ข้ามไปเนื้อหา

สมคิด พุ่มพวง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมคิด พุ่มพวง
ภาพถ่ายหน้าตรงของสมคิด
เกิด7 มกราคม พ.ศ. 2507 (60 ปี)[1]
ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ประเทศไทย[2]
ชื่ออื่นแดง[3]
บัง[4]
คิดเดอะริปเปอร์
แจ็กเดอะริปเปอร์เมืองไทย
มีชื่อเสียงจากฆาตกรต่อเนื่อง
สถานะทางคดีถูกคุมขัง
บุตร1 คน[5]
ข้อหาให้การเท็จ (พ.ศ. 2544)
ฆาตกรรมโดยเจตนา (คดีฆาตกรรมในปีพ.ศ. 2548)
ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมานหรือทารุณโหดร้าย (คดีฆาตกรรมในปีพ.ศ.2562)
บทลงโทษจำคุก 6 เดือน(ให้การเท็จในปี พ.ศ. 2544)
ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตภายหลังได้รับลดโทษเหลือ 10 ปี(ติดจริง 14 ปี)(คดีฆาตกรรมในปี พ.ศ. 2548)
ประหารชีวิตลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตภายหลังได้รับลดโทษเหลือ 10 ปี(ติดจริง 14 ปี) (คดีฆาตกรรมผ่องพรรณ)
ประหารชีวิต (คดีฆาตกรรมในปี พ.ศ. 2562)
รายละเอียด
วันที่พ.ศ. 2519 (กล่าวอ้าง)[note 1]
30 มกราคม พ.ศ. 2548 ถึง 21 มิถุนายน พ.ศ. 2548 และ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562[6]
ตำแหน่งประเทศไทย
ตาย6 ราย
9 ราย (กล่าวอ้าง)[note 1]
วันที่ถูกจับ
27 มิถุนายน พ.ศ. 2548
18 ธันวาคม พ.ศ. 2562 (ถูกจับครั้งที่ 2)

สมคิด พุ่มพวง หรือฉายา คิดเดอะริปเปอร์ (อังกฤษ: Kid the Ripper) เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อคดีฆาตกรรมในช่วง พ.ศ. 2548 และ พ.ศ. 2562 เขามีรูปแบบการฆาตกรรมด้วยการบีบคอ กดน้ำ และรัดคอเหยื่อ เขาถูกจับกุมที่จังหวัดชัยภูมิในคดีฆาตกรรมหมอนวดที่จังหวัดบุรีรัมย์ ศาลอุทธรณ์และฎีกาตัดสินจำคุกตลอดชีวิตทั้ง 5 คดี สมคิด พุ่มพวงได้รับการลดโทษลงมาเรื่อย ๆ ตามหลักเกณฑ์เนื่องจากประพฤติตัวดี เขาจึงถูกย้ายออกจากเรือนจำกลางบางขวาง กลับภูมิลำเนามาอยู่ที่เรือนจำหนองคาย ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2562 แต่ก็ได้ก่อคดีฆาตกรรมซ้ำอีกครั้งในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562[7]

ประวัติ

[แก้]

วัยเด็ก

[แก้]

สมคิด เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2507 ที่ตำบลกะปาง อำเภอทุ่งสง[8]โดยพ่อของเขาเป็นคนใจร้อน ซึ่งจะทำร้ายร่างกายภรรยาและเขาเมื่อเมาสุรา เมื่อเขาอายุ 8 ปี เขาถูกพ่อนำมาฝากไว้กับลุงที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อมาเขาได้เริ่มขโมยของภายในบ้าน วันหนึ่งเขาได้ไปขโมยรถจักรยานของครูทำให้เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียน ในช่วงวัยรุ่นเพื่อนบ้านซึ่งเป็นญาติห่างๆของเขาได้นำวัวมากินผักในสวนของลุงของเขา หลังจากที่เขาตักเตือนเพื่อนบ้านคนนั้นแต่เพื่อนบ้านไม่สนใจ เขาจึงนำเชือกวัวรัดคอวัวแล้วไล่ให้วัววิ่งจนคอวัวขาด[9] เมื่อเขาอายุ 14 – 15 ปี ลุงได้พาเขามาทำงานที่โรงเลื่อยโดยมีหน้าที่ขับรถนำไม้ยางไปส่งที่โรงงานในอำเภอทุ่งสง ซึ่งในระหว่างนั้นเขาฉ้อโกงเงินชาวบ้านจำนวนหลายคน[10] วันหนึ่งเขาถูกลุงจับได้ว่าขโมยเงินของเจ้าของโรงเลื่อย เขาจึงถูกลุงไล่ออกจากบ้าน เขาจึงกลับไปหาพ่อที่จังหวัดตรัง หลังจากได้กลับไปอยู่กับพ่อเขาชอบขโมยและทะเลาะวิวาทอยู่เป็นประจำ ต่อมาเขาถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายทำให้เขาหนีออกจากหมู่บ้าน[11]

การเป็นพยานเท็จ

[แก้]

หลังจากคดีฆาตกรรมปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร สมคิดซึ่งใช้ชื่อปลอมว่าสุวัฒน์ ชาญณรงค์ ได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยอ้างว่าตนเองเป็นพยานผู้เหตุการณ์ โดยอ้างว่าคนร้ายเป็นกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มของเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หลังจากการสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เขาสารภาพว่ามีคนจ้างวานให้การเท็จ ส่งผลให้ศาลตัดสินจำคุก 6 เดือน[12] ในระหว่างที่เขาถูกคุมขัง เขาได้เขียนจดหมายข่มขู่ครอบครัวของสุวัฒน์ วงศ์ปิยะสถิตย์ซึ่งเป็นแกนนำต่อต้านบ่อกำจัดขยะที่ตำบลราชาเทวะ[13][14]

การก่อคดีในปีพ.ศ. 2548

[แก้]

สมคิดใช้วิธีการฆาตกรรมด้วยการบีบคอ ใช้สายไฟรัดคอและกดน้ำ เขาถูกจับกุมที่จังหวัดชัยภูมิ ที่บ้านของภรรยา หลังจากตำรวจพบข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือของเหยื่อรายหนึ่ง ที่ถูกขโมยไปหลังถูกฆาตกรรมซึ่งถูกโทรออกจากจังหวัดชัยภูมิและเขาได้สารภาพทั้ง 4 คดี

การฆาตกรรมครั้งแรก

[แก้]

การฆาตกรรมครั้งแรกของเขาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2548 ในวันที่ 29 มกราคม สมคิดได้ใช้ชื่อของตนเองจองห้องพักหมายเลข 609 โรงแรมพลอยพาเลซ อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เมื่อเขาเดินทางมาถึง เขาได้ลงใบพักของโรงแรมด้วยชื่อของเขาเองและบอกพนักงานโรงแรมว่า เขาเป็นเจ้าของค่ายเพลง โดยจะมาหานักร้องไปออกแผ่นเสียงหรือทำเทปเพลง ถัดจากนั้นเขาได้พักผ่อนในห้องพักตามปกติ ในช่วงหัวค่ำ เขาได้เดินไปหาพนักงานโรงแรมโดยบอกว่าจะไปดูนักร้องคาเฟ่และอยากให้พาไป โดยพนักงานคนดังกล่าวได้ขับรถจักรยานยนต์พาเขาไปยังแสงตะวันคาเฟ่ เมื่อถึงแสงตะวันคาเฟ่ เขาได้เรียกนักร้องมานั่งและพูดคุย โดยได้อ้างว่าเขาเป็นเจ้าของค่ายเทปเพลงและมาหานักร้องมาอยู่ในค่ายเพลง[15] วันถัดมาเมื่อเวลา 01.00 น. วารุณี พิมพะบุตร อายุ 25 ปี นักร้องคาเฟ่ ได้ขับรถจักรยานยนต์สีชมพูซึ่งยังไม่ติดทะเบียนออกจากที่ทำงาน โดยเธอได้บอกกับเพื่อนร่วมงานว่าจะไปกินเหล้ากับแขกที่โรงแรม ต่อมาในเวลา 10.30 น. ได้มีคนพบศพของวารุณีในสภาพเปลือยท่อนบนโดยถูกมัดมือไพล่หลังด้วยผ้าเช็ดหน้านอนคว่ำในอ่างอาบน้ำ โดยจากการสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเธอเสียชีวิตมาแล้ว 6 ชั่วโมงและมาจากการถูกฆาตกรรมด้วยการจับกดน้ำ ส่วนสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท, โทรศัพท์มือถือ,เงินสดและรถจักรยานยนต์สีชมพูของเธอได้หายไป[16][17][18]

