เงือกน้อยผจญภัย (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2566)
เงือกน้อยผจญภัย | |
---|---|
![]() ใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | ร็อบ มาร์แชลล์ |
บทภาพยนตร์ | |
สร้างจาก | |
อำนวยการสร้าง |
|
นักแสดงนำ | |
กำกับภาพ | Dion Beebe |
ตัดต่อ | Wyatt Smith |
ดนตรีประกอบ | อลัน เม็นเค็น |
บริษัทผู้สร้าง |
|
ผู้จัดจำหน่าย | วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์โมชันพิกเชอส์ |
วันฉาย | 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 (สหรัฐ) 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 (ไทย) |
ความยาว | 135 นาที[1] |
ประเทศ | สหรัฐ |
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2] |
ทำเงิน | 343.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3][4] |
เงือกน้อยผจญภัย (อังกฤษ: The Little Mermaid) เป็นภาพยนตร์แนวจินตนิมิตดนตรีของอเมริกาในปี พ.ศ. 2566 กำกับและร่วมอำนวยการสร้างโดยร็อบ มาร์แชลล์ เขียนบทภาพยนตร์โดยเดวิด มาจี ร่วมอำนวยการสร้างโดยวอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์, ลูคามาร์โพรดักชันส์ และมาร์กแพลตโพรดักชันส์ เป็นภาพยนตร์คนแสดง/ซีจีไอที่ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์แอนิเมชันชื่อเดียวกันของดิสนีย์ในปี พ.ศ. 2532 ซึ่งมีเนื้อเรื่องอิงมาจากเทพนิยายเรื่องเงือกน้อยโดยฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน ภาพยนตร์นำแสดงโดยแฮลลี เบลีย์ในบทแอเรียล ร่วมด้วยโจนาห์ ฮาวเออร์-คิง, ดาวีด ดิกส์, อควาฟินา, จาค็อบ เทร็มเบลย์, โนมา ดูเมซเวนี, ฆาบิเอร์ บาร์เดม และ เมลิสซา แม็กคาร์ธี ภาพยนตร์เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงแอเรียลที่ทำข้อตกลงกับแม่มดเออร์ซูลา เพื่อแลกเสียงของเธอกับขามนุษย์เพื่อสร้างความประทับใจให้กับเจ้าชายอีริคผู้ซึ่งถูกเธอช่วยไว้จากเหตุเรืออับปาง
แผนการนำภาพยนตร์แอนิเมชันในปี พ.ศ. 2535 เรื่อง เงือกน้อยผจญภัย กลับมาสร้างใหม่รูปแบบภาพยนตร์คนแสดง ได้รับการยืนยันในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2559 มาร์แชลล์ได้รับการติดต่อจากดิสนีย์ให้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 และนักแสดงหลักส่วนใหญ่เซ็นสัญญาตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เดิมคาดว่าจะเริ่มการผลิตในลอนดอนระหว่างปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 แต่เกิดความล่าช้าเนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ในที่สุดการถ่ายทำจึงเกิดขึ้นที่ไพน์วูดสตูดิโอส์ในอังกฤษตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม พ.ศ. 2564 ลิน-มานูเอล มิรันดาร่วมเขียนเพลงใหม่สำหรับการภาพยนตร์สร้างใหม่ในฐานะผู้แต่งเนื้อร้อง อลัน เม็นเค็นกลับมาทำหน้าที่ผู้ประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์
