ข้ามไปเนื้อหา

หัวท้ายตายก่อน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หัวท้ายตายก่อน
ประเภทเกมโชว์
พิธีกรเกียรติ กิจเจริญ
ประเทศแหล่งกำเนิดประเทศไทย
ภาษาต้นฉบับภาษาไทย
จำนวนฤดูกาล3
จำนวนตอน208
การผลิต
ผู้อำนวยการผลิตพิลาวัลย์ บัวงาม
ผู้อำนวยการสร้างอรวรรณ ศิลป์เศวตร์
อุทุมพร เข็มทอง
สถานที่ถ่ายทำสตูดิโอเวิร์คพอยท์
กล้องหลายกล้อง
ความยาวตอน75–85 นาที
บริษัทผู้ผลิตเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์
โมชั่นคอนเทนต์กรุ๊ป
การออกอากาศ
เครือข่ายช่องเวิร์คพอยท์
ออกอากาศ11 มกราคม 2564 (2564-01-11) 
30 ธันวาคม 2567 (2567-12-30)

หัวท้ายตายก่อน (อังกฤษ: First and Last Thailand) เป็นรายการโทรทัศน์ประเภทเกมโชว์ที่ผู้เข้าแข่งขันต้องพยายามแข่งขันกันเพื่อไม่ให้ถูกกำจัดออกในฐานะ "หัว" และ "ท้าย" ในเกมต่าง ๆ จำนวน 4 เกม และคนสุดท้ายที่อยู่ในตำแหน่ง "กลาง" ในทุกรอบ จะได้รับของรางวัล โดยบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ Motion Content Group ซื้อลิขสิทธิ์จากบีบีซี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ของสหราชอาณาจักร นำมาผลิตในรูปแบบของประเทศไทย ดำเนินรายการโดย กิ๊ก - เกียรติ กิจเจริญ ออกอากาศทุกวันจันทร์ เวลา 20:05 - 21:30 น. ทางช่องเวิร์คพอยท์ เริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2564 และยุติการออกอากาศเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2567 โดยหลังจากนั้นได้นำเกม ตายไม่รู้ตัว ที่เคยมีอยู่หลายรูปแบบในหัวท้ายตายก่อน มาทำเป็นรายการใหม่ชื่อ Good Bye ตายไม่รู้ตัว ออกอากาศต่อจากหัวท้ายตายก่อน

หัวท้ายตายก่อนเป็นรายการที่สร้างปรากฏการณ์รายการเกมโชว์ที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางอีกครั้งของช่องเวิร์คพอยท์ มีเรตติ้งในระดับสูงในแต่ละตอน และเกม จำนวนลับ นับให้ถูก ยังถูกพูดถึงในส่วนของโจทย์เพลงประจำสัปดาห์อย่างกว้างขวาง[1]

รูปแบบรายการ

[แก้]

รอบปกติ

[แก้]

ในการแข่งขันแต่ละครั้ง จะมีดารานักแสดงมาเป็นผู้เข้าแข่งขันจำนวนครั้งละ 9 คน เพื่อแข่งขันกันในเกมจำนวนครั้งละ 4 เกม ซึ่งจะสลับสับเปลี่ยนไปในการคัดผู้เข้าแข่งขันแต่ละรอบในทุก ๆ สัปดาห์ โดยในแต่ละรอบ ผู้เข้าแข่งขันต้องพยายามแข่งขันด้วยการ "เดาใจ" ทั้งตนเองและคนอื่น ๆ[2] รวมถึงใช้การตัดสินใจ การวางแผน และดวง ที่จะต้องวิเคราะห์ คิด และจัดอันดับ เพื่อให้เป็นผู้เข้าแข่งขันที่ชนะเกมในตำแหน่ง "คนกลาง" โดยเมื่อแข่งขันในแต่ละเกมเสร็จสิ้นลง ผู้เข้าแข่งขัน 2 คน แบ่งเป็นอันดับแรก หรือ "หัวแถว" 1 คน และอันดับสุดท้าย หรือ "ท้ายแถว" 1 คน ในแต่ละเกมจะถูกคัดออก (ทางรายการจะใช้คำว่า "ตาย" ตามชื่อรายการ) และจะถูกส่งไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเวทีเพื่อดูและวิเคราะห์การแข่งขันในเกมถัดไปของผู้เข้าแข่งขันที่เหลือ หรือในบางเกมอาจใช้ผู้ที่ตกรอบให้ร่วมเล่นเกมหรือปั่นป่วนผู้แข่งขันที่เหลือได้ เพราะพิธีกรอาจบอกกติกาให้ทราบก่อนผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออยู่เสมอ โดยหลังจากแข่งขันครบ 4 รอบแล้ว ผู้เข้าแข่งขัน 1 คนที่ชนะทั้ง 4 เกม ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่ง "คนกลาง" จะเป็นผู้ชนะประจำสัปดาห์

ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2565 มีการปรับรูปแบบรายการ และเปลี่ยนชื่อเป็น หัวท้ายตายก่อน 3×3 โดยยังคงรูปแบบกติกาเหมือนแบบปกติ แต่ปรับปรุงเกมการแข่งขัน โดยแข่งขันเป็นทีม ทีมละ 3 คน และเพิ่มเกมการแข่งขันทั้งหมดเป็น 5 เกม โดยทีมใดอยู่อันดับที่ 2 (ทีมอันดับกลาง) ในแต่ละเกม จะได้ 1 คะแนน ส่วนทีมหัวและทีมท้ายจะไม่ได้คะแนน และทุกคนจะเล่นครบ 5 เกม ทีมที่ได้คะแนนครบ 3 คะแนนก่อน จะเป็นทีมที่ชนะ และผ่านเข้าสู่รอบแจ็คพอต[3][4][5] อย่างไรก็ตาม รูปแบบนี้ได้รับกระแสตอบรับในทางลบ จึงใช้เพียงจำนวน 8 เทป จนถึงวันที่ 21 มีนาคม และกลับไปใช้รูปแบบแรกตามกระแสคำเรียกร้องตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม

รอบแจ็คพอต

[แก้]

ในช่วงท้ายรายการ จะให้ผู้ชนะประจำสัปดาห์เลือกของรางวัลจากผู้ที่ตกรอบ โดยมีรางวัลใหญ่ที่สุดจำนวน 1 รางวัล ต่อมาตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2564 มีการปรับรูปแบบรอบแจ็คพอต โดยมีแผ่นป้าย 6 แผ่นป้าย พิธีกรจะให้ผู้ชนะจับสลากหาผู้ที่ตกรอบขึ้นมารับรางวัลร่วมกับตน จากนั้นจะใบ้ของรางวัลในแต่ละแผ่นป้ายซึ่งจะมีความเกี่ยวข้องกับของรางวัลใหญ่ และให้ผู้ชนะเลือก 2 แผ่นป้าย โดยให้ตนเอง 1 รางวัล และผู้ที่ถูกจับสลากขึ้นมาอีก 1 รางวัล

ส่วนรอบแจ็คพอตของรูปแบบ 3×3 จะมีแผ่นป้าย 6 แผ่นป้ายเหมือนเดิม แต่ทีมที่แพ้ทั้ง 2 ทีม จะทำการหยิบแผ่นป้ายออก ทีมละ 1 ป้าย รวมเป็น 2 ป้าย และให้ทีมที่ชนะเลือกแผ่นป้ายที่เหลือ

ส่วนรอบแจ็คพอตหลังจากกลับมาใช้รูปแบบปกติตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2565 มีการปรับเล็กน้อย โดยผู้ชนะจะสามารถจับสลากหาผู้ที่ตกรอบขึ้นมารับรางวัลร่วมกับตนได้ 2 คน และผู้ชนะจะต้องเลือกของรางวัลจำนวน 3 แผ่นป้าย, ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน เพิ่มแผ่นป้ายเป็น 7 แผ่นป้าย และตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566 ผู้ชนะจะเลือกของรางวัลให้ตนเองก่อน หากเลือกแล้วได้รับของรางวัลใหญ่ เกมจะจบทันที แต่หากเลือกแล้วไม่ได้รับของรางวัลใหญ่ จะต้องจับสลากหาผู้ที่ตกรอบขึ้นมาอีก 1 คน แล้วเลือกแผ่นป้ายของรางวัลให้คนดังกล่าว

