โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2560)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โฉมงามกับเจ้าชายอสูร
ใบปิดภาพยนตร์
กำกับบิล คอนดอน
บทภาพยนตร์
สร้างจาก
อำนวยการสร้าง
นักแสดงนำ
กำกับภาพโทเบียส เอ. ชลีสส์เลอร์
ตัดต่อเวอร์จิเนีย คัทซ์
ดนตรีประกอบแอลัน เมนเคน
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์
โมชันพิกเจอส์
วันฉาย23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 (สเปนเซอร์เฮาส์)
17 มีนาคม ค.ศ. 2017 (สหรัฐอเมริกา)
ความยาว129 นาที[1]
ประเทศสหรัฐอเมริกา[2]
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3][4]
ทำเงิน1.262 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[4]

โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (อังกฤษ: Beauty and the Beast) เป็นภาพยนตร์เพลงอเมริกันแนวโรแมนติก แฟนตาซี ผจญภัย ในปี ค.ศ. 2017 กำกับโดย บิล คอนดอน เขียนบทโดย สตีเฟน ชาบอสกี และ อีแวน สปิลลิโอโทปูลอส อำนวยการสร้างโดย วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส และ แมนด์วิลล์ฟิล์มส์[5] ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ใช้คนแสดงจริงรีเมกจากภาพยนตร์แอนิเมชันในชื่อเดียวกันในปี ค.ศ. 1991 โดยมีการดัดแปลงให้เข้ากับเทพนิยายของฌานน์-มารี เลอแปรงซ์ เดอ โบมง ภาพยนตร์เป็นการรวมนักแสดงนำโดยมีเอ็มมา วอตสันและแดน สตีเวนส์เป็นตัวละครหลัก ร่วมด้วยลุค อีแวนส์, เควิน ไคลน์, จอช แกด, ยวน แม็คเกรเกอร์, สแตนลีย์ ทุชชี, ออดรา แมคโดนัลด์, กูกู เอ็มบาธา-รอว์, เอียน แม็กเคลเลน และเอ็มมา ทอมสัน เป็นบทบาทสมทบ

ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของเบลล์ที่ถูกจับเป็นเชลยอยู่ในปราสาท โดยมีอสูรที่น่ากลัวอาศัยอยู่ซึ่งท้ายที่สุดก็ตกหลุมรักเธอ ที่นั้นทำให้เธอรู้ว่าอสูรเป็นเจ้าชายที่ถูกสาปโดยแม่มดลึกลับร่วมกับคนรับใช้ของเขา เพื่อเป็นการลงโทษความใจร้ายสำหรับความเยือกเย็นในอดีต เบลล์พยายามหาทางหลบหนีด้วยตัวเองขณะถูกหมาป่าตามล่า แต่ท้ายที่สุดก็นำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่างอีกฝ่ายหนึ่ง

การถ่ายทำเริ่มเดินกล้องถ่ายจริงในวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ที่เชปเพอร์ตอนสตูดิโอส์ในเซอร์รีย์ ประเทศอังกฤษ และสิ้นสุดในวันที่ 21 สิงหาคม โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ออกฉายในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 ที่สเปนเซอร์เฮาส์ในลอนดอน และในอเมริกาเหนือวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2017 ในระบบสองมิติ, ดิสนีย์ดิจิทัลทรี-ดี, เรียลดีทรีดี, ไอแมกซ์ และไอแมกซ์สามมิติ พร้อมด้วยระบบดอลบีซินีมา[6] ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวก และมีรายได้ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก

เนื้อเรื่อง[แก้]

