู กีโต ประเทศญี่ปุ่น กัมบะ โอซากะ
1–0
ประเทศเม็กซิโก ปาชูกา
7
[13]
[14]
6
 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศสเปน บาร์เซโลนา ประเทศอาร์เจนตินา เอสตูเดียนเตส ประเทศเกาหลีใต้ โปฮัง สตีลเลอส์
1–1[n 1]
ประเทศเม็กซิโก แอตแลนเต
7
[15][16]
[17]
7
 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศอิตาลี อินเตอร์มิลาน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก มาเซมเบ ประเทศบราซิล อิงเตร์นาซีโยนัล
4–2
ประเทศเกาหลีใต้ ซองนัมอิลฮวาชอนมา
7
[18][19]
8
 ญี่ปุ่น ประเทศสเปน บาร์เซโลนา ประเทศบราซิล ซังตุส ประเทศกาตาร์ อัล ซาดด์
0–0[n 1]
ประเทศญี่ปุ่น คะชิวะ เรย์โซล
7
[20][21]
[22]
9
 ญี่ปุ่น ประเทศบราซิล คอรินเทียนส์ ประเทศอังกฤษ เชลซี ประเทศเม็กซิโก มอนเตร์เรย์
2–0
ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี
7
[23][24]
10
 โมร็อกโก ประเทศเยอรมนี ไบเอิร์นมิวนิก ประเทศโมร็อกโก ราจาคาซาบลังกา ประเทศบราซิล อัตเลชีกูมีเนย์รู
3–2
ประเทศจีน กว่างโจวเอเวอร์แกรนด์
7
[25][26]
11
 โมร็อกโก ประเทศสเปน เรอัลมาดริด ประเทศอาร์เจนตินา ซานโลเรนโซ ประเทศนิวซีแลนด์ ออกแลนด์ซิตี
1–1[n 1]
ประเทศเม็กซิโก กรุซอาซุล
7
[27][28]
[29]
12
 ญี่ปุ่น ประเทศสเปน บาร์เซโลนา ประเทศอาร์เจนตินา รีเบร์เปลต ประเทศญี่ปุ่น ซานเฟรซ ฮิโระชิมะ
2–1
ประเทศจีน กว่างโจวเอเวอร์แกรนด์
7
[30][31]
13
 ญี่ปุ่น ประเทศสเปน เรอัลมาดริด ประเทศญี่ปุ่น คะชิมะ แอนท์เลอร์ส ประเทศโคลอมเบีย อัตเลติโก นาซิอองนาล
2–2[n 1]
ประเทศเม็กซิโก กลุบอาเมริกา
7
[32][33]
[34][35]
14
 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศสเปน เรอัลมาดริด ประเทศบราซิล อาแลเกร็งซี ประเทศเม็กซิโก ปาชูกา
4–1
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อัลญะซีเราะฮ์
7
[36]
15
 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศสเปน เรอัลมาดริด สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อัลอัยน์ ประเทศอาร์เจนตินา ริเบร์เปลต
4–0
ประเทศญี่ปุ่น คาชิมะ แอนต์เลอส์
7
[37]
16
 กาตาร์ ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล ประเทศบราซิล ฟลาเม็งกู ประเทศเม็กซิโก มอนเตร์เรย์
2–2[n 1]
ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลฮิลาล
7
[38]
17
 กาตาร์ ประเทศเยอรมนี ไบเอิร์นมิวนิก ประเทศเม็กซิโก ยูเอเอ็นแอล ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี
0–0[n 1]
ประเทศบราซิล ปัลเมย์รัส
6
[39]
18
 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศอังกฤษ เชลซี ประเทศบราซิล ปัลเมย์รัส ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี
4–0
ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลฮิลาล
7
[40]
19
 โมร็อกโก ประเทศสเปน เรอัลมาดริด ประเทศซาอุดีอาระเบีย อัลฮิลาล ประเทศบราซิล ฟลาเม็งกู
4–2
ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี
7
[41]
20
 ซาอุดีอาระเบีย ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี ประเทศบราซิล ฟลูมิเนนเซ ประเทศอียิปต์ อัลอะฮ์ลี
4–2
ประเทศญี่ปุ่น อูราวะ เรดไดมอนส์
7
21
 สหรัฐ ประเทศอังกฤษ เชลซี 3–0 ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ผู้แพ้รอบรองชนะเลิศ[n 6]
32
[42]
ประเทศบราซิล ฟลูมิเนนเซ และ ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
22
รอประกาศ
32
หมายเหตุ
  1. 1 2 3 4 5 6 7 ไม่มีการต่อเวลาพิเศษ
  2. สกอร์เป็น 1–1 หลังจาก 90 นาที
  3. สกอร์เป็น 2–2 หลังจาก 90 นาที
  4. สกอร์อยู่ที่ 0–0 หลังจาก 90 นาที
  5. สกอร์เป็น 1–1 หลังจาก 90 นาที
  6. ไม่มีนัดชิงอันดับที่สามที่จะลงเล่นนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2025; รายชื่อผู้เข้ารอบรองชนะเลิศที่แพ้จะเรียงตามลำดับตัวอักษร.

