เอเชียนคัพ
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) |
---|---|
ภูมิภาค | เอเชีย (เอเอฟซี) |
จำนวนทีม | 24 |
ทีมชนะเลิศปัจจุบัน | กาตาร์ (สมัยที่ 2 ) |
ทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุด | ญี่ปุ่น (4 สมัย) |
เว็บไซต์ | www |
เอเชียนคัพ 2027 |
การแข่งขัน | |
---|---|
เอเอฟซี เอเชียนคัพ (อังกฤษ: AFC Asian Cup) หรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย เป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติของทวีปเอเชีย จัดโดย สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ถือเป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปที่เก่าแก่เป็นอันดับสองถัดจากการแข่งขันฟุตบอลรายการโกปาอาเมริกา ซึ่งผู้ชนะการแข่งขันจะถือว่าเป็นแชมป์ของภูมิภาคทวีปเอเชีย และจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมในการแข่งขันฟุตบอลรายการฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ
โดยการแข่งขันจะจัดขึ้นทุก 4 ปี เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1956 ที่ฮ่องกง และจัดต่อเนื่องทุก 4 ปี จนกระทั่ง ค.ศ. 2004 ที่ประเทศจีน ซึ่งในปีเดียวกันนั้นมีการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนและการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ทำให้ทางสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียตัดสินใจเลื่อนการจัดการแข่งขันครั้งต่อไปเป็น ค.ศ. 2007 ซึ่งครั้งนั้นมีเจ้าภาพร่วมจาก 4 ประเทศคืออินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม และจัดการแข่งขันครั้งต่อไปทุก 4 ปีเป็นปกติหลังจากนั้น
ผู้ชนะเลิศการแข่งขันเอเชียนคัพส่วนใหญ่จะเป็นทีมชาติที่มาจากกลุ่มประเทศชั้นนำทางด้านวงการฟุตบอล ซึ่งได้แก่เกาหลีใต้และอิหร่าน จนกระทั่งหลังจาก ค.ศ. 1984 ที่มีแชมป์เป็นทีมชาติญี่ปุ่นและซาอุดิอาระเบีย นอกจากนี้ยังมีแชมป์จากทีมชาติออสเตรเลีย อิรัก คูเวต และอิสราเอล (ซึ่งภายหลังถูกขับออกและได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า)
ประเทศออสเตรเลียเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียใน ค.ศ. 2005 และได้เป็นเจ้าภาพเอเชียนคัพ 2015 สำหรับเอเชียนคัพ 2019 ซึงจัดขึ้นที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือเป็นเอเชียนคัพครั้งแรกที่ขยายจำนวนทีมในรอบสุดท้ายจาก 16 ทีม เป็น 24 ทีม นอกจากนี้ยังถือเป็นการคัดเลือกตัวแทนโซนเอเชียในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายอีกด้วย
ต่างจากการแข่งขันรายการอื่น ๆ การแข่งขันเอเชียนคัพมักมีการเลื่อนวันจัดการแข่งขันในแต่ละครั้งให้สอดคล้องกับสภ่าพภูมิอากาศของประเทศเจ้าภาพ เช่นใน ค.ศ. 2007 มีจัดการแข่งขันในเดือนกรกฎาคม แต่การแข่งขันทั้ง 3 ครั้งหลังจากนั้นจะจัดการแข่งขันในเดือนมกราคม[1][2]
ประวัติ