หลายปีต่อมาในหมู่บ้านที่ชื่อว่าวีย์เนิฟ หญิงสาวนามว่าเบลล์ผู้ที่เต็มไปด้วยความฝันเกี่ยวกับการผจญภัย เธออาศัยอยู่กับพ่อของเธอนามว่ามอริสที่เป็นจิตรกรและนักประดิษฐ์ วันหนึ่งในขณะที่พ่อของเธอไปตลาดเพื่อขายกล่องดนตรี เขากับม้าของเขาฟิลิปหลงทางทางอยู่ในป่าและถูกหมาป่าทำร้าย เขาจึงมาหลบภัยในปราสาทอสูร และได้หยิบดอกกุหลาบในปราสาททำให้อสูรจองจำเพื่อเป็นการลงโทษ ต่อมาเบลล์ได้รู้ว่าพ่อของเธอหายตัวไปหลังจากฟิลิปกลับมา เธอได้ตามหาและพบเขาที่ถูกขังอยู่ในห้องขัง เธอจึงเสนอตัวว่าจะยอมถูกขังแทนมอริส ซึ่งอสูรก็ตกลง ต่อมาเบลล์ได้เป็นเพื่อนกับเหล่าคนรับใช้ซึ่งรับรองด้วยอาหารมื้อค่ำสุดวิเศษ หลังจากมื้อค่ำเธอไปที่ปีกตะวันตกอันเป็นเขตต้องห้ามและเธอก็ได้พบกุหลาบดอกหนึ่ง เมื่ออสูรมาพบเข้าจึงโกรธเธอมากและขู่เธอ ทำให้เธอหนีออกจากปราสาท ระหว่างทางเธอถูกหมาป่าโจมตี อย่างไรก็ตามอสูรก็ได้มาช่วยเธอไว้จนได้รับบาดเจ็บ เธอจึงช่วยปฐมพยาบาลให้เขา ด้วยเหตุนี้เองความสัมพันธ์ของทั้งสองได้พัฒนาขึ้น เหล่าคนใช้ได้บอกเธอว่าเธอนั้นช่วยถอนคำสาปได้ ขณะเดียวกันอสูรนั้นเริ่มมีความรู้ที่ดีเบลล์ขึ้นเรื่อยๆ และพาเธอไปที่ห้องสมุด เขาเอาของขวัญที่แม่มดให้มาให้เบลล์ดู ซึ่งนั้นก็คือหนังสือที่ทำให้ไปที่ใดก็ได้ตามที่ต้องการ เบลล์ใช้มันพาไปกังหันลมแห่งหนึ่งในปารีส ที่ที่เธอเคยอาศัยในวัยเด็ก เมื่อเธอพบกับหน้ากากของหมอ เธอจึงรู้ว่าเธอและพ่อของเธอถูกบังคับให้ทิ้งแม่ของเธอไปเนื่องจากแม่ของเธอเป็นกาฬโรค

ขณะเดียวกัน มอริสกับมาที่หมู่บ้านเพื่อขอให้ชาวบ้านช่วยเบลล์แต่ไม่สำเร็จ แกสตองอดีตทหารจึงเสนอตัวมาช่วยมอริสต่อมาเขาก็เปิดเผยว่าที่เขามาช่วยครั้งนี้เพื่อที่จะแต่งงานกับเบลล์ มอริสปฏิเสธทำให้แกสตองมัดเขาไว้กับต้นไม้และทิ้งเขาไว้ในป่าเพื่อเป็นอาหารของหมาป่า แต่แล้วมอริสก็ได้รับช่วยเหลือโดยอากาธา และได้กลับมาเพื่อบอกชาวบ้านถึงการกระทำอันเลวร้ายของแกสตอง แต่แกสตองก็ใส่ร้ายมอริสและบอกกับชาวบ้านให้เอามอริสไปรักษาทางจิต

หลังจากเบลล์ได้เต้นรำและพูดคุยกับอสูร เธอพบว่าพ่อของเธอตกอยู่ในอันตรายโดยใช้กระจกวิเศษ อสูรจึงปล่อยเธอไปเพื่อช่วยมอริสและก่อนไปเขาให้กระจกวิเศษกับเธอ ที่หมู่บ้านเบลล์ได้แก้ต่างให้มอริสโดยแสดงอสูรในกระจกให้ชาวบ้านได้เห็น ทำให้แกสตองส่งเธอไปขังอยู่กับพ่อของเธอและแกสตองได้ร่วมมือกับพวกชาวบ้านกันเพื่อสังหารอสูร แต่แล้วเบลล์กับมอริสหนีออกมาได้ เบลล์จึงรีบกลับไปที่ปราสาทเพื่อช่วยอสูร

