ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประเทศลีชเทินชไตน์"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 37: | บรรทัด 37: | ||
| GDP_PPP_per_capita = 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ |
| GDP_PPP_per_capita = 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ |
||
| GDP_PPP_per_capita_rank = ไม่มีการจัดอันดับ |
| GDP_PPP_per_capita_rank = ไม่มีการจัดอันดับ |
||
| HDI_year = |
| HDI_year = 2556 |
||
| HDI = 0. |
| HDI = 0.889 |
||
| HDI_rank = |
| HDI_rank = 18 |
||
| HDI_category = =<span style="color:#090;">สูง</span> |
| HDI_category = =<span style="color:#090;">สูงมาก</span> |
||
| sovereignty_type = [[เอกราช]] |
| sovereignty_type = [[เอกราช]] |
||
| established_event1 = วันที่ |
| established_event1 = วันที่ |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:17, 14 พฤศจิกายน 2557
ราชรัฐลิกเตนสไตน์ Fürstentum Liechtenstein (เยอรมัน) | |
---|---|
คำขวัญ: Für Gott, Fürst und Vaterland แด่พระเจ้า เจ้าชาย และมาตุภูมิ | |
เมืองหลวง | วาดุซ |
เมืองใหญ่สุด | ชาน |
ภาษาราชการ | ภาษาเยอรมัน |
การปกครอง | ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ |
• เจ้าชาย | เจ้าชายฮันส์-อาดัมที่ 2 |
• ผู้สำเร็จราชการ | เจ้าชายอาโลอิส |
• นายกรัฐมนตรี | อาดรีอัน ฮัสเลอร์ |
เอกราช | |
• วันที่ | พ.ศ. 2349 (สนธิสัญญาเพรสส์บูร์ก) |
พื้นที่ | |
• รวม | 160.4 ตารางกิโลเมตร (61.9 ตารางไมล์) (215) |
น้อยมาก | |
ประชากร | |
• 2554 ประมาณ | 35,236[1] (212) |
• สำมะโนประชากร 2543 | 33,307 |
219.68 ต่อตารางกิโลเมตร (569.0 ต่อตารางไมล์) (52) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2544 (ประมาณ) |
• รวม | 1.786 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ (185) |
• ต่อหัว | 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ไม่มีการจัดอันดับ) |
เอชดีไอ (2556) | 0.889 สูงมาก · 18 |
สกุลเงิน | ฟรังก์สวิส (CHF) |
เขตเวลา | UTC+1 (CET) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+2 (CEST) |
รหัสโทรศัพท์ | 423 |
โดเมนบนสุด | .li |
ลิกเตนสไตน์ (เยอรมัน: Liechtenstein) หรือชื่ออย่างเป็นทางการ ราชรัฐลิกเตนสไตน์ (เยอรมัน: Fürstentum Liechtenstein) เป็นประเทศเล็กๆ ที่ถูกล้อมรอบด้วยประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล และตั้งอยู่ในทวีปยุโรปกลาง มีพรมแดนด้านตะวันออกติดกับประเทศออสเตรีย และด้านตะวันตกติดกับสวิตเซอร์แลนด์ ถึงแม้ประเทศนี้จะมีขนาดเล็ก และเต็มไปด้วยภูเขาสูง แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเป็นเสมือนที่รวมสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปทั้งหมด นอกจากนี้ ลิกเตนสไตน์ยังเป็นที่นิยมของนักเล่นกีฬาฤดูหนาว และยังมีชื่อเสียงในฐานะเป็นประเทศที่เก็บภาษีต่ำมากประเทศหนึ่งด้วย
ประวัติศาสตร์
