อลิซ ผจญภัยมหัศจรรย์เมืองกระจก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อลิซ ผจญภัยมหัศจรรย์เมืองกระจก
ใบปิดภาพยนตร์
กำกับเจมส์ โบบิน
เขียนบทลินดา วูลเวอร์ตัน
สร้างจากตัวละครจากอลิซในเมืองกระจก
โดย ลูอิส แคร์รอล
อำนวยการสร้าง
นักแสดงนำ
กำกับภาพสจวร์ต ดรายเบิร์ก
ตัดต่อแอนดรูว์ ไวส์บลัม
ดนตรีประกอบแดนนี เอลฟ์แมน
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์
โมชันพิกเชอส์
วันฉาย10 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 (2016-05-10)(ลอนดอน)
27 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 (2016-05-27)(สหรัฐ)
11 สิงหาคม ค.ศ. 2016 (2016-08-11)(ไทย)
ความยาว113 นาที[1]
ประเทศสหรัฐ
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2]
ทำเงิน299.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[1]
ก่อนหน้านี้อลิซในแดนมหัศจรรย์ (2010)

อลิซ ผจญภัยมหัศจรรย์เมืองกระจก (อังกฤษ: Alice Through the Looking Glass) เป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดง-แอนิเมชันอเมริกันแนวแฟนตาซี ผจญภัย ที่ออกฉายในปี ค.ศ. 2016 กำกับโดย เจมส์ โบบิน เขียนบทโดย ลินดา วูลเวอร์ตัน และอำนวยการสร้างโดย ทิม เบอร์ตัน, โจ รอธ, ซูซาน ท็อดด์ และเจนนิเฟอร์ ท็อดด์ สร้างจากตัวละครใน อลิซในเมืองกระจก โดยลูอิส แคร์รอล และเป็นภาคต่อของเรื่อง อลิซในแดนมหัศจรรย์ (ค.ศ. 2010)[3] นักแสดง จอห์นนี เดปป์, แอนน์ แฮททาเวย์, มีอา วาซิคอฟสกา, เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์, แมตต์ ลูคัส, แอลัน ริกแมน, สตีเฟน ฟราย, ไมเคิล ชีน, บาร์บารา วินด์เซอร์, ทิโมธี สพอลล์, พอล ไวต์เฮาส์, ลินด์ซีย์ ดันแคน, เจอรัลดีน เจมส์ และลีโอ บิล กลับมารับบทเดิมจากภาคก่อน นักแสดงใหม่ประกอบด้วย รีส อีวันส์, แอนดรูว์ แซกส์, แมตต์ โวเกล และ ซาชา บารอน โคเฮน โดยในบทของภาพยนตร์เรื่องนี้ อลิซในวัย 22 ปี ได้พบกับกระจกวิเศษ ซึ่งพาเธอกลับไปยังดินแดนมหัศจรรย์อีกครั้ง เธอพบว่าแมด แฮตเตอร์แสดงอาการคลั่งมากกว่าปกติ และต้องการค้นหาความจริงเกี่ยวกับครอบครัวของเขา จากนั้นอลิซได้เดินทางย้อนเวลาด้วย "กงล้อเวลา" (Chronosphere) ได้พบกับเพื่อนและศัตรูในจุดต่าง ๆ ของชีวิต และต้องช่วยแฮตเตอร์ก่อนที่เวลาจะหมดลง

ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายรอบปฐมทัศน์ในลอนดอนเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 และเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 โดยวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์โมชันพิกเชอส์ โดยทั่วไปแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการวิจารณ์เชิงลบจากนักวิจารณ์ ซึ่งยกย่องด้านภาพแต่กลับวิจารณ์เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้[4] นอกจากนี้ยังเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ประสบผลกำไร (Box-office bomb) โดยทำรายได้ประมาณ 299.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับงบประมาณการผลิต 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักแสดง[แก้]

