เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิท
ผู้จัด | เอเอฟซี |
---|---|
ก่อตั้ง | 1967 (ปรับปรุงในปี ค.ศ. 2002 และ ค.ศ. 2024) |
ภูมิภาค | ทวีปเอเชีย (เอเอฟซี) |
จำนวนทีม | 40 (รอบแบ่งกลุ่ม) |
ผ่านเข้าไปเล่นใน | ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ฟีฟ่าอินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ |
การแข่งขันที่เกี่ยวข้อง | เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกทู (ระดับที่ 2) เอเอฟซีแชลเลนจ์ลีก (ระดับที่ 3) |
ทีมชนะเลิศปัจจุบัน | อัล-อิน (สมัยที่ 2) |
ทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุด | อัลฮิลาล (4 สมัย) |
เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิท 2024–25 |
เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิท (AFC Champions League Elite) เป็นการแข่งขันฟุตบอลของทีมสโมสรอาชีพจากประเทศที่เป็นสมาชิกของเอเอฟซี โดยทีมที่เข้าร่วมแข่งขันจะมาจากทีมสโมสรที่ชนะเลิศและรองชนะเลิศการแข่งขันจากแต่ละประเทศ โดยในการแข่งขันแชมเปียนส์ลีกนี้จะมี 40 สโมสร จาก 20 ลีกสูงสุดของแต่ละประเทศในทวีปเอเชียเข้าร่วมแข่งขัน
ทีมชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลจำนวน 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม) และได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันในรายการฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพในช่วงปลายปีเดียวกัน
ประวัติ
[แก้]ยุคชิงแชมป์สโมสรเอเชียยุคแรก (Asian Champion Club Tournament)- พ.ศ. 2510 ถึง 2514
[แก้]ชิงแชมป์สโมสรเอเชีย หรือ เอเชียแชมป์เปี้ยนคลับทัวร์นาเมนต์ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2510 โดยมีทีมชนะเลิศ 8 ประเทศจากแปดลีกเอเชียเข้าแข่งขันในฤดูกาลแรก และได้การจัดแข่งขันทุกปีจนถึงปี พ.ศ. 2514 ยกเว้นฤดูกาล 1968(พ.ศ. 2511)ไม่การจัดแข่งขัน ในช่วงแรกทั้ง 4 ปี มี 2 สโมสรจากอิสราเอล คือ ฮาโปเอล เทลอาวีฟและมัคคาบี้ เทลอาวีฟชนะเลิศสามครั้ง ในปี พ.ศ. 2512) การแข่งขันถูกยกเลิกไปเนื่องจากขาดความน่าสนใจซึ่งในที่สุดก็มีการถอนตัวของผู้เข้าร่วมทั้งหมดเหลือ 2 ทีม ทัวร์นาเมนต์ไม่ได้ถูกจัดขึ้นสำหรับสิบสี่ปีต่อไป สโมสรฟุตบอลในเอเชียไม่ได้เริ่มต้นจนถึงปลายปี 2533 และต้นยุค 2543
ยุคชิงแชมป์สโมสรเอเชีย(Asian Championship Club)- พ.ศ. 2528/29 ถึง 2544/45
[แก้]โดยจัดการแบบเดียวกับ ยุโรเปี้ยน คัพ เก่าเป็นต้นแบบ การแข่งขันเอเชียกลับมาจัดอีกครั้งในฤดูกาล 1985/86(พ.ศ. 2528/29) โดยเปลี่ยนระบบการคัดเลือกทีมที่ร่วมเล่นใหม่ โดยจำกัดเฉพาะทีมที่ชนะเลิศจากลีกของแต่ละประเทศ ดังนั้นแม้การถอนทีมจากบางสโมสรปีต่อปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 เอเอฟซีได้มีการรวมการแข่งขัน วินเนอร์สคัพเอเชียนคัพเข้ามาอีกหนึ่งรายการ ซึ่งเป็นการนำสโมสรที่ชนะเลิศฟุตบอลถ้วยในประเทศมาแข่งขัน
ยุคเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก (AFC Champions League)- พ.ศ. 2545/46 ถึง ปัจจุบัน
[แก้]- ฤดูกาล 2002/03