เงือกน้อยผจญภัย ออกฉายในสหรัฐในวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 โดย วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์โมชันพิกเชอส์ และออกฉายในประเทศไทยในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 หนึ่งวันก่อนการฉายในสหรัฐ ภาพยนตร์ได้รับความชื่นชมในด้านของนักแสดงอย่าง เบลีย์, ฮาวเออร์-คิง, แม็กคาร์ธี และ อเล็กซานเดอร์ รวมถึงฉากและการเรียบเรียงเพลงประกอบ แต่วิจารณ์ถึงงานสร้างและการออกแบบตัวละคร[5] ภาพยนตร์ทำรายได้ทั่วโลก 343 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่รวมค่าโฆษณา) โดยภาพยนตร์เปิดตัวสูงสุดอันดับที่ 5 ในประวัติศาสตร์ช่วงวันรำลึกของสหรัฐอเมริกา และเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับ 8 ของปี 2023
เนื้อเรื่อง[แก้]
แอเรียลเป็นเจ้าหญิงเงือกและเป็นลูกสาวคนสุดท้องของกษัตริย์ไทรทัน ผู้ปกครองชาวเงือกแห่งแอตแลนติกา เธอรู้สึกทึ่งกับโลกมนุษย์แม้จะไม่เคยเห็นมาก่อน เนื่องจากไทรทันห้ามมิให้เงือกทั้งหมดขึ้นสู่ผิวน้ำหลังจากที่แม่ของเอเรียลถูกฆ่าโดยมนุษย์ แอเรียลรวบรวมวัตถุมนุษย์โดยได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนรักของเธอ ฟลาวเดอร์ ผู้รับใช้คนสนิท และสคัทเทิล นกกาน้ำทางเหนือ เอเรียลพลาดการประชุม พระจันทร์ปะการัง ที่เธอควรจะเข้าร่วมกับพี่สาวทั้ง 7 ของเธอ เนิ่องจากเธอไปสำรวจซากเรืออัปปาง จึงถูกไตรตันต่อว่า แอเรียลนั้นมีความใฝ่ฝันที่จะได้เป็นมนุษย์เพื่อได้เรียนรู้และใช้ชีวิตเหนือผิวน้ำ จนเธอได้เห็นดอกไม้ไฟเหนือมหาสมุทรและผิวน้ำ จึงว่ายโผล่พ้นน้ำเพื่อดูมันอย่างใกล้ชิด ดอกไม้ไฟนั้นมาจากเรือของอีริค เจ้าชายแห่งอาณาจักรเกาะแคริบเบียนที่อยู่บรเวณใกล้เคียง เอเรียลเข้าไปได้ยินเอริคบอกกับ นายกรัฐมนตรีกริมสบี้ คนรับใช้คนสนิทเกี่ยวกับความปรารถนาของเขาที่จะสำรวจน่านน้ำที่ไร้แผนที่ เพื่อช่วยเหลือผู้คนในอาณาจักรของเขา
พายุโหมใส่เรือขณะเลี้ยงฉลอง แม้อีริคพยายามจะคุมเรือต้านพายุ เรือได้กระแทกกับหิน ทำให้ทุกคนต้องสละเรือ เอริคพลาดท่าจมน้ำขณะช่วย แม็กซ์ สุนัขของเขา เอเรียลได้เข้าช่วยอีริคและพาเขาขึ้นฝั่ง ซึ่งเธอร้องเพลงด้วยเสียงไซเรนของเธอเพื่อฟื้นสติเขา เธอรีบหนีไปเมื่อคนของเจ้าชายเอริครีบเข้ามาช่วยเหลือ นั่นทำให้เธอได้เรียนรู้ถึงมนุษย์ ด้วยความใฝ่ฝันได้บรรจบกับหัวใจที่โหยหาในอีริค หลังจากเอริคฟื้น ราชินีเซลีน่า แม่บุญธรรมของเขา ภรรยาของ กษัตริย์แม็กซิมิริอุส ก็สั่งห้ามไม่ให้เขาออกเรืออีก เซบาสเตียนพยายามโน้มน้าวใจให้แอเรียลเลิกคิดเรื่องเป็นมนุษย์ แต่เธอไม่สนใจ
เหล่าพี่สาวของเธอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมเหม่อลอยของแอเรียล เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ไตรตันจึงตั้งคำถามกับเซบาสเตียน ปูที่ปรึกษาคนสนิทของเขา จนได้รู้ว่าเธอช่วยชีวิตมนุษย์คนหนึ่งไว้ ไทรทันเดินทางไปยังถ้ำของเอเรียลเพื่อเผชิญหน้ากับเธอ เมื่อเธอปฏิเสธที่จะสาบานว่าจะไม่ขึ้นไปบนผิวน้ำอีก ไตรตันจึงทำลายคอลเลคชันวัตถุมนุษย์ของเธอ หวังทำให้เธออยู่ในคำสั่ง แต่หลังไตรตันจากไป ก็มีปลาไหลมอเรย์คู่หนึ่งเข้ามาหาแอเรียบ ซึ่งแสดงภาพแม่มดแห่งท้องทะเล เออร์ซูล่า น้องสาวที่เหินห่างของไตรตัน และน้าของเอเรียล ที่ถูกเนรเทศจากแอตแลนติกา เมื่อ 15 ปีก่อนเวลาเดียวที่แม่แอเรียลเสียชีวิต และเธอยื่นข้อเสนอที่จะช่วยแอเรียล โดยที่แอเรียลไม่รู้ว่า เธอถูกจับตามองมาตลอด จากเออร์ซูล่าผู้แค้นใจในตัวพี่ชายที่ได้สิทธิ์ครอบครองทุกอย่างโดยที่เธอไม่ได้อะไร ทั้งที่เธอเป็นคนยุยงให้มนุษย์และเงือกขัดแย้งกัน