ในปี ค.ศ. 1719 โยฮันน์ที่ 1 โยเซฟ เจ้าชายแห่งลิกเตนสไตน์ ได้ซื้อแคว้นสองแคว้นที่มีชื่อว่า วาดุซ และ เชลเลนบูร์ก จากจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และตั้งชื่อใหม่ว่า ลิกเตนสไตน์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1815 ดินแดนนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมนี และแยกตัวออกเป็นอิสระในปี ค.ศ. 1866 ลิกเตนสไตน์เป็นประเทศเดียวในยุโรปในศตวรรษที่ 20 ที่ไม่เคยเกิดสงครามเลย[2]
ภูมิศาสตร์
ประเทศลิกเตนสไตน์ตั้งอยู่ทางตอนกลางของทวีปยุโรป อยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และออสเตรีย พิกัด 47°16′ องศาเหนือ 9°32′ องศาตะวันออก มีพื้นที่ทั้งหมดเพียง 160 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. (มีขนาดเป็น 0.9 เท่า) โดยมีความยาวจากเหนือจรดใต้ 25 กิโลเมตร และกว้างสุดเพียง 6 กิโลเมตร มีพรมแดนติดต่อกับประเทศออสเตรียยาว 34.9 กิโลเมตร ติดกับสวิตเซอร์แลนด์ 41.1 กิโลเมตร รวมพรมแดนยาวทั้งหมด 76 กิโลเมตร แต่ในปี ค.ศ. 2006 มีการสำรวจและพบว่า อาณาเขตที่แท้จริงมากกว่าเดิม 1.9 กิโลเมตร เป็น 77.9 กิโลเมตร โดยไม่มีทางออกสู่ทะเล ลิกเตนสไตน์เป็นหนึ่งในสองประเทศของโลกที่ถูกประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลล้อมรอบ ซึ่งอีกประเทศหนึ่งคือ อุซเบกิสถาน
พื้นที่ 2 ใน 3 ของประเทศเป็นภูเขา ภูเขาส่วนใหญ่เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ มีแม่น้ำไรน์ไหลผ่านทางด้านตะวันตกของประเทศ จุดที่สูงที่สุดคือยอดเกราชพิทซ์ (เยอรมัน: Grauspitz) มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,599 เมตร ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศ ส่วนจุดที่ต่ำที่สุดสูงกว่าระดับน้ำทะเล 430 เมตร
ส่วนภูมิอากาศมีลักษณะคล้ายกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในฤดูหนาวอากาศหนาว เมฆมาก มีหิมะและฝนบ่อยครั้ง ส่วนในฤดูร้อนจะชื้น อากาศเย็นถึงอุ่น มีเมฆมาก
การแบ่งเขตการปกครอง
ลิกเตนสไตน์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 11 เทศบาล ([Gemeinden [เกไมน์เดน], รูปเอกพจน์ Gemeinde] ข้อผิดพลาด: {{Lang-xx}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) ซึ่งเทียบได้กับ "จังหวัด" ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเมืองเพียงแห่งเดียว โดยเทศบาล 5 แห่งจัดอยู่ในเขตเลือกตั้งตอนล่าง (เยอรมัน: Unterland) และอีก 6 แห่งอยูในเขตเลือกตั้งตอนบน (เยอรมัน: Oberland) เทศบาลทั้ง 11 แห่งมีดังนี้
ธง | เทศบาล | ประชากร[3] (31 ธันวาคม 2010) |
พื้นที่ (ตารางกิโลเมตร) |
---|---|---|---|
เขตเลือกตั้งอุนเทอร์ลันด์ (Unterland) | |||
รุกเกิลล์ (Ruggell) |
2,001 | 7.4 | |
เชลเลนแบร์ก (Schellenberg) |
10,013 | 3.5 | |
กัมพริน (Gamprin) |
1,605 | 6.1 | |
เอสเชิน (Eschen) |
4,215 | 10.3 | |
เมาเริน (Mauren) |
4,000 | 7.5 | |
เขตเลือกตั้งโอเบอร์ลันด์ (Oberland) | |||
ชาน (Schaan) |
5,766 | 26.8 | |
พลังเคิน (Planken) |
425 | 5.3 | |
วาดุซ (Vaduz) |
5,214 | 17.3 | |
ทรีเซนแบร์ก (Triesenberg) |
2,562 | 29.8 | |
ทรีเซิน (Triesen) |
