ข้ามไปเนื้อหา

จังหวัดชิบะ

พิกัด: 35°36′18″N 140°07′24″E / 35.60500°N 140.12333°E / 35.60500; 140.12333
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จังหวัดชิบะ

千葉県
การถอดเสียงภาษาญี่ปุ่น
 • ญี่ปุ่น千葉県
 • โรมาจิChiba-ken
ตามเข็มนาฬิกาจากด้านบน: เมืองใหม่มากูฮาริ, เขตอุตสาหกรรมเคโย, มากูฮาริเม็ซเซะ, ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ, ท่าเรือชิบะ, นาริตาซัง
ธงของจังหวัดชิบะ
ธง
โลโกอย่างเป็นทางการของจังหวัดชิบะ
สัญลักษณ์
ที่ตั้งของจังหวัดชิบะ
พิกัด: 35°36′18″N 140°07′24″E / 35.60500°N 140.12333°E / 35.60500; 140.12333
ประเทศญี่ปุ่น
ภูมิภาคคันโต
เกาะฮนชู
เมืองหลวงชิบะ
เขตการปกครองอำเภอ: 6, เทศบาล: 54
การปกครอง
 • ผู้ว่าราชการโทชิฮิโตะ คูมาไง (熊谷 俊人)
พื้นที่
 • ทั้งหมด5,157.61 ตร.กม. (1,991.36 ตร.ไมล์)
อันดับพื้นที่อันดับที่ 28
ประชากร
 (1 มิถุนายน ค.ศ. 2019)
 • ทั้งหมด6,278,060 คน
 • อันดับอันดับที่ 6
 • ความหนาแน่น1,200 คน/ตร.กม. (3,200 คน/ตร.ไมล์)
รหัส ISO 3166JP-12
สัญลักษณ์ 
• ต้นไม้Kusamaki
• ดอกไม้ดอกผักกาดก้านขาว
• สัตว์ปีกMeadow bunting
• สัตว์น้ำปลาจาน
เว็บไซต์www.pref.chiba.lg.jp

จังหวัดชิบะ (ญี่ปุ่น: 千葉県โรมาจิChiba-ken) เป็นจังหวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันโต บนเกาะฮนชูของประเทศญี่ปุ่น[1] จังหวัดชิบะมีประชากร 6,278,060 คน (1 มิถุนายน ค.ศ. 2019) และมีพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ 5,157 ตารางกิโลเมตร จังหวัดชิบะติดกับจังหวัดอิบารากิทางทิศเหนือ จังหวัดไซตามะทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และโตเกียวทางทิศตะวันตก

จังหวัดชิบะมีเมืองหลวงชื่อเดียวกันคือ นครชิบะ อีกทั้งเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในจังหวัด เมืองที่สำคัญอื่น ๆ เช่น ฟูนาบาชิ มัตสึโดะ อิจิกาวะ[2] และคาชิวะ จังหวัดชิบะตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตะวันออกของญี่ปุ่น อยู่ทางตะวันออกของโตเกียว และเป็นส่วนหนึ่งของเขตมหานครโตเกียว ซึ่งเป็นเขตมหานครที่มีประชากรมากที่สุดในโลก พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดชิบะอยู่บนคาบสมุทรโบโซ ปิดล้อมด้านตะวันออกของอ่าวโตเกียว ซึ่งเป็นอ่าวที่แยกจังหวัดชิบะออกจากจังหวัดคานางาวะ จังหวัดชิบะเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ, โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต (ประกอบด้วยโตเกียวดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์ซี) และเขตอุตสาหกรรมเคโย

ที่มาของชื่อ

[แก้]

ชื่อของจังหวัดชิบะในภาษาญี่ปุ่นมาจากตัวอักษรคันจิสองตัว ตัวแรก หมายถึง "หนึ่งพัน" และตัวที่สอง หมายถึง "ใบไม้" ชื่อนี้ปรากฏเป็นครั้งแรกในชื่อของสำนักงานบัญชาการประจำภูมิภาค ชิบะ คูนิ โนะ มิยัตสึโกะ (ญี่ปุ่น: 千葉国造โรมาจิChiba Kuni no Miyatsuko)[3] ชื่อนี้ถูกนำมาใช้โดยตระกูลย่อยของตระกูลไทระ ซึ่งย้ายมาอยู่ในพื้นที่ที่เป็นนครชิบะในปัจจุบันในช่วงปลายสมัยเฮอัง โดยได้รับชื่อนี้มาใช้กลายเป็นตระกูลชิบะ และมีอิทธิพลอย่างมากในพื้นที่ของจังหวัดนี้จนถึงสมัยอาซูจิ–โมโมยามะ คำว่า "ชิบะ" ได้รับเลือกให้เป็นชื่อของจังหวัดนี้ ณ เวลาที่ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1873 โดยสมัชชาผู้ว่าราชการจังหวัด (ญี่ปุ่น: 地方官会議โรมาจิChihō Kankai Kaigi) ซึ่งเป็นการประชุมของผู้ว่าราชการจังหวัดในสมัยเมจิตอนต้นในการตัดสินใจโครงสร้างการบริหารราชการส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นในญี่ปุ่น[4]

คำประสม "เคโย" (ญี่ปุ่น: 京葉โรมาจิKeiyō) ซึ่งหมายถึงภูมิภาคโตเกียว-ชิบะนั้น มาจากอักษรตัวที่สองของคำว่าโตเกียว () และอักษรตัวที่สองของคำว่าชิบะ () ซึ่งสามารถออกเสียงได้เป็น "เค" และ "โย" ตามลำดับ[5] คำประสมนี้ใช้ในชื่อต่าง ๆ เช่น ทางรถไฟสายเคโย ถนนเคโย และเขตอุตสาหกรรมเคโย