แอเรียลตามปลาไหลคู่ไปที่ถ้ำของเออร์ซูล่า ซึ่งเธอเสนอข้อตกลงว่าเธอจะแปลงร่างแอเรียลให้เป็นมนุษย์เป็นเวลาสามวัน ในระหว่างนั้นเอเรียลจะต้องได้รับ "จุมพิตจากรักแท้" จากเอริคเพื่อคงความเป็นมนุษย์ไว้อย่างถาวร หากเธอล้มเหลว เธอจะเปลี่ยนกลับเป็นนางเงือกและเออร์ซูลาจะครอบครองเธอ เพื่อให้กลายเป็นมนุษย์ แอเรียลต้องยอมสละหาง ความสามารถในการหายใจใต้น้ำ และเสียงไซเรนของเธอ ซึ่งเออร์ซูลาจะเก็บไว้ในเปลือกหอยโข่ง เอเรียลยอมรับข้อตกลงและได้รับขามนุษย์ เธอถูกพาตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ โดยมีฟลาวเดอร์และเซบาสเตียนตามมาดูแล โดยได้รับการช่วยเหลือจากชาวประมง ผู้ซึ่งพาเธอไปยังอาณาจักรบนเกาะและปราสาทของเอริค อีริคซึ่งตามหาผู้หญิงที่ช่วยชีวิตเขาอย่างแข็งขันโดยความไม่พอใจของราชินีเซลิน่า รีบไปพบเอเรียลเมื่อเขาได้ยินการมาถึงของเธอ เอเรียลรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบ แต่การไม่มีเสียงของเธอทำให้เอริคเบือนหน้าหนีทันที แต่ต่อมาในเย็นวันนั้น แอเรียล สำรวจปราสาทและได้พบของสะสมของเจ้าชายเอริคที่เขาสะสมจากการเดินทางล่องเรือ เอริคเข้ามาพบและทั้งคู่สามารถเข้าใจในความต้องการของตัวเอง จึงได้ใช้เวลาร่วมกันในการดูของสะสมและเดินทางสำรวจดินแดน โดยมีกริมสบี้ มองดูทั้งคู่ด้วยความสุข
วันต่อมา อีริคพาเอเรียลไปทั่วอาณาจักรพาชมชีวิตผู้คนในพื้นที่ เซบาสเตียนที่ติดตามแอเรียลบนบก ได้ตระหนักว่าเออร์ซูล่าใช้คาถาหลอกลวง ทำให้แอเรียลลืมไปว่าเธอต้องจูบเอริค เซบาสเตียน, สคัทเทิล และ ฟลาวเดอร์รับหน้าที่เพื่อทำให้ทั้งคู่จูบกัน ซึ่งเกือบจะประสบความสำเร็จ แต่ถูกขัดขวางโดยปลาไหลของเออซูล่าที่ตามจับตามอง อีริคที่มั่นใจว่าตัวเองตกหลุมรักแอเรียลด้วยคำแนะนำของกริมสบี้ และตั้งใจจะสารภาพรักกับเธอ แต่ เออร์ซูลาโกรธมากที่ได้ยิน และเปลี่ยนตัวเองเป็นหญิงสาวสวยชื่อวาเนสซา และใช้เสียงไซเรนของเอเรียลเข้าสะกดจิตเอริค เช้าวันรุ่งขึ้น แอเรียลและเพื่อน ๆ ของเธอพบว่า อีริคจะประกาศหมั้นกับ วาเนสซ่า ในตอนเย็น แอเรียลเสียใจจนหนีไปอย่างสิ้นหวัง สคัทเทิล เซบาสเตียน และฟลาวเดอร์ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของวาเนสซาและรีบไปบอกให้แอเรียลรู้ เธอรีบรีบไปงานหมั้นและเผชิญหน้ากับเออร์ซูล่า ทำลายเปลือกหอยโข่งที่คอของเธอ เสียงของแอเรียบกลับมาหาเธอและความลุ่มหลงในตัวอีริคก็พังทลายลง ท่ามกลางช่วงเวลาที่พวกเขารอคอยที่จะได้จุมพิตกัน พระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไป และเอเรียลก็กลายร่างเป็นนางเงือกอีกครั้ง ทุกคนตื่นตกใจ แต่อีริคกลับกอดเธอไว้แน่นและเผชิญหน้ากับเออร์ซูลาที่กลับคืนสู่ร่างเดิม ก่อนจะเล่นงานเขาและจับแอเรียลดำดิ่งลงสู่มหาสมุทร
เออร์ซูลาเผชิญหน้ากับไทรทันที่รู้เรื่องและตามมาช่วยแอเรียลโดยโจมตีเธอ โดยเธอได้เผยให้เห็นว่าข้อตกลงที่เธอทำกับเอเรียลนั้นไม่มีทางแตกหักได้ ไตรตันยอมแลกตรีศูบตัวเองเพื่อแลกกับชีวิตแอเรียล ปลาไหลคู่ทำลายเขาจนกลายเป็นฝุ่นผง แอเรียลแค้นใจโจมตีเออร์ซูล่า แต่พลาดท่าโดยเล่นงาน เออร์ซูล่าอ้างสิทธิ์ในตรีศูลของไทรทันและจะสังหารแอเรียล แต่อีริคนั้นได้ดำน้ำตามลงมาช่วย ในระยะประชิดเออร์ซูล่าถูกแอเรียลใช้ตรีศูลฆ่าปลาไหลของเธอที่แท้จริงเป็นคนสำคัญ เออร์ซูลาโกรธจัดใช้ตรีศูลขยายขนาดให้ใหญ่มหึมาและเรียกพายุมาคุกคามแอเรียลและอีริค แอเรียลดึงตัวเองขึ้นไปบนเรือที่โผล่ขึ้นมา และหันหางเสือในเวลาที่เหมาะสมจนแทงเออร์ซูล่าจนจมลงใต้สมุทร