ทำเนียบผู้ชนะเลิศ

[แก้]

ชนะเลิศ (จำแนกตามสโมสร)

[แก้]
สโมสร ชนะเลิศ รองชนะเลิศ ปีที่ชนะเลิศ ปีที่ได้รองชนะเลิศ
ประเทศสเปน เรอัลมาดริด502014, 2016, 2017, 2018,2022
ประเทศสเปน บาร์เซโลนา312009, 2011, 20152006
ประเทศอังกฤษ เชลซี212021, 20252012
ประเทศบราซิล คอรินเทียนส์202000, 2012
ประเทศเยอรมนี ไบเอิร์นมิวนิก202013, 2020
ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล1120192005
ประเทศบราซิล เซาเปาลู102005
ประเทศบราซิล อิงเตร์นาซีโยนัล102006
ประเทศอิตาลี เอซี มิลาน102007
ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด102008
ประเทศอิตาลี อินเตอร์มิลาน102010
ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี102023

ชนะเลิศ (จำแนกตามชาติ)

[แก้]
ชาติ ชนะเลิศ รองชนะเลิศ ปีที่ชนะเลิศ ปีรองชนะเลิศ
ประเทศสเปน สเปน81(2009, 2011, 2014, 2015, 2016, 2017, 2018, 2022)(2006)
ประเทศอังกฤษ อังกฤษ52(2008, 2019, 2021, 2023, 2025)(2005, 2012)
ประเทศบราซิล บราซิล46(2000, 2005, 2006, 2012)(2000, 2011, 2017, 2019, 2021, 2023)
ประเทศอิตาลี อิตาลี20(2007, 2010)
ประเทศเยอรมนี เยอรมนี20(2013, 2020)
ประเทศอาร์เจนตินา อาร์เจนตินา04(2007, 2009, 2014, 2015)
ประเทศเอกวาดอร์ เอกวาดอร์01(2008)
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก01(2010)
ประเทศโมร็อกโก โมร็อกโก01(2013)
ประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่น01(2016)
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์01(2018)
ประเทศเม็กซิโก เม็กซิโก01(2020)
ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซาอุดีอาระเบีย01(2022)
ประเทศฝรั่งเศส ฝรั่งเศส01(2025)

ชนะเลิศ (จำแนกตามเมือง)

[แก้]
เมือง ชนะเลิศ ทีมชนะเลิศ
ประเทศสเปน มาดริด5เรอัลมาดริด (2014, 2016, 2017, 2018, 2022)
ประเทศสเปน บาร์เซโลนา3บาร์เซโลนา (2009, 2011, 2015)
ประเทศบราซิล เซาเปาลู3คอรินเทียนส์ (2000, 2012), เซาเปาลู (2005)
ประเทศอังกฤษ ลอนดอน2เชลซี (2021, 2025)
ประเทศอิตาลี มิลาน2เอซี มิลาน (2007), อินเตอร์มิลาน (2010)
ประเทศเยอรมนี มิวนิก2ไบเอิร์นมิวนิก (2013, 2020)
ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์2แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (2008), แมนเชสเตอร์ซิตี (2023)
ประเทศบราซิล โปร์ตูอาเลกรี1อิงเตร์นาซีโยนัล (2006)
ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล1ลิเวอร์พูล (2019)

ชนะเลิศ (จำแนกตามสมาพันธ์ฟุตบอล)

[แก้]
สมาพันธ์ฟุตบอล ชนะเลิศ รองชนะเลิศ อันดับสาม
ยูฟ่า17 (2007, 2008, 2009, 2010, 2011, 2013, 2014, 2015, 2016, 2017, 2018, 2019, 2020, 2021, 2022, 2023, 2025)4 (2005, 2006, 2012, 2025)0
คอนเมบอล4 (2000, 2005, 2006, 2012)11 (2000, 2007, 2008, 2009, 2011, 2014, 2015, 2017, 2019, 2021, 2023)5 (2010, 2013, 2016, 2018, 2022)
เอเอฟซี03 (2016, 2018, 2022)5 (2007, 2008, 2009, 2011, 2015)
ซีเอเอฟ02 (2010, 2013)4 (2006, 2020, 2021, 2023)
คอนคาแคฟ01 (2020)5 (2000, 2005, 2012, 2017, 2019)
โอเอฟซี001 (2014)