[แก้]หลังการจัดตั้งสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียในปี 1954 ได้มีการจัดการแข่งขันเอเชียนคัพขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1956 ที่ฮ่องกง โดยทีมที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมในการแข่งขันจะมีทีมจากชาติเจ้าภาพและการคัดทีมผู้ชนะจากโซนต่างๆ (เอเชียกลาง เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันตก) ซึ่งเป็นการชิงชัยเพียง 4 ทีมเท่านั้น ระบบการคัดเลือกนี้ถูกใช้จนกระทั่งการแข่งขันในปี 1964
ทีมชาติญี่ปุ่นทำสถิติแชมป์ในการแข่งขันเอเชียนคัพมากที่สุดถึง 4 ครั้งจากการแข่งขันใน ค.ศ. 1992, 2000, 2004 และ 2011
ทีมชาติออสเตรเลียได้เข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนคัพ 2007 และสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ แต่ต้องพ่ายให้กับทีมชาติอิรัก ซึ่งภายหลังสามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันในครั้งนั้น และถือเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกในรายการนี้ แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศก็ตาม
การแข่งขันเอเชียนคัพ 2019 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครั้งล่าสุด ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาหลายอย่าง เช่น การใช้ระบบผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอหรือวีเออาร์ และการเพิ่มจำนวนทีมในรอบสุดท้ายจาก 16 ทีม เป็น 24 ทีม อีกทั้งยังแก้ไขกติกาให้สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่ 4 ในช่วงต่อเวลาพิเศษได้ นอกจากนี้ทีมชาติกาตาร์ยังสามารถคว้าแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้ด้วยการเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่นในรอบชิงชนะเลิศ ถือเป็นแชมป์รายการเอเชียนคัพครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างกาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพ
ถ้วยรางวัล
[แก้]ถ้วยรางวัลในการแข่งขันเอเชียนคัพแบ่งออกเป็น 2 แบบ แบบแรกถูกใช้ในการแข่งขันระหว่างปี 1956 จนถึงปี 2015 ส่วนแบบที่สองเริ่มใช้ตั้งแต่การแข่งขันเอเชียนคัพ 2019
ถ้วยรางวัลแบบแรกจะเป็นลักษณะคล้ายถ้วยบนฐานทรงกระบอก มีความสูง 42 เซนติเมตร และหนัก 15 กิโลกรัม จนในการแข่งขันในปี 2000 ได้มีการบรรจุหินสลักชื่อประเทศที่ชนะเลิศในการแข่งขันทุกครั้งลงไปในฐานของถ้วยรางวัล ซึ่งภายหลังได้ถูกออกแบบใหม่ด้วยการเพิ่มเนื้อโลหะเงินและลดความหนาของฐานสีดำด้านล่าง อีกทั้งมีการเปลี่ยนเป็นการสลักชื่อลงรอบฐานของถ้วยรางวัลแทน
วันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ระหว่างการแข่งขันเอเชียนคัพ 2019 รอบแบ่งกลุ่มในเมืองดูไบ มีการเผยถ้วยรางวัลแบบใหม่ซึ่งสร้างและออกแบบโดย Thomas Lyte แบรนด์ออกแบบถ้วยรางวัลชั้นนำจากอังกฤษ ตัวถ้วยรางวัลมีความสูงถึง 78 เซนติเมตร กว้าง 42 เซนติเมตร วัสดุทำจากเงิน โดยน้ำหนักรวมอยู่ที่ 15 กิโลกรัม ถ้วยรางวัลถูกออกแบบให้คล้ายดอกบัวหลวงซึ่งเป็นพืชน้ำที่สื่อถึงทวีปเอเชีย กลีบดอกบัวทั้งห้าเป็นตัวแทนของ 5 สหพันธ์ฟุตบอลภายใต้การกำกับดูแลของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ยังคงมีสลักรายชื่อแชมป์ทุกครั้งจนถึงปัจจุบันลงบนฐานเหมือนแบบแรก แต่ส่วนของฐานกับตัวถ้วยรางวัลจะแยกเป็นคนละส่วน นอกจากนี้ถ้วยรางวัลแบบใหม่จะมีด้ามจับทั้งสองข้าง ต่างจากถ้วยรางวัลแบบแรก