4,827 | 26.4 | |
บัลเซอส์ (Balzers) |
4,529 | 19.6 |
เศรษฐกิจ
แต่ก่อนอาชีพหลักของชาวลิกเตนสไตน์คือเกษตรกรรม แต่เปลี่ยนเป็นประเทศอุตสาหกรรมเมื่อประมาณ ค.ศ. 1945 รายได้หลักของประเทศคือการท่องเที่ยวและการจำหน่ายดวงตราไปรษณียากร ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของลิกเตนสไตน์มาจากภาคอุตสาหกรรม 40% ซึ่งประกอบด้วย อิเล็กทรอนิกส์ การผลิตโลหะ สิ่งทอ เซรามิก เวชภัณฑ์ อาหาร และการท่องเที่ยว ภาคการเงินการธนาคาร 30% ภาคการบริการ การท่องเที่ยว 25% และภาคการเกษตร 5% ซึ่งผลผลิตที่ได้จากการเกษตรได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพด มันฝรั่ง ปศุสัตว์ นม เนย
แรงงานส่วนใหญ่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม การค้า และการก่อสร้าง จำนวนแรงงานที่สำรวจในปี ค.ศ. 2009 มีทั้งสิ้น 32,880 คน ในจำนวนนี้ถึง 16,700 คน (51%) อาศัยในประเทศออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมนี และเดินทางไป-กลับข้ามประเทศทุกวัน
สินค้าส่งออกของลิกเตนสไตน์คือ เครื่องจักรขนาดเล็กและเครื่องจักรที่สั่งทำพิเศษ เครื่องมือด้านทันตกรรม แสตมป์ เครื่องใช้โลหะ เครื่องปั้นดินเผา ส่วนสินค้านำเข้าคือ เครื่องจักร ผลิตภัณฑ์โลหะ สิ่งทอ อาหาร และรถยนต์ กลุ่มประเทศคู่ค้าหลักคือสหภาพยุโรป ประเทศสมาชิกเอฟตา และสวิตเซอร์แลนด์
ในประเทศลิกเตนสไตน์มีการเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำ สำหรับบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่จะมีช่วงปลอดภาษี ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ ภาษีสำหรับอสังหาริมทรัพย์ เก็บในอัตรา 0.2-0.9% ภาษีเงินได้อัตรา 4-18% สำหรับบริษัทถือหุ้น (holding company) ที่มีถิ่นที่อยู่ในลิกเตนสไตน์ได้รับสิทธิพิเศษไม่ต้องเสียภาษี ลิกเตนสไตน์จึงเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนนอกประเทศที่สำคัญของยุโรป
การทำไวน์เป็นสิ่งที่ชาวลิกเตนสไตน์ภาคภูมิใจ แม้จะมีพื้นที่เพาะปลูกน้อย (เพียง 54 เอเคอร์) แต่พื้นที่เพาะปลูกอุดมสมบูรณ์ และภูมิอากาศที่มีแสงแดดปีละ 1,500 ชั่วโมง ประกอบกับมีโรงงานผลิตไวน์ที่ทันสมัย ทำให้ไวน์ของลิกเตนสไตน์มีคุณภาพใกล้เคียงกับไวน์สวิส ปัจจุบันไวน์ของลิกเตนสไตน์ที่ผลิตได้จะจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก ยี่ห้อที่ขึ้นชื่อคือ ซุสส์ดรุก (Sussdruck) มีสีอิฐแดง และ เบียร์ลิ (Beerli) มีสีแดงเข้ม การโฆษณาเน้นให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญด้านการเพาะปลูก การเก็บ และการกลั่น โดยสามารถหาดื่มได้ตามร้านอาหารทั่วไป
ในด้านนโยบายด้านเศรษฐกิจ ลิกเตนสไตน์มีความร่วมมือใกล้ชิดกับสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นสมาชิกกลุ่มเอฟตา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 มีส่วนร่วมในความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับยุโรป และเป็นภาคีความตกลงเขตเศรษฐกิจยุโรป ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1995 หลังปี ค.ศ. 1945 ได้เปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจากเกษตรกรรมเป็นการท่องเที่ยว ภาคบริการทางการเงิน และอุตสาหกรรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก คือ อุตสาหกรรมผลิตเครี่องจักรกล สิ่งทอ เซรามิค ผลิตภัณฑ์ เคมีและยา อิเล็คโทรนิคส์ อาหารกระป๋อง