  • จอห์นนี เดปป์ รับบทเป็น ทาร์แรนต์ ไฮท็อปป์/แมด แฮตเตอร์, ช่างทำหมวกผู้มีอาการคลั่งจากความโศกเศร้าที่เสียครอบครัวไป และร่วมมือกับเพื่อนแท้อย่างอลิซเพื่อช่วยครอบครัวของเขากลับมา[5]
  • มีอา วาซิคอฟสกา รับบทเป็น อลิซ คิงสลีห์, หญิงสาววัย 22 ปี ผู้มาเยือนดินแดนมหัศจรรย์อีกครั้งผ่านกระจกวิเศษ และต้องช่วยแมด แฮตเตอร์ ค้นหาความจริงเกี่ยวกับครอบครัวของเขา โดยการย้อนเวลาด้วย "กงล้อเวลา"[5]
  • แอนน์ แฮททาเวย์ รับบทเป็น มิรานา/ราชินีขาว, ราชินีผู้งดงามแห่งดินแดนมหัศจรรย์ และขนิษฐาของไอราเซเบธ ผู้คอยช่วยเหลืออลิซ[5]
    • อเมเลีย เคราช์ รับบทเป็น มิรานา ขณะทรงพระเยาว์[7]
  • เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ รับบทเป็น ไอราเซเบธ/ราชินีแดง, อดีตราชินีแห่งดินแดนมหัศจรรย์ และเชษฐภคินีของมิรานา ผู้ต้องการแก้แค้นมิรานาและอลิซสำหรับอดีตที่เจ็บปวดของนาง[5]
    • ไลลาห์ เดอ เมซา รับบทเป็น ไอราเซเบธ ขณะทรงพระเยาว์[8]
  • ซาชา บารอน โคเฮน รับบทเป็น เวลา, เทพเจ้าแห่งเวลาผู้ทรงพลังและเป็นอมตะ ลักษณะเป็นมนุษย์กึ่งเครื่องจักร ผู้ควบคุมเวลาทั้งหมดในดินแดนมหัศจรรย์ด้วย "กงล้อเวลา" ของเขาในปราสาทแห่งนิจนิรันดร์[5]
  • ลีโอ บิล รับบทเป็น เฮมิช แอสคอต ปัจจุบันเป็น "ลอร์ดแอสคอต" หลังจากพ่อของเขาเสียชีวิต
  • แมตต์ ลูคัส รับบทเป็น ทวีดเดิลดีและทวีดเดิลดัม, เด็กอ้วนแฝด เพื่อนของอลิซ ลูคัสแสดงเป็นตัวละครนี้ผ่านการจับภาพเคลื่อนไหว (motion-capture)[5]
  • รีส อีวันส์ รับบทเป็น ซานิก ไฮท็อปป์, พ่อของแมด แฮตเตอร์, ผู้รักแต่เข้มงวดกับลูกชายของเขา[5]
  • ลินด์ซีย์ ดันแคน รับบทเป็น เฮเลน คิงสลีห์, แม่ของอลิซ
  • เจอรัลดีน เจมส์ รับบทเป็น เลดีแอสคอต, แม่ของเฮมิช
  • เอ็ดเวิร์ด สเพลเลียร์ รับบทเป็น เจมส์ ฮาร์คอร์ต, พนักงานที่ทำงานให้กับตระกูลแอสคอต[5]
  • แอนดรูว์ สก็อตต์ รับบทเป็น ดร.แอดดิสัน เบนเน็ต, แพทย์จิตเวชผู้โหดร้าย[9]
  • ริชาร์ด อาร์มิเทจ รับบทเป็น ราชาโอเลรอน, พระราชบิดาของไอราเซเบธและมิรานา
  • แฮตตี โมราฮาน รับบทเป็น ราชินีเอลเซเมียร์, พระราชมารดาของไอราเซเบธและมิรานา
  • โจอันนา โบบิน รับบทเป็น อเล็กซานดรา แอสคอต, ภรรยาของเฮมิช
  • ซิโมน เคอร์บี รับบทเป็น ไทวา ไฮท็อปป์, แม่ของแมด แฮตเตอร์
  • โจ เฮิร์สต์ รับบทเป็น บีม ไฮท็อปป์, หลานชายของแมด แฮตเตอร์
    • โอลิเวอร์ ฮอว์กส์ รับบทเป็น บีม ไฮท็อปป์ ในวัยเด็ก
  • เชอวาน เรดมอนด์ รับบทเป็น บูมาลิก ไฮท็อปป์, น้องสาวของแมด แฮตเตอร์
  • เฟรเดอริก วอร์เดอร์ รับบทเป็น พูมาลี ไฮท็อปป์, น้องชายของแมด แฮตเตอร์
  • อีฟ เฮดเดอร์วิค เทิร์นเนอร์ รับบทเป็น บาลู ไฮท็อปป์, น้องสาวอีกคนของแมด แฮตเตอร์
  • ทอม ก็อดวิน รับบทเป็น พิมลิค ไฮท็อปป์, น้องชายอีกคนของแมด แฮตเตอร์

พากย์เสียง[แก้]

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นการแสดงครั้งสุดท้ายของนักแสดงแอลัน ริกแมน ซึ่งเสียชีวิตไปสี่เดือนก่อนที่ภาพยนตร์จะออกฉาย
  • แอลัน ริกแมน รับบทเป็น ผีเสื้อแอบโซเลม (เดิมเป็นหนอนผีเสื้อ), ผู้คอยให้คำแนะนำอลิซ ริกแมนรับบทในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายก่อนเสียชีวิต[5]
  • สตีเฟน ฟราย รับบทเป็น แมวเชสเชียร์, แมวที่หายตัวได้ และเพื่อนของอลิซ[5]
  • ไมเคิล ชีน รับบทเป็น นิเวนส์ แมกทวิสพ์/กระต่ายขาว, มหาดเล็กของราชินีขาว และเพื่อนของอลิซ[5]
  • ทิโมธี สพอล รับบทเป็น เบยาร์ด ฮามาร์/บลัดฮาวด์, สุนัขแก่ เพื่อนของอลิซ[5]
  • บาร์บารา วินด์เซอร์ รับบทเป็น มัลลิมคุน/เจ้าหนูดอร์เมาส์, เพื่อนของอลิซ[5]
  • แมตต์ โวเกล รับบทเป็น วิลกินส์, หุ่นยนต์ ลูกน้องผู้อดทนอดกลั้นของเวลาซึ่งเป็นผู้นำวินาทีของเขา[11]
  • พอล ไวต์เฮาส์ รับบทเป็น แธคเคอรี เอียวิคเก็ต/กระต่ายเดือนสาม, เพื่อนของอลิซ และคู่หูของแมด แฮตเตอร์[5]
  • วอลลี วิงเกิร์ต รับบทเป็น ฮัมพ์ตี ดัมพ์ตี[12]
  • มีรา ชยอล รับบทเป็น โนบอดี
  • เอ็ดเวิร์ด เพเธอร์บริดจ์ รับบทเป็น คุณชายปลา
  • โอเวน รีส เดวีส์ รับบทเป็น กบส่งของ
  • พอล ฮันเตอร์ รับบทเป็น คิงหมากรุกขาว
  • แอนดรูว์ แซกส์ รับบทเป็น นาฬิกาแขวน