ระหว่างการต่อสู้แกสตองทิ้งเลอฟูคู่หูของเขาซึ่งอยู่ข้างเดียวกับคนรับใช้ที่กำลังต่อสู้กับชาวบ้านผู้บุกรุก แกสตองได้โจมตีอสูรในหอคอยบนปราสาท ซึ่งตอนแรกนั้นอสูรนั้นกำลังหดหู่ ต่อมาเขาก็รู้สึกดีอีกครั้งเมื่อเห็นเบลล์กลับมา เขาได้ตอบโต้แกสตองจนจนมุมแต่ก็ได้ไว้ชีวิตแกสตองไว้และกลับมาหาเบลล์ อย่างไรก็ตามแกสตองได้ยิงที่หลังของอสูรอย่างจัง ไม่นานนัก สะพานก็ถล่มและแกสตองได้เสียชีวิตในที่สุด อสูรนั้นจบชีวิตลงพร้อมกุหลาบกลีบสุดท้ายที่ร่วงลงมา ขณะเดียวกันเหล่าคนใช้ก็จะกลายเป็นข้าวของเครื่องใช้ไปตลอดกาล ต่อมาเบลล์ได้สารภาพรักกับอสูร อากาธาได้เผยโฉมตัวเองว่าเป็นแม่มดและแก้คำสาป ทำให้อสูรและเหล่าคนใช้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง และความทรงจำที่หายไปจากผู้คนก็ได้กลับคืนมา ต่อมาเจ้าชายและเบลล์จัดงานฉลองขึ้นและเต้นรำอย่างมีความสุข








ปราสาทแห่งหนึ่ง ประเทศฝรั่งเศส เจ้าชายรูปงามผู้เลือดเย็น ทรงเชิญหญิงสาวผู้งดงามทั่วโลกมาร่วมพิธีเต้นรำ เพื่อเลือกคู่ครอง ขณะนั้น หญิงชราขอทานผู้หนึ่งมาพบเจ้าชายเพื่อขอที่พักหลบพายุฝน และมอบดอกกุหลาบให้เจ้าชายเป็นการแลกเปลี่ยน เจ้าชายทรงรังเกียจความอัปลักษณ์ของหญิงชรา จึงทรงปฏิเสธอย่างไม่ใยดี หญิงชรากลับร่างเป็นแม่มด เจ้าชายทรงตรัสขอให้นางอภัย แม่มดเห็นว่าพระทัยของเจ้าชายไร้ความรัก นางจึงสาปพระองค์ให้กลายเป็นอสูรที่น่าเกลียด และคนรับใช้ของเขากลายเป็นสิ่งของเครื่องใช้ รวมถึงลบความทรงจำที่เกี่ยวกับปราสาทออกจากหัวของคนที่รู้จักของพวกเขา แม่มดเสกดอกกุหลาบเอาไว้และบอกกับเจ้าชายว่าถ้าเจ้าชายทรงพบรักใครสักคนและคนที่พระองค์รักนั้นรักกลับมาก่อนกุหลาบกลีบสุดท้ายล่วงโรย เจ้าชายและคนรับใช้จะกลับมาเป็นคนได้อีกครั้ง แต่ถ้าไม่ พวกเขาจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดกาล

หลายปีต่อมาในหมู่บ้านVilleneuveหนอนหนังสือและนักประดิษฐ์สาวชื่อBelleเบื่อชีวิตในหมู่บ้านของเธออย่างมากและแสวงหาความตื่นเต้นและการผจญภัย ซึ่งตรงกันข้ามกับชาวบ้านที่มีจิตใจเรียบง่ายและค่อนข้างมีความสุขที่พวกเขาอยู่ พวกเขามองว่าเบลล์เป็นเด็กผู้หญิงที่แปลกและ "ตลก" มาก เบลล์อาศัยอยู่กับมอริซ พ่อของเธอ ซึ่งเป็นคนจรจัดและช่างทำกล่องดนตรี วันหนึ่ง มอริซและม้าของเขาฟิลิปป์ออกไปที่ตลาดและถามเบลล์ว่าเธออยากได้ของขวัญไหมเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน เบลล์ขอดอกกุหลาบและขอให้เขากลับมาอย่างปลอดภัย ในที่สุดแกสตันซึ่งทุกคนในหมู่บ้านถือเป็นวีรบุรุษเนื่องจากความสำเร็จในสนามรบจึงขอแต่งงานกับเบลล์ แต่เบลล์ปฏิเสธเขาเมื่อรู้ว่าเขาหยิ่งและเอาแต่ใจตัวเองมาก