ตั้งแต่ฤดูกาล 2002/03 สามหลักการแข่งขันสโมสรเอเชีย, แชมเปี้ยนส์เอเชียนคัพ, ฟุตบอลเอเชียนคัพวินเนอร์ส, และเอเชียซูเปอร์คัพ ถูกผสานเข้ากับการแข่งขันขนาดใหญ่หนึ่งและ เปลี่ยนชื่อเป็น เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ในปีก่อนหน้านี้ตัวแทนชนะเลิศฟุตบอลลีกและทีมชนะเลิศฟุตบอลถ้วยของแต่ละประเทศ จะถูกจัดเรียงให้แข่งขันสองรายการของทวีปที่แตกต่างกัน แต่ตอนนี้ทั้งชนะเลิศฟุตบอลลีกและทีมชนะเลิศฟุตบอลถ้วยของแต่ละประเทศเข้าสู่การแข่งขันขนาดใหญ่นี้ ในครั้งแรกหลังจากที่รอบคัดเลือกมี 16 สโมสรเข้าร่วมแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม หนึ่งสโมสรจากแต่ละกลุ่มจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน แบบพบกันหมดในกลุ่มรอบเดียวโดยจัดการให้เสร็จสิ้นใน 1 สัปดาห์ 4 ทีมที่มีคะแนนสุงสุดของแต่กลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะเป็นการแข่งแบบ 2 นัด เหย้า-เยือน
- ฤดูกาล 2003/04
ฤดูกาล 2003/04 ถูกยกเลิกเนื่องจากการระบาดของโรคไวรัสโรคซาร์ส
- ฤดูกาล 2004-2008
ทัวร์นาเมนต์ได้อีกครั้งเปิดตัวในฤดูกาล 2004 ด้วย 28 สโมสรจาก 14 ประเทศ ซึ่งแตกต่างจากปีก่อนกำหนดการแข่งขันได้เปลี่ยนจากมีนาคม-พฤศจิกายน ในรอบแบ่งกลุ่ม, 28 สโมสรถูกแบ่งออกเป็น 7 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แบ่งตามที่ตั้งของแต่ละประเทศโดยแยกเป็นโซนเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันตก เพื่อให้สโมสรลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และเป็นการเล่นสองนัดแบบเหย้า-เยือน จากนั้นทีมที่มีคะแนนสูงสุดทั้ง 7กลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบก่อนรองชนะเลิศ รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะเป็นการแข่งแบบสองนัด หากเสมอจะนับ ผลประตูทีมเยือน เวลาพิเศษ และยิงลูกโทษ ในปี ฤดูกาล 2005(พ.ศ. 2548) สโมสรจากซีเรียเข้าร่วมการแข่งขันซึ่งกลายเป็น 15 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน และอีกสองปีต่อมาสโมสรจากออสเตรเลียถูกรวมอยู่ในการแข่งขัน หลังจากสมาพันธ์ฟุตบอลออสเตรเลียโอนย้ายมาขึ้นกับเอเอฟซีในปี พ.ศ. 2549 การแข่งขันด้วยการขาดความเป็นมืออาชีพในวงการฟุตบอลเอเชียปัญหามากมายอยู่ยังอยู่ในการแข่งขันเช่นในเขตความรุนแรงและการส่งสายของการลงทะเบียนผู้เล่น หลายคนกล่าวหาว่าขาดจากเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายการเดินทางแพงเป็นบางส่วนของเหตุผล แต่ด้วยการเปิดตัวของชิงแชมป์สโมสรโลก ในปี 2548 (ตอนที่รู้จักกัน ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ) รวมของสื่อภาษาอังกฤษผ่านทาง เอ-ลีก เอเอฟซีการตั้งค่ารูปแบบการแข่งขันและเป็นมืออาชีพมากขึ้นในปี 2552
- ฤดูกาล 2009
แชมเปี้ยนลีกขยายตัวถึง 32 สโมสรและเข้าโดยตรงจะถูกจำกัดบนสิบลีกเอเชีย หนึ่งลีกมีโควต้าส่งสโมสรเข้าร่วมได้สูงสุดสี่ทีม แต่ไม่เกินหนึ่งในสามของจำนวนสโมสรที่เข้าร่วมลีกสูงสุดของประเทศนั้นโดยคณะกรรมการเอเอฟซีโปรลีก จะทำการประเมินการจัดการแข่งขัน ความแข็งแรงของลีก โครงสร้างลีก (มืออาชีพ) ศักยภาพด้านการตลาด สถานะทางการเงินและเกณฑ์อื่น ๆ [1]
- ฤดูกาล 2013 -ปัจจุบัน
ตั้งแต่ฤดูกาล 2013 เป็นต้น รอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเป็นการแข่งขันแบบสองนัด ซึ่งการมาจากการถกเถียง ในช่วงฤดูกาล 2009-2010
คุณสมบัติ