ประวัติศาสตร์

[แก้]
รูปปั้นดินเผาฮานิวะรูปไก่ในยุคโคฟุง จากพิพิธภัณฑ์ชิบายามะฮานิวะ

ประวัติศาสตร์ช่วงต้น

[แก้]

ในจังหวัดชิบะมีการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ตามหลักฐานจากยุคโจมงที่ยังคงมีอยู่ในทุกส่วนของภูมิภาค มีการพบกองเปลือกหอยไคซูกะที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีประชากรจำนวนมากในจังหวัดที่พึ่งพาอาศัยผลิตภัณฑ์ทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ของมหาสมุทรแปซิฟิกและอ่าวโตเกียว และมีสุสานโบราณโคฟุง (เนินสุสานรูปกุญแจ) ซึ่งพบได้ทั่วทั้งจังหวัด โดยกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในฟุตสึ ริมอ่าวโตเกียว[6]

ยุคอาซูกะและยุคนาระ

[แก้]

ในยุคอาซูกะ (ค.ศ. 538–710) ภายใต้การปฏิรูปปีไทกะ ค.ศ. 645 โครงสร้างการปกครองของบริเวณที่เป็นจังหวัดชิบะในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก แคว้นโบราณที่ชื่อแคว้นฟูซะ ซึ่งคาดว่าครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดชิบะและอิบารากิ ได้แบ่งออกเป็นสองแคว้น ได้แก่ แคว้นชิโมซะ (หรือเรียกอีกอย่างว่าชิโมฟูซะ) ในพื้นที่ทางเหนือ และแคว้นคาซูซะ ในพื้นที่ทางใต้ แคว้นอาวะซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดชิบะได้แยกออกมาจากแคว้นคาซูซะใน ค.ศ. 718 หน่วยการปกครองเหล่านี้ดำรงอยู่เรื่อยมาจนกระทั่งถูกยกเลิกและรวมเข้าเป็นจังหวัดชิบะหลังจากการฟื้นฟูเมจิ รัฐบาลกลางได้มีการจัดตั้งวัดประจำแคว้นหรือที่เรียกว่าโคคุบุนจิ[7]

ยุคเฮอัง

[แก้]

ราชสำนักของจักรวรรดิค่อย ๆ ขยายอำนาจเหนือสามแคว้นดังกล่าวในยุคนาระ (ค.ศ. 710–794) และยุคเฮอัง (ค.ศ. 794–1185) ฐานันดรศักดินาโชเอ็งได้ก่อตั้งขึ้นทั่วทั้งสามแคว้นนี้ และภูมิภาคนี้ได้กลายเป็นแหล่งรายได้จากภาษี สินค้าเกษตร และสินค้าอื่น ๆ ให้กับเมืองหลวงที่เกียวโต อย่างไรก็ตาม เมื่อยุคเฮอังก้าวหน้าขึ้น โคกูชิหรือผู้ว่าประจำแคว้นก็เข้ามาใช้อำนาจทางทหารโดยไม่ขึ้นกับรัฐบาลกลางในเกียวโต ตระกูลชิบะได้ล่มสลายโดยสิ้นเชิงพร้อมกับราชสำนักของจักรวรรดิ และเป็นส่วนสำคัญในการก่อตั้งผู้สำเร็จรัฐบาลโชกุนคามากูระ[7][8]

ยุคใหม่

[แก้]
นักเรียนกองกำลังอาสาสมัครของกองทัพญี่ปุ่นที่ 52 กำลังทำการฝึกที่หาดคูจูกูริเมื่อต้น ค.ศ. 1945

จังหวัดชิบะก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1873 โดยการยุบสองจังหวัดรวมกัน ได้แก่ จังหวัดคิซาราซุ และจังหวัดอิมบะ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในคันโต ค.ศ. 1923 ทำให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวางในจังหวัดชิบะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณตอนใต้สุดของคาบสมุทรโบโซซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1,300 คน พื้นที่ของจังหวัดชิบะที่อยู่ติดกับโตเกียวได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ความรุนแรงของผู้ชุมนุมต่อชาวเกาหลีและชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ได้เกิดขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในฟูนาบาชิ อิชิกาวะ และพื้นที่อื่น ๆ[9] ชาวเกาหลีในหลาย ๆ ย่านของยาจิโยะถูกสังหาร และมีการสร้างหอคอยขึ้นใน ค.ศ. 1972 บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟยาจิโยไดเพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว[10] การทำสงครามของจังหวัดชิบะเกิดขึ้นในสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น (ค.ศ. 1904–1905) ป้อมปราการชายฝั่งถูกสร้างขึ้นตามอ่าวโตเกียวไปทางใต้จนถึงทาเตยามะเพื่อป้องกันเมืองหลวงของจักรวรรดิญี่ปุ่นจากการโจมตี ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930 พื้นที่ทางตอนเหนือและตอนกลางของจังหวัดได้กลายเป็นศูนย์กลางของการผลิตทางทหารขนาดใหญ่ และมีการสร้างฐานทัพและป้อมปราการในพื้นที่ชายฝั่งส่วนใหญ่ของจังหวัด หลังจากที่สหรัฐเข้าควบคุมเกาะไซปัน พื้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งนครชิบะและโชชิก็ถูกโจมตีด้วยระเบิดเพลิง อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของจังหวัดถูกทำลาย ปฏิบัติการโคโรเนต ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนของปฏิบัติการดาวน์ฟอล คือแผนการรุกรานแผ่นดินโตเกียวในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1946 โดยสหรัฐ ปฏิบัติการโคโรเนตมีแผนให้หาดคูจูกูริเป็นหนึ่งในสองแห่งของฐานจอดเรือช่วงแรก ส่วนอีกแห่งคือฮิรัตสึกะโดยผ่านอ่าวซางามิ โดยกองทัพสหรัฐที่หนึ่งจะเข้าที่หาดคูจูกูริเพื่อกวาดล้างคาบสมุทรโบโซและไปพบกับกองทัพสหรัฐที่แปดที่โตเกียว หลังจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมะและนางาซากิ เนื่องจากการยอมจำนนของญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1945 แผนดังกล่าวจึงไม่เป็นผล[11]