ขณะเดียวกัน มอริซและฟิลิปป์หลงทางอยู่ในป่าขณะเดินทางไปตลาด ขณะที่หลงทางอยู่ในป่า พวกเขาก็เข้าไปในป่าส่วนหนึ่งซึ่งมีหิมะปกคลุมอย่างประหลาดในเดือนมิถุนายน และถูกหมาป่าโจมตีทำให้พวกเขาหนีไปยังปราสาทของอสูร ขณะที่อยู่ในปราสาท มอริซประสบกับความแปลกประหลาดและตกใจกับเสียงที่ดูเหมือนจะไม่มีแหล่งที่มา แม้ว่าเขาจะไม่เห็นเจ้าบ้าน แต่เขาเห็นว่าโต๊ะเสิร์ฟพร้อมอาหารเย็นสำหรับหนึ่งคน ขณะที่เขากำลังจะทานอาหารเย็นชิปเด็กหนุ่มที่กลายมาเป็นถ้วยน้ำชา ก็เคลื่อนไหวเข้ามาหาเขาอย่างกะทันหันและพูดคุยกับเขาซึ่งทำให้มอริซตะลึงอย่างยิ่ง เขาเปิดประตูทันทีและตรงไปที่ฟิลลิปเป้เพื่อหนีจากปราสาทประหลาดนี้ เมื่อเข้าใกล้ประตู มอริซสังเกตเห็นว่าสวนในปราสาทมีดอกกุหลาบที่สวยงามซึ่งทำให้เขานึกถึงสิ่งที่เบลล์ปรารถนา อย่างไรก็ตาม สัตว์ร้ายพบว่ามอริซกำลังเด็ดดอกกุหลาบจากสวนของปราสาทและกักตัวเขาไว้ ฟิลลิปเป้วิ่งกลับไปที่หมู่บ้านเพื่อตามหาเบลล์ เมื่อฟิลลิปเป้พาเบลล์ไปที่ปราสาท เธอเสนอที่จะเข้ามาแทนที่พ่อของเธอ แม้ว่าพ่อของเธอจะประท้วงก็ตาม สัตว์ร้ายยอมรับและปลดปล่อยพ่อของเธอให้เป็นอิสระ เบลล์ได้รับการปล่อยตัวโดย ลูมิแยร์ทหารราบคนแรกของปราสาทซึ่งกลายเป็นเชิงเทียนอันเป็นผลมาจากคำสาปของแม่มดสาว เบลล์ยังได้พบกับชาวปราสาทคนอื่นๆ ที่ถูกคำสาปเปลี่ยนไปเช่นกัน Cogsworthเมเจอร์โดโมที่กลายเป็นนาฬิกาลูกตุ้ม; นางพอตส์กาน้ำชาที่เป็นแม่บ้านจริงๆ ชิปลูกชายของเธอ ถ้วยน้ำชา; Maestro Cadenzaหนึ่งในนักดนตรีที่ปัจจุบันเป็นฮาร์ปซิคอร์ด มาดามเดอการ์เดอโรบ ภรรยาของกาเดนซาและนักร้องโอเปร่า และปัจจุบันเป็นตู้เสื้อผ้า สุนัขของพวกเขาFrouFrouที่วางเท้า; Chapeauเสื้อคลุมโค้ตที่จริงๆ แล้วเป็นพนักงานจอดรถ; Cuisinierซึ่งเป็นพ่อครัวและเตาไฟของปราสาท และPlumetteไม้ปัดฝุ่นขนนกที่เป็นสาวใช้และคู่หมั้นของLumière