[แก้]การประเมินระดับคุณภาพรอบสุดท้ายของเอเอฟซี (ดูด้านล่าง) การประเมินผลได้ดำเนินการโดยคณะกรรมการเอเอฟซีโปร-ลีก(AFC Pro-League committee ) จะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ ศักยภาพด้านการตลาด สถานะทางการเงินของลีกและสโมสรในลีกนั้น หนึ่งลีกมีโควต้าส่งสโมสรเข้าร่วมได้สูงสี่ทีม แต่ไม่เกินหนึ่งในสามของจำนวนสโมสรที่เข้าร่วมลีกสูงสุดของประเทศนั้น แต่อาจมีบางลีกที่จะต้องส่งสโมสรเช้าเล่นรอบคัดเลือก สโมสรที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเอเอฟซีคัพในปีก่อนหน้านี้มีสิทธิ์ได้ลงเล่นรอบคัดเลือกเพื่อจะผ่านเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกรอบสุดท้าย
ผลการประเมินครั้งล่าสุด เดือนพฤศจิกายน 2553, และทางเอเอฟีจะมีการประเมินทุกสองปี[2] อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทราบว่าเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นใหม่จะยากที่จะสามารถดำเนินการได้ในเวลาเอเอฟซีจึงตัดสินใจที่จะรักษาโครงการจัดสรรที่มีอยู่สำหรับสองฤดูกาลมากขึ้นและเลื่อนการประกาศของการจัดอันดับใหม่เป็นเวลาหนึ่งปีจนถึงพฤศจิกายน พ.ศ. 2554 การจัดอันดับนี้คาดว่าจะถูกนำไปใช้สำหรับฤดูกาล 2013 เป็นต้น[3]
รูปของรายการแข่งขัน
[แก้]- รอบคัดเลือก
16 ทีม, เตะแบบน๊อกเอาท์ 2 รอบ เพื่อหา 7 ทีมเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม
- รอบแบ่งกลุ่ม
รวมทั้ง 40 สโมสร โดยจะแบ่งออกเป็น 10 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมี 5 ทีม โดยที่จะแบ่งเป็นโซนจากที่ตั้งของประเทศ คือ โซนเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สโมสรจะถูกจัดในกลุ่ม F ถึง J และส่วนที่เหลือจะจัดไปอยู่ในกลุ่ม A ถึง E ในกลุ่มเป็นพบกันหมดสองรอบ รวมเป็น 6 นัด สโมสรที่ชนะจะได้ 3 คะแนน ,เสมอ 1 คะแนน และแพ้ 0 คะแนน การจัดลำดับในกลุ่ม
- พิจารณาจากคะแนน
- พิจารณาจากผลผลต่างของประตูได้ และประตูเสียระหว่างสองทีม
- พิจารณาเฉพาะประตูได้ระหว่างสองทีม
- พิจารณาจากผลต่างของประตูได้ และประตูเสีย
- พิจารณาเฉพาะประตูได้
ทีมอันดับ 1 และ ทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 3 ทีมจาก 5 ทีมใน 5 กลุ่ม รวม 8 ทีมเขารอบน็อคเอาท์ในทั้งโซนตะวันออกและตะวันตก
- รอบน๊อกเอาท์, รอบ 16 ทีม
ขึ้นอยู่กับการที่อันดับ 2 กลุ่มใดเข้ารอบ โดยโปรแกรมจะถูกจัดตามแต่ละกรณีไว้แล้ว, เล่นเหย้าเยือน
- รอบน๊อกเอาท์, รอบ 8 ทีม และ รอบรงชนะเลิศ
จะเอาทั้ง 8 ทีมมาจับสลาก; เริ่มครั้งแรกฤดูกาล 2010 [4] โดยที่สโมสรจากประเทศเดียวกันจะไม่เจอกันในรอบก่อนรองชนะเลิศ และจะทำการแข่งกัน 2 นัดแบบเหย้า-เยือน ทีมที่มีประตูรวมดีกว่าเป็นผู้ชนะ ถ้าเสมอกันจะทำการต่อเวลาพิเศษ และดวลลูกโทษที่จุดโทษตามลำดับ
- รอบชิงชนะเลิศ
หนึ่งเกม 90 นาทีที่สนามเป็นกลาง ถ้าเสมอกันจะทำการต่อเวลาพิเศษ และดวลลูกโทษที่จุดโทษตามลำดับ
เงินรางวัล
[แก้]งบประมาณสำหรับการแข่งขันได้เพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2008 และ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2009 กับเงินรางวัลรวมตอนนี้เท่ากับ 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผู้ชนะจะได้รับ 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเงินรางวัลพร้อมเงินรางวัลเพิ่มเติมที่ได้จากรอบก่อนหน้า[5] Clubs receive a travel subsidy for each away match. Thus, for each round of 16 tie, only one club receives a travel subsidy.
