ศาสนามันดาอี
ศาสนามันดาอี (มันดาอิกคลาสสิก: ࡌࡀࡍࡃࡀࡉࡉࡀ, ถอดเป็นอักษรโรมัน: mandaiia; อาหรับ: مَنْدَائِيَّة, Mandāʾīya) หรือ ศาสนาศอบิอ์ (อาหรับ: صَابِئِيَّة, Ṣābiʾīyah) เป็นศาสนาชาติพันธุ์เอกเทวนิยมและไญยนิยม[1]: 4 [2]: 1 ที่นับถือโดยชาวมันดาอีซึ่งอาศัยอยู่ที่ราบตะกอนน้ำพาทางใต้ของเมโสโปเตเมีย ชาวมันดาอีนับถืออาดัม อาเบล เสท เอโนช โนอาห์ เชม อารัมและโดยเฉพาะอย่างยิ่งยอห์นผู้ให้บัพติศมา ชาวมันดาอีถือว่าอาดัม เสท โนอาห์ เชมและยอห์นผู้ให้บัพติศมาเป็นผู้เผยพระวจนะ โดยมีอาดัมเป็นศาสดาและยอห์นผู้ให้บัพติศมาเป็นผู้เผยพระวจนะคนสุดท้าย[3]: 45 [4] ชาวมันดาอีพูดภาษามันดาอิกซึ่งเป็นภาษาหนึ่งในภาษาแอราเมอิกตะวันออก ชื่อมันดาอีมาจากภาษาแอราเมอิก manda หมายถึงความรู้[5][6] ชาวมันดาอีรู้จักในตะวันออกกลางในนามศอบิอ์ (อาหรับ: صُبَّة Ṣubba, เอกพจน์: Ṣubbī) ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาแอราเมอิกที่เกี่ยวข้องกับพิธีรับเข้าเป็นคริสต์ศาสนิกชน มีการกล่าวถึงศอบิอ์ในอัลกุรอานสามครั้งร่วมกับชาวยิวและคริสตชน บางคราวชาวมันดาอีรู้จักในชื่อ "คริสตชนแห่งนักบุญจอห์น"[7]
โยรันน์ ยาคอบเซน บัคลีย์และนักวิชาการศาสนามันดาอีเสนอว่าชาวมันดาอีมีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคปาเลสไตน์-อิสราเอลเมื่อสองพันปีก่อน ก่อนจะอพยพหนีการเบียดเบียนมาทางตะวันออก[8][9][10] ขณะที่บางส่วนเชื่อว่าชาวมันดาอีมีต้นกำเนิดทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมโสโปเตเมีย[11][12] นักวิชาการบางส่วนมองว่าศาสนามันดาอีมีอายุเก่าแก่และอยู่มาก่อนศาสนาคริสต์[13] ด้านชาวมันดาอียืนยันว่าศาสนาตนอยู่มาก่อนศาสนายูดาห์ คริสต์และอิสลามในฐานะศาสนาเอกเทวนิยม[14] ชาวมันดาอีเชื่อว่าพวกตนสืบเชื้อสายโดยตรงมาจากเชม บุตรของโนอาห์ในเมโสโปเตเมีย[15]: 186 และสาวกกลุ่มนาโซรีมันดาอี (Nasoraean Mandaean) ดั้งเดิมของยอห์นผู้ให้บัพติศมาในเยรูซาเลม
มีการนับถือศาสนามันดาอีทางตอนล่างของแม่น้ำคอรูน แม่น้ำยูเฟรทีสและแม่น้ำไทกริส รวมถึงบริเวณรอบ ๆ แม่น้ำชัฏฏุลอะร็อบ ทางใต้ของอิรักและจังหวัดฆูเซสถานในอิหร่าน ประมาณการชาวมันดาอีทั่วโลกอยู่ที่ 60,000–70,000 คน[16] เกือบทั้งหมดอาศัยอยู่ในอิรักก่อนเกิดสงครามอิรัก[17] ต่อมาชาวมันดาอีจำนวนมากลี้ภัยออกนอกประเทศหลังเกิดความวุ่นวายจากการบุกครองและยึดครองอิรักโดยกองทัพสหรัฐ รวมถึงความรุนแรงทางศาสนาที่เพิ่มสูงขึ้นจากกลุ่มหัวรุนแรง[18] ในค.ศ. 2007 ประชากรชาวมันดาอีในอิรักลดลงเหลือประมาณ 5,000 คน[17]
ชาวมันดาอียังคงแยกตัวและรักษาความเป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง ข้อมูลส่วนใหญ่เกี่ยวกับชาวมันดาอีและศาสนาของพวกเขามาจากบุคคลภายนอกเป็นหลัก โดยเฉพาะยูลีอุส ไฮน์ริช เพเทอร์มันน์ นักบูรพาคดีชาวเยอรมัน นีกอลา ซุฟฟี รองกงสุลฝรั่งเศสในโมซูล[19]: 12 [20] และอี. เอส. โดรเวอร์ นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรมชาวบริติช[21]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Buckley, Jorunn Jacobsen (2002). "Part I: Beginnings - Introduction: The Mandaean World". The Mandaeans: Ancient Texts and Modern People. New York: Oxford University Press on behalf of the American Academy of Religion. pp. 1–20. doi:10.1093/0195153855.003.0001. ISBN 9780195153859. OCLC 57385973.