หลังจากที่เจ้าหน้าที่นำอาหารมาให้เบลล์ เธอก็เดินเข้าไปในปีกตะวันตกต้องห้าม สัตว์เจ้าอารมณ์ค้นพบเธอและขู่ให้เธอหนีเข้าไปในป่า โดยที่เธอได้พบกับฝูงหมาป่าที่ไล่ล่ามอริซก่อนหน้านี้ สัตว์ร้ายช่วยชีวิตเบลล์ แต่เขาได้รับบาดเจ็บระหว่างนั้น เขาเริ่มมีความรู้สึกต่อเธอในขณะที่เธอดูแลบาดแผลของเขา สัตว์ร้ายอนุญาตให้เบลล์เข้าถึงห้องสมุดของเขาได้ และทั้งสองก็เริ่มมีความรู้สึกต่อกัน ในขณะที่สัตว์ร้ายตกหลุมรักเบลล์ เบลล์ไม่แน่ใจในความรู้สึกของเธอเนื่องจากการถูกจองจำ

ในขณะเดียวกัน มอริซกลับมาที่วิลล์เนิฟ แต่ไม่สามารถโน้มน้าวชาวเมืองให้ช่วยเหลือเบลล์ได้ แกสตันมองว่าการช่วยเหลือเบลล์จากสัตว์ร้ายเป็นโอกาสที่จะได้แต่งงานและตกลงที่จะช่วยมอริซ เมื่อมอริซรู้ถึงเจตนาแอบแฝงของเขาและปฏิเสธเขา แกสตันจึงมัดมอริซไว้กับต้นไม้และทิ้งเขาไว้ในป่าเพื่อที่หมาป่าจะฆ่าเขา มอริซได้รับการช่วยเหลือโดย Agathe ขอทาน แต่เมื่อเขากลับไปที่หมู่บ้านและบอกชาวเมืองเกี่ยวกับอาชญากรรมของแกสตัน แกสตันก็โน้มน้าวให้พวกเขาส่งมอริซไปที่โรงพยาบาลบ้าของเมือง เบลล์ ใช้กระจกวิเศษมองเห็นมอริซถูกจับ และสัตว์ร้ายยอมให้เธอออกไปเพื่อช่วยเขา โดยปล่อยให้เธอเก็บกระจกไว้เพื่อพบเขาอีกครั้ง แม้ว่านั่นหมายความว่าเธอจะไม่กลับมาอีกและคำสาปจะไม่ถูกทำลายก็ตาม ที่วิลเลอเนิฟ เบลล์ช่วยชีวิตมอริซและพิสูจน์สุขภาพจิตของเขาโดยแสดงให้สัตว์ร้ายเห็นด้วยกระจกวิเศษ เมื่อตระหนักว่าเบลล์รักสัตว์ร้าย แกสตันจึงขังเบลล์ไว้กับพ่อของเธอ และโน้มน้าวชาวบ้านว่าสัตว์ร้ายนั้นเป็นสัตว์ประหลาดกินคน และพาพวกเขาไปที่ปราสาทเพื่อฆ่าเขา อย่างไรก็ตาม มอริซและเบลล์หลบหนีจากการคุมขัง ส่วนเบลล์ก็รีบกลับไปที่ปราสาทเพื่อเตือนสัตว์ร้าย