ยุคหลังสงคราม

[แก้]
โรงงานเหล็กคิมิตสึใน ค.ศ. 2007 ในคิมิตสึ เขตอุตสาหกรรมเคโย

ในช่วงการยึดครองญี่ปุ่น (ค.ศ. 1945–1952) จังหวัดชิบะถูกควบคุมโดยกองกำลังอเมริกันจากชั้นสองของอาคารศาลากลางจังหวัดในนครชิบะ และเมืองอื่น ๆ อีกมากมายในจังหวัดทั้งทางเหนืออย่างนครโชชิและทางใต้อย่างนครทาเทยามะได้ถูกใช้เป็นฐานในการยึดครอง ด้วยความที่ทั่วทั้งจังหวัดนี้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ไม่ค่อยได้รับปัญหาการขาดแคลนอาหารและความอดอยากในทันทีหลังสงคราม ช่วงเวลาทันทีหลังสงครามนั้นได้มีการขยายตัวทางอุตสาหกรรมที่มีการวางแผนไว้อย่างดีทางตอนเหนือของจังหวัด และมีผลผลิตทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากการปฏิรูปที่ดินทั่วทั้งจังหวัด ได้มีการรวบรวมพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดเล็กตลอดทั้งชายฝั่งตะวันตกของจังหวัดชิบะมาเป็นเขตอุตสาหกรรมเคโย และเขตอุตสาหกรรมนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตอุตสาหกรรมหนักและท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ที่สำคัญในญี่ปุ่นเรื่อยมา เมืองที่อยู่ใกล้กับโตเกียวเชื่อมต่อกันด้วยรถไฟ เมืองเหล่านี้ได้กลายเป็นเมืองที่อยู่อาศัยของผู้ที่ทำงานในโตเกียว ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะเริ่มเปิดดำเนินการใน ค.ศ. 1978 ในนครนาริตะ เพื่อแทนที่ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว (สนามบินฮาเนดะ) ที่แออัด โดยก่อนหน้านี้ได้มีการประท้วงอย่างหนัก ในปัจจุบันการสัญจรทางอากาศระหว่างประเทศส่วนใหญ่ที่เข้าสู่ญี่ปุ่นจะต้องผ่านจังหวัดชิบะ ส่วนเกษตรกรรมโดยเฉพาะข้าวและผักที่ส่งไปยังเขตมหานครโตเกียวและปริมณฑลได้ขยายตัวอย่างมากจนกลายเป็นแหล่งรายได้สู่พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือและตอนกลางของจังหวัด การขยายตัวของเกษตรกรรมทางตอนกลางและตอนใต้ของจังหวัดนั้นตรงกันข้ามกับการลดลงของจำนวนประชากรในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ย้ายไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด อันเป็นผลมาจากนคราภิวัฒน์ (การกลายเป็นเมือง) ของญี่ปุ่น ซึ่งยังคงดำเนินต่อไปจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 21

แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮกุ ค.ศ. 2011

[แก้]
เหตุเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทคอสโมออยล์ในอิจิฮาระ ซึ่งเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮกุ ค.ศ. 2011

แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮกุใน ค.ศ. 2011 ส่งผลกระทบในทางตอนใต้ของจังหวัดชิบะ ในขณะที่การสูญเสียชีวิตและความเสียหายต่อที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรมนั้นน้อยกว่าในภูมิภาคโทโฮกุอยู่มาก แต่ก็มีผู้เสียชีวิต 20 คนในจังหวัดชิบะ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสึนามิที่พัดถล่มนครอาซาฮิ นครทางตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด และทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย เหตุเพลิงไหม้โรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปในสื่อข่าวหลังแผ่นดินไหวในโทโฮกุ เกิดขึ้นที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทคอสโมออยล์ในนครอิจิฮาระ ถังแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) ขนาดใหญ่ถูกไฟไหม้ตั้งแต่วันที่ 11–21 มีนาคม ค.ศ. 2011[12] เหตุการณ์แผ่นดินเหลวในพื้นที่ที่มีการแปรสภาพที่ดินได้เกิดทั่วพื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันตกของจังหวัดชิบะทำให้เกิดความเสียหายโดยเฉพาะที่อยู่อาศัย[13][14] นครชิบะ ฟูนาบาชิ นาราชิโนะ และโดยเฉพาะอูรายาซุ ได้รับผลกระทบอย่างมาก[15] เนื่องด้วยความเสียหายถาวรต่อที่อยู่อาศัยอันเป็นผลมาจากแผ่นดินเหลว และการพบหลักฐานของวัสดุกัมมันตภาพรังสี ทำให้ประชากรในจังหวัดชิบะลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ค.ศ. 1920[13][16]

ภูมิศาสตร์

[แก้]
คาบสมุทรโบโซ

จังหวัดชิบะมีอาณาเขตทางทิศเหนือติดกับจังหวัดอิบารากิที่แม่น้ำโทเนะ ทิศตะวันตกติดกับกรุงโตเกียวและจังหวัดไซตามะที่แม่น้ำเอโดะ ทิศตะวันออกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก และทิศใต้ล้อมรอบโดยมหาสมุทรแปซิฟิกและอ่าวโตเกียว พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดชิบะตั้งอยู่บนคาบสมุทรโบโซซึ่งมีลักษณะเป็นเนินเขา มีพื้นที่ทำนาข้าวทางด้านชายฝั่งตะวันออกที่เรียกว่าที่ราบคูจูกูริ[17] ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผลผลิตมาก เขตที่มีประชากรมากที่สุดที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดเป็นส่วนหนึ่งของภูมิภาคคันโต ซึ่งเขตเมืองได้ขยายไปยังโตเกียวและไซตามะเกิดเป็นการรวมกันเป็นกลุ่มของเขตเมือง (urban agglomeration) การไหลของกระแสน้ำคูโรชิโอะใกล้กับจังหวัดชิบะทำให้ที่นี่ค่อนข้างอบอุ่นในฤดูหนาวและเย็นกว่าในฤดูร้อนในโตเกียว