รูปแบบการแข่งขัน
[แก้]การแข่งขันรอบสุดท้าย
[แก้]การแข่งขันเอเชียนคัพรอบสุดท้ายจะมีทีมเข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 24 ทีม การคัดเลือกแบ่งออกเป็น 2 รอบคือ รอบแบ่งกลุ่ม และรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยรอบแบ่งกลุ่มจะทำการแข่งขันแบบพบกันหมดจากทั้งหมด 6 กลุ่ม สำหรับทีมที่ดีที่สุด 2 ทีมในแต่ละสายจะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย อีก 4 ทีมที่เหลือจะคัดจากทีมอันดับ 3 ของแต่ละสายที่ดีที่สุด 4 ทีม สำหรับรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเป็นการแข่งขันแบบแพ้คัดออกจนไปถึงรอบชิงชนะเลิศ
ผลการแข่งขัน
[แก้]ความสำเร็จในการแข่งขัน
[แก้]ตัวหนา คือทีมที่เป็นเจ้าภาพ
ทีม | ชนะเลิศ | รองชนะเลิศ | อันดับสาม | อันดับสี่ | รอบรองชนะเลิศ | รวม |
---|---|---|---|---|---|---|
ญี่ปุ่น | 4 (1992, 2000, 2004, 2011) | 1 (2019) | — | 1 (2007) | — | 6 |
ซาอุดีอาระเบีย | 3 (1984, 1988, 1996) | 3 (1992, 2000, 2007) | — | — | — | 6 |
อิหร่าน | 3 (1968, 1972, 1976) | — | 5 (1980, 1988, 1996, 2004, 2023) | 1 (1984) | 1 (2019) | 10 |
เกาหลีใต้ | 2 (1956, 1960) | 4 (1972, 1980, 1988, 2015) | 4 (1964, 2000, 2007, 2011) | 1 (2023) | — | 11 |
กาตาร์ | 2 (2019, 2023) | — | — | — | — | 2 |
อิสราเอล | 1 (1964) | 2 (1956, 1960) | 1 (1968) | — | — | 4 |
คูเวต | 1 (1980) | 1 (1976) | 1 (1984) | 1 (1996) | — | 4 |
ออสเตรเลีย | 1 (2015) | 1 (2011) | — | — | — | 2 |
อิรัก | 1 (2007) | — | — | 2 (1976, 2015) | — | 3 |
จีน | — | 2 (1984, 2004) | 2 (1976, 1992) | 2 (1988, 2000) | — | 6 |
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | — | 1 (1996) | 1 (2015) | 1 (1992) | 1 (2019) | 4 |
อินเดีย | — | 1 (1964) | — | — | — | 1 |
พม่า[a] | — | 1 (1968) | — | — | — | 1 |
จอร์แดน | — | 1 (2023) | — | — | — | 1 |
ฮ่องกง | — | — | 1 (1956) | 1 (1964) | — | 2 |
จีนไทเป[b] | — | — | 1 (1960) | 1 (1968) | — | 2 |
ไทย | — | — | 1 (1972) | — | — | 1 |
เวียดนาม[c] | — | — | — | 2 (1956, 1960) | — | 2 |
กัมพูชา[d] | — | — | — | 1 (1972) | — | 1 |
เกาหลีเหนือ | — | — | — | 1 (1980) | — | 1 |
บาห์เรน | — | — | — | 1 (2004) | — | 1 |
อุซเบกิสถาน | — | — | — | 1 (2011) | — | 1 |
ความสำเร็จแบ่งตามภูมิภาค
[แก้]ภูมิภาค | ผลงานที่ดีที่สุด |
---|---|
เอเชียตะวันตก | ชนะเลิศ 7 ครั้ง โดย ซาอุดีอาระเบีย คูเวต อิรัก กาตาร์ (1980, 1984, 1988, 1996, 2007, 2019, 2023) |
เอเชียตะวันออก | ชนะเลิศ 6 ครั้ง โดย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ (1956, 1960, 1992, 2000, 2004, 2011) |
อาเซียน | ชนะเลิศ โดย ออสเตรเลีย (2015) |
เอเชียใต้ | รองชนะเลิศ โดย อินเดีย (1964) |
เอเชียกลาง | ชนะเลิศ 3 ครั้ง โดย อิหร่าน (1968, 1972, 1976) |
ทีมที่ผ่านเข้ารอบ
[แก้]ทีม | 1956 (4) |
1960 (4) |
1964 (4) |
1968 (5) |
1972 (6) |
1976 (6) |
