โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2560)
โฉมงามกับเจ้าชายอสูร | |
---|---|
ใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | บิล คอนดอน |
บทภาพยนตร์ | |
สร้างจาก | |
อำนวยการสร้าง | |
นักแสดงนำ | |
กำกับภาพ | โทเบียส ชลีสส์เลอร์ |
ตัดต่อ | เวอร์จิเนีย คัทซ์ |
ดนตรีประกอบ | อลัน เมนเคน |
บริษัทผู้สร้าง | |
ผู้จัดจำหน่าย | วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์ โมชันพิกเชอส์ |
วันฉาย |
|
ความยาว | 129 นาที[2] |
ประเทศ | สหรัฐ |
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 160–255 ล้านดอลลาห์สหรัฐ[3][4][5] |
ทำเงิน | 1.266 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ[3] |
โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (อังกฤษ: Beauty and the Beast) เป็นภาพยนตร์เพลงอเมริกันแนวโรแมนติก แฟนตาซี ผจญภัย ที่ออกฉายในปี ค.ศ. 2017 กำกับโดย บิล คอนดอน เขียนบทโดย สตีเฟน ชาบอสกี และอีแวน สปิลลิโอโทปูลอส อำนวยการสร้างโดยวอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์ และแมนด์วิลล์ฟิล์มส์[6] ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดงที่สร้างจากภาพยนตร์แอนิเมชันในชื่อเดียวกันของวอลต์ ดิสนีย์ ในปี ค.ศ. 1991 ซึ่งมีพื้นฐานมาจากเทพนิยายในชื่อเดียวกันของฌานน์-มารี เลอแปรงซ์ เดอ โบมง ในปี ค.ศ. 1740 ภาพยนตร์แสดงนำโดย เอ็มมา วอตสัน และแดน สตีเวนส์ เป็นเบลล์และอสูร ตามลำดับ ร่วมด้วย ลุค อีแวนส์, เควิน ไคลน์, จอช แกด, ยวน แม็คเกรเกอร์, สแตนลีย์ ทุชชี, ออดรา แมคโดนัลด์, กูกู อึมบาทา-รอว์, เอียน แม็กเคลเลน และ เอ็มมา ทอมสัน เป็นบทบาทสมทบ ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของเบลล์ ที่ถูกจับเป็นเชลยอยู่ในปราสาท โดยมีอสูรที่น่ากลัวอาศัยอยู่ซึ่งท้ายที่สุดก็ตกหลุมรักเธอ ที่นั้นทำให้เธอรู้ว่าอสูรเป็นเจ้าชายที่ถูกสาปโดยผู้วิเศษลึกลับร่วมกับคนรับใช้ของเขา เพื่อเป็นการลงโทษสำหรับความเย็นชาในอดีต
แผนการนำภาพยนตร์แอนิเมชันในปี ค.ศ. 1991 เรื่อง โฉมงามกับเจ้าชายอสูร กลับมาสร้างใหม่รูปแบบภาพยนตร์คนแสดง ได้รับการยืนยันในเดือนเมษายน ค.ศ. 2014 โดยมีคอนดอนเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ นักแสดงหลักส่วนใหญ่เซ็นสัญญาตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน ค.ศ. 2015 การถ่ายทำเริ่มเดินกล้องถ่ายจริงที่เชปเพอร์ตอนสตูดิโอส์ (Shepperton Studios) ในมณฑลเซอร์รี ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคมในปีนั้น โดยใช้งบประมาณการผลิต 255 ล้านดอลลาห์สหรัฐ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ใช้ทุนสร้างสูงสุดในปัจจุบัน
โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 ที่สเปนเซอร์เฮาส์ในลอนดอน และเข้าฉายในสหรัฐในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2017 ในระบบสองมิติ, ดิสนีย์ดิจิทัลทรี-ดี, เรียลดีทรีดี, ไอแมกซ์ และไอแมกซ์สามมิติ พร้อมด้วยระบบดอลบีซินีมา[7] ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกจากนักวิจารณ์ ซึ่งชื่นชมการแสดง เพลงประกอบ และงานภาพ ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในด้านรายได้โดยทำรายได้ 1.2 พันล้านดอลลาห์สหรัฐทั่วโลก และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ประจำปี ค.ศ. 2017 และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดจนถึงปัจจุบัน ในบรรดาภาพยนตร์ฉบับคนแสดงของดิสนีย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 จนถึงปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม จากงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 90 โดยในละครโทรทัศน์ภาคแยกเรื่อง ลิตเติลทาวน์ กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาสำหรับเผยแพร่ทางดิสนีย์+ แต่ถูกระงับการผลิต
เนื้อเรื่อง
[แก้]ณ ปราสาทแห่งหนึ่ง เจ้าชายผู้เลือดเย็นได้เชื้อเชิญผู้คนมางานรื่นเริง มีผู้วิเศษนางหนึ่งปลอมตัวเป็นหญิงแก่ขอทาน ได้มายังปราสาทเพื่อขอที่พักจากเจ้าชายเลือดเย็น ซึ่งเจ้าชายปฏิเสธอย่างไม่ใยดี นางจึงสาปเขาให้กลายเป็นอสูรที่น่ารังเกียจและสาปคนรับใช้ให้กลายเป็นสิ่งของเครื่องใช้ รวมถึงลบความทรงจำเกี่ยวกับพวกเขาออกจากหัวผู้คน นางให้ดอกกุหลาบวิเศษไว้ ทั้งว่าหากเจ้าชายรู้จักรักใครสักคนและคนที่เขารักนั้นรักกลับก่อนกุหลาบกลีบสุดท้ายล่วงโรย เจ้าชายและคนรับใช้จะกลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง แต่ถ้าไม่พวกเขาจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดกาล
หลายปีต่อมา ในหมู่บ้านวีย์เนิฟ (Villeneuve) หญิงสาวนามว่า เบลล์ ผู้ที่ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ อาศัยอยู่กับบิดาของเธอนามว่า มอริส ซึ่งเป็นจิตรกรและนักประดิษฐ์ เบลล์ถูกหมายตาโดย แกสตัน อดีตนักรบและนายพรานผู้หล่อเหลาแต่เย่อหยิ่ง ซึ่งเบลล์ปฏิเสธไปทุกครั้ง วันหนึ่ง ในขณะที่มอริสไปตลาดเพื่อขายกล่องดนตรี เขากลับหลงทางทางอยู่ในป่าและถูกสุนัขป่าทำร้าย เขาจึงมาหลบภัยในปราสาทอสูร และได้หยิบดอกกุหลาบในปราสาททำให้อสูรจองจำเพื่อเป็นการลงโทษ ต่อมาเบลล์ได้รู้ว่าบิดาของเธอหายตัวไป เธอได้ตามหาและพบเขาที่ถูกขังอยู่ในห้องขัง เธอจึงเสนอตัวว่าจะยอมถูกขังแทนบิดา ซึ่งอสูรก็ตกลง