อุทยานแห่งชาติและอุทยานประจำจังหวัด

[แก้]
พื้นที่ชายฝั่งในย่านเอมิ นครคาโมงาวะ

ชายฝั่งทั้งหมดของจังหวัดชิบะ ยกเว้นเขตอุตสาหกรรมเคโยทางตอนเหนือ ได้รับการคุ้มครองเป็นอุทยานกึ่งแห่งชาติ 2 แห่ง และอุทยานธรรมชาติประจำจังหวัด 1 แห่ง ภายใต้ระบบอุทยานแห่งชาติของญี่ปุ่น โดย ณ วันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2012 ร้อยละ 6 ของพื้นที่ทั้งหมดของจังหวัดได้รับการกำหนดให้เป็นอุทยานธรรมชาติ[18]

  • อุทยานกึ่งแห่งชาติซูอิโงะ-สึกูบะ (ญี่ปุ่น: 水郷筑波国定公園โรมาจิSuigō-Tsukuba Kokutei Kōen) ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของลุ่มแม่น้ำโทเนะและบริเวณรอบภูเขาสึกูบะในจังหวัดอิบารากิ อุทยานแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1953 เพื่อคุ้มครองไม่เพียงแต่สิ่งแวดล้อมของพื้นที่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย ปากแม่น้ำโทเนะ แหลมอินูโบ และเบียวบูงาอูระ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดชิบะ เป็นพื้นที่ทางตอนใต้ของอุทยาน[19]
  • อุทยานกึ่งแห่งชาติมินามิโบโซ (ญี่ปุ่น: 南房総国定公園โรมาจิMinami-Bōsō Kokutei Kōen) ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1953 เพื่อคุ้มครองพื้นที่ชายฝั่งทางตอนใต้ของจังหวัดชิบะ ตั้งแต่แหลมฟุตสึบนอ่าวโตเกียวไปจนถึงแหลมอินูโบทางตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดชิบะ อุทยานแห่งนี้ครอบคลุมเขตการปกครอง 9 แห่งในจังหวัด อุทยานแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อคุ้มครองไม่เพียงแต่สภาพแวดล้อมของพื้นที่ชายฝั่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่เหล่านี้ด้วย โดยเฉพาะวัดที่เกี่ยวข้องกับนิจิเร็ง[20]

จังหวัดชิบะได้กำหนดและดูแลอุทยานธรรมชาติประจำจังหวัดจำนวน 8 แห่ง เพื่อคุ้มครองทั้งพื้นที่ธรรมชาติและวัฒนธรรม ได้แก่ อุทยานธรรมชาติประจำจังหวัดอินบะเทงะ, คาซาโมริสึรูมาอิ, คูจูกูริ, มิเนโอกาซังเก, โอโตเนะ, ทากาโงยามะ, โทมิซัง, และโยโรเคโกกุโอกูกิโยซูมิ[21] อีกทั้งยังมีพื้นที่สวนสาธารณะที่กำหนดและคุ้มครองโดยเทศบาลนคร เมือง และหมู่บ้านต่าง ๆ ภายในจังหวัด สวนสาธารณะเหล่านี้ได้รับการบำรุงรักษาเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งจัดให้มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในท้องถิ่น

ภูมิอากาศ

[แก้]

จังหวัดชิบะมีภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้น (Cfa ตามการแบ่งแบบเคิพเพิน) โดยมีฤดูร้อนที่ร้อนชื้น และฤดูหนาวที่ไม่หนาวจัด ช่วงฤดูฝนหรือที่เรียกว่า สึยุ มีช่วงเวลาประมาณ 50 วัน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นระบุว่าอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 15.7 °C (60.3 °F) ค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ 19.6 °C (67.3 °F) และค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ 12.3 °C (54.1 °F)[22]

ข้อมูลภูมิอากาศของนครชิบะ จังหวัดชิบะ
เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ทั้งปี
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) 8.9
(48)
8.9
(48)
11.7
(53)
17.2
(63)
21.7
(71)
23.9
(75)
27.2
(81)
29.4
(85)
26.1
(79)
20.6
(69)
16.1
(61)
11.7
(53)
18.61
(65.5)
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) 0.6
(33)
1.1
(34)
3.9
(39)
9.4
(49)
13.9
(57)
17.8
(64)
21.1
(70)
23.3
(74)
19.4
(67)
13.3
(56)
7.8
(46)
2.8
(37)
11.2
(52.2)
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) 48.3
(1.902)
66
(2.6)
94
(3.7)
109.2
(4.299)
96.5
(3.799)
139.7
(5.5)
106.7
(4.201)
121.9
(4.799)
177.8
(7)
157.5
(6.201)
83.8
(3.299)
48.3
(1.902)
1,249.7
(49.201)
แหล่งที่มา: weather.com

เขตการปกครอง

[แก้]