1980 (10) |
1984 (10) |
1988 (10) |
1992 (8) |
1996 (12) |
2000 (12) |
2004 (16) |
2007 (16) |
2011 (16) |
2015 (16) |
2019 (24) |
2023 (24) |
2027 (24) |
TBD 2031 (32) |
รวม |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
West Asian members | |||||||||||||||||||||
บาห์เรน | Part of สหราชอาณาจักร | × | • | × | •• | × | GS | • | × | • | 4th | GS | GS | GS | R16 | R16 | 7 | ||||
อิรัก | Not an AFC member | GS | 4th | × | × | × | × | QF | QF | QF | 1st | QF | 4th | R16 | R16 | 10 | |||||
จอร์แดน | Not an AFC member | • | × | × | • | • | × | • | • | QF | • | QF | GS | R16 | 2nd | 5 | |||||
คูเวต | Not an AFC member | × | GS | 2nd | 1st | 3rd | GS | • | 4th | QF | GS | • | GS | GS | × | • | 10 | ||||
เลบานอน | Not an AFC member | × | • | × | • | × | × | × | • | GS | • | × | • | • | GS | GS | 3 | ||||
โอมาน | Not an AFC member | • | × | • | • | • | GS | GS | • | GS | R16 | GS | 5 | ||||||||
ปาเลสไตน์ | Not an AFC member | • | • | • | • | GS | GS | R16 | 3 | ||||||||||||
กาตาร์ | Part of สหราชอาณาจักร | • | GS | GS | GS | GS | • | QF | GS | GS | QF | GS | 1st | 1st | 11 | ||||||
ซาอุดีอาระเบีย | Not an AFC member | •• | × | 1st | 1st | 2nd | 1st | 2nd | GS | 2nd | GS | GS | R16 | R16 | Q | 12 | |||||
ซีเรีย | Not an AFC member | • | × | GS | GS | GS | • | GS | • | • | • | GS | • | GS | R16 | 7 | |||||
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | Part of สหราชอาณาจักร | × | GS | GS | GS | 4th | 2nd | • | GS | GS | GS | 3rd | SF | R16 | 11 | ||||||
เยเมน | Not an AFC member | • | • | × | • | • | • | • | • | • | GS | • | 1 | ||||||||
Central Asian Members | |||||||||||||||||||||
อิหร่าน | × | • | × | 1st | 1st | 1st | 3rd | 4th | 3rd | GS | 3rd | QF | 3rd | QF | QF | QF | SF | 3rd | 15 | ||
คีร์กีซสถาน | Part of สหภาพโซเวียต | • | • | • | × | • | • | R16 | GS | 2 | |||||||||||
ทาจิกิสถาน | Part of สหภาพโซเวียต | • | • | • | × | • | • | • | QF | 1 | |||||||||||
เติร์กเมนิสถาน | Part of สหภาพโซเวียต | • | • | GS | × | • | • | GS | • | 2 | |||||||||||
อุซเบกิสถาน | Part of สหภาพโซเวียต | GS | GS | QF | QF | 4th | QF | R16 | QF | 8 | |||||||||||
South Asian Members | |||||||||||||||||||||
บังกลาเทศ | Part of ปากีสถาน | × | GS | • | • | • | × | • | • | • | • | • | • | • | 1 | ||||||
อินเดีย | × | • | 2nd | • | × | × | × | GS | • | • | • | • | • | • | GS | • | GS | GS | 5 | ||
East Asian Members | |||||||||||||||||||||
จีน | Not an AFC member | 3rd | GS | 2nd | 4th | 3rd | QF | 4th | 2nd | GS | GS | QF | QF | GS | 13 | ||||||
จีนไทเป | • | 3rd | × | 4th | × | × | OFC member | • | • | • | • | • | • | • | • | • | 2 | ||||
ฮ่องกง | 3rd | • | 4th | 5th | • | • | • | • | • | • | • | • | • | • | • | • | • | GS | 4 | ||
