ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน"
Pongsak ksm (คุย | ส่วนร่วม) |
ล →หมู่พระที่นั่งสมุทรพิมาน: เพิ่มไฮเปอร์ลิงค์ไปยังฐานข้อมูลของเจ้าพระยารามราฆพ และพระยาอนิรุทธเทวา |
||
บรรทัด 49: | บรรทัด 49: | ||
=== หมู่พระที่นั่งสมุทรพิมาน === |
=== หมู่พระที่นั่งสมุทรพิมาน === |
||
'''หมู่พระที่นั่งสมุทรพิมาน'''ประกอบไปด้วยอาคารต่างๆดังนี้ |
'''หมู่พระที่นั่งสมุทรพิมาน'''ประกอบไปด้วยอาคารต่างๆดังนี้ |
||
*อาคารด้านหน้า |
*อาคารด้านหน้า คือบ้านพักของพลเอก [[เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ)|เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวง เฟื้อ พึ่งบุญ)]] ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการมหาดเล็กภายในประกอบด้วยห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องทำงาน |
||
*พระที่นั่งสมุทรพิมานองค์ที่สอง เป็นส่วนที่ประทับของ[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ภายในประกอบด้วย ห้องพระบรรทม ห้องทรงงาน ห้องสรง ห้องแต่งพระองค์ |
*พระที่นั่งสมุทรพิมานองค์ที่สอง เป็นส่วนที่ประทับของ[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ภายในประกอบด้วย ห้องพระบรรทม ห้องทรงงาน ห้องสรง ห้องแต่งพระองค์ |
||
*อาคารด้านตรงข้ามกับพระที่นั่งสมุทรพิมาน คือหอเสวยฝ่ายหน้าเป็นสถานที่สำหรับเสวยพระกระยาหารและจัดงานพระราชทานเลี้ยง |
*อาคารด้านตรงข้ามกับพระที่นั่งสมุทรพิมาน คือหอเสวยฝ่ายหน้าเป็นสถานที่สำหรับเสวยพระกระยาหารและจัดงานพระราชทานเลี้ยง |
||
*พระที่นั่งสมุทรพิมานองค์แรก เดิมเป็นที่ประทับของ[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ต่อมาโปรดเกล้าให้เป็นที่ประทับของ [[พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี]] |
*พระที่นั่งสมุทรพิมานองค์แรก เดิมเป็นที่ประทับของ[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ต่อมาโปรดเกล้าให้เป็นที่ประทับของ [[พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี]] |
||
*เรือนฝ่ายใน |
*เรือนฝ่ายใน เดิมเป็นบ้านพักของพลตรี [[พระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ)]] ซึ่งเป็นน้องชายของ[[เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ)|เจ้าพระยารามราฆพ]] |
||
โดยพระที่นั่งองค์นี้มีทางเชื่อมกับศาลาลงสรงฝ่ายหน้าภายในประกอบด้วยห้องแต่งพระองค์ ห้องเก็บของ และเฉลียงสำหรับรับลมทะเลโดยถ้าไม่โปรดจะลงเล่นน้ำทะเลก็มาประทับที่เฉลียงรับลมทะเลก็ได้ |
โดยพระที่นั่งองค์นี้มีทางเชื่อมกับศาลาลงสรงฝ่ายหน้าภายในประกอบด้วยห้องแต่งพระองค์ ห้องเก็บของ และเฉลียงสำหรับรับลมทะเลโดยถ้าไม่โปรดจะลงเล่นน้ำทะเลก็มาประทับที่เฉลียงรับลมทะเลก็ได้ |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 06:26, 13 มิถุนายน 2561
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน | |
---|---|
Mrigadayavan Palace | |
สถาปัตยกรรมของพระราชนิเวศน์แห่งนี้ | |
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | พระราชนิเวศน์ |
สถาปัตยกรรม | เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์คือ(ไทยผสมยุโรป)สร้างด้วยไม้สักทอง |
เมือง | อำเภอชะอำ, จังหวัดเพชรบุรี |
ประเทศ | ประเทศไทย |
เริ่มสร้าง | พ.ศ. 2466 |
ผู้สร้าง | พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานในฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว
ประวัติ
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานในฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวจัดเป็นที่ประทับที่มีความเรียบง่ายที่สุดซึ่งสร้างตามพระราชประสงค์ของพระองค์เองเพื่อไม่ให้เป็นการเปลืองพระราชทรัพย์จนเกินไปโดยพระองค์เสด็จมาประทับ ณ พระราชนิเวศน์แห่งนี้ถึงสองครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2467 เป็นเวลา 3 เดือน และครั้งที่สอง ปี พ.ศ. 2468 หลังจากนั้นก็ไม่ได้เสด็จมาประทับอีกเลยเนื่องจาก 5 เดือนต่อมาพระองค์ก็เสด็จสวรรคต ณ พระบรมมหาราชวัง