จังหวัดชิบะประกอบด้วย 37 เทศบาลนคร, 6 อำเภอ, 16 เทศบาลเมือง และ 1 เทศบาลหมู่บ้าน พื้นที่ที่แสดงในตารางมาจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศภูมิศาสตร์แห่งประเทศญี่ปุ่นใน ค.ศ. 2019[23] และจำนวนประชากรที่แสดงในตารางมาจากรายงานสำมะโนประชากรประจำ ค.ศ. 2015 ของสำนักงานสถิติ กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสาร[24] โดย 37 เทศบาลนครในจังหวัดชิบะมีพื้นที่รวมกัน 4,405.55 ตารางกิโลเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 85.42 ของพื้นที่จังหวัด และมีประชากรรวม 6,012,551 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 96.62 ของประชากรทั้งจังหวัด

ชิบะ
อิจิกาวะ
นาริตะ
คาโมงาวะ
คาโตริ
คัตสึอูระ

เทศบาล

[แก้]
แผนที่เทศบาลในจังหวัดชิบะ
     นครใหญ่ที่รัฐกำหนด      นคร      เมือง      หมู่บ้าน
รหัส
ท้องถิ่น
ธง ชื่อ ประเภท อำเภอ พื้นที่
(ตร.กม.)
ประชากร
(คน)
ความหนาแน่น
(คน/ตร.กม.)
ทับศัพท์ไทย อักษรญี่ปุ่น โรมาจิ
12100 ชิบะ
(เมืองหลวง)
千葉市 Chiba-shi นครใหญ่
ที่รัฐกำหนด
ไม่มีอำเภอ 271.78 971,882 3,576
12217 คาชิวะ 柏市 Kashiwa-shi นครศูนย์กลาง 114.74 413,954 3,608
12204 ฟูนาบาชิ 船橋市 Funabashi-shi 85.62 622,890 7,275
12202 โชชิ 銚子市 Chōshi-shi นคร 84.20 64,415 765
12203 อิจิกาวะ 市川市 Ichikawa-shi 57.45 481,732 8,385
12205 ทาเตยามะ 館山市 Tateyama-shi 110.05 47,464 431
12206 คิซาราซุ 木更津市 Kisarazu-shi 138.95 134,141 965
12207 มัตสึโดะ 松戸市 Matsudo-shi 61.38 483,480 7,877
12208 โนดะ 野田市 Noda-shi 103.55 153,583 1,483
12210 โมบาระ 茂原市 Mobara-shi 99.92 89,688 898
12211 นาริตะ 成田市 Narita-shi 213.84 112,993 528
12212 ซากูระ 佐倉市 Sakura-shi 103.69 172,739 1,666
12213 โทงาเนะ 東金市 Tōgane-shi 89.12 60,652 681
12215 อาซาฮิ 旭市 Asahi-shi 130.45 66,586 510
12216 นาราชิโนะ 習志野市 Narashino-shi 20.97 167,909 8,007
12218 คัตสึอูระ 勝浦市 Katsuura-shi 93.96 19,248 205
12219 อิจิฮาระ 市原市 Ichihara-shi 368.17 274,656 746
12220 นางาเรยามะ 流山市 Nagareyama-shi 35.32 174,373 4,937
12221 ยาจิโยะ 八千代市 Yachiyo-shi 51.39 193,152 3,759
12222 อาบิโกะ 我孫子市 Abiko-shi 43.15 131,606 3,050
12223 คาโมงาวะ 鴨川市 Kamogawa-shi 191.14 33,932 178
12224 คามางายะ 鎌ヶ谷市 Kamagaya-shi 21.08 108,917 5,167
12225 คิมิตสึ 君津市 Kimitsu-shi 318.81 86,033 270
12226 ฟุตสึ 富津市 Futtsu-shi 205.53 45,601 222
12227 อูรายาซุ 浦安市 Urayasu-shi 17.30 164,024 9,481
12228 ยตสึไกโด 四街道市 Yotsukaidō-shi 34.52 89,245 2,585
12229 โซเดงาอูระ 袖ヶ浦市 Sodegaura-shi 94.93 60,952 642
12230 ยาจิมาตะ 八街市 Yachimata-shi 74.94 70,734 944
12231 อินไซ 印西市 Inzai-shi 123.79 92,670 749
12232 ชิโรอิ 白井市 Shiroi-shi 35.48 61,674 1,738
12233 โทมิซาโตะ 富里市 Tomisato-shi 53.88 49,636 921
12234 มินามิโบโซ 南房総市 Minamibōsō-shi 230.12 39,033 170
12235 โซซะ 匝瑳市 Sōsa-shi 101.52 37,261 367
12236 คาโตริ 香取市 Katori-shi 262.35 77,499 295
12237 ซัมมุ 山武市 Sanmu-shi 146.77 52,222 356
12238 อิซูมิ いすみ市 Isumi-shi 157.50 38,594 245
12239 โออามิชิราซาโตะ 大網白里市 Ōamishirasato-shi 58.08 49,184 847
12320 อำเภออิมบะ 印旛郡 Inba-gun อำเภอ 51.52 42,183 819
12322 ชิซูอิ 酒々井町 Shisui-machi เมือง อิมบะ 19.01 20,955 1,102
12329 ซากาเอะ 栄町 Sakae-machi 32.51 21,228 653
12340 อำเภอคาโตริ 香取郡 Katori-gun อำเภอ 138.95 35,009 252
12342 โคซากิ 神崎町 Kōzaki-machi เมือง คาโตริ 19.90 6,133 308
12347 ทาโกะ 多古町 Tako-machi 72.80 14,724 202
12349 โทโนโช 東庄町 Tōnoshō-machi 46.25 14,152 306
12400 อำเภอซัมบุ 山武郡 Sanbu-gun อำเภอ 134.71 47,703 354
12403 คูจูกูริ 九十九里町 Kujūkuri-machi เมือง ซัมบุ 24.46 16,510 675
12409 ชิบายามะ 芝山町 Shibayama-machi 43.24 7,431 172
12410 โยโกชิบาฮิการิ 横芝光町 Yokoshibahikari-machi 67.01 23,762 355
12420 อำเภอโชเซ 長生郡 Chōsei-gun อำเภอ 226.96 60,040 265
12421 อิจิโนมิยะ 一宮町 Ichinomiya-machi เมือง โชเซ 22.99 11,767 512
12422 มุตสึซาวะ 睦沢町 Mutsuzawa-machi 35.59 7,222 203
12424 ชิราโกะ 白子町 Shirako-machi 27.50 11,149 405
12426 นางาระ 長柄町 Nagara-machi 47.11 7,337 156
12427 โชนัง 長南町 Chōnan-machi 65.51 8,206 125
12423 โชเซ 長生村 Chōsei-mura หมู่บ้าน 28.25 14,359 508
12440 อำเภออิซูมิ 夷隅郡 Isumi-gun อำเภอ 154.72 17,158 111
12441 โอตากิ 大多喜町 Ōtaki-machi เมือง อิซูมิ 129.87 9,843 73
12443 อนจูกุ 御宿町 Onjuku-machi 24.85 7,315 294
12460 อำเภออาวะ 安房郡 Awa-gun อำเภอ 45.19 8,022 178
12463 เคียวนัง 鋸南町 Kyonan-machi เมือง อาวะ 45.19 8,022 178
12000-6 จังหวัดชิบะ 千葉県 Chiba-ken จังหวัด 5,157.50 6,275,916 1,217

