ข้ามไปเนื้อหา

หอสมุดนักฮัมมาดี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โคเดกซ์ II หนึ่งในงานเขียนฝ่ายไญยนิยมที่โดดเด่นที่สุดที่พบในหอสมุดนักฮัมมาดี เนื้อหาในภาพคือส่วนท้ายของ Apocryphon of John และส่วนเริ่มต้นของพระวรสารนักบุญโทมัส

หอสมุดนักฮัมมาดี (อังกฤษ: Nag Hammadi Library มีอีกชื่อว่า กลุ่มเอกสารตัวเขียนเชโนบอสเกียน และ พระวรสารไญยนิยม[a]) เป็นชุดตำราชาวคริสต์ยุคแรกและฝ่ายไญยนิยมที่ค้นพบใกล้เมืองนักฮัมมาดีในอียิปต์บนเมื่อ ค.ศ. 1945

โคเดกซ์พาไพรัสแบบปกหนัง 13 เล่มถูกฝังในโถปิดสนิท ค้นพบโดยชาวนาท้องถิ่นชื่อ Muhammed al-Samman[1] งานเขียนในโคเดกซ์ประกอบด้วยศาสตรนิพนธ์ไญยนิยม 52 เล่ม แต่ก็มีผลงานสามอันที่เป็นของ Corpus Hermeticum และงานแปล/ดัดแปลงบางส่วนจากอุตมรัฐของเพลโต ในบทนำของ The Nag Hammadi Library in English เจมส์ โรบินสันเสนอแนะว่า โคเดกซ์เหล่านี้อาจเคยอยู่ในอารามปาโชเมียนที่อยู่ใกล้เคียง และถูกฝังไว้หลังนักบุญอาธานาเซียสประณามการใช้พระคัมภีร์นอกสารบบในจดหมายเทศกาลของเขาเมื่อ ค.ศ. 367 สมมติฐานปาโชเมียนได้รับการขยายเพิ่มเติมโดย Lundhaug กับ Jenott (2015, 2018)[2][3] และเสริมข้อมูลเพิ่มเติมโดย Linjamaa (2024) ในหนังสือของ Linjamaa โต้แย้งว่าสมุดนักฮัมมาดีเคยใช้งานโดยชนชั้นสูงทางปัญญากลุ่มเล็ก ๆ ในอารามปาโชเมียน และใช้ในส่วนเล็กของหอสมุดคริสเตียนที่กว้างขวางกว่ามาก[4]

เนื้อหาของโคเดกซ์เขียนในภาษาคอปติก ผลงานที่เป็นที่รู้จักดัที่สุดน่าจะเป็นพระวรสารนักบุญโทมัสที่มีตำราโคเดกซ์ครบทุกหน้า หลังการค้นพบนี้ นักวิชาการตระหนักว่าชิ้นส่วนคำกล่าวที่เชื่อว่าเป็นของพระเยซูปรากฏอยู่ในเอกสารตัวเขียนที่ค้นพบที่ Oxyrhynchus ใน ค.ศ. 1898 (P. Oxy. 1) และมีการอ้างคำพูดที่ตรงกันในแหล่งข้อมูลชาวคริสต์ยุคแรก นักตีความส่วนใหญ่ระบุวันที่เขียนพระวรสารนักบุญโทมัสไว้อยู่ในคริสต์ศตวรรษที่ 2 แต่ใช้แหล่งข้อมูลที่เก่ากว่านั้นมาก[5] เอกสารตัวเขียนที่ฝังอยู่มีอายุถึงคริสต์ศตวรรษที่ 3 ถึง 4

โคเดกซ์นักฮัมมาดีหลายเล่มปัจจุบันเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์คอปติกในไคโร ประเทศอียิปต์

การค้นพบ

[แก้]

ผู้ค้นพบเอกสารนักฮัมมาดีเป็นกรรมกรรับจ้างทำไร่ชาวเบดูอิน 7 คน เข้าไปขุดปุ๋ยไนเตรตใกล้กับหน้าผาจามาล อัล-ทารีฟ ขณะที่ขุดพบไหฝังอยู่ใกล้กับหัวกะโหลกคน เมื่อทุบไหแตกเห็นหนังสือจึงนำไปเก็บไว้ ต่อมาได้นำหนังสือไปฝากกับนักบวชนิกายคอปติก ญาติของนักบวชผู้นี้ที่เป็นครูสอนประวัติศาสตร์นำหนังสือนี้ไปขายให้พิพิธภัณฑ์คอปติก ต่อมาพิพิธภัณฑ์ได้ตามซื้อหนังสือชุดนี้มาเก็บไว้จนครบ

เนื้อหา

[แก้]

ส่วนใหญ่เป็นเอกสารเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ที่เชื่อว่าเคยมีแต่สูญหายไปมีทั้งหมด 46 เรื่อง เขียนด้วยภาษาคอปติก คาดว่าน่าจะเริ่มเขียนในราวพุทธศตวรรษที่ 9-10 หนังสือเหล่านี้อาจจะมาจากโบสถ์คริสต์ของนักบุญพาโคมิอัสที่อยู่ห่างจากหน้าผาที่พบ 3 ไมล์ ซึ่งนำมาซ่อนไว้หลังจากมีการประกาศให้หนังสือที่อยู่นอกเหนือการรับรองของพระศาสนจักรเป็นหนังสือนอกรีตเมื่อราว พ.ศ. 900

หมายเหตุ

[แก้]
  1. ตำราเหล่านี้เรียกขานเป็น "Gnostic Gospels" ตามหนังสือที่มีชื่อเดียวกันใน ค.ศ. 1979 โดย Elaine Pagels แต่คำนี้ก็มีความหมายทั่วไปกว่า

อ้างอิง

[แก้]
  1. Meyer, Marvin. The Nag Hammadi Scriptures: The International Edition. HarperOne, 2007. pp. 2–3. ISBN 0-06-052378-6
  2. Lundhaug, Hugo; Jenott, Lance (2015). The Monastic Origins of the Nag Hammadi Codices. Tübingen: Mohr Siebeck. ISBN 978-3-16-154172-8.
  3. Lundhaug, Hugo and Lance Jenott. ‘Production, Distribution and Ownership of Books in the Monasteries of Upper Egypt: The Evidence of the Nag Hammadi Colophons’, in Monastic Education in Late Antiquity: The Transformation of Classical Paideia, ed. Lillian I. Larsen and Samuel Rubenson. Cambridge: Cambridge University Press, 2018, 306–335.
  4. Linjamaa, Paul (2024). The Nag Hammadi Codices and Their Ancient Readers. Cambridge: Cambridge University Press. ISBN 978-1-009-44148-3.
  5. Van Voorst, Robert (2000). Jesus Outside the New Testament: an introduction to the ancient evidence (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). Grand Rapids, Michigan: Eerdmans. p. 189.

อ่านเพิ่ม

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]