การฆาตกรรมครั้งที่ 2

[แก้]
ผ่องพรรณ์ ทรัพย์ชัย เหยื่อรายที่สองของสมคิด

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2548 สมคิดได้โทรศัพท์ไปยังโรงแรมเวียงนคร ที่ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยใช้ชื่อว่า นายสุชาติและนายประสิทธิ์ ขอจองห้องพักโรงแรมจำนวน 4 ห้องเป็นเวลา 3 วัน ต่อมาสมคิดได้เดินทางไปหา ผ่องพรรณ์ หรือ เปิ้ล ทรัพย์ชัย อายุ 34 ปี หมอนวดแผนโบราณให้ไปนวดที่โรงแรมเวียงนคร เมื่อเวลา 19.00 น. จันทร์ จิตคำ แฟนหนุ่มของผ่องพรรณ์ซึ่งเป็นช่างทำเฟอร์นิเจอร์ได้พาเธอไปส่งที่โรงแรมเวียงนคร โดยเธอได้บอกกับจันทร์ว่ามีแขกเหมาชั่วโมงรวม 3 วัน แต่จันทร์ไม่ได้คิดอะไร[19] เมื่อเวลา 19.30 น. ได้มีคนเห็นผ่องพรรณ์เดินมาขอกุญแจห้องหมายเลข 406 ต่อมาในวันที่ 4 มิถุนายน เวลา 11.20 น. แม่บ้านของโรงแรมได้พบศพของเธอบนเตียงนอนในห้องพักหมายเลข 406 โดยสภาพศพของเธอท่อนล่างเปลือยเปล่าโดยถูกผ้าขนหนูคลุมเอาไว้ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือบาดแผลใด ๆ โดยพบรอยเขียวช้ำรอบคอ และพบถุงยางอนามัยที่ข้างเตียงซึ่งถูกถอดทิ้งไว้แต่ไม่พบน้ำอสุจิภายในถุงยาง ส่วนแหวนทองคำน้ำหนัก2 สลึง,โทรศัพท์มือถือ และเงินสดจำนวน 3,000 บาทได้หายไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่าผู้เสียชีวิตน่าจะร่วมหลับนอนกับแขกแบบสอดใส่ด้านหลัง แต่อาจเกิดการพลั้งมือทำรุนแรงหรือนำศรีษะกดเข้ากับหมอนจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายแล้วแขกคนดังกล่าวได้ขโมยทรัพย์สินไป[20][21][22]

จังหวัดตรัง และจังหวัดอุดธานี

[แก้]
พัชรีย์ อมตนิรันดร์ เหยื่อรายที่สามของสมคิด

ในวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2548 สมคิดได้พบกับนางสาวพัชรีย์ อมตนิรันดร์ นักร้องคาเฟ่ อายุ 38 ปี เขาได้ตกลงกับพัชรีย์ให้ร่วมหลับนอนกับเขาที่ห้องพักหมายเลข 505 โรงแรมซีซาร์โฮเต็ล ในตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง เป็นเวลา 2 คืน เป็นจำนวนเงิน 4,000 บาท ในช่วงกลางคืนเขาได้ใช้สายไฟจากโคมไฟในห้องพักรัดคอพัชรัย์จนเสียชีวิต แล้วขโมยโทรศัพท์มือถือและเงินสดจำนวน 2,000 บาท[23][24] 6 วันต่อมา เขาใช้ชื่อชูชาติ ชาญชัยจองห้องพักหมายเลข 1126 ของโรงแรมเจริญศรีแกรนด์ รอยัล ที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อเวลา 17.00 น. เขาได้สั่งอาหารมารับประทานที่ห้องพัก ในเวลา 19.00 น. พนักงานโรงแรมได้นำอาหารมาส่งที่ห้อง สมคิดได้เปิดประตูห้องโดยพนักงานได้พบพรตะวัน ปังคะบุตร หมอนวดแผนโบราณในห้องพัก 4 ชั่วโมงต่อมา สมคิดกับพรตะวันได้ไปใช้ห้องคาราโอเกะเป็นเวลา 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นเขาได้ฆาตกรรมพรตะวันในห้องพัก[25][26]

การฆาตกรรมครั้งสุดท้ายและการจับกุม

[แก้]

วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ในช่วงหัวค่ำ เขาได้ลวงสมปอง พิมพรภิรมย์ หมอนวดแผนโบราณจากร้านนิวหัตถเวช นวดแผนโบราณในอำเภอเมืองนครราชสีมา ให้เดินทางไปกับเขาด้วยรถไฟไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากนั้นเขาได้เข้าพักกับสมปองที่ห้องหมายเลข 221 ปิยะแมนชั่น ต่อมาทั้งสองได้สั่งเบียร์ขึ้นมาดื่มในห้องพัก สมคิดจึงใส่ยานอนหลับในเบียร์ทำให้เธอจนหมดสติแล้วบีบคอเธอจนเสียชีวิต ก่อนจะชิงทรัพย์ของเธอหลบหนีไป[27]

ในวันที่ 21 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางไปยังปิยะแมนชั่น หลังจากมีการรับแจ้งว่าพบศพในห้องพักหมายเลข 221 โดยพบเบอร์โทรศัพท์ถูกเขียนไว้บนเตียงนอน โดยเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวเป็นเบอร์โทรศัพท์พี่สาวของสมปอง จากการสืบสวนพบว่าสมปองเป็นหมอนวดบริการที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ร้านนิวหัตถเวช โดยพบผู้ชายคนหนึ่งรับสมปองออกจากร้าน หลังจากการตรวจสอบในคดีอื่นพบว่าคนร้ายร้ายมีพฤติกรรมในการก่อคดีที่คล้ายกัน จึงส่งหลักฐานให้ตำรวจกองปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภาพของผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมเจริญศรีแกรนด์ รอยัล โดยจากการตรวจสอบชื่อผู้เข้าพักพบชื่อชูชาติ ชาญชัยเป็นผู้ต้องสงสัย แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่าชูชาติ ชาญชัยมีตัวตนอยู่จริง จากการตรวจสอบชื่อผู้ต้องสงสัยที่เข้าพักในสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุโดยพบชื่อชูชาติ กิ่งแก้ว, ณรงค์ นิลเนตร, สมคิด พุ่มพวงและวชัย พรหมพันธ์ุ โดยลายมือของผู้ต้องสงสัย 5 ชื่อใกล้เคียงกัน หลังจากการนำภาพกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบพบว่าผู้ต้องสงสัยมีลักษณะใกล้เคียงกัน จากการตรวจสอบชื่อผู้ต้องสงสัยพบว่าสมคิด พุ่มพวง เป็นบุคคลเดียวที่มีตัวตนอยู่จริง[28] ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าเบอร์โทรศัพท์ของสมปองถูกโทรศัพท์ออกจากจังหวัดชัยภูมิ โดยโทรศัพท์มือถือของสมปองถูกขโมยไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าสมคิดมีภรรยาเป็นแม่ม่าย และอาศัยอยู่ที่อำเภอเมืองชัยภูมิ

ในวันที่ 27 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังซุ่มอยู่รอบบ้าน ปรากฏพบสมคิดกับภรรยากำลังดูรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ในช่วงที่สรยุทธ สุทัศนะจินดา กำลังรายงานข่าวเกี่ยวกับการก่อคดีของเขาพอดี เมื่อภาพของสมคิดปรากฏในรายการ ภรรยาจึงถามเขา ส่งผลให้สมคิดตวาดภรรยา ตำรวจจึงนำกำลังเข้าไปในบ้านและจับกุมสมคิด โดยสมคิดไม่ได้ขัดขืน[29][30] จากการตรวจค้นบ้านพบทรัพย์สินของสมปองที่ถูกขโมยไป และพบซิมโทรศัพท์มือถือ 6 อัน, ถุงยางอนามัย 2 ห่อ, คีย์การ์ดของโรงแรม,กระเป๋าสตางค์สตรี, ตั๋วรถไฟจากนครราชสีมาไปไปจังหวัดบุรีรัมย์ 2 ใบ และตั๋วรถไฟจากบุรีรัมย์ไปจักราช 1 ใบ[31] โดยข้อมูลในบางแหล่งข่าวระบุว่าสมคิดถูกจับกุมที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิช่วงกลางคืน ขณะพาหมอนวดเข้าโรงแรมที่จังหวัดชัยภูมิ โดยเขาไม่ได้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้เปิดเผยว่าสมคิดมีสีหน้าที่เรียบเฉย ไม่ได้ตกใจ ส่วนหมอนวดตกใจ น่าจะคิดว่าฝ่ายชายไปทำอะไรผิด[32][33][34]

เหยื่อ

[แก้]

การสืบสวนสอบสวนจนทราบว่าเหยื่อทั้ง 5 รายนั้นเป็นฝีมือของฆาตกรคนเดียวกัน เขาได้สารภาพ 4 คดี ยกเว้นคดีฆ่านางสาวพัชรีย์

เหยื่อรายที่ ชื่อ วัน สถานที่ ประเภทของสถานที่ก่อเหตุ อาชีพ ลักษณะการก่อเหตุ
1 นางสาววารุณี พิมพะบุตร 30 มกราคม 2548 ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โรงแรม นักร้องคาเฟ่ ถูกจับมัดแล้วกดน้ำ
2 นางสาวผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย 4 มิถุนายน 2548 ตำบลสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โรงแรม หมอนวดแผนโบราณ ถูกบีบคอ
3 นางสาวพัชรีย์ อมตนิรันดร์ 11 มิถุนายน 2548 ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง โรงแรม นักร้องคาเฟ่ รัดคอด้วยสายไฟ
4 นางสาวพรตะวัน ปังคะบุตร 18 มิถุนายน 2548 ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โรงแรม หมอนวดแผนโบราณ กดน้ำ(จากคำพิพากษาระบุว่าบีบคอ)
5 นางสาวสมปอง พิมพรภิรมย์ 21 มิถุนายน 2548 ตำบลชุมเห็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ แมนชั่น หมอนวด บีบคอ