การเมืองการปกครอง

[แก้]
อาคารหลักของศูนย์ราชการจังหวัดชิบะในนครชิบะ
อาคารสภาจังหวัด

ตั้งแต่ ค.ศ. 2009 มีผู้ว่าราชการจังหวัด[25]คือ เอจิ ซูซูกิ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีภายใต้ชื่อในวงการของเขาคือ เค็นซากุ โมริตะ ซึ่งเป็นอดีตนักแสดง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (พรรคจิมินโต/อิสระ – โตเกียวเขต 4) และสภาชิกราชมนตรีสภา (อิสระ – โตเกียว) เขาได้รับเลือกอย่างท่วมท้นจนถึงวาระที่สองในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2013 โดยมีเพียงผู้ท้าชิงจากพรรคคอมมิวนิสต์และผู้เยาว์ที่ไม่สังกัดพรรค

สภาจังหวัดชิบะ[26] มีสมาชิกตามจำนวน 94 คน โดยได้รับการเลือกตั้งใน 45 เขตเลือกตั้ง ปัจจุบันยังคงอยู่ในวงรอบการเลือกตั้งท้องถิ่นมาตั้งแต่ ค.ศ. 1947 (รอบล่าสุดคือ ค.ศ. 2019) ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2020 สมาชิกสภาประกอบด้วย พรรคจิมินโต 53 คน, พรรคมินชูโต 17 คน, พรรคโคเมโต 8 คน, พรรคมินนะโนะโต 3 คน, พรรคคอมมิวนิสต์ 2 คน, พรรคอื่น ๆ อีก 5 คน และไม่สังกัดพรรค 6 คน[27]

ในรัฐสภาญี่ปุ่น จังหวัดชิบะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 13 คนจากเขตเลือกตั้ง 1 คนต่อเขต และสมาชิกราชมนตรีสภา 6 คน

การปกครองส่วนท้องถิ่น

[แก้]

ใน ค.ศ. 2014 จังหวัดชิบะแบ่งออกเป็น 54 เทศบาล (ดูรายชื่อในส่วน #เขตการปกครอง) ได้แก่ 37 นคร, 16 เมือง และ 1 หมู่บ้าน[28] เช่นเดียวกับในช่วงหลังสงครามของญี่ปุ่น เทศบาลแต่ละแห่งจะมีนายกเทศมนตรีและสภาที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง นครที่มีประชากรมากที่สุดและเป็นนครใหญ่ที่รัฐกำหนดเพียงแห่งเดียวในจังหวัดชิบะคือ นครชิบะ มีนครศูนย์กลาง 2 แห่ง คือ ฟูนาบาชิ และคาชิวะ หลังจากมีการควบรวมเทศบาลในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 พื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของจังหวัดส่วนใหญ่ได้รับการจัดตั้งเป็นนครที่เป็นอิสระจากอำเภอ ทำให้เหลืออำเภอเพียง 6 อำเภอ ซึ่งมี 3 อำเภอที่มีเมืองหรือหมู่บ้านขึ้นอยู่เหลือเพียงหนึ่งหรือสองแห่ง ในสมัยก่อนหลังจากที่มีการปรับโครงสร้างของการปกครองอำเภอและเทศบาลในทุกจังหวัดใน ค.ศ. 1889–1890 จังหวัดชิบะในตอนแรกมี 12 อำเภอและยังไม่มีนคร[29] และต่อมาเมืองชิบะที่ขึ้นกับอำเภอชิบะได้กลายเป็นเทศบาลแห่งแรกในจังหวัดชิบะที่ได้รับการยกฐานะเป็นนครใน ค.ศ. 1921

รายชื่อผู้ว่าราชการจังหวัดชิบะ (ตั้งแต่ ค.ศ. 1947)

[แก้]
  • ทาเมโนซูเกะ คาวางูจิ (川口為之助) - ตั้งแต่ 21 เมษายน ค.ศ. 1947 ถึง 25 ตุลาคม ค.ศ. 1950
  • ฮิโตชิ ชิบาตะ (柴田 等) - ตั้งแต่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ถึง 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1962
  • ฮิซาอากิ คาโนะ (加納久朗) - ตั้งแต่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1962 ถึง 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1963
  • มาโกโตะ โทโมโน (友納武人) - ตั้งแต่ 17 เมษายน ค.ศ. 1963 ถึง 16 เมษายน ค.ศ. 1975
  • คิอิจิ คาวากามิ (川上紀一) - ตั้งแต่ 17 เมษายน ค.ศ. 1975 ถึง 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1981
  • ทาเกชิ นูมาตะ (沼田 武) - ตั้งแต่ 5 เมษายน ค.ศ. 1981 ถึง 4 เมษายน ค.ศ. 2001
  • อากิโกะ โดโมโตะ (堂本暁子) - ตั้งแต่ 5 เมษายน ค.ศ. 2001 ถึง 4 เมษายน ค.ศ. 2009
  • เค็นซากุ โมริตะ (森田健作) - ตั้งแต่ 5 เมษายน ค.ศ. 2009 ถึง 4 เมษายน ค.ศ. 2021
  • โทชิฮิโตะ คูมาไง (熊谷俊人) - ตั้งแต่ 5 เมษายน ค.ศ. 2021 ถึงปัจจุบัน

