เงือกน้อยผจญภัย
เงือกน้อยผจญภัย | |
---|---|
![]() ปกดีวีดีภาพยนตร์แบบดั้งเดิม | |
กำกับ |
|
บทภาพยนตร์ |
|
เนื้อเรื่อง |
|
สร้างจาก | The Little Mermaid โดย Hans Christian Andersen |
อำนวยการสร้าง |
|
นักแสดงนำ |
|
ตัดต่อ | มาร์ค เฮสเตอร์ |
ดนตรีประกอบ | อลัน เมนเคน |
บริษัทผู้สร้าง | |
ผู้จัดจำหน่าย | บัวนาวิสตาพิกเชอส์ |
วันฉาย | 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1989 |
ความยาว | 82 นาที[1] |
ประเทศ | สหรัฐอเมริกา |
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 40 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ[2] |
ทำเงิน | 211.3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ[3] |
เงือกน้อยผจญภัย (อังกฤษ: The Little Mermaid) เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ออกฉายในปี ค.ศ. 1989 ได้รับรางวัลออสการ์ 2 สาขา ได้แก่สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและสาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 62 ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ภาคแรกในภาพยนตร์ชุด เงือกน้อยผจญภัย ภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาคต่อคือ เงือกน้อยผจญภัย ภาค 2 ตอน วิมานรักใต้สมุทร
เนื้อเรื่อง[แก้]
ลึกลงไปใต้ท้องทะเล เหล่าชาวเงือกและสัตว์ทะเลทั้งหลายอาศัยอยู่ร่วมกันภายใต้ท้องทะเล ภายใต้การปกครองของเจ้าสมุทร แอเรียล ธิดาองค์สุดท้องของเจ้าสมุทรกำลังจะเปิดการแสดงคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรก และไม่มีใครอยากพลาดชมการแสดงคอนเสิร์ตในครั้งนี้ เจ้าสมุทรเดินทางมาถึงในขณะที่ทุกคนมารวมกันในท้องพระโรงใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เซบาสเตียน ปูนักประพันธ์เพลงประจำราชสำนักใช้ไม้บาตองเคาะจังหวะ เพื่อกำกับวงออร์เคสตราให้เริ่มบรรเลงดนตรี แต่เมื่อถึงเวลาที่แอเรียลจะต้องทำการแสดง เธอกลับหายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุเลย แอเรียลลืมเรื่องการแสดงคอนเสิร์ตของเธอไปเสียสนิท เธอกำลังค้นหาสมบัติของพวกมนุษย์อยู่ในซากเรืออับปางที่อยู่ห่างไกลออกไปมาก ฟลาวน์เดอร์ ปลาน้อยสีเหลืองสลับฟ้า เพื่อนของเธอว่ายตามเธอไปรอบๆเรืออย่างหวาดวิตก "ตั้งแต่เกิดมา เธอเคยเห็นสิ่งที่วิเศษแบบนี้มาก่อนไหม" แอเรียลถามฟลาวน์เดอร์ "ใช่ มันเจ๋งมาก" ฟลาวน์เดอร์พึมพำ "เอาละ เรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ" ในขนาดที่ทั้งคู่กำลังจะออกจากซากเรืออับปางนั้น ก็มีฉลามตัวหนึ่งว่ายตามมาติดๆ แต่ฉลามตัวนั้้นก็พลาดเข้าไปติดในห่วงสมอเรือและถูกฟลาวน์เดอร์เยาะเย้ย แอเรียลและฟลาวน์เดอร์ว่ายขึ้นมาเหนือผิวน้ำเพื่อพบกับสคัตเทิล นกนางนวลผู้อวดอ้างตัวว่ารอบรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโลกมนุษย์ สคัตเทิลพิจารณาดูส้อมคันนั้น "มันคือดิงเกิลฮอปเปอร์น่ะ" สคัตเทิลเอ่ย ทันใดนั้น แอเรียลก็นึกถึงการแสดงคอนเสิร์ตขึ้นมาได้ "ท่านพ่อต้องฆ่าฉันแน่ๆ!" เธอร้องด้วยความตกใจ ภายในถ้ำแห่งหนึ่ง เออร์ซูล่า แม่มดแห่งท้องทะเลใช้ เวทมนตร์ของนางจับตาดูแอเรียลที่กำลังรีบร้อนกลับบ้าน นางหัวเราะกับตัวเองเมื่อคิดถึงแผนการที่จะใช้แอเรียลเป็นเครื่องมือในการล้างแค้นเจ้าสมุทร เมื่อเจ้าสมุทรทราบว่าแอเรียลไม่ได้มาร่วมการแสดงคอนเสิร์ตเพราะเธอขึ้นไปที่ผิวน้ำ เจ้าสมุทรจึงโกรธมาก เจ้าสมุทรเชื่อว่ามนุษย์เป็นอันตราย และเขาต้องการปกป้องลูกสาวของเขา เจ้าสมุทรออกคำสั่งไม่ให้แอเรียลขึ้นไปที่ผิวน้ำอีกหลังจากที่แอเรียลออกไปแล้ว เจ้าสมุทรจึงสั่งให้เซบาสเตียนคอยดูแลเธอให้ดีเซบาสเตียนตามแอเรียลไปยังถ้ำลึกลับ เมื่อเขามองเข้าไปในถ้ำ เขาก็ตกตะลึงเมื่อเห็นว่าภายในถ้ำเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ของมนุษย์ เซบาสเตียนตกใจมากเมื่อได้ยินแอเรียลบอกกับฟลาวน์เดอร์ว่า