การสอบสวน

[แก้]
สมคิด พุ่มพวงหลังจากที่เขาถูกจับกุมเมื่อปี พ.ศ. 2548

หลังจากการจับกุมสมคิดถูกนำตัวไปฝากขังที่กองปราบปราบ โดยหาญ รักษาจิตร์ เณรแอ เป็นเพื่อนร่วมห้องขังของเขา[35] พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้เล่าถึงสอบสวนสมคิด โดยอัศวินได้ถามสมคิดว่า ฆ่าเขาทำไม สมคิดได้ตอบ โดยมีสีหน้าเรียบเฉยว่า "โมโหที่หมอนวดคิดราคาค่าบริการไม่เป็นไปตามที่คุยไว้ สมมติว่าก่อนร่วมกิจกรรมตกลงราคาที่ 500 บาท แต่เสร็จกิจกรรมมาคิดเงิน 800 บาท จึงโมโหและลงมือฆ่า ส่วนทรัพย์สินที่ขโมยไปคือของแถม" โดยเขาได้เล่าประวัติของชีวิตตนเองให้อัศวินฟังว่า เขาเป็นเด็กกำพร้า และไม่เคยเรียนหนังสือตั้งแต่เด็ก โดยไม่มีอาชีพ ซึ่งเขาได้ก่อเหตุลักเล็กขโมยต่อเนื่องมา[36] โดยสมคิดได้ใช้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนในคดีฆาตกรรมทั้ง 4 คดี แต่ปฎิเสธในคดีฆาตกรรมนางสาวพัชรีย์ อมตนิรันดร์ ที่จังหวัดตรัง[37] แต่พ.ต.ต.ภีมพศ น้อมชอบ บังคับบัญชาสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองตรังได้ให้เหตุผลว่า เนื่องจากสมคิดเป็นคนตรัง และเคยไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลกะปาง ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดตรัง ถ้าหากสารภาพว่ามาลงมือฆ่าคนในบ้านเกิดตัวเองก็คงจะรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่าเกลียด จึงได้ให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง โดยเขาได้กล่าวเพิ่มเติมว่ามีข้อมูลที่ยืนยันว่าสมคิดฆ่าพัชรีย์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ จากพฤติการณ์ในการก่อเหตุสามารถเชื่อมโยงกับคดีฆาตกรรมในคดีอื่น[38]

การพิจารณาคดี

[แก้]

การพิจารณาคดีของสมคิดถูกแยกเป็น 5 คดี โดยมีอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นผู้ยื่นฟ้อง[39]

ศาลอาญารัชดา สถานที่พิจารณาคดีสมคิด

คดีฆาตกรรมวารุณี พิมพะบุตร

[แก้]

ศาลอาญา ได้นัดอ่านคำพิพากษาสมคิด พุ่มพวงในวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ในคดีฆาตกรรมวารุณี พิมพะบุตร แต่สมคิดไม่สามารถเดินทางมายังศาลได้เนื่องจากถูกเบิกตัวไปสืบสวนในประเด็นอื่น ทำให้วันนัดอ่านคำพิพากษาถูกเลื่อนไปในวันที่ 21 สิงหาคม[40] ต่อมาในวันที่ 21 สิงหาคม ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีฆาตกรรมวารุณีว่าสมคิดมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีคำพิพากษาประหารชีวิตและชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 50,000 บาท แต่คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนและเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้างเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง จึงลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุกตลอดชีวิต[41] โดยร้อยตรีจุมพฏ หมวดชนะ ทนายความของสมคิดได้กล่าวว่าหลังจากถูกจับกุมสมคิดได้ศึกษาข้อกฎหมายจากคดีของเขาและคดีอื่น โดยสมคิดจะไปร่วมฟังการสืบพยานที่ศาลจังหวัดเชียงรายในวันที่ 7 กันยายน[42] ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2555 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆาตกรรมวารุณี[43][44]

คดีฆาตกรรมสมปอง พิมพรภิรมย์

[แก้]

ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 09.00 น. ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีฆาตกรรมสมปอง พิมพรภิรมย์ที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้พิพากษาประหารชีวิตและชดใช้ค่าเสียหายให้กับญาติของสมปองจำนวน 10,000 บาท[45] แต่คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้างจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต[46][47][48] และศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิตเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555[49][50]

คดีฆาตกรรมผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย

[แก้]
สมคิด พุ่มพวงขณะถูกนำตัวออกจากห้องพิจารณาคดีหลังจากศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิตเขาในคดีฆาตกรรมหมอนวดที่ลำปาง

ในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ 2552 เวลา 10.00 น. ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีฆาตกรรมผ่องพรรณ ทรัพย์ชัยที่จังหวัดลำปาง โดยได้พิพากษาประหารชีวิตเนื่องจากคำรับสารภาพไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ประกอบกับพฤติการณ์จำเลยกระทำการประทุษร้ายอย่างต่อเนื่องใน 5 เดือน เมื่อถูกจับกุมก็ไม่สำนึก กลับไปก่อเหตุส่งผลร้ายต่อสังคม จึงไม่มีเหตุลดโทษ และให้คืนทรัพย์แก่ญาติผู้ตาย หลังจากฟังคำพิพากษาสมคิดได้ตะโกนตำหนิคำพิพากษา ศาลจึงบอกสมคิดว่าหากติดใจคำพิพากษาให้ทนายความอุทธรณ์คดีได้ภายในเวลา 1 เดือน สมคิดจึงทำตาเหลือกและหายใจหอบ หลังจากนั้นทนายความได้เข้าไปพูดกับเขาเพื่อให้สงบสติอารมณ์ แต่สมคิดได้ตำหนิว่าทำงานไม่ดี ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้องมาเป็นทนายความให้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจศาลจะนำตัวเขาออกจากห้องพิจารณาคดี[51][52] ในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ศาลอุทธรณ์ได้แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีฆาตกรรมผ่องพรรณ ทรัพย์ชัยที่จังหวัดลำปาง โดยลดโทษจากประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิตเนื่องจากสมคิดรับสารภาพในชั้นจับกุมว่าสมคิดใช้สายรัดที่นอนรัดคอผ่องพรรณจนเสียชีวิต เนื่องจากไม่พอใจที่ผ่องพรรณทวงถามค่าบริการทางเพศ และสมคิดชี้ที่เกิดเหตุโดยละเอียด โดยเห็นว่าการรับสารภาพในชั้นจับกุมเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้างจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต[53]

คดีฆาตกรรมพัชรีย์ อมตนิรันดร์

[แก้]

ในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ 2554 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีฆาตกรรมพัชรีย์ อมตนิรันดร์ที่จังหวัดตรังว่าสมคิดมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เนื่องจากศาลเห็นว่าพฤติการณ์ที่ผู้ตายขาดอากาศหายใจจากการถูกสายไฟที่ได้มาจากโคมไฟในห้องพักรัดคอจนเสียชีวิต ฟังไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมานหรือกระทำการทารุณโหดร้าย จึงมีคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตและชดใช้ค่าทรัพย์สินแก่ญาติผู้เสียชีวิตเป็นเงินจำนวน 700 บาท[54][55] ต่อมาสมคิดได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อขอลดโทษ ในวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิต โดยเห็นว่าสมคิดไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองและในการพิจารณาคดีสมคิดไม่มีความสำนึกต่อความผิดโดยให้การปฎิเสธและต่อสู้คดีมาโดยตลอด อุทธรณ์ของสมคิดจึงฟังไม่ขึ้น[56][57]

คดีฆาตกรรมพรตะวัน ปังคะบุตร

[แก้]

ในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ 2554 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีฆาตกรรมพรตะวัน ปังคะบุตรที่จังหวัดอุดรธานี โดยมีคำพิพากษาประหารชีวิต แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตเนื่องจากการรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี[58] ต่อมาในวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ 2555 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิต[59]

การคุมขัง การสัมภาษณ์และการลดโทษ

[แก้]
วิดีโอหลายคลิปจากแหล่งข้อมูลภายนอก
video icon รายงาน คุกบางขวางเปิดอบรมทำอาหารครั้งแรก, วิดีโอยูทูบ

