เงือก
เงือก เป็นอมนุษย์ชนิดหนึ่งตามความเชื่อนิยายปรัมปราเกี่ยวกับน้ำ โดยเป็นจินตนาการเกี่ยวกับสัตว์น้ำ โดยมากจะเล่ากันว่าเงือกนั้นเป็นสัตว์ครึ่งมนุษย์ มีส่วนครึ่งท่อนบนเป็นคน ส่วนครึ่งท่อนล่างเป็นปลา ในหลายประเทศทั่วโลก มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับตำนานเงือกมากมาย
โดยเชื่อว่า แท้จริงแล้วสัตว์ที่มนุษย์เห็นเป็นเงือก คือ พะยูน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลขนาดใหญ่ ที่เมื่อให้นมลูกแล้วจะลอยตัวกลางน้ำเหมือนผู้หญิงให้นมลูก [1]
เนื้อหา
ในประเทศไทย[แก้]
เงือกในประเทศไทย ถูกกล่าวขานมาตั้งแต่สมัยอดีต ผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมาย แต่เป็นเงือกที่ได้รับความนิยม และกล่าวขวัญกันมากที่สุดก็คือ เงือกในวรรณคดีของ สุนทรภู่ เรื่อง พระอภัยมณี ที่นางเงือก (เงือกสาว) และเงือกตายาย ช่วยพาพระอภัยมณีหนีจาก ผีเสื้อสมุทรได้จนสำเร็จ และนางเงือกได้เป็นชายาของพระอภัยมณี จนมีโอรสด้วยกันหนึ่งองค์ ชื่อว่า สุดสาคร
ในภาษาไทยโบราณ รวมทั้งในวรรณคดีสมัยอยุธยา ถึงรัตนโกสินทร์ มีคำว่า เงือก มาแล้ว แต่มีความหมายแตกต่างกันไป พอจะสรุปได้ดังนี้
- งู : คำว่าเงือกในภาษาไทยโบราณ และภาษาตระกูลไตบางถิ่นนั้น มักจะหมายถึง งู ดังปรากฏในลิลิตโองการแช่งน้ำ ที่ว่า "ท้าวเสด็จเหนือวัวเผือก เอาเงือกเกี้ยวข้าง อ้างทัดจันทร์เป็นปิ่น" นั่นคือ เอางูมาพันรอบกาย, "เสียงเงือกงูว้าง ขึ้นลง" หมายถึง เสียงงู เหล่านี้เป็นภาษาเก่าที่ไม่ปรากฏแล้วในปัจจุบัน [2]
- สัตว์ร้าย จำพวกผี หรือปิศาจ : ปรากฏในลิลิตพระลอ วรรณกรรมสมัยอยุธยาเช่นกัน
- สัตว์ครึ่งคนครึ่งปลา : เชื่อกันว่าเงือกในลักษณะนี้ปรากฏครั้งแรกในวรรณคดีพระอภัยมณีดังกล่าวมาข้างต้น แต่อาจมีค้นเค้าจากเรื่องอื่นก็เป็นได้ [2]
- มังกร คนไทบ้างกลุ่มในประเทศจีนและเวียดนาม จะเรียกมังกรว่า "เงือก" เช่น ไทปายี ไทเมือง และกะเบียว ในเวียดนาม
ลักษณะของเงือกที่พบในไทยตามเรื่องเล่าพื้นบ้าน[แก้]
- มีใบหน้าเล็กขนาดเท่างบน้ำอ้อย
- มีหวีและกระจก มักจะปรากฏกายขึ้นเหนือน้ำในคืนวันพระจันทร์เต็มดวงเพื่อนั่งสางผม ถ้ามีใครผ่านมาเห็นจะตกใจหนีลงน้ำโดยทิ้งเอาไว้ ถ้ามีผู้ได้ครอบครองสามารถที่จะเข้าฝันทวงคืนได้
- มีเสียงไพเราะทำให้เดินตกน้ำได้ [3]
ในยุโรป[แก้]
ในประเทศยุโรปตอนเหนือ มีตำนานเกี่ยวกับเงือกด้วยเช่นกัน (อังกฤษ: Mermaid (นางเงือก)/Merman (นายเงือก)) เงือกของยุโรปมีความน่ากลัว เป็นปิศาจลักษณะเดียวกับนิมฟ์จำพวกไซเรน, ไนแอด หรือลิมนาเดส ที่จะล่อลวงเหยื่อ โดยเฉพาะชายหนุ่มให้ลงไปในน้ำแล้วสังหารทิ้ง ซึ่งเสียงของเงือกมีพลังดึงดูด สามารถชักพาให้ผู้ที่ได้ยินเสียงคล้อยตามได้ การที่เรือเดินทะเลต้องชนกับหินโสโครก และอับปปางลงลำแล้วลำเล่านั้น เป็นเพราะว่าถูกชักจูงให้เดินทางไปตามเสียงเพลงของเงือกนั่นเองคือเพลงเพราะมากจนอยากฟัง[3]