ข้อพิพาทระหว่างประเทศ ลิกเตนสไตน์อ้างสิทธิในดินแดนของสาธารณรัฐเช็ก 620 ตารางไมล์ ซึ่งเช็กริบมาจากราชวงศ์ลิกเตนสไตน์ในปี ค.ศ. 1918 แต่ฝ่ายเช็กไม่ยอมรับการอ้างสิทธิดังกล่าว โดยถือว่าการเรียกร้องสิทธิเหนือดินแดนใด ๆ จะต้องไม่ย้อนหลังเกินกว่าเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1948 เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นครองอำนาจ
ประชากร
จำนวนผู้นับถือศาสนาในลิกเตนสไตน์ | ||
---|---|---|
ศาสนา [4] | ค.ศ. 2000 | ค.ศ. 1990 |
คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก | 78.4% | 84.9% |
คริสตจักรปฏิรูป | 7.9% | 9.4 % |
คริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ | 1.1% | 0.7% |
คริสต์นิกายอื่น ๆ | 0.4% | 0.1% |
อิสลาม | 4.8% | 2.4% |
ยูดาห์ | 0.1% | 0.0% |
อื่น ๆ | 0.3% | 0.1% |
ไม่นับถือศาสนาใด ๆ | 7.0% | 2.4% |
จากการประมาณจำนวนประชากรเมื่อ กรกฎาคม ค.ศ. 2011 ลิกเตนสไตน์มีประชากร 35,236 คน และจากการสำรวจสำมะโนประชากรเมื่อ ค.ศ. 2000 มีประชากร 33,307 คน ในจำนวนนี้กว่า 69% อยู่ในวัย 15-64 ปี อัตราการเพิ่มจำนวนประชากรอยู่ที่ 0.653%
ลิกเตนสไตน์เป็นประเทศขนาดเล็กที่สุดอันดับที่ 4 ของทวีปยุโรป รองจากนครรัฐวาติกัน โมนาโก และซานมารีโน ภาษาราชการของประเทศคือภาษาเยอรมัน ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาตระกูลอัลเลแมนิกเยอรมัน ถึงแม้ว่าประชากรของประเทศกว่า 1 ใน 3 มาจากประเทศอื่น ได้แก่ ผู้พูดภาษาเยอรมันที่มาจากประเทศเยอรมนี ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ผู้พูดภาษาอิตาลี รวมไปถึงตุรกี ซึ่งภาษาอัลเลแมนิกเป็นสำเนียงท้องถิ่นที่แตกต่างกับภาษาเยอรมันมาตรฐานค่อนข้างมาก หากแต่คล้ายคลึงกับสำเนียงท้องถิ่นอื่น ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ในฟอราลแบร์ก ประเทศออสเตรีย
ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ จากการสำรวจสำมะโนประชากรในปี ค.ศ. 2000 ประชากรกว่า 87.9% นับถือศาสนาคริสต์ ในจำนวนนี้ 78.4% นับถือคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก และประมาณ 8% นับถือนิกายโปรแตสแตนท์ ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับผลการสำรวจในปี ค.ศ. 1990 ปรากฏว่าจำนวนผู้นับถือศาสนาคริสต์ลดลง ในส่วนของศาสนาอิสลามและไม่นับถือศาสนาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว[5]
อายุขัยเฉลี่ยของชาวลิกเตนสไตน์อยู่ที่ 79.68 ปี โดยเพศชายมีอายุขัยเฉลี่ย 76.1 ปี และเพศหญิง 83.28 ปี อัตราการตายของทารกคือ 4.64 คนต่อการเกิด 1,000 คน และจากการประมาณเมื่อเร็ว ๆ นี้ อัตราการอ่านออกเขียนได้ของชาวลิกเตนสไตน์อยู่ที่ 100%[1] (อ่านออกเขียนได้ทุกคน) ซึ่งโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (อังกฤษ: Programme for International Student Assessment) ที่ร่วมมือกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) จัดอันดับให้ระบบการศึกษาของลิกเตนสไตน์ดีเยื่ยมเป็นอันดับที่ 10 ของโลก[6]