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "FIFA Club World Championship TOYOTA Cup Japan 2005: Report and Statistics" (PDF). pp. 5, 19. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-08-08. สืบค้นเมื่อ 2019-03-13.
  2. "FIFA Club World Cup UAE 2017: Statistical Kit" (PDF). pp. 15, 40, 41, 42. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-12-30. สืบค้นเมื่อ 2019-03-13.
  3. "FIFA Club World Championship Brazil 2000". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2012. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  4. Pontes, Ricardo (29 May 2007). "FIFA Club World Championship 2000". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  5. "World Club Championship axed". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 18 May 2001. สืบค้นเมื่อ 26 August 2014.
  6. "FIFA revamps Club World Championship". 20 February 2004. สืบค้นเมื่อ 23 August 2022.
  7. "FIFA Club World Championship Toyota Cup Japan 2005". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2012. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  8. Nakanishi, Masanori "Komabano"; de Arruda, Marcelo Leme (30 April 2006). "FIFA Club World Championship 2005". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  9. "FIFA Club World Cup Japan 2006". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2012. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  10. Nakanishi, Masanori "Komabano"; de Arruda, Marcelo Leme (10 May 2007). "FIFA Club World Championship 2006". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  11. "FIFA Club World Cup Japan 2007". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 March 2008. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  12. de Arruda, Marcelo Leme (28 May 2008). "FIFA Club World Championship 2007". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  13. "FIFA Club World Cup Japan 2008". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 May 2009. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  14. Nakanishi, Masanori "Komabano"; de Arruda, Marcelo Leme (21 May 2009). "FIFA Club World Championship 2008". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  15. "FIFA Club World Cup UAE 2009". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 March 2010. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  16. de Arruda, Marcelo Leme (14 May 2010). "FIFA Club World Championship 2009". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  17. "Club Estudiantes de La Plata – FC Barcelona". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 19 December 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 July 2015. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  18. "FIFA Club World Cup UAE 2010". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 July 2011. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  19. de Arruda, Marcelo Leme (17 July 2012). "FIFA Club World Championship 2010". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  20. "FIFA Club World Cup Japan 2011". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 May 2012. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  21. de Arruda, Marcelo Leme (17 July 2012). "FIFA Club World Championship 2011". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  22. "Al-Sadd take third on penalties". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 18 December 2011. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  23. "FIFA Club World Cup Japan 2012". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 June 2013. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  24. de Arruda, Marcelo Leme (10 January 2013). "FIFA Club World Championship 2012". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 6 March 2013.
  25. "FIFA Club World Cup Morocco 2013". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. สืบค้นเมื่อ 29 August 2014.
  26. de Arruda, Marcelo Leme (23 December 2013). "FIFA Club World Championship 2013". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 29 August 2014.
  27. "FIFA Club World Cup Morocco 2014". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 August 2015. สืบค้นเมื่อ 29 August 2014.
  28. de Arruda, Marcelo Leme (23 December 2014). "FIFA Club World Championship 2014". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 29 August 2014.
  29. "Auckland City claim historic bronze". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 20 December 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 December 2014. สืบค้นเมื่อ 20 December 2014.
  30. "FIFA Club World Cup Japan 2015". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 June 2016. สืบค้นเมื่อ 13 September 2016.
  31. King, Ian; Stokkermans, Karel (20 December 2015). "FIFA Club World Cup 2015". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 13 September 2016.
  32. "FIFA Club World Cup Japan 2016". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 December 2011. สืบค้นเมื่อ 18 December 2016.
  33. Stokkermans, Karel (18 December 2016). "FIFA Club World Cup 2016". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 18 December 2016.
  34. "Club América – Atlético Nacional". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 18 December 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 December 2016. สืบค้นเมื่อ 18 December 2016.
  35. "Real Madrid – Kashima Antlers". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 18 December 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 December 2016. สืบค้นเมื่อ 18 December 2016.
  36. King, Ian (22 December 2018). "FIFA Club World Cup 2017". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 22 December 2018.
  37. King, Ian (3 January 2019). "FIFA Club World Cup 2018". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 17 January 2019.
  38. Poole, Harry (21 December 2019). "Flamengo 0–1 Liverpool: Roberto Firmino's extra-time strike delivers first Club World Cup". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 13 February 2022.
  39. Begley, Emlyn (11 February 2021). "Fifa Club World Cup final: Bayern Munich beat Tigres to become world champions". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 13 February 2022.
  40. "Chelsea win Club World Cup: Kai Havertz winner sees off Palmeiras after extra time". BBC Sport. 12 February 2022. สืบค้นเมื่อ 13 February 2022.
  41. "Real Madrid 5–3 Al-Hilal: Vinicius & Federico Valverde score in Club World Cup final win". BBC Sport. 11 February 2023. สืบค้นเมื่อ 11 February 2023.
  42. Brennan, Feargal (22 December 2023). "Why is there no Club World Cup in 2024? FIFA tournament changes ahead of 2025 competition". The Sporting News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 June 2025. สืบค้นเมื่อ 16 June 2025.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]