สะพานพระราม 4
สะพานพระราม 4 | |
---|---|
สะพานพระราม 4 | |
เส้นทาง | ถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนชัยพฤกษ์ |
ข้าม | แม่น้ำเจ้าพระยา |
ที่ตั้ง | อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี |
ชื่อทางการ | สะพานพระราม 4 |
ผู้ดูแล | กรมทางหลวงชนบท |
รหัส | ส.005 |
เหนือน้ำ | สะพานนนทบุรี |
ท้ายน้ำ | สะพานคู่ขนานสะพานพระนั่งเกล้า |
ข้อมูลจำเพาะ | |
ประเภท | สะพานคานคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง |
ความยาว | 278.00 เมตร |
ความกว้าง | 40.00 เมตร |
ความสูง | 5.60 เมตร |
ประวัติ | |
วันเริ่มสร้าง | 1 ธันวาคม พ.ศ. 2546 |
วันเปิด | 8 ธันวาคม พ.ศ. 2549 |
สะพานพระราม 4 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมการคมนาคมระหว่างพื้นที่ตำบลบางตะไนย์กับตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด ทางตอนเหนือของจังหวัดนนทบุรี โดยสร้างเป็นส่วนต่อจากสะพานลอยรถข้ามห้าแยกปากเกร็ดตามแนวถนนแจ้งวัฒนะ ยกระดับเหนือถนนแจ้งวัฒนะย่านกลางเมืองปากเกร็ด ข้ามแม่น้ำตรงด้านเหนือของเกาะเกร็ด แล้วเชื่อมต่อกับถนนชัยพฤกษ์ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ (ก่อนที่จะไปบรรจบถนนราชพฤกษ์)
สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่อำเภอปากเกร็ด อำเภอบางบัวทอง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. 2540 โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณห้าแยกปากเกร็ดและถนนเชื่อมต่อ เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การคมนาคม การขนส่ง และการจราจร[1] กรมทางหลวงชนบทได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างถนนตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2546[2] ระหว่างนั้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณห้าแยกปากเกร็ดแห่งนี้ว่า สะพานพระราม 4 เพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์แห่งการรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว[3]กรมทางหลวงชนบทจึงได้ออกแบบและตกแต่งภูมิทัศน์ของสะพานตามแบบสถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ 4 ให้สอดคล้องกับชื่อที่ได้รับพระราชทาน[3]
เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ กรมทางหลวงชนบทจึงเปิดใช้สะพานพร้อมกับถนนชัยพฤกษ์ (ถนนเชื่อมต่อแนวตะวันออก-ตะวันตก) อย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2549[4] และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตรได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิดสะพาน พร้อมด้วยท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551[3]
ข้อมูลทั่วไป
[แก้]- วันที่ทำการก่อสร้าง : วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2546[2]
- วันเปิดการจราจร : วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2549[4]
- บริษัทที่ทำการก่อสร้าง : Taisei-Sino-Thai Joint Venture
- ราคาก่อสร้างเฉพาะส่วนสะพานและถนนเชื่อมต่อแนวตะวันออก-ตะวันตก (สัญญาที่ 1) : 1,511,722,429.91 บาท[2]
- แบบของสะพาน : สะพานคานคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง (prestressed concrete box-girder bridge)
- ความสูงช่องเรือลอด : 5.60 เมตร[2]
- ความยาวของสะพาน : 278.00 เมตร[2] (กลางสะพาน 134 เมตร ช่วงริมตลิ่งสองข้าง ข้างละ 72 เมตร)
- จำนวนช่องทางจราจร : 6 ช่องทางจราจร[2]
- ความกว้างสะพาน : 40.00 เมตร[2]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่อำเภอปากเกร็ด อำเภอบางบัวทอง และอำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. ๒๕๔๐" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 114 (ตอนที่ 50 ก): หน้า 15-17. 26 กันยายน 2540.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 กรมทางหลวงชนบท. "โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณห้าแยกปากเกร็ด และถนนเชื่อมต่อ." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dor.go.th/~pakkret เก็บถาวร 2008-09-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน [ม.ป.ป.]. สืบค้น 30 กันยายน 2551.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม. กองสารนิเทศ. "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินฯ ทรงประกอบพิธีเปิดสะพานพระราม ๔." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://media.thaigov.go.th/pageconfig/viewcontent/viewcontent1.asp?pageid=471&parent=468&directory=1821
&pagename=content2&contents=23275 เก็บถาวร 2011-11-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 2551. สืบค้น 30 กันยายน 2551. - ↑ 4.0 4.1 ประชาชาติธุรกิจ. "พระราชทานนาม พระราม 4 สะพานข้ามเจ้าพระยาแห่งใหม่เชื่อม กทม.-นนท์." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://news.sanook.com/
immovable/immovable_60444.php 2549. สืบค้น 30 กันยายน 2551.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ สะพานพระราม 4
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
13°54′57″N 100°29′38″E / 13.915802°N 100.493875°E
สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน | |||
---|---|---|---|
เหนือน้ำ สะพานนนทบุรี |
สะพานพระราม 4 |
ท้ายน้ำ สะพานคู่ขนานสะพานพระนั่งเกล้า |