ประดู่

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บทความนี้เกี่ยวกับพืช สำหรับเพลงสัญลักษณ์ของกองทัพเรือไทย ดูที่ ดอกประดู่ (เพลง)
บทความนี้เกี่ยวกับประดู่ชนิดที่ขึ้นตามป่าทั่วไป สำหรับประดู่ชนิดที่ปลูกเป็นไม้ให้ร่มตามถนน ดูที่ ประดู่บ้าน
ประดู่
PterocarpusMacrocarpus.jpg
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Plantae
หมวด: Magnoliophyta
ชั้น: Magnoliopsida
อันดับ: Fabales
วงศ์: Fabaceae
วงศ์ย่อย: Faboideae
เผ่า: Dalbergieae
สกุล: Pterocarpus
สปีชีส์: P.  macrocarpus
ชื่อทวินาม
Pterocarpus macrocarpus
Kurz
ชื่อพ้อง
  • Lingoum macrocarpum (Kurz) O. Ktze.
  • Lingoum cambodianum Pierre
  • Lingoum glaucinum Pierre
  • Lingoum gracile Pierre
  • Lingoum oblongum Pierre
  • Lingoum parvifolium Pierre
  • Lingoum pedatum Pierre
  • Pterocarpus cambodianus Pierre var. calcicolus Craib

ประดู่[1][2] หรือ ประดู่ป่า (อังกฤษ: Burma padauk) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pterocarpus macrocarpus เป็นไม้ผลัดใบขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งในสกุล Pterocarpus วงศ์ Leguminosae

ถิ่นที่อยู่[แก้]

ประดู่ชนิดนี้เป็นพรรณไม้พื้นเมืองในอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือ, พม่า, ลาว และเวียดนาม[3][4][5] และเป็นพรรณไม้พื้นบ้านดั้งเดิมของไทย[6] ในไทยพบตามป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรังในทุกภาค ยกเว้นภาคใต้ (ประดู่บ้านจะพบในป่าเบญจพรรณทางภาคใต้ด้วย) โดยขึ้นในที่สูงจากระดับน้ำทะเล 100-600 เมตร ส่วนในพม่าพบขึ้นอยู่ตามพื้นที่ราบหรือเนินสูงต่ำ และพบขึ้นในที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 750 เมตร[7]

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์[แก้]

  • ลำต้นสูง 15-30 เมตร หุ้มด้วยเปลือกหนาสีน้ำตาลซึ่งแตกสะเก็ดเป็นร่อง ลึก มีนํ้ายางมาก เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ กิ่งก้านมักไม่ห้อยระย้าอย่างประดู่บ้าน[8]
  • ใบเป็นใบประกอบรูปขนนกเรียงสลับ ใบย่อยเยื้องสลับกัน 4-10 ใบ รูปไข่ถึงรูปขนาน กว้าง 2.5-5 เซนติเมตร ยาว 5-15 เซนติเมตร ปลายเป็นติ่ง โคนมน
  • ดอกมีสีเหลือง กลิ่นหอม มีกลิ่นคล้ายดอกซ่อนกลิ่น ออกเป็นช่อยาว 10-20 เซนติเมตร ตามง่ามใบ ดอกจะออกช่วงมีนาคม-พฤษภาคม ช่อดอกมีขนาดใหญ่ แต่ไม่แตกกิ่งก้านแขนงมากอย่างประดู่บ้าน(แต่ดอกจะบานแค่หนึ่งถึงสองวันเท่านั้น) [8]
  • ผลมีลักษณะเหมือนรูปโล่แบนบาง ตรงกลางนูน เส้นผ่าศูนย์กลาง 6-10 เซนติเมตร ผลใหญ่กว่าประดู่บ้านมาก และมีขนปกคลุมทั่วไป การขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

การใช้ประโยชน์[แก้]

ประดู่มีเนื้อไม้สีแดงอมเหลือง เสี้ยนสนเป็นริ้ว เนื้อละเอียดปานกลาง มีลวดลายสวยงาม ใช้ทำเสา พื้นต่อเรือ เครื่องเรือน เครื่องดนตรี แก่นสีแดงคล้ำใช้ย้อมผ้า และเปลือกให้น้ำฝาดใช้ฟอกหนัง

ประดู่เป็นพันธุ์ไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลประจำจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2537ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นอกจากนี้ยังเป็นต้นไม้และดอกไม้ประจำจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง

ชื่อเรียกตามท้องถิ่น[แก้]

  • ดู่ หรือ ดู่ป่า (ภาคเหนือ)
    • ฉะนอง (เชียงใหม่)
    • จิต๊อก (ไทใหญ่-แม่ฮ่องสอน)
    • เตอะเลอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
  • ประดู่ หรือ ประดู่ป่า (ภาคกลาง)
    • ประดู่เสน (สระบุรี ราชบุรี)

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2556, หน้า 705.
  2. เต็ม สมิตินันทน์. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย เก็บถาวร 2010-05-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สำนักงานหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, พ.ศ. 2549
  3. International Legume Database & Information Service: Pterocarpus macrocarpus
  4. Danida Seed Leaflet: Pterocarpus macrocarpus (pdf file) เก็บถาวร 2010-03-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  5. International Institute of Tropical Forestry: Pterocarpus macrocarpus (pdf file)
  6. เดชา ศิริภัทร. "ประดู่ : ตำนานความหอมและบิดาแห่งราชนาวี."
  7. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี). กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช. "ต้นไม้ที่น่าสนใจ."
  8. 8.0 8.1 วรรณดี พลเยี่ยม. "ดอกประดู่."