ปัจจุบัน
ปัจจุบัน พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ยังคงซึ่งไว้เขตพระราชฐาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้เป็นค่ายพระรามหก กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด) เพื่อใช้ในการฝึกรบสนับสนุนทางอากาศ และในปี 2536 ตชด ได้จัดตั้ง มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
สถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมของพระราชนิเวศน์เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์คือ(ไทยผสมยุโรป) สร้างด้วยไม้สักทองลักษณะเป็นอาคาร2ชั้นเปิดโล่งใต้ถุนสูงบริเวณใต้ถุนทำเป็นคอนกรีต หลังคาเป็นหลังคาทรงปั้นหยามุงด้วยกระเบื้องว่าวแบบสี่เหลี่ยมซึ่งสามารถกันแดดและกันฝน ได้ดีกว่าแบบธรรมดาเพดานยกพื้นสูงมีบานเกร็ดระบายความร้อน โดยมีเสารองรับพระที่นั่งทั้งหมด1080ต้นวางในแนวเดียวกันเสาทุกต้นมีการหล่อขอบฐาน และยกขอบขึ้นไปรางน้ำเรียกว่าบัวขอบเพื่อกันมดและสัตว์อื่นๆซึ่งในสมัยนั้นมีมดและสัตว์อื่นๆชุกชุม
พระที่นั่ง
พระที่นั่งทั้ง3องค์มีความยาวทั้งสิ้น399เมตรแบ่งเป็น3ส่วนคือ ท้องพระโรง เขตที่ประทับฝ่ายหน้า และเขตที่ประทับฝ่ายในโดยมีทางเชื่อมต่อกันโดยตลอดโดยมีพระที่นั่งองค์ต่างๆดังนี้
พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์
พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ เป็นพระที่นั่งองค์แรกตั้งอยู่ทางทิศเหนือเป็นพระที่นั่ง2ชั้นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเปิดถึงกันทั้งชั้นบนและชั้นล่างด้านบนเพดานเป็นช่องสี่เหลี่ยมเขียนลวดลายโดยทั้งชั้นล่างและชั้นบนมีห้องควบคุมไฟสำหรับเวทีที่ใช้แสดงละครและมีห้องพักนักแสดงภายในมีบันไดสำหรับนักแสดงขึ้นลงโดยการแสดงจะจัดขึ้นบริเวณทิศเหนือซึ่งเป็นเวทีซึ่งยกพื้นสูงโดยเจ้านายฝ่ายในจะประทับที่เฉลียงชั้นบนอัฒจันทร์ที่อยู่ตรงทางเข้านั้นเป็นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยทางขึ้นและทางลงแยกกันคนละทางโดยบนอัฒจันทร์มีลาดพระบาท(พรม)สำหรับเป็นทางเสด็จชั้นบน เป็นท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกว่าราชการ รับพระราชอาคันตุกะ และประกอบพระราชพิธีต่างๆโดยภายในห้องพระราชพิธีเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปซึ่งสร้างขึ้นภายหลังนอกจากนี้ยังมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกหลายภาพ
หมู่พระที่นั่งสมุทรพิมาน
หมู่พระที่นั่งสมุทรพิมานประกอบไปด้วยอาคารต่างๆดังนี้
- อาคารด้านหน้า คือบ้านพักของพลเอก เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวง เฟื้อ พึ่งบุญ) ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการมหาดเล็กภายในประกอบด้วยห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องทำงาน
- พระที่นั่งสมุทรพิมานองค์ที่สอง เป็นส่วนที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในประกอบด้วย ห้องพระบรรทม ห้องทรงงาน ห้องสรง ห้องแต่งพระองค์
- อาคารด้านตรงข้ามกับพระที่นั่งสมุทรพิมาน คือหอเสวยฝ่ายหน้าเป็นสถานที่สำหรับเสวยพระกระยาหารและจัดงานพระราชทานเลี้ยง
- พระที่นั่งสมุทรพิมานองค์แรก เดิมเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวต่อมาโปรดเกล้าให้เป็นที่ประทับของ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี
- เรือนฝ่ายใน เดิมเป็นบ้านพักของพลตรี พระยาอนิรุทธเทวา (หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ) ซึ่งเป็นน้องชายของเจ้าพระยารามราฆพ