เศรษฐกิจ

[แก้]

อุตสาหกรรม

[แก้]

จังหวัดชิบะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา เนื่องจากลักษณะชายฝั่งที่ติดต่อกับอ่าวโตเกียว ในอดีตชิบะเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการบ่ม เช่น มิโซะ สาเก มิริน

ภายหลังสงครามโลกสิ้นสุดลงเกิดการขยายตัวในภาคอุตสาหกรรม ชิบะเป็นที่ตั้งของโรงงานเหล็กขนาดใหญ่คาวาซากิตั้งแต่ ค.ศ. 1950 รัฐบาลมีนโยบายการถมทะเลทำนิคมอุตสาหกรรม โกดัง และท่าเรือ เช่นเขตอุตสาหกรรมเคโย[30] อุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้แก่ผลิตภัณฑ์เคมี ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และอุตสาหกรรมเครื่องจักร จังหวัดชิบะมีผลผลิตรวมด้านอุตสาหกรรมเป็นอันดับที่ 6 ของประเทศญี่ปุ่น[31]

เกษตรกรรม

[แก้]
การทำนาข้าวในย่านซาวาระ นครคาโตริ

จังหวัดชิบะยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเกษตรกรรมอันดับ 2 ของญี่ปุ่นรองจากจังหวัดฮกไกโด โดยเฉพาะถั่ว ถือเป็นพืชหลักที่ปลูกในจังหวัดชิบะถึงร้อยละ 78[32] นอกจากนี้ยังมีพืชอื่นที่สำคัญเช่น แคร์รอต กะหล่ำปลี ผักกาดหัว ข้าวโพด และข้าว[33][34] นอกจากนี้ยังมีการประมงที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดชิบะจากอ่าวโตเกียว

ประชากรศาสตร์

[แก้]

อัตราการเพิ่มหรือลดของจำนวนประชากรภายในจังหวัดมีความแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละภูมิภาคของจังหวัด โดยภูมิภาคฮิงาชิกัตสึ ภูมิภาคอิมบะ และภาคกลางของจังหวัดเพิ่มขึ้นหรือลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ภาคใต้ของจังหวัด ภูมิภาคโซโตโบ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดมีการลดลงอย่างมาก อัตราการเติบโตของประชากรมีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเป็นพื้นที่ที่ใกล้กับเขตพิเศษของโตเกียว และอัตราการเติบโตของประชากรจะลดลงเมื่อเป็นพื้นที่ที่อยู่ห่างออกไป จังหวัดไซตามะและจังหวัดคานากาวะก็เป็นลักษณะนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งสองจังหวัดเป็นเขตปริมณฑลของโตเกียว แต่ในจังหวัดชิบะจะเห็นแนวโน้มนี้เด่นชัดมากกว่าสองจังหวัดดังกล่าว

ประวัติจำนวนประชากร
ปีประชากร±% p.a.
18901,191,353—    
19031,316,547+0.77%
19131,401,587+0.63%
19201,336,155−0.68%
19251,399,257+0.93%
19301,470,121+0.99%
19351,546,394+1.02%
19401,588,425+0.54%
ปีประชากร±% p.a.
19451,966,862+4.37%
19502,139,037+1.69%
19552,205,060+0.61%
19602,306,010+0.90%
19652,701,770+3.22%
19703,366,624+4.50%
19754,149,147+4.27%
19804,735,424+2.68%
ปีประชากร±% p.a.
19855,148,163+1.69%
19905,555,429+1.53%
19955,797,782+0.86%
20005,926,285+0.44%
20056,056,462+0.44%
20106,216,289+0.52%
20156,224,027+0.02%
แหล่งที่มา:[35]

ตำรวจ

[แก้]
กองบัญชาการตำรวจจังหวัดชิบะ

กองกำลังตำรวจของจังหวัดชิบะเป็นหนึ่งในสิบกองตำรวจที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีสมาชิกมากกว่า 10,000 นาย (รวมถึงตำรวจสนามบินนาริตะ) เช่นเดียวกับในทุกจังหวัด ตำรวจจะอยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะประจำจังหวัด ประกอบด้วยสมาชิกห้าคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดและได้รับอนุมัติจากสภาจังหวัด[36][37]

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

[แก้]