ญี่ปุ่น | × | × | × | • | × | • | × | × | GS | 1st | QF | 1st | 1st | 4th | 1st | QF | 2nd | QF | 10 | ||
เกาหลีเหนือ | Not an AFC member | •• | 4th | × | • | GS | × | • | • | × | GS | GS | GS | × | 5 | ||||||
เกาหลีใต้ | 1st | 1st | 3rd | • | 2nd | • | 2nd | GS | 2nd | • | QF | 3rd | QF | 3rd | 3rd | 2nd | QF | 4th | 15 | ||
Southeast Asian Members | |||||||||||||||||||||
ออสเตรเลีย | OFC member | QF | 2nd | 1st | QF | QF | 5 | ||||||||||||||
กัมพูชา | • | × | × | • | 4th | × | × | × | × | × | × | • | × | × | • | • | • | • | 1 | ||
อินโดนีเซีย | × | × | × | • | • | • | • | • | • | • | GS | GS | GS | GS | • | • | × | R16 | 5 | ||
มาเลเซีย | • | • | • | • | • | GS | GS | • | • | • | • | • | • | GS | • | • | • | GS | 4 | ||
พม่า | × | × | × | 2nd | × | × | × | × | × | × | • | • | • | × | • | • | • | • | 1 | ||
ฟิลิปปินส์ | • | • | × | • | × | × | • | • | × | × | • | • | × | × | • | • | GS | • | 1 | ||
สิงคโปร์ | × | • | × | • | × | • | • | GS | × | • | • | • | • | • | • | • | • | • | 1 | ||
ไทย | × | × | • | • | 3rd | •• | • | • | • | GS | GS | GS | GS | GS | • | • | R16 | R16 | 8 | ||
เวียดนาม | 4th | 4th | • | • | • | • | × | × | × | × | • | • | • | QF | • | • | QF | GS | 5 | ||
Former AFC Members | |||||||||||||||||||||
อิสราเอล | 2nd | 2nd | 1st | 3rd | •• | Expelled from AFC | UEFA member | 4 | |||||||||||||
เยเมนใต้ | GS | × | × | • | Part of เยเมน | 1 | |||||||||||||||
ทีม | 1956 (4) |
1960 (4) |
1964 (4) |
1968 (5) |
1972 (6) |
1976 (6) |
1980 (10) |
1984 (10) |
1988 (10) |
1992 (8) |
1996 (12) |
2000 (12) |
2004 (16) |
2007 (16) |
2011 (16) |
2015 (16) |
2019 (24) |
2023 (24) |
2027 (24) |
TBD 2031 (32) |
รวม |
- สัญลักษณ์
- 1st – แชมป์
- 2nd – รองแชมป์
- 3rd – ที่ 3
- 4th – ที่ 4
- QF – รอบก่อนชิงชนะเลิศ
- GS – รอบคัดเลือก
- q – เข้ารอบแต่ยังไม่ได้แข่ง
- — เจ้าภาพ
ทีมที่ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในการแข่งขันแต่ละครั้ง
[แก้]ปี | ทีมชาติที่ปรากฏตัวเป็นครั้งแรก | ทีมชาติที่เป็นตัวแทน | ||
---|---|---|---|---|
ทีม | No. | Cum. | ||
1956 | ฮ่องกง, อิสราเอล, เกาหลีใต้, เวียดนามใต้ | 4 | 4 | |
1960 | สาธารณรัฐจีน | 1 | 5 | |
1964 | อินเดีย | 1 | 6 | |
1968 | อิหร่าน, พม่า | 2 | 8 | |
1972 | อิรัก, กัมพูชา, คูเวต, ไทย | 4 | 12 | |
1976 | จีน, มาเลเซีย, เยเมนใต้ | 3 | 15 | |
1980 | บังกลาเทศ, เกาหลีเหนือ, กาตาร์, ซีเรีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | 5 | 20 | |
1984 | ซาอุดีอาระเบีย, สิงคโปร์ | 2 | 22 | |
1988 | บาห์เรน, ญี่ปุ่น | 2 | 24 | |
1992 | None | 0 | 24 | |
1996 | อินโดนีเซีย, อุซเบกิสถาน | 2 | 26 | |
2000 | เลบานอน | 1 | 27 | |
2004 | จอร์แดน, โอมาน, เติร์กเมนิสถาน | 3 | 30 | |
2007 | ออสเตรเลีย | 1 | 31 | เวียดนาม |