หลังจากการจับกุม สมคิดถูกคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวางตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 โดยสมคิดถูกจิตแพทย์ประเมินอาการจิตเวช แต่ก็ไม่พบว่าเขาเป็นโรคจิตเวช[60] ในระหว่างที่ถูกคุมขังสมคิดศึกษากฏหมายตามหลักสูตรสัมฤทธิบัตรของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช[61] และเขาได้เป็นนักโทษที่มีความประพฤติดีจนได้เลื่อนขั้นเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ตั้งแต่ปี พ.ศ 2552[62] เมื่อเขาไม่พอใจเจ้าหน้าที่เรือนจำคนไหน เขาจะเขียนหนังสือร้องเรียนและเคยร้องเรียนมาแล้ว ต่อมาในวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เป็นครั้งแรกที่เรือนจำกลางบางขวางเปิดให้ผู้ต้องขังฝึกอาชีพในการทำอาหาร ซึ่งมติชนทีวีได้ไปสัมภาษณ์ผู้ต้องขังและเผยแพร่วีดีโอข่าว โดยสมคิดได้ปรากฏตัวในวีดีโอ ซึ่งเขาได้สาธิตการทำปอเปี๊ยะทอด[63][64]

ในเดือนกรกฎาคมพ พ.ศ. 2558 สันติวิธี พรหมบุตร ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวไทย ช่างภาพ และโปรดิวเซอร์รายการข่าวดังข้ามเวลา ได้เดินทางเข้าไปยังเรือนจำกลางบางขวางเพื่อขอพูดคุยกับพันตรีเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ เพื่อนำข้อมูลมายืนยันในรายการข่าวดังข้ามเวลา ตอน พลิกแผนฆ่า ล่าปมสังหาร ระหว่างรอพันตรีเฉลิมชัย พวกเขาได้เห็นชายคนหนึ่งแอบมองพวกเขา ผู้คุมจึงเรียกชายคนดังกล่าวมาหาและบอกว่าชายคนดังกล่าวคือสมคิด พุ่มพวง ให้คุยรอพันตรีเฉลิมชัยไปก่อน สันติวิธีได้พูดคุยกับสมคิดเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อสันติวิธีถามว่าทำไมถึงต้องฆ่าผู้หญิงทั้ง 5 คน สมคิดตอบว่า เหยื่อบางคนโดยเฉพาะเหยื่อรายแรก เขารู้จักแต่ถูกหักหลังในบางเรื่อง และเหยื่อบางคนเป็นสายตำรวจ เขาจึงต้องฆ่าคนเหล่านั้น เมื่อสันติวิธีถามว่าสมคิดเรียนรู้วิธีการฆ่ามาจากไหน สมคิดจึงตอบว่า "เขาถนัดการหักคอเหยื่อ เพราะเรียนรู้วิธีฆ่ามาจากทหารเวียดกง ในสมัยที่เขาไปทำงานในบ่อนกาสิโนที่เวียดนาม"[65][66]

เรือนจำกลางบางขวาง ซึ่งเป็นสถานที่ที่สมคิดถูกคุมขังขณะจนกระทั่งทั่งย้ายไปเรือนจำกลางหนองคาย

ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2559 สันติวิธีได้ขอพบสมคิดในเรือนจำกลางบางขวาง เนื่องจากรายการข่าวดังข้ามเวลาจะทำเรื่องเกี่ยวกับสมคิด พุ่มพวง สันติวิธีได้พาโปรดิวเซอร์ 2 คน และช่างภาพ 1 คนเข้าในเรือนจำ เมื่อพบกับสมคิด โดยสมคิดถือหนังสือกฏหมายและสมุดบันทึก สมคิดจำสันติวิธีได้ จึงทักทายสันติวิธี โดยสันติวิธีได้ขอนำสิ่งที่พูดคุยกับสมคิดไปใช้ในสารคดีข่าว ซึ่งสมคิดได้อนุญาต โดยในการสัมภาษณ์ใช้เวลา 2 ชั่วโมง โดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องของเขา ในปี พ.ศ. 2548 สมคิดให้เหตุผลในการฆาตกรรมผู้หญิง 5 คนว่า เหยื่อรายแรกนางสาววารุณี พิมพะบุตร เขาอ้างว่าเป็นภรรยาเก็บเสี่ย หลอกเงินเสี่ยไปมาก จึงถูกสั่งเก็บและเขาได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 170,000 บาท เหยื่อรายที่ 2 นางสาวผ่องพรรณ์ ทรัพย์ชัย เขาอ้างว่าเธอยักยอกของผิดกฎหมาย เขาถูกว่าจ้างให้มาทวงของ และผ่องพรรณถูกคนว่าจ้างซ้อมจนเสียชีวิต และได้ค่าจ้างจำนวน 100,000 บาท เหยื่อรายที่ 3 นางสาวพัชรีย์ อมตนิรันดร์ เขาอ้างว่าเธอโกงค่าแชร์ เขาตามเจอตัวที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน แล้วนำตัวไปฆ่าที่จังหวัดตรัง และเขาได้รับค่าจ้างจำนวน 80,000 บาท เหยื่อรายที่ 4 นางสาวพรตะวัน ปังคะบุตร เขาอ้างว่าเป็นภรยาเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง สามีของเขาเป็นหนี้บ่อน เขาถูกว่าจ้างด้วยเงินจำนวน 90,000 บาท ให้มาทวงหนี้กับภรรยา เมื่อได้ได้เขาก็ฆ่าเธอ เหยื่อรายที่ 5 สมปอง พิมพรภิรมย์ เขาอ้างว่าเธอติดหนี้นายทุน เขารับจ้างทวง เอาตัวจากนครราชสีมาไปเข้าโรงแรมที่บุรีรัมย์ แต่เธอโวยวายเขาจึงหักคอเธอจึงเสียชีวิต และปฎิเสธว่าไม่ได้ข่มขืนเธอ[67]

วิดีโอหลายคลิปจากแหล่งข้อมูลภายนอก
บทสัมภาษณ์สมคิด พุ่มพวงในปี พ.ศ. 2559 โดยสันติวิธี พรหมบุตร
video icon ย้อนคำสัมภาษณ์ “สมคิด พุ่มพวง” ปี 58-59, วิดีโอยูทูบ

เมื่อสันติวิธีได้ขอให้สมคิดเล่าประวัติชีวิตในวัยให้ฟัง สมคิดได้เล่าว่าเขาเกิดที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเขามีชื่อเล่นว่า "แดง" โดยแม่ของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก เขาจึงต้องอาศัยอยู่กับพ่อและป้า ต่อมาพ่อของเขามีภรรยาใหม่ที่อำเภอห้วยยอด ตอนสมคิดเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สมคิดเล่นดีดลูกแก้วที่โรงเรียนส่งผลให้เขาถูกครูทำโทษโดยการตี เขาโกรธแค้นครูจึงใช้หนังสติ๊กยิงครู ในปีพ.ศ. 2516 ขณะที่เขาอายุ 9 ขวบ เขาถูกพ่อไล่ออกจากบ้าน เขาจึงหลบหนีเข้าป่าเขาบรรทัด เป็นเวลา 4 ปี แต่การสัมภาษณ์เขาเป็นครั้งแรกเขาเล่าว่า "เมื่ออายุ 8 ขวบ เขาถูกพ่อนำมาฝากไว้กับลุงที่จังหวัดนครศรีธรรมราช"[68] เมื่อสมคิดอายุ 13 ปี เขาได้รับงานเป็นมือปืนรับจ้างและยิงคนคนหนึ่ง หลังจากนั้นได้หลบหนีไปยังอำเภอห้วยยอดและจังหวัดภูเก็ต แล้วไปอยู่กับพ่อเลี้ยงหรือผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งที่อำเภอเชียงแสน และทำงานผิดกฎหมายให้กับพ่อเลี้ยงขณะอายุ 16 ปี ในปีพ.ศ. 2528 ขณะเขาอายุ 17 ปี เขาเดินทางกลับไปหาพ่อของเขาที่บ้านและก่อเหตุปล้นปืนของนายอำเภอส่งผลให้เขาติดคุกเป็นเวลา 3 ปี แต่คดีดังกล่าวก็ถูกยกฟ้องเนื่องจากขาดหลักฐาน ในปีพ.ศ. 2532 เขาอ้างว่าเขาไปรับจ้างยิงคน และในปีต่อมาเขาถูกจับกุมจากคดีฆ่าหั่นศพในอำเภอไทรน้อย แต่ไม่ถูกสั่งฟ้อง หลังจากนั้นเขาเป็นสายตำรวจ และกลับไปยังบ้านยายของเขาที่ภาคใต้ ต่อมาเขาได้ถูกจับกุมในความผิดฐานค้าอาวุธที่ชายแดนของภาคเหนือ หลังจากเขาออกจากเรือนจำในปีพ.ศ. 2536 เขาได้เปิดร้านซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า แต่เขามีเรื่องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผลให้ถูกจับกุมที่จังหวัดสกลนคร ก่อนจะพ้นโทษในปี พ.ศ. 2542 หลังจากนั้นเขาได้ย้ายไปยังจังหวัดร้อยเอ็ดแล้วถูกจับในคดีข่มขู่ ในอีก2 ปีต่อมา เขาใช้ชื่อปลอมว่าสุวัฒน์ ชาญณรงค์ ได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยอ้างว่าตนเองเป็นพยานผู้เหตุการณ์ โดยอ้างว่าคนร้ายเป็นกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มของเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ จึงถูกจับกุมในข้อหาให้การเท็จและศาลตัดสินจำคุก 6 เดือน หลังจากเขาพ้นโทษในปีพ.ศ. 2546 เขาไปอยู่กับคนมีชื่อเสียงและทำงานเป็นคนคุมบ่อนกาสิโนที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ก่อนที่เขาจะก่อเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องในอีก 2 ปีต่อมา[69][70] เมื่อสันติวิธีถามว่าสมคิดเรียนรู้วิธีการฆ่ามาจากไหน เขาตอบว่า เขาไปเรียนรู้วีธีหักคอมาจากอดีตทหารเวียดกง ตอนที่ไปทำงานในบ่อนกาสิโนในเวียดนาม โดยการตอบคำถามของเขาเกี่ยวกับการฆาตกรรมเหมือนกับเขามองเป็นเรื่องปกติและไม่สะทกสะท้านต่อความผิดและบอกว่าคนเหล่านั้นสมควรตาย

