จอห์น เบาว์ริง
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง คุณสามารถพัฒนาบทความนี้ได้โดยเพิ่มแหล่งอ้างอิงตามสมควร เนื้อหาที่ขาดแหล่งอ้างอิงอาจถูกลบออก |
เซอร์ จอห์น เบาว์ริง | |
---|---|
![]() | |
จอห์น เบาว์ริง ในปี ค.ศ. 1826 | |
ข้าหลวงแห่งฮ่องกง | |
ดำรงตำแหน่ง 13 เมษายน ค.ศ. 1854 – 9 กันยายน ค.ศ. 1859 | |
กษัตริย์ | สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร |
ก่อนหน้า | เซอร์ จอร์จ บอนแฮม |
ถัดไป | เฮอร์คิวลิส รอบินสัน |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 17 ตุลาคม ค.ศ. 1792 เอ็กซิเตอร์, อังกฤษ |
เสียชีวิต | 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 1872 (80 ปี 37 วัน) แกลร์มงต์, อังกฤษ |
พรรคการเมือง | กลุ่มหัวรุนแรง |
คู่สมรส |
|
วิชาชีพ | สภาชิกรัฐสภาอังกฤษ |
ศาสนา | เอกนิยม |
เซอร์จอห์น เบาว์ริง (อังกฤษ: Sir John Bowring; 17 ตุลาคม พ.ศ. 2335 – 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2415) เป็นเจ้าเมืองฮ่องกง (ค.ศ. 1848-1857) พ่อค้า นักการทูต นักเศรษฐศาสตร์การเมือง นักการศาสนา นักแต่งเพลงสวด กวี นักประพันธ์ บรรณาธิการ และนักภาษาศาสตร์ (โดยรู้ถึง 10 ภาษาหลัก ๆ ทั้งหมด ในยุโรป รวมทั้งภาษาจีน)[ต้องการอ้างอิง] ตลอดจนถึงเป็นราชทูตที่ได้รับการแต่งตั้งจาก สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งอังกฤษ เพื่อเข้ามาเจริญพระราชไมตรีและเจรจาทำสนธิสัญญากับราชสำนักไทย ในปี พ.ศ. 2398 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในที่สุดก็มีการลงนามในสนธิสัญญาเบาริง เมื่อวันที่ 18 เมษายนปีเดียวกัน
สนธิสัญญาฉบับนี้มีผลให้สยามต้องเสียอำนาจอธิปไตยทางการศาลและคนในบังคับอังกฤษมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขตในสยาม นอกจากนี้ สนธิสัญญาดังกล่าวเป็นการเปิดการค้าเสรีกับต่างประเทศ ถือเป็นการสิ้นสุดของการผูกขาดการค้ากับต่างประเทศโดยกรมพระคลังสินค้าของสยาม สนธิสัญญานี้มีผลใช้บังคับอยู่นานกว่า 70 ปี
ท้ายที่สุดสมัยปลายรัชกาลที่ 4 และต้นรัชกาลที่ 5 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอนและทวีปยุโรป ถือได้ว่าเป็น “ตัวแทนประจำคนแรกของไทย” ก็ว่าได้[ต้องการอ้างอิง] มีบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาสยามมานุกูลกิจ สยามมิตรมหายศ”
ประวัติ[แก้]
เซอร์ จอห์น เบาว์ริง เกิดที่นครเอ็กซิเตอร์ มณฑลเดวอน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ เป็นเด็กฉลาดหลักแหลม เรียนเก่ง เขาสามารถพูดได้ถึง 10 ภาษาหลัก ๆ ในทวีปยุโรปทั้งหมดรวมถึงจีนกลาง เริ่มเขียนบทความลงใน "Westminster Review” นิตยสารวิเคราะห์เศรษฐกิจ ต่อมาในปี 2368 ได้ขึ้นเป็นบรรณาธิการ และได้ย้ายไปเนเธอร์แลนด์เรียนจบนิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (Doctor of Laws) จากมหาวิทยาลัยกรอนิงเกน (University of Groningen) ต่อมาได้เป็นสมาชิกของสภา Kilmarnock Burghs จากนั้นได้รับการแต่งตั้งไปเจรจาทางการค้ากับฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ซีเรีย และเยอรมัน ซึ่งต่อมาได้เป็นตัวแทน การเจรจาทางการค้ากับจีนที่เมืองกวางจูในปี 2392 หลังจากนั้นอีก 5 ปี ก็ขึ้นเป็นข้าหลวงอังกฤษประจำฮ่องกง เมื่อฮ่องกงตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ หลังจีนพ่ายแพ้ในสงครามฝิ่นครั้งที่สอง และได้ขึ้นเป็นเจ้าเมืองฮ่องกง ในปี 2398
เบาว์ริงได้เชิญพระราชสาสน์ในสมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรีย พร้อมด้วยเครื่องราชบรรณาการเข้ามาทำสนธิสัญญาทางไมตรีกับสยาม สัญญาฉบับนั้นคือ "สนธิสัญญาเบาว์ริง” เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2398 ซึ่งเป็นผลทำให้สยามต้องสูญเสียอำนาจอธิปไตยทางการศาล และมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต และทำให้เกิดการค้าเสรีถือเป็นการสิ้นสุดของการผูกขาดการค้าต่างประเทศ โดยพระคลังสินค้าของสยาม
ช่วงต้นรัชกาลที่ 5 เบาว์ริง ได้รับแต่งตั้งเป็นอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และทวีปยุโรป มีบรรดาศักดิ์เป็น "พระยาสยามมานุกูลกิจ สยามมิตรมหายศ” ต่อมาในปี พ.ศ. 2404 เบาว์ริงย้ายไปเป็นตัวแทนทางการค้าที่อิตาลี และอีกหลายประเทศในยุโรป เบาว์ริงเสียชีวิตเมือวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2415
สนธิสัญญาเบาว์ริง[แก้]
สนธิสัญญาเบาว์ริง ว่าด้วย “การค้าเสรี” อันเป็น “ระเบียบใหม่” ของโลกในยุคลัทธิจักรวรรดินิยม อาณานิคมตะวันตก ลงนามกันระหว่างอังกฤษและสยามเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2398 (ค.ศ. 1855) ในสมัยนายกรัฐมนตรี เฮนรี จอห์น เทมเพิล ไวเคานท์พาลเมอร์สตันที่ 3 รัฐบาลในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย และราชอาณาจักรสยาม สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
สนธิสัญญานี้มีความสำคัญอย่างยิ่งและใช้บังคับอยู่เป็นเวลา ถึง 70 กว่าปี จนกระทั่งมีการแก้ไขค่อยๆยกเลิกไปในสมัยรัชกาลที่ 6 ภายหลังเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลงเมื่อปี พ.ศ. 2461 (1918) แต่กว่าจะสิ้นสุดสมบูรณ์ ก็ล่วงมาถึงในปี พ.ศ. 2482 (1938) ในรัฐบาล จอมพล ป พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ได้มีการแก้ไขและลงนามในสนธิสัญญาใหม่กับประเทศตะวันตก (และญี่ปุ่น) ใหม่ทั้งหมด
ดูเพิ่ม[แก้]
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: จอห์น เบาว์ริง |
อ้างอิง[แก้]
- เกร็ดความรู้: 24 มีนาคม สารคดี
- วันนี้ในอดีต: 17 ตุลาคม สารคดี