2011 | None | 0 | 31 | |
2015 | ปาเลสไตน์ | 1 | 32 | |
2019 | คีร์กีซสถาน, ฟิลิปปินส์ | 2 | 34 | เยเมน |
2023 | ทาจิกิสถาน | 1 | 35 |
ความขัดแย้ง
[แก้]แม้ว่าจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ระดับทวีป แต่การแข่งขันเอเชียนคัพก็ต้องประสบกับปัญหาหลายครั้ง ทั้งการไม่สามารถโน้มน้าวให้หลายชาติเข้าร่วมการแข่งขันได้ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ค่าใช้จ่ายการเดินทางของชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันที่มหาศาล ตลอดจนความปัญหาจากความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน
ความขัดแย้งทางการเมือง
[แก้]การแข่งขันเอเชียนคัพมักตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างชาติสมาชิกอยู่บ่อยครั้ง เช่น กรณีของอิสราเอลซึ่งเคยเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ภายหลังสงครามยมคิปปูร์ได้ทวีความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับชาติสมาชิกในคาบสมุทรอาหรับ อิสราเอลถอนตัวออกจากสมาชิกสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียในปี 1974 และเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาพันธ์ฟุตบอลโอเชียเนีย (โอเอซี) ซึ่งภายหลังได้รับสิทธิ์เป็นสมาชิกของสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ใน ค.ศ. 1990
กรณีคล้ายกันคือความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียกับอิหร่านภายหลังการเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงในกรุงเตหะรานในปี 2016 ซึ่งทีมชาติอิหร่านปฏิเสธที่จะทำการแข่งขันกับทีมชาติซาอุดิอาระเบีย และขู่จะถอนตัวออกจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียหากไม่ทำตามคำขอ ซึ่งได้ลุกลามเป็นความขัดแย้งในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีกรณีของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือกโซนเอเชียที่จะจัดขึ้นในกรุงเปียงยาง จนเป็นเหตุทำให้ต้องมีการเปลียนไปทำการแข่งขันที่เซี่ยงไฮ้แทน
ปัญหาจำนวนผู้เข้าชมการแข่งขัน
[แก้]จำนวนผู้เข้าชมการแข่งขันแป็นอีกปัญหาของการแข่งขันเอเชียนคัพ เช่น ในการแข่งขันเอเชียนคัพ 2011 ที่ประเทศกาตาร์ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปชมการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ทำให้มีผู้เข้าชมการแข่งขันในสนามมีไม่กี่คนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการอ้างว่าทางกาตาร์เองถึงกับต้องนำกำลังทหารมานั่งแทนผู้ชมในสนามเพื่อภาพลักษณ์ที่ดูดีอีกด้วย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Revamp of AFC competitions". The-afc.com. 25 January 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 February 2014.
- ↑ "AFC Asian Cup changes set for 2019". Afcasiancup.com. 26 January 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 January 2014.
- ↑ พม่า until 1989.
- ↑ สาธารณรัฐจีน until 1980.
- ↑ Including results representing เวียดนามใต้.
- ↑ สาธารณรัฐเขมร from 1970 to 1975.