แล้วหนูแปรงฟัน อาบน้ำ รู้สึกอะไรไหม

— สมคิด พุ่มพวง, สมคิดหลังจากถูกทีมงานของรายการข่าวดังข้ามเวลาถามเกี่ยวกับความรู้สึกในการฆาตกรรมผู้หญิง 5 ราย, กรกฏาคม พ.ศ. 2559[71]

ซึ่งผู้คุมเรือนจำกลางบางขวางได้บอกกับสันติวิธีว่าสมคิดมักอยู่เงียบๆเพียงคนเดียว โดยเขาได้ให้เหตุผลกับสันติวิธีว่า "เพื่อการได้เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ซึ่งตอนนั้นมีผลต่อการได้คืนสู่อิสรภาพเร็วขึ้น และหากได้ออกจากเรือนจำ เขามีหนี้แค้นที่ต้องชำระ ซึ่งเป็นคนที่ทำให้เขาต้องติดคุก"[72][73][74]

ต่อมาเขาได้ขอย้ายกลับไปยังภูมิลำเนาโดยอ้างว่าเพื่อความสะดวกต่อการเยี่ยมญาติ[75] และถูกลดโทษลงเรื่อยๆตามหลักเกณฑ์การลดโทษจนเหลือโทษจำคุกไม่เกิน 25 ปี ส่งผลให้เขาถูกย้ายกลับภูมิลำเนายังเรือนจำจังหวัดหนองคาย ตลอดเวลาที่เขาถูกคุมขังที่เรือนจำจังหวัดหนองคายเขาไม่เคยมีญาติมาเยี่ยมเลย โดยเขาได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษในปี พ.ศ. 2562 ส่งผลให้เหลือโทษจำคุก 10 ปี แต่เขาติดคุกมาแล้ว 14 ปี ทำให้เขาถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำหนองคายเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2562[76][77]

การก่อคดีในปี พ.ศ. 2562

[แก้]

เหตุการณ์

[แก้]
รัศมี มุลิจันทร์ เหยื่อรายที่ 6 ของสมคิด หลังจากที่เขาพ้นโทษ

หลังจากได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำหนองคายเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ในอีก 10 วันต่อมา สมคิดได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมกับหลักฐานการเพิ่งพ้นโทษมายื่นขอเงินค่าเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ตำบลเขาปูน อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง โดยสมคิดอ้างว่าเขาเดินทางมายังจังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อหาญาติ แต่เขาไม่พบ และไม่มีเงินเดินทางกลับภูมิลำเนา สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด จึงจ่ายเงินค่าเดินทางแก่สมคิดจำนวน 851 บาท แบ่งเป็นค่ารถทัวร์กลับกรุงเทพ จำนวน 391 บาท ค่ารถไฟสายกรุงเทพ-ตรัง ค่ารถเมลล์จำนวน 25 บาท และค่าอาหาร 2 มื้อ เป็นจำนวนเงิน 160 บาท[78] จากนั้นได้พาสมคิดขึ้นรถไปส่งยังบขส.ร้อยเอ็ดเพื่อขึ้นรถเดินทางกลับ[79][80][81] ต่อมาในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2562 สมคิดได้เจอกับสุมาลีที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา จากการแนะนำของนาวสาวแตง(นามสมมติ) ซึ่งเขาเคยทำทีตีสนิทเธอ แต่นาวสาวแตงมีสามีอยู่แล้ว ทำให้เขาไปคบหากับสุมาลีแทน[82] ซึ่งสุมาลีเป็นเพื่อนของนางสาวแตง จากนั้นสมคิดกับสุมาลีได้ย้ายไปอยู่ด้วยกันและเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวในจังหวัดระยอง โดยเธอไม่ทราบว่าเขาคือฆาตกรต่อเนื่องที่พ้นโทษออกมา เนื่องจากสมคิดหลอกเขาว่าเขาเป็นทนายความ[83] ต่อมาในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เขาได้หลอกสุมาลีว่าจะไปทำงานด้านกฎหมายในพื้นที่ภาคอีสานแล้วขี่รถจักรยานยนต์ของเธอออกจากบ้านพักในจังหวัดระยอง[84] เพื่อไปหารัศมีที่จังหวัดขอนแก่นและอยู่อาศัยกับเธอ ในวันที่ 5 ธันวาคม เขาบอกว่าจะออกรถเก๋งให้รัศมีเพื่อเป็นของขวัญแต่งงาน เขาได้อ้างว่าติดแบล็คลิสจึงให้รัศมีจองรถด้วยชื่อของเธอเอง ในระหว่างนั้นรัศมีได้ปรึกษาพี่สาวของเธอในเรื่องขอให้เป็นผู้ค้ำประกันออกรถให้ ทำให้สมคิดได้ตีตัวออกห่างรัศมีและกลับไปหาสุมาลี[85] ต่อมาประมาณวันที่ 10 ธันวาคม รัศมีได้พาสมคิดมาหานางบุญเรือง อาจศักดิ์ พี่สาวต่างมารดาของเธอเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการแต่งงาน บุญเรืองได้ถามชื่ออะไร ทำงานอะไรและฟังภาษาอีสานรู้เรื่องไหม สมคิดได้ตอบบุญเรืองว่า เขาชื่อแขก เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำงานเป็นทนายความอาสา เขาอยากพารัศมีไปอยู่ด้วยเพราะเห็นว่าทำงานลำบาก โดยเขาจะออกรถกระบะให้ 1 คัน เงินผูกข้อไม้ข้อมือ 30,000 บาท และจะพาเธอไปอยู่ภาคใต้ด้วยกัน โดยบุญเรืองสังเกตว่าเวลาที่เขาพูดเขาจะหลบหน้าหลบตา จากการแต่งตัวของเขาทำให้เธอคิดว่าสมคิดไม่น่าจะใช่ทนายความอย่างแน่นอนเนื่องจากเขาใส่กางเกงขาสั้นและขับรถจักรยานยนต์มา เธอจึงไม่เชื่อว่าทนายความความที่ไหนจะมาแบบนี้และไม่ยินยอมให้รัศมีแต่งงานกับเขา ต่อจากนั้นเขาได้ออกอาการคล้ายคนโมโหและเดินทางกลับไปก่อน[86] โดยเขาบอกว่าในวันที่ 14 ธันวาคม จะให้ผู้ใหญ่และญาติ ๆ มาสู่ขอ ในวันที่ 12 ธันวาคม สมคิดได้นำรถจักรยานยนต์ของรัศมีไปจอดที่โรงพยาบาลขอนแก่น โดยเขาอ้างกับเธอว่า เขานำรถของเธอไปซ่อมที่อู่ในจังหวัดขอนแก่น[87]

บ้านของรัศมี มุลิจันทร์ สถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมรัศมี

ในวันที่ 15 ธันวาคม เพื่อนบ้านได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะวิวาทกันจนถึงช่วงเที่ยง ระหว่างนั้นรัศมีได้ร้องว่า "ยายดวนช่วยด้วย" เพื่อนบ้านจึงพยายามเข้าไปที่บ้านเพื่อช่วยเหลือ แต่สมคิดเปิดม่านตะโกนออกมาว่า มีอะไรและฝ้ายต้องการพักผ่อน เพื่อนบ้านจึงโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจและญาติ เมื่อญาติและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบบ้าน แต่ไม่พบสมคิดและรัศมี ตำรวจและญาติจึงเดินทางกลับ[88] ในช่วงเย็นเพื่อนบ้านยังไม่เห็นเธอออกไปทำงาน เพื่อนบ้านจึงไปเรียกหาเธอแต่ไม่มีเสียงขานรับ เพื่อนบ้านและญาติของรัศมีจึงเปิดประตูเข้าไปในบ้านแล้วตรวจค้นบ้านก่อนจะพบศพเธออยู่ใต้ที่นอนขนาด 8 ฟุต โดยสภาพศพของเธอท่อนบนสวมเสื้อยืดและท่อนล่างเปลือย โดยถูกห่อด้วยผ้าห่มบริเวณลำคอถูกพันด้วยเทปใส ที่ข้อเท้าถูกมัดด้วยสายชาร์จโทรศัพท์และไม่พบสมคิด[89] แพทย์ชันสูตรศพพบว่า สาเหตุการเสียชีวิตของรัศมีมาจากการขาดอากาศหายใจ โดยคนร้ายใช้สายไฟรัดคอแล้วใช้เทปใสพันคอซ้ำ[90] ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้าย ตรวจสอบจากหลักฐานต่าง ๆ ที่ได้ในที่เกิดเหตุรวมทั้งสอบสวนพยานและนำภาพถ่ายผู้ต้องสงสัย โดยพยานยืนยันตรงกันว่าคือสมคิด[91][92]