- ↑ Al-Saadi, Qais; Al-Saadi, Hamed (2019). Ginza Rabba (2nd ed.). Germany: Drabsha.
- ↑ Brikhah S. Nasoraia (2012). "Sacred Text and Esoteric Praxis in Sabian Mandaean Religion" (PDF).
- ↑ mandaean الصابئة المندايين (21 November 2019). "تعرف على دين المندايي في ثلاث دقائق". YouTube. สืบค้นเมื่อ 2 February 2022.
- ↑ Rudolph 1977, p. 15.
- ↑ Fontaine, Petrus Franciscus Maria (January 1990). Dualism in ancient Iran, India and China. The Light and the Dark. Vol. 5. Brill. ISBN 9789050630511.
- ↑ Edmondo, Lupieri (2004). "Friar of Ignatius of Jesus (Carlo Leonelli) and the First "Scholarly" Book on Mandaeaism (1652)". ARAM Periodical. 16 (Mandaeans and Manichaeans): 25–46. ISSN 0959-4213.
- ↑ Porter, Tom (22 December 2021). "Religion Scholar Jorunn Buckley Honored by Library of Congress". Bowdoin. สืบค้นเมื่อ 10 January 2022.
- ↑ Buckley, Jorunn Jacobsen (2010). Turning the Tables on Jesus: The Mandaean View. In Horsley, Richard (March 2010). Christian Origins. ISBN 9781451416640.(pp94-111). Minneapolis: Fortress Press
- ↑ Lupieri, Edmondo F. (7 April 2008). "Mandaeans i. History". Encyclopaedia Iranica. สืบค้นเมื่อ 12 January 2022.
- ↑ มุมมองทางวิชาการส่วนน้อย
- ↑ "Mandaeanism | religion". Britannica. สืบค้นเมื่อ 4 November 2021.
- ↑ Duchesne-Guillemin, Jacques (1978). Etudes mithriaques. Téhéran: Bibliothèque Pahlavi. p. 545.
- ↑ "The People of the Book and the Hierarchy of Discrimination". United States Holocaust Memorial Museum. สืบค้นเมื่อ 1 November 2021.
- ↑ Drower, Ethel Stefana (1937). The Mandaeans of Iraq and Iran. Oxford At The Clarendon Press.
- ↑ Thaler, Kai (March 9, 2007). "Iraqi minority group needs U.S. attention". Yale Daily News. สืบค้นเมื่อ 4 November 2021.
- ↑ 17.0 17.1 Deutsch, Nathaniel (6 October 2007). "Save the Gnostics". The New York Times.
- ↑ Crawford, Angus (4 March 2007). "Iraq's Mandaeans 'face extinction'". BBC News. สืบค้นเมื่อ 13 December 2021.
- ↑ Lupieri, Edmundo (2001). The Mandaeans: The Last Gnostics. Wm. B. Eerdmans Publishing. ISBN 9780802833501.
- ↑ Häberl 2009, p. 18: "In 1873, the French vice-consul in Mosul, a Syrian Christian by the name of Nicholas Siouffi, sought Mandaean informants in Baghdad without success."
- ↑ Mandaean manuscripts given by Lady Ethel May Stefana Drower. Archives Hub.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- วิกิคำคม มีคำคมที่กล่าวโดย หรือเกี่ยวกับ กินซารับบา
- วิกิซอร์ซมีงานที่เกี่ยวข้องกับ กินซารับบา ฉบับแปลภาษาอังกฤษ