เมื่อเออร์ซูล่าถูกสังหาร ไตรทันได้ฟื้นคืนชีพ เขาและแอเรียลรับรู้ถึงการเสียสละของอีกฝ่ายเพื่อกันและกัน แต่ไตรตันยืนกรานที่จะให้แอเรียลกลับไปพร้อมกับเขา อีริคสามารถกลับขึ้นมาบนฝั่ง และพยายามจะตามลงไปหาแอเรียล ซึ่งเซลิน่ายอมรับว่าความรักของเอริคและเอเรียลเป็นเรื่องจริง แต่บอกเขาว่ามันเป็นไปไม่ได้ อีริคยอมรับด้วยความใจสลาย แต่ในที่สุดไตรตันสามารถยอมรับความจริงแม้ว่าแ แอเรียลจะได้กลับมาที่บ้านตามที่เขาต้องการ แต่เธอก็ไม่มีความสุขหากไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับอีริค ชายที่เธอรัก ตามคำแนะนำของเซบาสเตียน ไตรทันใช้ตรีศูลเปลี่ยนแอเรียลให้เป็นมนุษย์อย่างถาวร แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่กับลูกสาว แต่เขาจะคอยอยู่ดูแลเธอเสมอ แอเรียลได้พบกับเอริคอีกครั้ง ทั้งคู่ตัดสินใจเดินทางล่องสมุทรที่ไม่เคยไปด้วยกัน โดยได้รับพรจากไตรตันและราชินีเซลิน่า และการสนับสนุนจากผู้คนจากโลกของพวกเขาทั้งสอง เป็นจุดเริ่มต้นของความสงบสุขและความสัมพันธ์อันเป็นตำนานความรักระหว่างมนุษย์หนุ่มและเงือกสาว
นักแสดงและนักพากย์[แก้]
- แฮลลี เบลีย์ รับบทเป็น แอเรียล เจ้าหญิงเงือกและลูกสาวคนเล็กของราชาไตรตัน ผู้หลงใหลในโลกมนุษย์ เบลีย์ได้รับการประกาศให้รับเลือกบทแสดงในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2562[6] (โบกี้ไลอ้อน ให้เสียงพากย์และร้อง)
- โจนาห์ ฮาวเออร์-คิง รับบทเป็น อีริค เจ้าชายที่เป็นมนุษย์ซึ่งแอเรียลตกหลุมรักหลังจากช่วยเขาจากการจมน้ำ[7] (ธนทัต ชัยอรรถ ให้เสียงพากย์และร้อง)
- ดาวีด ดิกส์ รับบทเป็น เซบาสเตียน ปูผู้ซื่อสัตย์และเป็นคนรับใช้คนสนิทกับเป็นคีตกวีหลวงของราชาไทรทัน ผู้คอยดูแลแอเรียล[7][8]
- อควาฟินา รับบทเป็น สคัตเติล นกกาน้ำสมองน้อยและเป็นเพื่อนของแอเรียล ซึ่งมักให้คำอธิบายผิด ๆ ของสิ่งของจากโลกเหนือน้ำที่แอเรียลพบ[9] ตัวละครนี้เป็นนกกาน้ำตัวเมียที่ดำน้ำได้แทนที่จะเป็นนกนางนวลตัวผู้เหมือนในภาพยนตร์ต้นฉบับ เพื่อนำเสนอตัวละครในฉากใต้น้ำ [10] (พิมพิดา พิทักษ์สงคราม ให้เสียงพากย์และร้อง)
- จาค็อบ เทร็มเบลย์ รับบทเป็น ฟลาวเดอร์ ปลาเขตร้อนขี้กังวลแต่มีเกียรติ ซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของแอเรียล[11]
- โนมา ดูเมซเวนี รับบทเป็น ราชินีเซลินา แม่เลี้ยงของเจ้าชายอีริค ผู้เป็นห่วงลูกชายที่ชอบเสี่ยง เป็นตัวละครใหม่ของภาพยนตร์เรื่องนี้[12]
- ฆาบิเอร์ บาร์เดิม รับบทเป็น ราชาไตรตัน พ่อของแอเรียลผู้หวงลูกสาวมากเกินไป และเป็นราชาแห่งแอตแลนติกาผู้มีอคติต่อมนุษย์ เพราะสูญเสียคนรักไปด้วยน้ำมือมนุษย์[13][14]
- เมลิสซา แม็กคาร์ธี รับบทเป็น เออร์ซูลา แม่มดแห่งท้องทะเล ในฉบับนี้เป็นอาของแอเรียล ผู้ซึ่งแอเรียลได้ทำข้อตกลงเพื่อกลายเป็นมนุษย์ด้วย เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลับของเออร์ซูลาที่จะครอบครองมหาสมุทรทั้ง 7 เพื่อแก้แค้นพี่ชายของเธอ ราชาไตรตัน[9]