การล่าตัวและการจับกุม

[แก้]
ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะสมคิดเดินทางมาซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์

ในวันที่ 16 ธันวาคม พลตำรวจตรีจิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับบัญชากองปราบปราม กล่าวว่าได้สั่งการให้พันตำรวจเอกบุญลือ ผดุงถิ่น และพันตำรวจโทวิวัฒน์ จิตโสภากุล จัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเพื่อสนับสนุนกำลังตำรวจท้องที่สืบหาเบาะแสคนร้ายอย่างเร่งด่วน[93] ในเวลา 16.37 น. เพจเฟซบุ๊กของสถานีตำรวจภูธรกุมภวาปีได้โพสต์ว่ามีคนแจ้งเบาะแสของสมคิดว่าปลอมเป็นพระในเขตเมืองเก่ากุมภวาปี อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี[94] ในช่วงกลางคืนของวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบวัดต่าง ๆ ในอำเภอกุมวาปี แต่ก็ไม่พบตัวของสมคิด[95][96][97]

ในช่วงเช้าของวันถัดมา พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับสมคิด[98] จากนั้นศาลจังหวัดขอนแก่นได้อนุมัติหมายจับสมคิดในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมานหรือทารุณโหดร้าย[99] เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวได้พบกับจักกฤษ์ เชือกพรม ลูกชายของรัศมีที่วัดศรีสว่าง ตำบลหนองโก อำเภอกระนวน ขณะนำเสื้อผ้าของรัศมีมาวางไว้ที่ข้างโลงศพเพื่อเตรียมนำไปเผาในช่วงบ่ายของวันเดียวกันโดยเขาเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายการพิจารณาการลดโทษและขอให้แม่ของเขาเป็นเหยื่อรายสุดท้าย[100] โดยเขาให้ความเห็นว่า "ผมว่าไม่น่าจะปล่อยให้รอดออกมาก่อเหตุได้อีก เพราะเป็นบุคคลอันตราย ควรได้รับโทษประหารชีวิตเท่านั้น"[101]

ในเวลา 12.00 น. พลตำรวจตรีนันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าการล่าตัวสมคิดโดยเขาได้เปิดเผยว่าหลังจากมีการแชร์ข่าวลงในเพจสถานีตำรวจภูธรกุมภวาปีว่าสมคิดปลอมเป็นพระและหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่วัดบ้านผือ หรือมีผู้แจ้งว่าเห็นสมคิดไปนั่งกินเบียร์กระป๋องดูนักเรียนซ้อมเชียร์ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์[102] ซึ่งจากรายงานล่าสุดยังไม่พบตัวของสมคิด ซึ่งคาดว่าเป็นเพียงข่าวลือ แต่ก็ไม่ประมาท โดยได้สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานีในพื้นที่ออกสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ และหากพบผู้ต้องสงสัยให้เข้าตรวจสอบสามารถจับกุมได้ในทันที[103] ในเวลา 15.00 น.กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 และสถานีตำรวจภูธรกระนวนได้ตั้งรางวัลนำจับจำนวน 50,000 บาท ซึ่งจะมอบให้พลเมืองดีที่แจ้งเบาะแสของคนร้ายจนนำไปสู่การจับสมคิด[104] ในช่วงเวลาเดียวกันญาติของรัศมีได้ทำพิธีฌาปนกิจศพเสร็จสิ้นโดยทุกคนได้ขอให้ดวงวิญญาณของรัศมีดลบันดาลให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับฆาตกรรายนี้โดยเร็ว และขอให้ได้รับโทษประหารเพียงสถานเดียว[105]

การจับกุมสมคิด พุ่มพวงที่สถานีรถไฟปากช่อง

วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเบาะแสว่าสมคิดพยายามหลบหนีการจับกุมโดยใช้รถไฟเป็นยานพาหนะ โดยพบว่ามีการซื้อตั๋วรถไฟขบวน 234 สุรินทร์-กรุงเทพ ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์เพื่อเดินทางไปยังสถานีรถไฟอยุธยา ต่อมาในเวลาประมาณ 09.00 น. นักศึกษาคนหนึ่งได้เดินทางพร้อมกับแฟนสาวจากจังหวัดนครราชสีมาไปยังกรุงเทพ โดยทั้งสองได้นั่งตรงข้ามชายคนหนึ่ง แฟนสาวของเขาได้เหลือบมองใบหน้าของชายที่นั่งตรงข้ามและพบว่ามีลักษณะคล้ายสมคิด โดยเฉพาะรอยแผลเป็นที่คิ้วซ้ายเหมือนกับในประกาศจับของตำรวจ ทำให้ทั้งสองย้ายไปนั่งที่ตู้อื่น แล้วนักศึกษาได้โทรแจ้งตำรวจ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรหานักศึกษาเรื่อย ๆ และนักศึกษาได้ประสานงานกับตำรวจผ่านไลน์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถามว่าตอนนี้สมคิดยังอยู่ไหมและขบวนรถไฟอยู่บริเวณไหน นักศึกษาคนดังกล่าวจึงทำเป็นเดินผ่าน ๆ สมคิดพร้อมกับถ่ายรูปและวิดีโอส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ[106] ในเวลา 10.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปากช่อง ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟว่ามีพลเมืองดีพบสมคิด พุ่มพวงบนขบวนรถธรรมดาที่ 234 สุรินทร์-กรุงเทพ หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบจึงเข้าล้อมบริเวณชานชาลาสถานีรถไฟปากช่องไว้ก่อนที่ขบวนรถไฟจะเข้าจอดเทียบชานชาลา เมื่อรถไฟจอดสนิท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจู่โจมขึ้นบนตู้ที่ 2 พบสมคิดใส่เสื้อสีเทา ใส่หมวก แต่งกายปิดหน้ากากอนามัยที่จมูกและปากเพื่ออำพรางตัว นั่งปะปนอยู่กับผู้โดยสาร[107] เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับตัวเขาในทันที[108] ซึ่งสมคิดไม่ได้ขัดขืนและมีสีหน้าที่เรียบเฉย[109] จากการตรวจค้นพบมีดจำนวน 1 เล่ม[110] และตั๋วรถไฟขบวนที่ 234 สุรินทร์-กรุงเทพฯ จากตั๋วรถไฟพบว่าเขาจะเดินทางไปลงที่สถานีรถไฟอยุธยา[111][112]

บันทึกคำให้การ

[แก้]

สมคิด พุ่มพวงได้ให้การว่าวันที่ 14 ธันวาคม ได้ขับรถจักรยานยนต์ของรัศมีไปจอดไว้ที่โรงพยาบาลขอนแก่น และขับรถจักรยานยนต์ของตัวเองกลับไปหานางรัศมีที่ อำเภอกระนวน ทำให้รัศมีไม่พอใจและทะเลาะกัน จนถึงเช้าวันที่ 15 ธันวาคม สมคิดทะเลาะกับรัศมี เขาได้ใช้มือบีบคอเธอจนสลบจากนั้นได้เอาสายไฟ รัดคอซ้ำจนเธอเสียชีวิต จากนั้นนำเทปกาวใสมาพันรอบคอซ้ำ แล้วใช้สายชาร์จโทรศัพท์มัดเท้าแล้วเก็บศพไว้ใต้ที่นอนแล้วจึงหลบหนี[113]

การพิจารณาคดี

[แก้]

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2564 ศาลจังหวัดขอนแก่นมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต สมคิด พุ่มพวง เพียงสถานเดียว ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและโดยการทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย ลักทรัพย์ และซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ แต่เนื่องจากความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและโดยการทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้ายที่สมคิดได้กระทำนั้น เป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิต จึงไม่สามารถนับโทษในคดีที่เหลือต่อได้[114] ต่อมาในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้อ่านคำพิพากษาของคดีสมคิด และเขาได้ยื่นฎีกาในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2565 ซึ่งยังไม่พบข้อมูลของคำตัดสิน[115]

ดูเพิ่ม

[แก้]

เชิงอรรถ

[แก้]
  1. 1.0 1.1 จากการสัมภาษณ์ในปีพ.ศ. 2559 เขาอ้างว่ายิงคน 2 คนและถูกจับกุมในคดีฆ่าหั่นศพที่ไทรน้อยแต่ก็ไม่ถูกฟ้อง