ต่อมาเบลล์ได้ผูกมิตรกับเหล่าคนรับใช้ซึ่งรับรองเธอด้วยอาหารมื้อค่ำสุดวิเศษ หลังจากมื้อค่ำเธอได้ไปที่ปีกตะวันตกอันเป็นเขตต้องห้ามและเธอก็ได้ลองแตะต้องดอกกุหลาบวิเศษ เมื่ออสูรมาพบเข้าจึงโกรธและอาละวาดใส่เธอ เบลล์รู้สึกกลัวและรีบหลบหนีออกจากปราสาท ระหว่างทางเธอถูกสุนัขป่าโจมตี อย่างก็ตามอสูรก็ได้มาช่วยเธอไว้จนได้รับบาดเจ็บ เบลล์จึงช่วยปฐมพยาบาลให้เขา ด้วยเหตุนี้เองความสัมพันธ์ของทั้งสองได้พัฒนาขึ้น อสูรนั้นเริ่มมีความรู้สึกที่ดีต่อเบลล์ และเอาของขวัญมาให้เบลล์ดู ซึ่งนั่นก็คือหนังสือวิเศษ เบลล์ผ่านหนังสือวิเศษเข้าไปพบความจริงเกี่ยวกับตัวเธอ ซึ่งเมื่อเบลล์เห็นหน้ากากหมอกาฬโรค เธอก็รู้ทันทีว่า เมื่อเธอยังเป็นทารก บิดาของเธอทิ้งมารดาของเธอไปเพราะมารดาของเธอป่วยเป็นกาฬโรค ขณะเดียวกันเหล่าคนใช้ได้บอกเธอว่าเธอนั้นช่วยถอนคำสาปได้
ขณะเดียวกัน มอริสกับมาที่หมู่บ้านและบอกว่าลูกสาวของเขาถูกจับไปโดยอสูรร้าย แต่ทุกคนต่างเมินเฉย แกสตันจึงเสนอตัวมาช่วยมอริส ต่อมาแกสตันก็เปิดเผยว่าที่เขามาช่วยครั้งนี้เพื่อที่จะแต่งงานกับเบลล์ มอริสปฏิเสธ ทำให้แกสตันโกรธและมัดเขาไว้กับต้นไม้และทิ้งเขาไว้ในป่าเพื่อเป็นอาหารของสุนัขป่า แต่แล้วมอริสก็ได้รับช่วยเหลือโดยนักบวชหญิงชื่อ อกาธา ซึ่งแท้จริงแล้วคือผู้วิเศษแปลงกายมา และได้กลับมาเพื่อบอกชาวบ้านถึงการกระทำอันเลวร้ายของแกสตัน แต่แกสตันก็ใส่ร้ายมอริสว่าเขาเริ่มเสียสติ และยุยงชาวบ้านให้นำมอริสไปรักษาอาการทางจิต
หลังจากเบลล์ได้เต้นรำและพูดคุยกับอสูร เบลล์ก็รู้ว่าบิดาของเธอกำลังตกอยู่ในอันตรายผ่านกระจกวิเศษ และอ้อนวอนให้อสูรปลดปล่อยเธอไปหาบิดา อสูรทำตามใจเบลล์ แต่ต้องสัญญาว่าจะกลับมา เบลล์ให้คำสัญญา ก่อนไปอสูรมอบกระจกวิเศษให้กับเธอ เบลล์กลับบ้านไปพร้อมกับกระจกวิเศษ ที่หมู่บ้าน เบลล์ได้เข้ามาช่วยแก้ต่างให้มอริสโดยแสดงภาพอสูรจากกระจกให้ชาวบ้านได้เห็น ทำให้แกสตันส่งเธอไปขังอยู่กับบิดาของเธอ แกสตันได้ปลุกระดมพวกชาวบ้านเพื่อออกสังหารอสูร เพราะเชื่อว่าเป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่แล้วเบลล์กับมอริสก็หลบหนีออกมาได้ เบลล์จึงรีบกลับไปที่ปราสาทเพื่อช่วยอสูร
ขณะที่เบลล์กำลังมุ่งหน้าไปปราสาทอสูร พวกชาวบ้านพร้อมอาวุธ นำโดยแกสตันก็มาถึงปราสาทและบุกเข้าไปเพื่อตามหาอสูร เหล่าคนรับใช้ได้เข้ามาขัดขวางและต่อสู้กับชาวบ้านผู้บุกรุก ระหว่างการต่อสู้ แกสตันแยกตัวไปบนหอคอยของปราสาทและได้พบอสูร ซึ่งขณะนั้นอสูรกำลังหดหู่ คิดถึงแต่ชะตากรรมของตนเองเมื่อกุหลาบกลีบสุดท้ายใกล้จะร่วงโรย และแล้วแกสตันก็เข้าโจมตีอสูรที่ไม่ทันตั้งตัว แต่เบลล์ได้เข้ามาขวางและบอกให้แกสตันปล่อยอสูร แกสตันไล่เบลล์ไปและท้าสู้กับอสูรตัวต่อตัว อสูรเกือบจะฆ่าแกสตัน แกสตันผู้สู้อสูรไม่ได้ จึงร้องขอชีวิต อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นเบลล์กลับมา อสูรก็ไว้ชีวิตแกสตันไว้ ก่อนจะกลับมาหาเบลล์ ทว่า ขณะที่ทั้งสองสวมกอดกันนั้น แกสตันก็ยกปืนยิงข้างหลังอสูรเข้าอย่างจังจนบาดเจ็บ ไม่นานนัก สะพานก็ถล่มลงและแกสตันนั้นก็พลัดตกลงมาเสียชีวิตในที่สุด