เธออยากจะเป็นส่วนหนึ่งของโลกมนุษย์มากเหลือเกิน จากนั้นแอเรียลก็ว่ายขึ้นไปบนผิวน้ำอีกครั้ง เพื่อดูเรือลำใหญ่ที่แล่นผ่านมา แอเรียลเห็นเจ้าชายรูปงามที่มีชื่อว่า อีริค ทันใดนั้นเอง เกิดพายุทำให้เรือเกิดไฟไหม้ เจ้าชายอีริคได้จมน้ำจากเหตุการณ์นั้น แอเรียลได้ได้ช่วยเขาจากเหตุการณ์ดังกล่าว แอเรียลจึงร้องเพลงให้อีริคฟื้น แต่เมื่อมีคนมา เธอจึงกระโดดหายลงทะเลไป เจ้าสมุทรสังเกตว่าแอเรียลมีอาการผิดปกติไป เขาจึงออกคำสั่งให้เซบาสเตียนพาเขาไปหาแอเรียล เขาโมโหมากและทำลายข้าวของภายในถ้ำของแอเรียลจนหมด แอเรียลจึงไปหาเออร์ซูล่า แม่มดทะเล โดยเออร์ซูล่ามีข้อแลกเปลี่ยนคือเสียงอันไพเราะของเธอ และเจ้าชายจะต้องจุมพิตเธอก่อนพระอาทิตย์ตกในวันที่ 3 อีกด้วย มิฉะนั้นเธอจะกลายร่างกลับมาเป็นเงือก และจะตกเป็นทาสรับใช้ของนาง หลังจากที่เออร์ซูล่าเปลี่ยนให้แอเรียลกลายเป็นมนุษย์แล้ว เหล่าเพื่อนๆของเธออย่าง เซบาสเตียน ฟลาวน์เดอร์ และสคัตเทิล ก็ยังคอยดูแลเธออย่างใกล้ชิด แอเรียลได้พบกับเจ้าชายอีริค และเขาได้นำเธอกลับไปที่ปราสาทของเขา จนกระทั่งคืนหนึ่ง เจ้าชายอีริคและแอเรียลได้ออกไปพายเรือเล่นกันตามทะเลสาบ แต่ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะจุมพิตกัน เรือก็คว่ำด้วยฝีมือของปลาไหล 2 ตัว ที่เป็นลูกสมุนของเออร์ซูล่า จากนั้นเออร์ซูล่าจึงแปลงร่างเป็นสาวสวยที่มีชื่อว่า วาเนสซ่า เธอสวมสร้อยคอเปลือกหอยที่บรรจุเสียงของแอเรียลเอาไว้ เมื่อแอเรียลตื่นนอน เธอพบว่าเจ้าชายอีริคกำลังจะแต่งงานกับวาเนสซ่า เธอตกใจมากๆ แต่สคัตเทิลก็รู้ว่าวาเนสซ่าจริงๆแล้วคือเออร์ซูล่าที่ปลอมตัวมา แอเรียลได้เสียงคืนมาและเจ้าชายอีริคก็หลุดพ้นจากมนต์สะกด และด้วยความร่วมมือร่วมใจของอีริคและแอเรียลจึงสามารถกำจัดเออร์ซูล่าลงได้สำเร็จ จากนั้นเจ้าชายอีริคและแอเรียลจึงได้ครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไป
รายชื่อนักพากย์[แก้]
- คริสโตเฟอร์ บาร์นส์ พากย์เป็น เจ้าชายอีริค[4]
- โจดี้ เบนสัน พากย์เป็น เจ้าหญิงแอเรียล[5]
- แพท แคร์โรล พากย์เป็น แม่มดเออร์ซูล่า[4]
- แพดดี้ เอ็ดเวิร์ดส์ พากย์เป็น เจ้าชายอีริค[4]
- บัดดี้ แฮคเก็ตต์ พากย์เป็น สคัตเทิล[4]
- เจสัน มาริน พากย์เป็น ฟลาวน์เดอร์[4]
- เค็นเน็ธ มาร์ส พากย์เป็น ราชาไทรทัน[4]
- เบน ไรท์ พากย์เป็น กริมสบี้[4]
- ซามูแอล อี. ไรท์ พากย์เป็น เซบาสเตียน[4]
- เรเน ออเบอร์โจนอยส์ พากย์เป็น เชฟหลุยส์[4]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "THE LITTLE MERMAID (U)". British Board of Film Classification. December 28, 1989. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-26. สืบค้นเมื่อ April 2, 2016.
- ↑ Stewart, James B. (2005). DisneyWar, p. 104. ISBN 0-684-80993-1. Simon & Schuster. Retrieved June 4, 2007.
- ↑ "The Little Mermaid". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 18, 2008. สืบค้นเมื่อ November 22, 2008.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 4.7 4.8 "The-Little-Mermaid - Cast, Crew, Director and Awards". The New York Times. สืบค้นเมื่อ June 9, 2014.
- ↑ Grant, John (1998). Encyclopedia of Walt Disney's Animated Characters (Third Edition). Hyperion. pp. 344–345. ISBN 0-7868-6336-6.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- เว็บไซต์ทางการ
- เงือกน้อยผจญภัย ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- เงือกน้อยผจญภัย ที่บิกการ์ตูนเดตาเบส
- เงือกน้อยผจญภัย ที่ออลมูวี
- เงือกน้อยผจญภัย ที่บ็อกซ์ออฟฟิศโมโจ
- แม่แบบ:FilmAffinity
- เงือกน้อยผจญภัย ที่รอตเทนโทเมโทส์
- The Little Mermaid at Don Markstein's Toonopedia. Archived from the original on November 11, 2015.