เรื่องของเงือกที่มีชื่อเสียงที่สุดของยุโรป ปรากฏในนิทานพื้นบ้านของเยอรมนี มีหญิงสาวสวยคนหนึ่งชื่อ "ลอเรไร" (เยอรมัน: Loreley; อังกฤษ: Lorelei) อาศัยอยู่กับพ่อริมแม่น้ำไรน์ เมื่อเสียชีวิตเธอได้กลายเป็นปิศาจที่ล่อลวงเรือให้อับปาง ซึ่งได้ปรากฏกลายเป็นความเชื่อมาจนปัจจุบัน มีการสร้างประติมากรรมรูปลอเรไรขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ และเป็นชื่อหน้าผาริมฝั่งแม่น้ำที่เมืองแซงต์กูร์อาเชาเซน ซึ่งเป็นช่วงกลางของแม่น้ำ เล่ากันว่าในวันที่มีหมอกลงจัด จะเห็นลอเรไรยืนอยู่ริมหน้าผา[4][5]
ที่อังกฤษ, สกอตแลนด์ รวมถึงไอร์แลนด์ก็มีความเชื่อทำนองนี้ โดยเรียกว่า "เซลกี" (Selkie) แปลว่า "ผู้หญิงแมวน้ำ" [4][6]
โดยคาร์ล ยุง นักจิตวิทยาชื่อดังอธิบายว่า ความเชื่อเรื่องเงือกเป็นจินตนาการเรื่องทางเพศของชาวเรือ ซึ่งเป็นชายหนุ่มที่ออกทะเลเป็นเวลานาน [4]
ในประเทศญี่ปุ่น[แก้]
ในประเทศญี่ปุ่น มีความเชื่อเกี่ยวกับเงือกมากมายเช่นเดียวกัน โดยเงือกเป็นโยไกหรือปิศาจจำพวกพรายน้ำอย่างหนึ่งตามความเชื่อของศาสนาชินโต ศาสนาพื้นเมืองของญี่ปุ่น เงือกในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "นิงเงียว" (人魚, Nin-gyo) ความเชื่อหลักเกี่ยวกับการกินเนื้อเงือก คือ เมื่อในอดีต มีหญิงสาวคนหนึ่งได้ช่วยนางเงือกเอาไว้ที่ชายหาด นางเงือกซาบซึ้งบุญคุณของหญิงคนนั้น จึงให้กินเนื้อเงือกเป็นการตอบแทน แต่ทว่า อาถรรพณ์ของเนื้อเงือก จะทำให้ผู้ที่กินเข้าไปไม่แก่ไม่ตาย หญิงสาวผู้นั้นมีชีวิตอยู่อย่างไม่มีวันแก่ตาย ได้เห็นผู้คนรอบข้างตายไปทีละคนจนทนไม่ได้ จึงบวชเป็นชีชื่อ แม่ชีเบคุนิ
ปัจจุบัน ในประเทศญี่ปุ่น ตามวัดต่าง ๆ มักจะมีซากเงือกตั้งแสดงอยู่ เป็นของประหลาดและเป็นที่ตื่นตาสำหรับผู้ที่ได้พบเห็น แต่ทว่าซากของเงือกหรือสัตว์ประหลาดต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นของปลอมที่ทำขึ้น โดยการนำเอาอวัยวะของสัตว์ชนิดต่าง ๆ มาปะผสมรวมกัน[7]
ในวัฒนธรรมร่วมสมัย[แก้]
จากนิทานและเรื่องเล่าเกี่ยวกับเงือกมากมายในอดีต ทำให้ในวัฒนธรรมร่วมสมัยมีการกล่าวถึงเงือกไว้ต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน อาทิ ในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Jason and the Argonauts ในปี ค.ศ. 1963 ซึ่งสร้างมาจากเทพปกรณัมกรีกเรื่อง เจสัน เมื่อเรืออาร์โกของเจสันกำลังผ่านช่องเขา และช่องเขากำลังถล่ม ก็ปรากฏมีเทพเจ้าโพไซดอน ผู้เป็นใหญ่แห่งมหาสมุทรทั้งปวง (โดยปรากฏเป็นชายร่างยักษ์ที่มีหางเป็นปลา โผล่ขึ้นมาช่วยดันภูเขาให้เรือผ่านไปได้ในที่สุด[8]
และในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง The Little Mermaid ของวอลด์ ดีสนีย์ ในปี ค.ศ. 1989 ที่ดัดแปลงมาจากนิทานชื่อเดียวกันนี้ของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน เมื่อออกฉาย ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจนมีการสร้างภาคต่อตามมาอีกหลายภาคและสร้างเป็นซีรีส์ [9]
ในปี ค.ศ. 2012 แอนนิมอลแพลนเน็ต ซึ่งเป็นช่องรายการโทรทัศน์สารคดีชีวิตสัตว์โลกในเครือของช่องดิสคัฟเวอรี ได้เผยแพร่สารคดีชุด Mermaids: The Body Found เป็นที่ฮือฮาและประสบความสำเร็จอย่างมาก[10] จนเป็นที่กล่าวขานกันว่าเงือกมีจริงหรือไม่ ก่อนที่ผู้ผลิตจะยอมรับในเวลาต่อมาว่าเป็นเรื่องแต่ง[11][12] และได้ผลิตชุดที่สอง คือ Mermaids: The New Evidence ออกมาในปีต่อมา
ดูเพิ่ม[แก้]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "ตำนานของพะยูน... ความเชื่อที่มิอาจพิสูจน์ได้". โอเคเนชั่น.
- ↑ 2.0 2.1 "พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒". พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒.
- ↑ 3.0 3.1 ขวัญนุช คำเมือง (แปล) (มกราคม 2543). โลกเร้นลับของสิ่งมีชีวิต. นานมีบุ๊คส์. ISBN 974-472-262-2.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 สุดยอดสารคดีสุดสัปดาห์ ปริศนาลับในตำนาน (MYTHS AND LEGENDS). สารคดีทางช่อง 7: อาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2560
- ↑ Blottenberger, Dan (2012-03-07). "Rhine River Valley: Mystical Lorelei statue continues to enchant visitors". สืบค้นเมื่อ 2017-06-18.
- ↑ "The Viking Rune". สืบค้นเมื่อ 12 May 2013.
- ↑ "Urban Legends Reference Pages: Mermaid to Order". Snopes. สืบค้นเมื่อ 2012-04-24.
- ↑ Jason and the Argonauts (1963) ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- ↑ The Little Mermaid ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- ↑ "Animal Planet Slays With Best-Ever May in Network History". Animal Planet Press Release. สืบค้นเมื่อ 2012-05-31.
- ↑ Jim Vorel (July 17, 2012). "Mermaid body found? No, bad TV". Quad-City Times.
- ↑ Mermaid Body Found? No, Bad TV http://qctimes.com/entertainment/mermaid-body-found-no-bad-tv/article_5037b13c-d040-11e1-953f-0019bb2963f4.html
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: เงือก |