ส่วนอสูรนั้นจบชีวิตลงจากการถูกยิงพร้อมกุหลาบกลีบสุดท้ายที่ร่วงลงมา แต่ เบลล์ได้สารภาพรักกับอสูร ผู้วิเศษปรากฏกายขึ้นและแก้คำสาป ทำให้เจ้าชายและเหล่าคนใช้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง ต่อมาเจ้าชายและเบลล์ก็เข้าพิธีอภิเษกสมรสและเต้นรำอย่างมีความสุข
นักแสดง
[แก้]- เอ็มมา วอตสัน แสดงเป็น เบลล์,[8] หนอนหนังสือสาวผู้งดงามและเต็มไปด้วยความฝันเกี่ยวกับการผจญภัยจากหมู่บ้านวีย์เนิฟ เธอนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอสูรและเริ่มมองเห็นความเป็นมนุษย์ในตัวเขา[1]
- เดย์ซี ดุซซ์มาล แสดงเป็น เบลล์ตอนทารก[1]
- แดน สตีเวนส์ แสดงเป็น เจ้าชาย/อสูร,[9] เจ้าชายเลือดเย็นผู้ถูกสาปให้กลายเป็นอสูรซึ่งต้องเรียนรู้ที่จะรักใครสักคนและคนที่เขารักตอบกลับมาถึงจะถอนคำสาปได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ครองรักกับเบลล์[1] สตีเวนส์แสดงเป็นตัวละครนี้ผ่านการจับภาพเคลื่อนไหว (motion-capture)[10]
- อดัม มิทเชล แสดงเป็น เจ้าชายขณะทรงพระเยาว์[1][a]
- ลุค อีแวนส์ แสดงเป็น แกสตัน,[11] นายพรานและอดีตสมาชิกกองทัพฝรั่งเศสผ่านศึก ผู้หล่อเหลาและมีร่างกายกำยำ แต่มีนิสัยหลงตัวเองและหยิ่งยโส ซึ่งหลงรักเบลล์และหมายมั่นที่จะให้เธอเป็นภรรยา
- เควิน ไคลน์ แสดงเป็น มอริซ,[12] พ่อของเบลล์ซึ่งเป็นม่าย เขาเป็นจิตรกรและนักประดิษฐ์
- จอช แกด แสดงเป็น เลอฟู,[13] คู่หูผู้เฮฮาและอดทนอดกลั้นของแกสตันผู้ที่คอยรองรับโทสะอันเร่าร้อนของแกสตันอยู่ตลอดเวลา
- ยวน แม็คเกรเกอร์ แสดงเป็น ลูเมียร์,[14] คนรับใช้ที่มีเสน่ห์ของเจ้าชาย ผู้ถูกสาปให้เป็นเชิงเทียน
- สแตนลีย์ ทุชชี แสดงเป็น แมสโตร คาเดนซ่า, นักประพันธ์เพลงในราชสำนักของเจ้าชายและสามีของมาดาม เดอ กาโรบ ซึ่งถูกสาปให้เป็นฮาร์ปซิคอร์ด[15]
- ออดรา แมคโดนัลด์ แสดงเป็น มาดาม เดอ กาโรบ, นักร้องโอเปร่าและภรรยาของคาเดนซ่า ผู้ถูกสาปให้เป็นตู้เสื้อผ้า[16]
- กูกู อึมบาทา-รอว์ แสดงเป็น พลูเมตต์, แม่บ้านและคนรักของลูเมียร์ ผู้ถูกสาปให้เป็นที่ปัดฝุ่น[17]
- แฮตตี โมราฮาน แสดงเป็น ผู้วิเศษ/อกาธา, ผู้วิเศษที่สาปเจ้าชายให้เป็นอสูร ซึ่งภายหลังปลอมตัวเป็นนักบวชในหมู่บ้านวีย์เนิฟ[18] โมราฮานยังเป็นผู้บรรยายของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
- ริตา เดวีส์ แสดงเป็น หญิงชรา,[1] ร่างที่ผู้วิเศษจำแลงมาเป็นขอทาน