รายชื่อตอนและผู้เข้าแข่งขัน

[แก้]

การตอบรับ

[แก้]

รายการมีผู้ชมและการพูดถึงรายการนี้จำนวนมาก ส่งผลให้มีเรตติ้งในการรับชมสดทางช่องเวิร์คพอยท์เป็นอย่างดีในการออกอากาศหลายตอน[6] นอกจากนี้ ยังมีการรับชมรายการย้อนหลังในยูทูบเป็นจำนวนมากจนเป็นกระแสคลิปในส่วนมาแรงในหลายตอน และเกมที่ทำให้รายการนี้โด่งดัง นั้นก็คือ จำนวนลับ นับให้ถูก ซึ่งเป็นกระแสพูดถึงเกี่ยวกับโจทย์เพลงประจำสัปดาห์ที่ติดหู[1] และ สายด่วนชวนตาย ที่ทำให้ผู้ชมคอยลุ้นกับการรอสายทุกรอบอย่างตื่นเต้นไม่แพ้ผู้เข้าแข่งขัน[7]

รางวัล

[แก้]
ปีรางวัลสาขาผลหมายเหตุ
2565 รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 13 เกมโชว์ยอดเยี่ยม เสนอชื่อเข้าชิง
2566 นาคราชอวอร์ด รายการเกมโชว์ยอดเยี่ยมแห่งปี ชนะ [8]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1 2 ""หัวท้ายตายก่อน" กระแสฟีเวอร์ "ซาร่า โฮเลอร์" ขอคัมแบคหวังเข้าชิงรอบแจ็คพอต!". สนุก.คอม. 1 กุมภาพันธ์ 2021. สืบค้นเมื่อ 9 ตุลาคม 2024. ช่วงเกม "จำนวนลับนับให้ถูก" ที่นำเอาสิ่งของ ชื่อคน สรรพนามต่าง ๆ มาแต่งเป็นเพลงจนติดหู แล้วให้ดูและทายว่า มีจำนวนมากสุด หรือน้อยสุดเท่าไหร่? ถือได้ว่าเป็นเกมฮิตสุดฮอตตอนนี้เลยก็ว่าได้{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  2. "บันเทิง - 'ป๋ากิ๊ก'ชวนสนุกเกมโชว์ลุ้นเดาใจ". ข่าวสด. 2021-01-10. สืบค้นเมื่อ 2021-01-31.
  3. ""หัวท้ายตายก่อน" First And Last Thailand เริ่ม วันจันทร์ที่ 11 ม.ค. นี้". นิวส์พลัส. 2021-01-07. สืบค้นเมื่อ 2021-01-31.
  4. ""หัวท้ายตายก่อน" แมร่ง! โคตรสนุกเลย". เขวี้ยงรีโมท. 2021-01-25. สืบค้นเมื่อ 2021-01-31 โดยทาง เฟซบุ๊ก.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  5. "หัวท้ายตายก่อน ความลงตัวของเกมโชว์ยุคใหม่". พันทิป.คอม. 2021-01-27. สืบค้นเมื่อ 2021-01-31.
  6. TV Digital Watch (2021-02-16). "น่าจับตา "หัวท้ายตายก่อน" รายการใหม่เรียกเรตติ้ง จากเวิร์คพอยท์". สืบค้นเมื่อ 2021-02-22.
  7. ทรูไอดี (2021-02-17). "มาแรงทุกEP! หัวท้ายตายก่อน เกมโชว์สุดฮอต ความสนุกที่เกิดจากการเดาใจ!". สืบค้นเมื่อ 2021-02-22.
  8. "ช่องเวิร์คพอยท์ รายการดี พิธีกรเก่ง เดินหน้าคว้ารางวัล "หัวท้ายตายก่อน" เกมโชว์ยอดเยี่ยมแห่งปี รางวัล "นาคราชอวอร์ด" ครั้งที่ 6". เวิร์คพอยท์. 28 สิงหาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 11 ตุลาคม 2024.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]