- รอบแบ่งกลุ่ม
- ชนะ: 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- เสมอ: 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- แพ้: 0 ดอลลาร์สหรัฐ
- ค่าเดินทางสำหรับทีมเยือน: 45,000 ดอลลาร์สหรัฐ x 3
- รอบ 16 ทีมสุดท้าย
- เข้าร่วม: 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- ค่าเดินทางสำหรับทีมเยือน: 45,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- รอบ 8 ทีมสุดท้าย(รอบก่อนรองชนะเลิศ)
- เข้าร่วม: 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- ค่าเดินทางสำหรับทีมเยือน: 45,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- รอบรองชนะเลิศ
- เข้าร่วม: 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- ค่าเดินทางสำหรับทีมเยือน: 45,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- รอบชนะเลิศ
- ชนะเลิศ: 4 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ
- รองชนะเลิศ: 2 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ
- ค่าเดินทาง: 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ
จำนวนสโมสรจากประเทศที่เข้าร่วม
[แก้]Associations | Entrants | |||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2002–03 | 2004 | 2005 | 2006 | 2007 | 2008 | 2009 | 2010 | 2011 | 2012 | 2013 | 2014 | 2015 | 2016 | 2017 | 2018 | 2019 | 2020 | 2021 | 2022 | |
East Asia | ||||||||||||||||||||
Australia | Part of OFC | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 3 | 1* | 3 | 2* | 2* | 3 | 2* | 2* | 3 | 0 | 2* | |||
China PR | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 4 | 4 | 4 | 3 | 4 | 4 | 4 | 4 | 3* | 4 | 4 | 4 | 2* | 2 |
Hong Kong | 0* | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 1* | 1* | 0* | 0* | 1 | 1 |
Indonesia | 0* | 2 | 2 | 0 | 2 | 0 | 1* | 1* | 1* | 0* | 0 | 0 | 0* | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 0 | 0 |
Japan | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 3 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 3* | 4 | 4 |
South Korea | 2 | 2 | 2 | 2 | 3 | 2 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 |
Malaysia | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 0* | 1* | 1* | 1 | 1 |
Singapore | 0* | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0* | 0* | 0* | 0* | 0* | 1 | 1 |
ไทย | 2 | 2 | 2 | 0 | 1 | 2 | 0* | 0* | 0* | 1* | 2 | 1* | 1* | 1* | 1* | 1* | 1* | 1* | 4 | 2* |
Vietnam | 0* | 2 | 2 | 2 | 1 | 2 | 0 | 0* | 0 | 0 | 0 | 0* | 1* | 1* | 0* | 0* | 0* | 0* | 1 | 1 |
Total | 8 | 12 | 12 | 8 | 13 | 13 | 16 | 16 | 15 | 15 | 15 | 16 | 16 | 16 | 16 | 16 | 16 | 16 | 20 | 19 |
West Asia | ||||||||||||||||||||
Bahrain | 0* | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0 | 0 | 0* | 0 | 0* | ||
Iran | 2 | 2 | 2 | 2 | 1 | 2 | 4 | 4 | 4 | 3* | 3* | 4 | 4 | 3* | 4 | 4 | 3* | 4 | ||
Iraq | 1* | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0 | 0 | 0 | 0 | 1* | 1* | ||
Kuwait | 0* | 1 | 2 | 2 | 2 | 2 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | 0 | 0 | 0 | 0* | 0* | ||
Qatar | 1* | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 3 | 4 | 4 | 4 | 2* | 2* | 2* | 4 | 3* | 2* | ||
Saudi Arabia | 1* | 2 | 3 | 3 | 2 | 2 | 4 | 4 | 4 | 3* | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 2 | 4 | 4 | ||
Syria | 0* | 0 | 2 | 2 | 2 | 2 | 0 | 0* | 0* | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | ||
Turkmenistan | 1* | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | ||
United Arab Emirates | 1* | 3 | 2 | 2 | 2 | 2 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 3* | 2* | 3* | 4 | 4 | 3* | 4 | ||