- นาธาน แม็ก แสดงเป็น ชิพ, ลูกชายของคุณนายพอตส์ ผู้ถูกสาปให้เป็นถ้วยน้ำชา[19]
- เอียน แม็กเคลเลน แสดงเป็น ค็อกสเวิร์ธ, หัวหน้าคนใช้ที่ห้าวแต่ภักดี ผู้ถูกสาปให้เป็นนาฬิกา[20]
- เอ็มมา ทอมสัน แสดงเป็น คุณนายพอตส์,[12] หัวหน้าแม่บ้านประจำปราสาท ผู้ถูกสาปให้เป็นกาน้ำชา
- เอเดรียน ชิลเลอร์ แสดงเป็น มองซิเยอร์ ดาร์ก, ผู้คุมในโรงพยาบาลบ้าผู้ถูกแกสตันว่าจ้างให้นำมอริสไปรักษา
- เจอราร์ด โฮราน แสดงเป็น มองซิเยอร์ ฌอง พอตส์, ชาวบ้านในหมู่บ้านวีย์เนิฟผู้เป็นสามีของคุณนายพอตส์และพ่อของชิพ
- เฮยด์ กวินน์ แสดงเป็น โคธิลด์, ชาวบ้านในหมู่บ้านวีย์เนิฟผู้เป็นภรรยาของค็อกสเวิร์ธ
- เรย์ เฟียรอน แสดงเป็น บาทหลวงโรแบร์ท, บาทหลวงประจำหมู่บ้านผู้ให้เบลล์ยืมหนังสือในโบสถ์
- โซฟี ไรด์, ราฟาแอล โคเฮน, และ คาร์ล่า เนลล่า แสดงเป็น แฝดหญิงทั้งสามคน, หญิงสาวทั้งสามที่คอยประจบแกสตอง
- จิมมี จอห์นสัน, ดีน สตรีท, และ อเล็กซิส ลัวซง แสดงเป็น ทอม, ดิค, และ สแตนลี่, ชายสามคนผู้เป็นลูกน้องของแกสตอง
- โซ เรนเนย์ แสดงเป็น แม่ของเบลล์, ภรรยาของมอริสผู้เสียชีวิตด้วยกาฬโรคและเสียชีวิตเมื่อเบลล์ยังเป็นทารก
- คลิป โรว์ แสดงเป็น กูแซงนิเย่ร์, เชฟใหญ่ในปราสาทผู้ถูกสาปให้เป็นเตาไฟ
- โทมัส แพดเดน แสดงเป็น ชาโป, คนรับใช้ของเจ้าชายผู้ถูกสาปให้เป็นที่แขวนเสื้อ
- เฮนรี การแรตต์ แสดงเป็น พระราชา, พระราชบิดาของเจ้าชายผู้ที่บ่มเพาะให้เจ้าชายมีนิสัยเห็นแก่ตัวและหยิ่งยโสเหมือนเขา
- แฮเรียต โจนส์ แสดงเป็น พระราชินี, พระราชมารดาของเจ้าชายซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อเจ้าชายยังทรงพระเยาว์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 1.6 "Beauty and the Beast Press Kit" (PDF). Walt Disney Studios. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ April 22, 2017. สืบค้นเมื่อ April 7, 2017.
- ↑ "Beauty and the Beast (PG)". British Board of Film Classification. February 16, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 3, 2017. สืบค้นเมื่อ March 7, 2017.
- ↑ 3.0 3.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBOM
- ↑ 2017 Feature Film Study (PDF) (Report). FilmL.A. August 8, 2018. p. 21. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ August 9, 2018. สืบค้นเมื่อ August 11, 2018.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อForbesBudget
- ↑ McClintock, Pamela (May 24, 2016). "'Beauty and the Beast' Teaser Tops 'Star Wars: Force Awakens' in First Day". The Hollywood Reporter. สืบค้นเมื่อ May 25, 2016.