ในขณะที่ชาวบ้านถูกคนรับใช้ปัดป้อง แกสตันก็ต่อสู้กับสัตว์ร้าย ในตอนแรก The Beast รู้สึกหดหู่เกินกว่าจะตอบโต้ แต่ก็กลับมามีความตั้งใจอีกครั้งหลังจากเห็นเบลล์กลับมาที่ปราสาท เขาต้อนแกสตันจนมุมและไว้ชีวิตก่อนที่จะพยายามกลับมาพบกับเบลล์อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะสามารถทำได้ แกสตันได้ยิงสัตว์ร้ายสาหัสสองครั้งที่ด้านหลัง จากนั้นก็ตกลงมาเสียชีวิตอันเป็นผลมาจากสะพานหินที่เขายืนอยู่ข้างใต้พังทลายลง สัตว์ร้ายเสียชีวิตจากกระสุนปืนของแกสตันเมื่อกลีบดอกสุดท้ายร่วงลงมาจากดอกกุหลาบและคนรับใช้ก็ไม่มีชีวิตโดยสิ้นเชิง เบลล์สารภาพรักกับเขาทั้งน้ำตาและจูบหน้าผากของเขา ในขณะที่ชมสถานที่เกิดเหตุและตระหนักว่าสัตว์ร้ายได้บรรลุเป้าหมายในการรักใครสักคนและได้รับความรักจากบุคคลนั้นเป็นการตอบแทน อกาเทก็เผยตัวเองว่าเป็นแม่มดและแก้คำสาปได้ ทำให้เจ้าชายและคนรับใช้ของเขากลับคืนสู่รูปแบบที่แท้จริง และฟื้นฟูปราสาทให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ความรุ่งโรจน์ในอดีต ชาวหมู่บ้านกลับมาที่ปราสาทพร้อมกับความทรงจำที่แท้จริงกลับคืนมาและกลับมารวมตัวกับคนที่พวกเขารักอีกครั้ง เจ้าชายและเบลล์แต่งงานกันและเป็นเจ้าภาพจัดงานเต้นรำในอาณาจักรที่พวกเขาเต้นรำเพื่อเฉลิมฉลองงานแต่งงานของทั้งคู่

นักแสดง[แก้]