การคมนาคม
ถนนภายในลิกเตนสไตน์มีความยาวทั้งสิ้น 380 กิโลเมตร โดยความยาว 90 กิโลเมตรมีช่องทางสำหรับรถจักรยาน ส่วนทางรถไฟภายในประเทศมีความยาวเพียง 9.5 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อมต่อกับประเทศออสเตรียและสวิตเซอร์แลนด์ การรถไฟได้รับการบริหารดูแลโดยสหพันธ์การรถไฟออสเตรีย (ÖBB)[7] มีสถานีรถไฟทั้งสิ้น 4 สถานี ได้แก่ สถานีชาน-วาดุซ ฟอสท์ฮิลที เนนเดลน์ และชานวัลด์ รถไฟที่ให้บริการจะมาอย่างไม่มีเวลากำหนดแน่นอน เพราะเป็นเพียงทางผ่านระหว่างเมืองเฟลด์เคียร์ชของออสเตรียกับเมืองบุคส์ของสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนรถไฟยูโรซิตี้และรถไฟที่เดินทางระยะไกลข้ามประเทศที่ผ่านเส้นทางสายนี้มักจะไม่จอดในสถานีในประเทศลิกเตนสไตน์
ระบบขนส่งมวลชนของลิกเตนสไตน์มีชื่อว่า ลิกเตนสไตน์บัส (อังกฤษ: Liechtenstein Bus) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ระบบโพสท์บัสสวิส (อังกฤษ: Swiss Postbus system) ของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเส้นทางเดินรถจะแยกกัน ลิกเตนสไตน์บัสจะวิ่งเฉพาะภายในประเทศ และจะไปเชื่อมกับระบบรถโดยสารสวิสที่เมืองบุคส์และซาร์กันส์ของสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ลิกเตนสไตน์บัสยังวิ่งไปถึงเมืองเฟลด์เคียร์ชของออสเตรียอีกด้วย
ลิกเตนสไตน์ไม่มีสนามบินในประเทศ ซึ่งสนามบินขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ สนามบินซูริค ในเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ลิกเตนสไตน์มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์เพียงแห่งเดียวในเมืองบัลเซอร์ส ซึ่งสามารถใช้งานได้กับเฮลิคอปเตอร์เช่าเหมาลำ[8][9]
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 ข้อมูลประเทศลิกเตนสไตน์ จากเว็บไซต์ CIA The World Factbook, สืบค้นวันที่ 13 มีนาคม 2011 (อังกฤษ)
- ↑ Go Genius ปีที่ 4 ฉบับที่ 42 เดือนพฤษภาคม 2539, กรุงเทพมหานคร: บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด, 2539, ISSN 0858-5946
- ↑ vorläufige Ergebnisse 31. Dezember 2010 - สถิติจำนวนประชากร ปลายปี ค.ศ. 2010 (31 ธันวาคม) สืบค้นวันที่ 18 พฤษภาคม 2011 (เยอรมัน)
- ↑ Publikationen zur Volkszählung 2000 – Amt für Volkswirtschaft – Landesverwaltung Liechtenstein
- ↑ Publikationen zur Volkszählung 2000 – Amt für Volkswirtschaft (AVW) – Landesverwaltung Liechtenstein<
- ↑ Range of rank on the PISA 2006 science scale
- ↑ Verkehrsverbund Vorarlberg
- ↑ Heliport Balzers FL LSXB
- ↑ Heliports – Balzers LSXB – Heli-Website von Matthias Vogt
แหล่งข้อมูลอื่น
- รัฐสภาแห่งชาติ (Landtag)
- สำนักงานสถิติลิกเตนสไตน์
- การท่องเที่ยวในลิกเตนสไตน์
- ประเทศลิกเตนสไตน์ จากเว็บไซต์ CIA The World Factbook
- ประเทศลีชเทินชไตน์ ที่เว็บไซต์ Curlie