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. พลเมืองดีชี้เป้า “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรต่อเนื่องผู้โด่งดัง พบเคยปลอมเป็นพระ
  2. Exclusive: รู้จักตัวตน “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรต่อเนื่อง “คิด เดอะริปเปอร์” ผ่านบทสัมภาษณ์ขณะอยู่ในเรือนจำ
  3. ไขปมวัยเด็ก “สมคิด พุ่มพวง” ถูกทิ้ง เคยอาสาทำดี ส่งจดหมายขู่ เอี่ยวคดีดัง มีลูก
  4. “สมคิด พุ่มพวง” รับสารภาพฆ่าเพราะบันดาลโทสะ รู้จักผู้ตายผ่านเฟซบุ๊ก ตร.ภาค 4 เตรียมทำแผน 19 ธ.ค.นี้ (ชมคลิป)
  5. เปิดใจ ลูกชาย ‘สมคิด พุ่มพวง’ เมื่อ’พ่อ’ต้องคำพิพากษาประหารชีวิตอีกครั้ง ‘รอขอทำศพ’
  6. ""สมคิด พุ่มพวง" แจ็ค เดอะริปเปอร์เมืองไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-01-11. สืบค้นเมื่อ 2022-01-11.
  7. เผย “หลักทัณฑวิทยา” ลดโทษ “สมคิด พุ่มพวง” คุกตลอดชีวิตเหลือ 14 ปี ก่อนก่อเหตุซ้ำ
  8. "ย้อนประวัติ "สมคิด พุ่มพวง"ฆาตกรต่อเนื่อง" [Revisiting the history of Somkid Pumpuang, a serial killer.]. PPTV HD. December 17, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-01-11. สืบค้นเมื่อ 2022-01-11.
  9. Exclusive: รู้จักตัวตน “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรต่อเนื่อง “คิด เดอะริปเปอร์” ผ่านบทสัมภาษณ์ขณะอยู่ในเรือนจำ
  10. พลิกปูมหลังวัยเด็ก “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรต่อเนื่อง ทำไมถึงโหดเหี้ยมผิดมนุษย์!!!
  11. ย้อนประวัติ “สมคิด พุ่มพวง”ฆาตกรต่อเนื่อง
  12. ย้อนคดีเขย่าขวัญ “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรต่อเนื่อง ฉายา “คิด เดอะริปเปอร์”
  13. ไขปมวัยเด็ก “สมคิด พุ่มพวง” ถูกทิ้ง เคยอาสาทำดี ส่งจดหมายขู่ เอี่ยวคดีดัง มีลูก
  14. Exclusive: รู้จักตัวตน “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรต่อเนื่อง “คิด เดอะริปเปอร์” ผ่านบทสัมภาษณ์ขณะอยู่ในเรือนจำ
  15. แฉ"สมคิด พุ่มพวง" ฆาตรกร 6ศพ พูดเก่ง สุภาพ มักอ้างเป็นเจ้าของค่ายเพลง
  16. เปิดฉากฆาตกรรมเหยื่อ “คิด เดอะริปเปอร์” รายที่ 1
  17. เลื่อนอ่านพิพากษา “สมคิด” ฆาตกรต่อเนื่องไป 21 ส.ค.
  18. ย้อนคดี "สมคิด พุ่มพวง" แจ็ค เดอะริปเปอร์เมืองไทย
  19. ตามดูห้องพักน้องเปิ้ล-สาวเชียงใหม่ เหยื่อ “คิด เดอะริปเปอร์” ลวงฆ่าคาโรงแรมดังลำปาง
  20. เปิดฉากฆาตกรรมเหยื่อ “คิด เดอะริปเปอร์” รายที่ 2
  21. เคยเจอฆาตกรต่อเนื่อง!! เปิดใจช่างตัดผมเล่าความหลัง…เหยื่อลำปางถูกลวงไปฆ่า
  22. เลื่อนอ่านพิพากษา “สมคิด” ฆาตกรต่อเนื่องไป 21 ส.ค.
  23. คุกตลอดชีวิต! “สมคิด” ฆาตกรฆ่าต่อเนื่องหมอนวด-นักร้องคาเฟ่
  24. พิพากษาประหาร“สมคิด พุ่มพวง”ฆาตกรต่อเนื่อง
  25. ย้อนคดีเขย่าขวัญ “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรต่อเนื่อง ฉายา “คิด เดอะริปเปอร์”
  26. เปิดใจพ่อเหยื่อรายที่ 5 เล่านาที ‘สมคิด เดอะริปเปอร์’ ฆ่าลูก
  27. เจ้าของแมนชั่น ที่เกิดเหตุ “คิด เดอะริปเปอร์” ฆ่าหมอนวด เปิดใจธุรกิจเกือบเจ๊ง
  28. พิพากษาประหาร“สมคิด พุ่มพวง”ฆาตกรต่อเนื่อง
  29. เปิดฉากฆาตกรรมเหยื่อ “คิด เดอะริปเปอร์” รายที่ 3-4-5
  30. ตำรวจบุรีรัมย์ มั่นใจ "คิด เดอะริปเปอร์" แค่ฆาตกรพเนจร ไม่ย้อนมาอีก
  31. เปิดฉากฆาตกรรมเหยื่อ “คิด เดอะริปเปอร์” รายที่ 3-4-5
  32. ผู้ว่าฯ อัศวิน เล่าถึงวันจับกุม "สมคิด" เมื่อปี 48 เชื่อลงมือเพราะเก็บกด
  33. รวบฆาตกรต่อเนื่อง ขณะลวงหมอนวดเหยื่อรายที่ 6 เข้าโรงแรม
  34. จับฆาตกรต่อเนื่องฆ่าหญิงสาว 5 คน
  35. ย้อนรอยคดี 'เณรแอ' จอมขมังเวทผู้พ่ายนารีพิฆาต
  36. ผู้ว่าฯ อัศวิน เล่าถึงวันจับกุม "สมคิด" เมื่อปี 48 เชื่อลงมือเพราะเก็บกด
  37. ย้อนประวัติ “สมคิด พุ่มพวง”ฆาตกรต่อเนื่อง
  38. ตร.ตรังพบหลักฐานมัด “สมคิด” ฆาตกรฆ่าหมอนวดตัวจริง
  39. คุกตลอดชีวิต'สมคิด'ฆาตกรต่อเนื่อง5ศพ
  40. เลื่อนอ่านพิพากษา “สมคิด” ฆาตกรต่อเนื่องไป 21 ส.ค.
  41. คุกชั่วชีวิต ปิดตำนานฆาตกรต่อเนื่อง “คิด เดอะริปเปอร์”
  42. พิพากษาประหาร“สมคิด”ฆาตกรต่อเนื่อง
  43. ศาลอุทธรณ์ยืนคุก"สมคิด พุ่มพวง"ตลอดชีวิต
  44. คุกตลอดชีวิต'สมคิด'ฆาตกรต่อเนื่อง5ศพ
  45. จำคุกตลอดชีวิต"สมคิด พุ่มพวง"ฆาตกรต่อเนื่อง 5 ศพ
  46. ประหาร'สมคิด พุ่มพวง' ก่อนจำคุกตลอดชีวิต ดับซ่าฆาตกรต่อเนื่อง
  47. ประหาร! “สมคิด พุ่มพวง” ปิดตำนานฆาตกรต่อเนื่อง
  48. ""สมคิด พุ่มพวง" แจ็ค เดอะริปเปอร์เมืองไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-01-11. สืบค้นเมื่อ 2022-01-11.
  49. อุทธรณ์ยืนประหารชีวิต “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรซาดิสต์หมอนวด
  50. อุทธรณ์จำคุก 'สมคิด พุ่มพวง' ตลอดทั้งชีวิต
  51. ประหาร! “สมคิด พุ่มพวง” ฆ่าหมอนวดลำปาง-เจ้าตัวตาเหลือกโวยไม่รับคำตัดสิน!
  52. สั่งประหารซ้ำ"สมคิด"ฆ่าต่อเนื่องไม่สำนึก
  53. อุทธรณ์แก้โทษประหาร “สมคิด” เหลือคุกตลอดชีวิตคดีฆ่าหมอนวดสาวลำปาง
  54. คุกตลอดชีวิต! “สมคิด” ฆาตกรฆ่าต่อเนื่องหมอนวด-นักร้องคาเฟ่
  55. จำคุกตลอดชีวิต 'สมคิด5ศพ' ฆาตกรต่อเนื่อง
  56. ขังลืม"คิด เดอะริปเปอร์" ฆาตกรต่อเนื่อง5ศพ
  57. คุกตลอดชีวิต!'สมคิด พุ่มพวง'ฆาตกร5ศพ