- เจสซิกา อเล็กซานเดอร์ รับบทเป็น วาเนสซ่า ร่างจำแลงของเออร์ซูล่า ผู้ใช้เสียงที่ขโมยมาจากแอเรียล สะกดจิตอีริคให้แต่งงาน
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "The Little Mermaid (PG)". British Board of Film Classification. 2023-05-10. สืบค้นเมื่อ 2023-05-10.
- ↑ Rubin, Rebecca (May 24, 2023). "Box Office: 'The Little Mermaid' Swimming to $120 Million-Plus Over Memorial Day Weekend". Variety. สืบค้นเมื่อ May 24, 2023.
- ↑ "The Little Mermaid (2023)". Box Office Mojo. IMDb. สืบค้นเมื่อ June 8, 2023.
- ↑ "The Little Mermaid (2023)". The Numbers. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 27, 2023. สืบค้นเมื่อ June 8, 2023.
- ↑ Bryant, Zoe Rose (2023-05-22). ""THE LITTLE MERMAID" - Review". Next Best Picture (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Kroll, Justin (July 3, 2019). "Disney's Live-Action 'Little Mermaid' Casts Halle Bailey as Ariel". Variety. สืบค้นเมื่อ July 3, 2019.
- ↑ 7.0 7.1 "'Little Mermaid' Live-Action Remake Finds Its Prince Eric in Jonah Hauer-King". The Hollywood Reporter. November 12, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 13, 2019. สืบค้นเมื่อ November 13, 2019.
- ↑ Ong-Pizarro, Abigail (August 29, 2021). "Little Mermaid Has The Craziest Filmmaking Sebastian Actor Has Ever Seen". Screen Rant.
- ↑ 9.0 9.1 Geisinger, Gabriella (July 2, 2019). "The Little Mermaid cast: These stars in talks for the Disney remake – who will be in it?". Express.co.uk. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 3, 2019. สืบค้นเมื่อ July 3, 2019.
- ↑ Kit, Borys (July 1, 2019). "Jacob Tremblay, Awkwafina in Talks for Disney's Live-Action 'Little Mermaid'". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 1, 2019. สืบค้นเมื่อ July 1, 2019.
- ↑ Hipes, Patrick; D'Alessandro, Anthony (September 24, 2019). "'The Little Mermaid': 'Krypton's Cameron Cuffe, Jonah Hauer-King Testing For Prince Eric Role". Deadline. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 26, 2019. สืบค้นเมื่อ September 28, 2019.
- ↑ Eddy, Cheryl (September 10, 2022). "Disney's Live-Action Little Mermaid Shares Its First Teaser". Gizmodo. สืบค้นเมื่อ September 10, 2022.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ N'Duka, Amanda (July 17, 2019). "Javier Bardem In Talks For Disney's 'The Little Mermaid' Remake". Deadline. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 17, 2019. สืบค้นเมื่อ July 17, 2019.
- ↑ "Daveed Diggs in Talks to Play Sebastian in Disney's Live-Action 'Little Mermaid'". The Hollywood Reporter. October 8, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 8, 2019. สืบค้นเมื่อ October 8, 2019.