โดยพระที่นั่งองค์นี้มีทางเชื่อมกับศาลาลงสรงฝ่ายหน้าภายในประกอบด้วยห้องแต่งพระองค์ ห้องเก็บของ และเฉลียงสำหรับรับลมทะเลโดยถ้าไม่โปรดจะลงเล่นน้ำทะเลก็มาประทับที่เฉลียงรับลมทะเลก็ได้
หมู่พระที่นั่งพิศาลสาคร
หมู่พระทีนั่งพิศาลสาครประกอบไปด้วยอาคารต่างๆดังนี้
- อาคารหลังแรก เป็นห้องรับแขกเดิมเป็นท้องพระโรงฝ่ายในปัจจุบันเป็นโรงเรียนสอนดนตรีไทย
- หอเสวยฝ่ายใน เป็นสถานที่สำหรับเสวยพระกระยาหาร
- พระที่นั่งพิศาลสาคร เป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา ภายในประกอบด้วย ห้องบรรทม ห้องรับแขก ห้องสรง ห้องแต่งพระองค์และเฉลียงสำหรับรับลมทะเล
- เรือนพระสุจริตสุดา เป็นบ้านพักของพระสุจริตสุดาซึ่งเป็นพระสนมเอกภายในประกอบด้วย ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องแต่งตัวและเฉลียงรับลมทะเล
- ห้องพักคุณท้าววรคณานันท์ เป็นบ้านพักของคุณท้าววรคณานันท์(หม่อมราชวงศ์แป๋ม มาลากุล) และคุณท้าวสมศักดิ์(หม่อมราชวงศ์แป๋ม มาลากุล)
โดยพระที่นั่งองค์นี้มีทางเชื่อมกับศาลาลงสรงฝ่ายในภายในประกอบด้วยห้องแต่งพระองค์ ห้องเก็บของ และเฉลียงสำหรับรับลมทะเลโดยถ้าไม่โปรดจะลงเล่นน้ำทะเลก็มาประทับที่เฉลียงรับลมทะเลก็ได้
สวนพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
แต่เดิมพบเพียงภาพถ่ายในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยปรากฏสภาพเป็นป่าชายหาดตามลักษณะภูมิประเทศ และถากเป็นพื้นโล่งเตียนโดยรอบหมู่พระที่นั่ง เมื่อทางมูลนิธิมีโครงการในการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบพระราชนิเวศน์ โดยหม่อมหลวงภูมิใจ ชุมพล ผู้ออกแบบสวนได้แรงบันดาลใจจากบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีสวนต่างๆดังนี้
- สวนเวนิสวานิช
สวนที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างจากบทพระราชนิพนธ์เรื่องเวนิสวานิช ที่แปลมาจากเรื่องThe Merchant of Venice ของวิลเลี่ยม เช็กสเปียร์ นักประพันธ์ชื่อก้องโลกชาวอังกฤษ ที่พระองค์ท่านทรงคงลีลาและฉันทลักษณ์ การแปล ไว้คำต่อคำใกล้เคียงกับต้นฉบับจริงมากที่สุดสวนแห่งนี้ออกแบบในสไตล์เรอเนส ซองและที่กำหนด สร้างไว้ ณ จุดหน้าสุดของเขตพระราชฐานก็เพื่อเป็นจุดนัดพบ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เฉกเช่นเดียวกับเมืองเวนิส ที่เป็นสถานที่พบปะของผู้คน และเป็นแหล่งการค้า ในบทประพันธ์ของเช็กสเปียร์ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
- สวนศกุนตลา
ลานกว้างที่ใช้ต้นเข็มนานาพันธุ์ทำเป็นกำแพงล้อมรอบสวน พื้นที่ภายในสวนแห่งนี้ใช้เป็นเหมือนเวทีจัดการแสดง อาทิ การแสดงโขน การแสดงละครในฤดูหนาว รวมถึงการจัดเลี้ยงรับรองต่างๆ จากสวนศกุนตลาพื้นอิฐหกเหลี่ยม สีแดงอ่อนตัดกับสนามหญ้าสีเขียว ทอดยาวพาเราไปด้านหน้าทางขึ้นพระราชวังที่รายล้อม ด้วยความร่มรื่นของ ไม้ยืนต้นนานาพันธุ์ และพุ่มไม้ดอกที่แข่งกันชูช่อประชันสี ราวกับภาพเขียนสีน้ำมันที่จิตรกรเอกบรรจงวาดอย่าง ไว้ อย่างสุดฝีมือ
- สวนมัทนะพาธา
รอบด้วยระเบียงทั้งสามด้าน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชนิพนธ์เรื่องมัทนะพาธา หรือตำนานดอกกุหลาบ อันเป็นบทละครพูดคำฉันท์ที่มีการใช้สัมผัสและฉันทลักษณ์ได้ถูกต้องและมีความไพเราะยิ่ง และได้รับการยกย่อง ว่าเป็นยอดบทละครพูดคำฉันท์ "สวนมัทนะพาธา ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยแนวไม้พุ่มลายอ่อนช้อย โดยเลือกใช้ต้นข่อย ซึ่งมีพุ่มหนาแน่น ทนต่อแดด และไอทะเลได้ดีนั่นเอง
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
- พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จากเว็บไซต์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ตะลุยพาเที่ยว
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์