ดนตรี[แก้]

ดนตรีประกอบภาพยนตร์ประพันธ์โดยแดนนี เอลฟ์แมน เพลงประกอบเผยแพร่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 โดยวอลต์ดิสนีย์เรเคิดส์โดยมีพิงก์บันทึกเพลง "Just Like Fire" สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังร้องคัฟเวอร์เพลง "White Rabbit" ของเจฟเฟอร์สันแอร์แพลน ซึ่งใช้ในสื่อเพื่อส่งเสริมการจำหน่ายของภาพยนตร์เท่านั้น

รายการเพลง[แก้]

เพลงทั้งหมดประพันธ์โดยแดนนี เอลฟ์แมน

ลำดับชื่อเพลงยาว
1."Alice"6:35
2."Saving the Ship"3:40
3."Watching Time"5:10
4."Looking Glass"3:30
5."To the Rescue"0:56
6."Hatter House"3:47
7."The Red Queen"2:29
8."The Chronosphere"4:15
9."Warning Hightopps"2:23
10."Tea Time Forever"1:45
11."Oceans of Time"1:15
12."Hat Heartbreak"2:27
13."Asylum Escape"4:06
14."Hatter's Deathbed"3:22
15."Finding the Family"2:04
16."Time Is Up"4:24
17."World's End"1:50
18."Truth"4:09
19."Goodbye Alice"2:13
20."Kingsleigh & Kingsleigh"1:19
21."Seconds Song"0:11
22."Friends United"1:06
23."Time's Castle"1:49
24."The Seconds"1:55
25."Clock Shop"0:50
26."They're Alive"2:23
27."Story of Time"3:03
28."Just Like Fire" (ประพันธ์โดยพิงก์)3:35
ความยาวทั้งหมด:76:53

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "Alice Through the Looking Glass (2016)". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 14, 2019. สืบค้นเมื่อ December 10, 2016.
  2. Brooks Barnes (May 17, 2016). "Alice in Wonderland, With Even More British Whimsy". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 30, 2018. สืบค้นเมื่อ May 18, 2016.
  3. Butler, Tom (March 25, 2014). "Alice In Wonderland sequel not based on Lewis Carroll's book (exclusive)". Yahoo!. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 1, 2023. สืบค้นเมื่อ March 25, 2014.
  4. "อลิซ ผจญภัยมหัศจรรย์เมืองกระจก". Rotten Tomatoes. Fandango Media. สืบค้นเมื่อ 23 เมษายน 2565. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help) แก้ไขสิ่งนี้ที่วิกิสนเทศ
  5. 5.00 5.01 5.02 5.03 5.04 5.05 5.06 5.07 5.08 5.09 5.10 5.11 5.12 5.13 "Alice in Wonderland 2 Cast Announced as Production Begins Today". Collider.com. August 4, 2014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 20, 2016. สืบค้นเมื่อ August 4, 2014.
  6. Rose, Jenn (May 27, 2016). "Who Plays The Young Hatter In 'Alice Through The Looking Glass'? The Kid Actor Is Adorable". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 11, 2016. สืบค้นเมื่อ May 31, 2016.
  7. "Curtis Brown". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 11, 2016. สืบค้นเมื่อ May 31, 2016.
  8. "Curtis Brown". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 11, 2016. สืบค้นเมื่อ May 31, 2016.
  9. "Andrew Scott | United Agents". unitedagents.co.uk. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 24, 2015. สืบค้นเมื่อ 2015-10-11.
  10. "Kyle Hebert on Twitter". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 7, 2022. สืบค้นเมื่อ May 31, 2016.
  11. McGovern, Joe (April 22, 2016). "Meet the Seconds: See exclusive images of Time's critters from Alice Through the Looking Glass". Entertainment Weekly. สืบค้นเมื่อ May 5, 2016.
  12. "News: 'Alice in Wonderland : Through the Looking Glass'". Thisisfilm.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 8, 2014. สืบค้นเมื่อ August 17, 2014.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]