Uzbekistan | 1* | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 3* | 2* | 1* | 4 | 4 | 2* | 2* | 2* | 1* | ||
Total | 8 | 16 | 17 | 17 | 15 | 16 | 16 | 16 | 17 | 17 | 17 | 16 | 16 | 16 | 16 | 16 | 16 | 16 | ||
Total | ||||||||||||||||||||
Finals | 16 | 28 | 29 | 25 | 28 | 29 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 32 | 40 | 39 |
Qualifying | 53 | 28 | 29 | 25 | 28 | 29 | 35 | 37 | 36 | 37 | 35 | 47 | 49 | 45 | 47 | 46 | 51 | 52 | 45 | 46 |
รายชื่อแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ
[แก้]เอเชียแชมป์เปี้ยนคลับทัวร์นาเมนต์ (1967–1972)
[แก้]ฤดูกาล | แชมป์ | ผลการแข่งขัน | รองแชมป์ | สนาม |
---|---|---|---|---|
1967 | ฮาโปเอล เทล อาวีฟ |
2 – 1 | เซอลาโงร์ |
Bangkok |
1969 | มัคคาบี้ เทลอาวีฟ |
1 – 0 | ยางซี |
Bangkok |
1970 | ทาจ |
2 – 1 | ฮาโปเอล เทล อาวีฟ |
สนามฟุตบอลอัมนาจิเดห์, เตหราน |
1971 | มัคคาบี้ เทลอาวีฟ |
w/o1 | อัล ชอร์ตา |
กรุงเทพมหานคร |
1 อัล ชอร์ตา ปฏิเสธลงแข่งด้วยเหตุผลทางการเมือง
ชิงแชมป์สโมสรเอเชีย (1985–2002)
[แก้]- Official season orthography of Asian Club Championship is reset. Both one year seasons and two years seasons listed separately.[6]
1 The championship was decided in a final pool of four teams.
2 The final was scratched and Yomiuri FC were awarded the championship after Al-Hilal objected to the match officials that were chosen for the first leg and refused to participate in the final.
เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก (2002–ปัจจุบัน)
[แก้]ทีมชนะเลิศ
[แก้]รายชื่อทีมชนะเลิศและรองชนะเลิศในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก (เอเชียนคลับแชมเปียนชิพ ชื่อการแข่งขันในอดีต)
แยกตามรายชื่อประเทศ
[แก้]ประเทศ | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ |
---|---|---|
เกาหลีใต้ | 12 | 7 |
ญี่ปุ่น | 8 | 4 |
ซาอุดีอาระเบีย | 6 | 10 |
อิหร่าน | 3 | 6 |
จีน | 3 | 2 |
อิสราเอล | 3 | 1 |
ไทย | 2 | 1 |
กาตาร์ | 2 | 1 |
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 1 | 3 |
ออสเตรเลีย | 1 | 1 |
อิรัก | 0 | 2 |
มาเลเซีย | 0 | 1 |
โอมาน | 0 | 1 |
ซีเรีย | 0 | 1 |
แยกตามรายชื่อสโมสร
[แก้]ดูเพิ่ม
[แก้]- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (การแข่งขันฟุตบอลระหว่างสโมสรในลีกสูงสุดของทวีปยุโรป)
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Assessment and participation criteria for 2009–2010 seasons" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-09-06. สืบค้นเมื่อ 2012-03-10.
- ↑ 12 Member Associations keen to join ACL
- ↑ "ACL slots maintained". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-02-16. สืบค้นเมื่อ 2012-03-09.
- ↑ 2010 ACL to use country protection for quarter-final draw
- ↑ [1]
- ↑ "AFC Champions League Official Programme". AFC.com.
- ↑ "Final – 1st Leg: Urawa Reds fight back to hold Al Hilal". the-afc.com (ภาษาอังกฤษ). Asian Football Confederation. 29 April 2023. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 April 2023. สืบค้นเมื่อ 29 April 2023.
- ↑ "Urawa Reds edge Al Hilal for historic third title". the-afc.com (ภาษาอังกฤษ). Asian Football Confederation. 6 May 2023. สืบค้นเมื่อ 6 May 2023.
- ↑ "Yokohama F. Marinos – Al Ain FC 2:1 (AFC Champions League 2023/2024, Final)". worldfootball.net (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 27 May 2024.
- ↑ "Al Ain FC – Yokohama F. Marinos 5:1 (AFC Champions League 2023/2024, Final)". worldfootball.net (ภาษาอังกฤษ). 26 May 2024. สืบค้นเมื่อ 27 May 2024.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เว็บไซต์เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอย่างเป็นทางการ เก็บถาวร 2003-03-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (อังกฤษ)