- ↑ Phillips, Ian; Acuna, Kristin (October 27, 2015). "Disney announced all its movies coming in the next 4 years — here's what you have to look forward to". Tech Insider. สืบค้นเมื่อ November 3, 2015.
- ↑ Sneider, Jeff (January 26, 2015). "Emma Watson to Star in Disney's 'Beauty and the Beast' (Exclusive)". TheWrap. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 27, 2015. สืบค้นเมื่อ January 27, 2015.
- ↑ Kit, Borys (March 4, 2015). "Disney's 'Beauty and the Beast' Casting Dan Stevens as the Beast (Exclusive)". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 22, 2023. สืบค้นเมื่อ February 27, 2024.
- ↑ Earnest, Karen (November 11, 2016). "Dan Stevens to Star in 'The Man Who Invented Christmas'". Movies.mxdwn.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 15, 2016. สืบค้นเมื่อ March 2, 2017.
- ↑ Kroll, Justin (March 4, 2015). "Luke Evans to Play Gaston in Disney's 'Beauty and the Beast' (EXCLUSIVE)". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 6, 2015. สืบค้นเมื่อ March 9, 2015.
- ↑ 12.0 12.1 Ford, Rebecca (March 16, 2015). "Disney's Live-Action 'Beauty and the Beast' Gets Release Date". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 18, 2023. สืบค้นเมื่อ February 27, 2024.
- ↑ Kit, Borys (March 13, 2015). "Josh Gad Joining Disney's Live-Action 'Beauty and the Beast' (Exclusive)". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 26, 2022. สืบค้นเมื่อ February 27, 2024.
- ↑ Kit, Borys (April 21, 2015). "Ewan McGregor to Play Lumiere in 'Beauty and the Beast' (Exclusive)". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 6, 2023. สืบค้นเมื่อ May 19, 2015.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTucciCast
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อMcDonaldCast
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อRawCast
- ↑ "Beauty and the Beast Release Date – 2017". Releasedateportal.com. June 30, 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 26, 2017. สืบค้นเมื่อ March 2, 2017.
- ↑ Gavin, Michael (August 27, 2016). "PHOTO: First look at Dan Stevens Beast (prince form) from Disney's live-action 'Beauty and the Beast' movie!". Inside the Magic. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 26, 2016. สืบค้นเมื่อ March 2, 2017.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อMcKellenCast
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เว็บไซต์ทางการ
- โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส
- โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ที่รอตเทนโทเมโทส์
- โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ที่เมทาคริติก
- โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ที่บ็อกซ์ออฟฟิศโมโจ
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref>
สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/>
ที่สอดคล้องกัน
- ภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2560
- Rotten Tomatoes template using name parameter
- ภาพยนตร์อเมริกันที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2560
- ภาพยนตร์อเมริกัน 3 มิติ
- ภาพยนตร์อเมริกัน
- ภาพยนตร์ภาษาอังกฤษ
- ภาพยนตร์ที่มีฉากในประเทศฝรั่งเศส
- ภาพยนตร์ที่มีฉากในปารีส
- ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในลอนดอน
- ภาพยนตร์ไอแมกซ์
- ภาพยนตร์โดยวอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์
- ภาพยนตร์จินตนิมิตเพลงอเมริกัน
- ภาพยนตร์เกี่ยวกับเจ้าหญิง
- ภาพยนตร์ที่มีฉากในปราสาท
- ภาพยนตร์ที่ถูกเซ็นเซอร์
- ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในเชปเปอร์ตันสตูดิโอส์
- ภาพยนตร์ที่ใช้การจับภาพเคลื่อนไหว
- ภาพยนตร์โรแมนติกจินตนิมิตอเมริกัน
- ภาพยนตร์เกี่ยวกับการเปลี่ยนรูปร่าง
- ภาพยนตร์เกี่ยวกับมด (บุคคล)
- ภาพยนตร์เกี่ยวกับคำสาป
- ภาพยนตร์ 3 มิติในปี พ.ศ. 2560