จังหวัดชิบะมีความสัมพันธ์แบบเมืองพี่น้องกับ

อ้างอิง

[แก้]
  1. Nussbaum, Louis-Frédéric. (2005). "Chiba-ken" in Japan Encyclopedia, p. 109, p. 109, ที่กูเกิล หนังสือ; "Kantō" in p. 479, p. 479, ที่กูเกิล หนังสือ.
  2. Nussbaum, "Chiba" in p. 109, p. 109, ที่กูเกิล หนังสือ
  3. "千葉国造(下総)". Nihonjiten.com.
  4. "千葉県の成立と行政的変遷". Nihon Rekishi Chimei Taikei (日本歴史地名大系) (ภาษาญี่ปุ่น). Tokyo: Shogakukan. 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-25. สืบค้นเมื่อ 2012-04-01.
  5. "Keiyō". Dijitaru daijisen (ภาษาญี่ปุ่น). Tokyo: Shogakukan. 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-25. สืบค้นเมื่อ 2012-03-26.
  6. 千葉県史料: 原始古代編 [Historical Materials on Chiba Prefecture: Prehistory and Ancient History] (ภาษาญี่ปุ่น). Vol. Kazusa-no-Kuni. Chiba, Chiba Prefecture: Chiba Prefecture. 1963. LCCN 67000809. OCLC 37884389.
  7. 7.0 7.1 Chiba-ken Kōtō Gakkō Kyōiku Kenkyūkai. Rekishi Bukai. (1989). Chiba-ken no rekishi sanpo (千葉県の歴史散步) (ภาษาญี่ปุ่น). Tokyo: Yamakawa Shuppansha. pp. 3–4. ISBN 9784634291201.
  8. Nussbaum, "Provinces and prefectures" in p. 780, p. 780, ที่กูเกิล หนังสือ.
  9. Chiba-ken Kōtō Gakkō Kyōiku Kenkyūkai. Rekishi Bukai. (1989). Chiba-ken no rekishi sanpo (千葉県の歴史散步) (ภาษาญี่ปุ่น). Tokyo: Yamakawa Shuppansha. p. 9. ISBN 9784634291201.
  10. Chiba-ken Kōtō Gakkō Kyōiku Kenkyūkai. Rekishi Bukai. (1989). Chiba-ken no rekishi sanpo (千葉県の歴史散步) (ภาษาญี่ปุ่น). Tokyo: Yamakawa Shuppansha. p. 91. ISBN 9784634291201.
  11. Giangreco, D. M. (2011). Hell to Pay: Operation DOWNFALL and the Invasion of Japan, 1945-1947. New York: Naval Institute Press. pp. 169–170. ISBN 9781612510262. OCLC 741492494.
  12. "LPG Tanks Fire Extinguished at Chiba Refinery (5th Update)". Cosmo Energy Holdings. March 21, 2011.
  13. 13.0 13.1 Fukue, Natsuko (30 March 2012). "Liquefaction driving away Chiba residents". Japan Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 April 2012.
  14. Fukue, Natsuko (8 April 2011). "Urayasu still dealing with liquefaction". Japan Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 April 2011.
  15. "Liquefaction damage widespread". Yomiuri Shimbun. 10 April 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 April 2011.
  16. "Foreigner exodus spurs Chiba population decline". Yomiuri Shimbun. 9 February 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 February 2012.
  17. "九十九里平野 (Kujūri Heino)". Dijitaru daijisen (ภาษาญี่ปุ่น). Tokyo: Shogakukan. 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-25. สืบค้นเมื่อ 2012-04-09.
  18. "General overview of area figures for Natural Parks by prefecture" (PDF). Ministry of the Environment. สืบค้นเมื่อ 26 April 2012.
  19. "Suigō-Tsukuba Kokutei Kōen (水郷筑波国定公園)". Nihon Daihyakka Zensho (Nipponika) (日本大百科全書(ニッポニカ) (ภาษาญี่ปุ่น). Tokyo: Shogakukan. 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-25. สืบค้นเมื่อ 2012-04-09.
  20. "Minami-Bōsō Kokutei Kōen (南房総国定公園)". Nihon Daihyakka Zensho (Nipponika) (日本大百科全書(ニッポニカ) (ภาษาญี่ปุ่น). Tokyo: Shogakukan. 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-25. สืบค้นเมื่อ 2012-04-09.
  21. 千葉県の自然公園一覧表 [List of Natural Parks of Chiba Prefecture] (ภาษาญี่ปุ่น). Chiba Prefecture. สืบค้นเมื่อ 26 April 2012.
  22. "気象庁|過去の気象データ検索". www.data.jma.go.jp. สืบค้นเมื่อ 2019-02-18.
  23. 令和元年全国都道府県市区町村別面積調(7月1日時点) (.pdf) (Report) (ภาษาญี่ปุ่น). สำนักงานสารสนเทศภูมิศาสตร์แห่งประเทศญี่ปุ่น. 1 กรกฎาคม 2562. สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2019.
  24. Population, Population Change(2010-2015), Area, Population Density, Households and Households Change(2010-2015) - Japan*, All Shi, All Gun, Prefectures*, All Shi of Prefectures, All Gun of Prefectures, Shi*, Ku*, Machi*, Mura* and Municipalities in 2000 (.csv) (Report) (ภาษาญี่ปุ่น). สำนักงานสถิติ กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสาร. 16 ธันวาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 15 มกราคม 2019.
  25. Chiba Prefecture: Governor เก็บถาวร 2015-07-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (ญี่ปุ่น)
  26. Chiba Prefecture: Assembly (ญี่ปุ่น)
  27. Prefectural assembly: Members by caucus (ญี่ปุ่น)
  28. Chiba Prefecture, Municipalities เก็บถาวร 2015-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน: List, Map
  29. Chiba's counties and cities in 1900 (ญี่ปุ่น)
  30. Industry
  31. "อุตสาหกรรมในจังหวัดชิบะ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-04. สืบค้นเมื่อ 2013-07-06.
  32. Chiba, Chiba Prefecture. "Chiba-ken Agricultural statistics". www.japancrops.com. สืบค้นเมื่อ 19 May 2022.
  33. "Welcome to Chiba - Foods". Chiba Prefectural Government. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-08-31. สืบค้นเมื่อ 2012-04-20.
  34. Statistics Bureau of Japan
  35. ตำรวจจังหวัดชิบะ (ในภาษาญี่ปุ่น)
  36. คณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะประจำจังหวัดชิบะ (ในภาษาญี่ปุ่น)
  37. "Sister-States and Cities". International Wisconsin. 2010-02-04. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-02-04. สืบค้นเมื่อ 2012-02-23.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]