  58. จำคุกตลอดชีวิต สมคิด พุ่มพวง แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์เมืองไทย
  59. ยืนคุกตลอดชีวิตสมคิดฆาตรกรต่อเนื่องฆ่าหมอนวด
  60. เผย “หลักทัณฑวิทยา” ลดโทษ “สมคิด พุ่มพวง” คุกตลอดชีวิตเหลือ 14 ปี ก่อนก่อเหตุซ้ำ
  61. สมคิด พุ่มพวง ประวัติไม่ธรรมดา เรียนกฎหมายในคุก ตีเนียนขอเงินหน่วยงานรัฐ
  62. แฉ "สมคิด พุ่มพวง" โรคจิตของจริง เตือน เป็นบุคคลอันตรายอย่างยิ่ง
  63. เปิดคลิป "เชฟสมคิด พุ่มพวง" นักโทษชั้นดี สุภาพ-อ่อนโยน โชว์เมนู "ปอเปี๊ยะ"
  64. โซเชียลแห่แชร์คลิป “เชฟสมคิด พุ่มพวง” นักโทษชั้นดีสมัยอยู่คุกบางขวาง โชว์เมนู “ปอเปี๊ยะ”
  65. “สมคิด” ฆ่า 5 ศพปี 48 บอกเหมือนแปรงฟันอาบน้ำ-ถนัดหักคอเหยื่อ : ข่าวดังข้ามเวลา
  66. Exclusive: รู้จักตัวตน “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรต่อเนื่อง “คิด เดอะริปเปอร์” ผ่านบทสัมภาษณ์ขณะอยู่ในเรือนจำ
  67. ย้อนคำสัมภาษณ์ “สมคิด พุ่มพวง” ปี 58-59
  68. พลิกปูมหลังวัยเด็ก “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรต่อเนื่อง ทำไมถึงโหดเหี้ยมผิดมนุษย์!!!
  69. “สมคิด” ฆ่า 5 ศพปี 48 บอกเหมือนแปรงฟันอาบน้ำ-ถนัดหักคอเหยื่อ : ข่าวดังข้ามเวลา
  70. ฟังจากปาก “สมคิด พุ่มพวง” เล่าชีวิตในวัยเด็ก-มุมมืดที่กลายเป็นฆาตรกรต่อเนื่อง
  71. ย้อนคำสัมภาษณ์ “สมคิด พุ่มพวง” ปี 58-59
  72. “สมคิด” ฆ่า 5 ศพปี 48 บอกเหมือนแปรงฟันอาบน้ำ-ถนัดหักคอเหยื่อ : ข่าวดังข้ามเวลา
  73. ฟังจากปาก “สมคิด พุ่มพวง” เล่าชีวิตในวัยเด็ก-มุมมืดที่กลายเป็นฆาตรกรต่อเนื่อง
  74. นักข่าวเคยสัมภาษณ์สมคิดเล่า แต่งเรื่องเก่ง ฆ่าคนไม่สะทกสะท้าน
  75. ด่านหนองคายตรวจเข้มคนเข้าออก ป้องกัน “สมคิด เดอะริปเปอร์” หนีเข้าลาว
  76. 'สมคิด พุ่มพวง' ถูกสั่งประหารชีวิตสถานเดียว สรุปคดีฆาตกรต่อเนื่อง 6 ศพ
  77. ชูวิทย์ วิเคราะห์เหตุผล สมคิด พ้นคุก สมศักดิ์ จ่อให้นักโทษอุจฉกรรจ์ใส่กำไล EM ตลอดชีวิต
  78. แชร์ว่อน ไอ้คิด ตระเวนขอเงินหน่วยงานรัฐกลับบ้าน ชาวเน็ตแซะทำไมให้ง่ายจัง
  79. เปิดเอกสาร-ลายมือ ‘สมคิด’ ขอเงินพมจ.กลับบ้าน เผยอาการผิดปกติ
  80. เปิดหลักฐาน "สมคิด" ขอใช้เงิน พม.ยังชีพ
  81. ขุดภาพ ‘สมคิด’ ตระเวนขอเงินหน่วยงานรัฐ ‘ค่ารถ’ กลับบ้าน ชาวเน็ตงง! มีเงื่อนไขใด ทำไมให้ง่าย
  82. เปิดใจสาวหวิดเป็นศพที่ 7 สมคิด พุ่มพวง ไม่รู้เป็นฆาตกรต่อเนื่อง ถูกหลอกคบซ้อน
  83. ตร.ไม่เชื่อคำให้การ "สมคิด พุ่มพวง" น่าจะมีวางแผนฆ่า พบแอบคบหญิงซ้อนด้วย
  84. ตร.แฉแผนแสบ"สมคิด"หลอกเหยื่อดาวน์รถให้ ไม่สำเร็จจึงตีตัวออกห่าง ฝ่ายหญิงไม่ยอมจึงโดนฆ่า
  85. ตร.ไม่เชื่อคำให้การ "สมคิด พุ่มพวง" น่าจะมีวางแผนฆ่า พบแอบคบหญิงซ้อนด้วย
  86. คิด เดอะริปเปอร์ ฆ่าเหยื่อรายที่ 6 ในวันที่จะเข้าพิธีสู่ขอ
  87. 7 เดือนสมคิด พ้นโทษมาหลอกสาว 2 คน สร้างเรื่องเป็นทนาย ก่อนสังหารเหยื่อรายที่ 6
  88. เหมือนโดนบังตา หลานสาวเผยไม่เจอศพน้าถูกฆ่าเปลือย ต้องจุดธูปขอถึงได้เห็น
  89. พบศพหญิงวัย 51 ถูกฆ่าในบ้าน จ.ขอนแก่น เร่งหาตัวหนุ่มคนสนิทหายตัวไป
  90. สยอง!พบศพหญิงถูกฆ่าเปลือยคาบ้านพัก ตร.คาดฝีมือแฟนหนุ่ม
  91. "สมคิด พุ่มพวง" ฆ่าสาวศพที่6 กรมคุกเต้นเพิ่งได้อภัยโทษ (คลิป)
  92. ตร.ขอนแก่น ยันพยานชี้ตัว "สมคิด พุ่มพวง" คนร้ายฆ่าสาวใหญ่ เร่งขอหมายจับ (คลิป)
  93. จัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ
  94. ล่า "สมคิด พุ่มพวง" ฆาตกรต่อเนื่อง ตร.สืบเบาะแสปลอมเป็นพระยังไม่พบ
  95. ไม่พบตัว "สมคิด พุ่มพวง" ปลอมเป็นพระกบดาน กุมภวาปี อุดรฯ ตามเบาะแส
  96. ตร.ตรวจสอบพลเมืองแจ้ง 'นายสมคิด' ปลอมเป็นพระ สรุปเป็นคนละคน
  97. ตร.ขอนแก่น คาดใน 1-2 วันจะขอหมายจับ ผู้ต้องสงสัยเอี่ยวฆ่าเปลือยสาวใหญ่
  98. ออกหมายจับ "คิด เดอะริปเปอร์" ฆ่าโดยเจตนา มีคนเห็น "ปลอมเป็นพระ"
  99. ออกหมายจับ! "สมคิด" พลเมืองดีแจ้งเบาะแสโผล่เมืองอุดรธานี
  100. "ขอให้แม่ผมเป็นรายสุดท้าย" ลูกชายเหยื่อ หวั่น"สมคิด"จะไปฆ่าคนอีก
  101. เตรียมเผาศพเหยื่อสมคิด ลูกชายวอนแก้กฎหมาย “ขอให้แม่ผมเป็นเหยื่อรายสุดท้าย”
  102. ผวาทั้งจังหวัด! “คิด เดอะริปเปอร์” โผล่นั่งข้างๆ ดูเด็กผู้หญิงนุ่งสั้น ซ้อมเชียร์ลีดเดอร์
  103. ลือสนั่น “สมคิด พุ่มพวง” โผล่หนองประจักษ์ ผู้การอุดรฯ สั่งล่าตัว
  104. ตั้งค่าหัว 5 หมื่น "คิด เดอะริปเปอร์" เผาศพเหยื่อ ญาติขอวิญญาณพาไปจับ
  105. เผาศพแม่
  106. เปิดใจ นักศึกษาหนุ่ม ผงะเจอสมคิดบนรถไฟ นั่งตรงข้าม ทำทีแอบถ่าย แจ้งตำรวจ
  107. คนอยู่ในเหตุการณ์เล่านาทีรวบ "สมคิด พุ่มพวง" ฆาตกรต่อเนื่องบนรถไฟ (คลิป)
  108. ด่วน จับได้แล้ว "สมคิด พุ่มพวง" จนมุมบนรถไฟ
  109. "สมคิด พุ่มพวง" ตีตั๋วขึ้นรถไฟ ก่อนถูกรวบจนมุมที่ปากช่อง
  110. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบอาวุธที่นายสมคิดพกติดตัวตลอดเวลา
  111. เผย รถไฟมาช้า 32 นาที "สมคิด" จนมุมที่ปากช่อง ยอมให้จับโดยละม่อม
  112. ไปไม่ถึงอยุธยา "สมคิด พุ่มพวง" โดนจับที่โคราช พลเมืองดีแจ้งเบาะแส
  113. เปิดคำรับสารภาพ "สมคิด พุ่มพวง" ฆาตกรโรคจิต เหตุฆ่าศพที่ 6 สาวกระนวน
  114. ศาลประหารชีวิต "สมคิด พุ่มพวง" ฆาตกร 6 ศพ ชี้ไม่สำนึก-ขาดความเมตตา
  115. "ระบบติดตามสำนวนคดี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-05-26. สืบค้นเมื่อ 2024-06-26.