  • เอ็มมา วอตสัน แสดงเป็น เบลล์ : หนอนหนังสือสาวผู้งดงามจากหมู่บ้านวีย์เนิฟ เธอนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอสูรและเริ่มมองเห็นความเป็นมนุษย์ในตัวเขา
  • แดน สตีเวน แสดงเป็น เจ้าชาย/อสูร : เจ้าชายเลือดเย็นผู้ถูกสาปให้กลายเป็นอสูรซึ่งต้องเรียนรู้ที่จะรักใครสักคนและคนที่เขารักตอบกลับมาถึงจะถอนคำสาปได้
  • ลุค อีแวนส์ แสดงเป็น แกสตอง : ทหารผ่านศึกและนายพรานผู้หลงรักเบลล์และหมายมั่นที่จะให้เธอเป็นภรรยา
  • เควิน ไคลน์ แสดงเป็น มอริส : พ่อของเบลล์ เขาเป็นจิตรกรและนักประดิษฐ์
  • จอช แกด แสดงเป็น เลอฟู : คู่หูของแกสตองผู้ที่คอยรองรับโทสะอันเร่าร้อนของแกสตองอยู่ตลอดเวลา
  • ยวน แม็คเกรเกอร์ แสดงเป็น ลูมิแอร์ : คนใช้ที่มีเสน่ห์ ผู้ถูกสาปให้เป็นเชิงเทียน
  • สแตนลีย์ ทุชชี แสดงเป็น แมสโตร คาเดนซ่า : นักประพันธ์เพลงและสามีของมาดาม เดอ กาโรบ ซึ่งถูกสาปให้เป็นฮาร์ปซิคอร์ด
  • เอียน แม็กเคลเลน แสดงเป็น ค็อกสเวิร์ธ : หัวหน้าคนใช้ที่ห้าวแต่ภักดี ผู้ถูกสาปให้เป็นนาฬิกา
  • เอ็มมา ทอมสัน แสดงเป็น คุณนายพอตส์ : หัวหน้าแม่บ้านประจำปราสาท ผู้ถูกสาปให้เป็นกาน้ำชา
  • ออดรา แมคโดนัลด์ แสดงเป็น มาดาม เดอ กาโรบ : นักร้องโอเปร่าและภรรยาของคาเดนซ่า ผู้ถูกสาปให้เป็นตู้เสื้อผ้า
  • กูกู เอ็มบาธา-รอว์ แสดงเป็น พลูเมตท์ : แม่บ้านและคนรักของลูมิแอร์ ผู้ถูกสาปให้เป็นที่ปัดฝุ่น
  • นาธาน แม็ก แสดงเป็น ชิพ : ลูกชายของคุณนายพอตส์ ผู้ถูกสาปให้เป็นถ้วยน้ำชา
  • แฮตตี โมราฮาน แสดงเป็น แม่มด/อากาธา : ชาวบ้านในหมู่บ้านวีย์เนิฟและแม่มดที่สาปเจ้าชายให้เป็นอสูร
  • เอเดรียน ชิลเลอร์ แสดงเป็น มองซิเยอร์ ดาร์ก : ผู้คุมในโรงพยาบาลบ้าผู้ถูกแกสตองว่าจ้างให้นำมอริสไปรักษา
  • เจอราร์ด โฮราน แสดงเป็น มองซิเยอร์ ฌอง พอตส์ : ชาวบ้านในหมู่บ้านวีย์เนิฟผู้เป็นสามีของคุณนายพอตส์และพ่อของชิพ
  • เฮยด์ กวินน์ แสดงเป็น โคธิลด์ : ชาวบ้านในหมู่บ้านวีย์เนิฟผู้เป็นภรรยาของค็อกสเวิร์ธ
  • เรย์ เฟียรอน แสดงเป็น บาทหลวงโรแบร์ท : บาทหลวงประจำหมู่บ้านผู้ให้เบลล์ยืมหนังสือในโบสถ์
  • โซฟี ไรด์, ราฟาแอล โคเฮน, และ คาร์ล่า เนลล่า แสดงเป็น แฝดหญิงทั้งสามคน : หญิงสาวทั้งสามที่คอยประจบแกสตอง
  • จิมมี จอห์นสัน, ดีน สตรีท, และ อเล็กซิส ลัวซง แสดงเป็น ทอม, ดิค, และ สแตนลี่ : ชายสามคนผู้เป็นลูกน้องของแกสตอง
  • โซ เรนเนย์ แสดงเป็น แม่ของเบลล์ : ภรรยาของมอริสผู้เสียชีวิตด้วยกาฬโรคและเสียชีวิตเมื่อเบลล์ยังเป็นทารก
  • คลิป โรว์ แสดงเป็น กูแซงนิเย่ร์ : เชฟใหญ่ในปราสาทผู้ถูกสาปให้เป็นเตาไฟ
  • โทมัส แพดเดน แสดงเป็น ชาโป : คนรับใช้ของเจ้าชายผู้ถูกสาปให้เป็นที่แขวนเสื้อ
  • เฮนรี การแรตต์ แสดงเป็น พระราชา : พ่อของเจ้าชายผู้ที่บ่มเพาะให้เจ้าชายมีนิสัยเห็นแก่ตัวและหยิ่งยโสเหมือนเขา
  • แฮเรียต โจนส์ แสดงเป็น พระราชินี : แม่ของเจ้าชายซึ่งตายในวัยเด็ก

อ้างอิง[แก้]

  1. "BEAUTY AND THE BEAST (PG)". British Board of Film Classification. February 16, 2017. สืบค้นเมื่อ March 7, 2017.
  2. "Beauty and the Beast (2017)". AllMovie. สืบค้นเมื่อ December 11, 2016.
  3. Kilday, Gregg (March 2, 2017). "'Beauty and the Beast' Director on How 'La La Land' Is Bringing Musicals Back". The Hollywood Reporter. สืบค้นเมื่อ March 2, 2017.
  4. 4.0 4.1 "Beauty and the Beast (2017)". Box Office Mojo. IMDb. สืบค้นเมื่อ July 9, 2017.
  5. McClintock, Pamela (May 24, 2016). "'Beauty and the Beast' Teaser Tops 'Star Wars: Force Awakens' in First Day". The Hollywood Reporter. สืบค้นเมื่อ May 25, 2016.
  6. Phillips, Ian; Acuna, Kristin (October 27, 2015). "Disney announced all its movies coming in the next 4 years — here's what you have to look forward to". Tech Insider. สืบค้นเมื่อ November 3, 2015.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]