ฌอร์ดี อัลบา
![]() | ||||||||||||||||||
ข้อมูลส่วนตัว | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | ฌอร์ดี อัลบา ราโมส [1] | |||||||||||||||||
วันเกิด | 21 มีนาคม ค.ศ. 1989 (31 ปี) | |||||||||||||||||
สถานที่เกิด |
ลุสปิตาแล็ตดายูบรากัต, บาร์เซโลนา, สเปน | |||||||||||||||||
ส่วนสูง | 1.70 เมตร[2] | |||||||||||||||||
ตำแหน่ง | กองหลังซ้าย | |||||||||||||||||
ข้อมูลสโมสร | ||||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน | บาร์เซโลนา | |||||||||||||||||
หมายเลข | 18 | |||||||||||||||||
สโมสรเยาวชน | ||||||||||||||||||
1998–2005 | บาร์เซโลนา | |||||||||||||||||
2005–2007 | กูร์เน็ลยา | |||||||||||||||||
2007–2008 | บาเลนเซีย | |||||||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | ||||||||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | |||||||||||||||
2007–2008 | บาเลนเซีย เม็สตายา | 18 | (5) | |||||||||||||||
2008–2012 | บาเลนเซีย | 74 | (5) | |||||||||||||||
2008–2009 | → ฌิมนัสติก (ยืมตัว) | 35 | (4) | |||||||||||||||
2012– | บาร์เซโลนา | 224 | (10) | |||||||||||||||
ทีมชาติ‡ | ||||||||||||||||||
2006 | สเปน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี | 6 | (1) | |||||||||||||||
2009 | สเปน รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี | 9 | (0) | |||||||||||||||
2008–2011 | สเปน รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี | 4 | (0) | |||||||||||||||
2012 | สเปน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี | 4 | (0) | |||||||||||||||
2011– | สเปน | 70 | (8) | |||||||||||||||
2008– | กาตาโลเนีย | 5 | (0) | |||||||||||||||
เกียรติประวัติ
| ||||||||||||||||||
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้กับสโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 19:23, 14 สิงหาคม ค.ศ. 2020 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้กับทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2020 |
ฌอร์ดี อัลบา อี ราโมส (ภาษากาตาลา: [ˈʒɔɾði ˈalβə ˈramos], ภาษาสเปน: [ˈɟʝoɾði ˈalβa ˈramos]; เกิดวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 1989 เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันลงเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาในลาลีกา และทีมชาติสเปน โดยหลักแล้วเล่นตำแหน่งกองหลังด้านซ้าย (แบ็กซ้าย)
ประวัติ[แก้]
ระดับเยาวชน[แก้]
อัลบาเกิดในลุสปิตาแล็ตดายูบรากัต, นครบาร์เซโลน่า, ในกาตาลัน อัลบาเริ่มต้นอาชีพในศูนย์ฝึกเยาวชนลามาเซียของบาร์เซโลน่า ซึ่งเขาเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย (left winger) แต่ได้รับการปล่อยตัวจากสโมสรเมื่อปี ค.ศ. 2005 เนื่องด้วยสภาพร่างกายที่เล็กเกินไป[3] จากนั้นเขาก็เข้าร่วมทีม กูร์เน็ลยา ซึ่งอยู่ในแคว้นคาตาลันเช่นกันและหลังจากผ่านไปเกือบสองปีเขาก็ตกลงย้ายเข้าสู่ บาเลนเซีย ในราคา 6,000 ยูโร และจบการศึกษาฟุตบอลที่นี่[4]
หลังจากช่วยให้ทีมสำรองของบาเลนเซีย เลื่อนชั้นสู่ เตร์เซราดีบีซีออน ในฤดูกาล 2007–08 อัลบา ได้ถูกยืมตัวไปยัง ฌิมนัสติก ทีมในเซกุนดาดีบีซีออน โดยเขาได้ลงเล่น 36 นัดให้กับทีม และพาทีมจบลำดับที่ 10 บนตารางคะแนนในลีก[5]
บาเลนเซีย[แก้]

หลังจากกลับมาอยู่กับบาเลนเซียในฤดูกาล 2009–10 เมื่อวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 2009 อัลบาได้ลงเล่นเป็นนัดแรกในเกมที่เอาชนะ เรอัลบายาโดลิด 4-2 โดยเขาถูกส่งมาเป็นตัวสำรองแทนที่ ดาบิด ซิลบา ในนาทีที่ 80[6] เมื่อวันที่ 17 กันยายน ค.ศ. 2009 เขาได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกในเกมยูฟ่ายูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งทีมของเขาพบกับ ล็อสก์ลีล ที่ สนามกีฬาลีล-เมโทรโปเลอ ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอกันที่ 1–1 [7] หลังจากอัลบาได้รับบาดเจ็บ เขาได้เลือกที่จะเปลี่ยนตำแหน่งการเล่นจากตำแหน่ง ปีกซ้าย มาเป็นตำแหน่ง แบ็กซ้าย (กองหลังด้านซ้าย) ในวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 2010 อัลบาทำประตูแรกให้กับทีมได้ในนัดที่บาเลนเซีย ออกไปเยือนมายอร์กา ในเกมลาลิกา ซึ่งผลจบลงด้วยการแพ้ 2–3[8]
ในฤดูกาลถัดมา (2010–11) ภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง อูไน เอเมรี เขาได้ลงเล่นในตำแหน่งกองหลังด้านซ้ายอยู่เป็นประจำ โดยมี เฌเรมี มาตีเยอ เป็นตัวสำรองของเขาในตำแหน่งนี้ เขาลงเล่น 27 นัดในลีกและพาทีมจบลำดับที่ 3 บนตารางคะแนนลาลิกา และทำให้บาเลนเซียได้ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลถัดไป
ในฤดูกาลถัดมา เอเมรี ได้ใช้วิธีการลงเล่นเปลี่ยนตำแหน่งบ่อยครั้งเพื่อทำเกมรุกและเกมรับ ระหว่าง เฌเรมี มาตีเยอ กับ อัลบา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เขาทดสอบใช้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว[9][10][11] ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพของเกมรับของทีม[12]
บาร์เซโลนา[แก้]
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 2012 อัลบาเซ็นสัญญาได้กับ บาร์เซโลนา เป็นระยะเวลา 5 ปีโดยมีค่าตัวจำนวน 14 ล้านยูโร [13] เขาลงเล่นเป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ในนัดเปิดฤดูกาลลาลีกาโดยเปิดกัมนอว์เอาชนะ เรอัลโซซิเอดัด 5–1 ตัวเขายังเล่นครบ 90 นาที อีกด้วย[14]
อัลบายิงประตูแรกของเขากับบาร์เซโลนาเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2012 ในนัดที่ออกไปเยือนเดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา โดยเขายิงประตูขึ้นนำ 0–1 ในนาทีที่ 3 ก่อนที่ผลจะจบลงด้วยชัยชนะที่ 5–4 ในอีก 3 วันต่อมาในเกม ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2012-13 รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งบาร์เซโลนาเปิดบ้านพบกับ เซลติก เข้ายังเป็นคนทำประตูชัยในนาทีที่ 93 ช่วยให้บาร์เซโลนาชนะไปด้วยผล 2–1[15] โดยในฤดูกาลแรกของอัลบานี้เขาได้รับโอกาสลงเล่นจาก ตีโต บีลานอบา ผู้จัดการทีม 44 นัดในทุกรายการและทวงคืนแชมป์ลีกกลับสู่ทีมได้หลังจากเสียแชมป์ให้กับ เรอัลมาดริด เมื่อฤดูกาลก่อน[16]
ในวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 2015 อัลบา ได้ต่อสัญญากับบาร์เซโลนาออกไปอีก 5 ปี จนถึงปี ค.ศ. 2020 โดยมีค่าฉีกสัญญา 150 ล้านยูโร[17] โดยสี่วันหลังจากวันที่ต่อสัญญานั้น อัลบา ได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ที่โอลึมพีอาชตาดีอ็อน ในกรุงเบอร์ลิน กับยูเวนตุส โดยทีมของพวกเขาเอาชนะไป 3–1 ทำให้ทีมคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ได้สำเร็จ[18] ตลอดฤดูกาลเขาลงเล่น 38 นัดและทำ 1 ประตู และพาทีมคว้าทุกแชมป์ที่บาร์เซโลนามีสิทธิ์ลงเล่นในฤดูกาลนี้[19][20]
ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 อัลบา พาทีมคว้าแชมป์ โกปาเดลเรย์ โดยเขาสามารถทำประตูได้ในรอบชิงชนะเลิศ กับ เซบียา ที่ บิเซนเต กัลเดรอน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ในนาทีที่ 97 เป็นประตูขึ้นนำ 1–0 ก่อนที่เนย์มาร์จะทำประตูที่สองทำให้ผลจบลงที่ 2–0[21]
ในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2019 อัลบา ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทีมเป็นระยะเวลา 5 ปี โดยมีค่าฉีกสัญญา 500 ล้านยูโร[22]
ระดับทีมชาติ[แก้]
ในปี ค.ศ. 2008 อัลบา ได้รับเลือกให้เข้าร่วมทีมชาติสเปน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เพื่อแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป โดยเขาทำประตูได้ในเกมกับเยอรมนี แต่สเปนตกรอบแรกของการแข่งขัน, ในปีต่อมา เขาคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันเมดิเตอร์เรเนียนเกมส์ 2009 ณ กรุงเพสการา กับทีมชาติสเปนรุ่นดังกล่าวนี้โดยเขาได้ลงเล่น 4 นัด, รวมถึงได้เข้าร่วมการแข่งขัน ฟุตบอลโลกเยาวชน รุ่ยอายุไม่เกิน 20 ปี ที่ประเทศอียิปต์
ในวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2011 อัลบา ได้ถูกเรียกตัวขึ้นสู่ทีมชาติสเปน ชุดใหญ่ เพื่อแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 รอบคัดเลือก กับ สาธารณรัฐเช็ก และ สกอตแลนด์.[23] โดยเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมกับสกอตแลนด์ในวันที่ 11 ตุลาคม ซึ่งสเปนเอาชนะไป 3–1 โดยเขายังสามารถทำแอสซิตส์ให้กับดาบิด ซิลบา เพื่อนร่วมทีมบาเลนเซียทำประตูได้อีกด้วย[24] ในปี ค.ศ. 2012 เขาได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสเปน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี สำหรับการแข่งขัน โอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่สหราชอาณาจักร โดยเขาได้ลงเล่นครบทั้ง 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่มและสเปนก็ตกรอบที่รอบนี้หลังจากแพ้ 2 นัดและเสมอ 1 นัด[25]

อัลบา ได้รับเลือกจาก บิเซนเต เดล โบสเกให้เป็น 1 ใน 23 คนของทีมชาติสเปน เพื่อแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 รอบสุดท้ายที่โปแลนด์ และ ยูเครน โดยเขาลงเล่นครบทุกนัดและในรอบก่อนรองชนะเลิศ เขาได้เปิดบอลให้กับ ชาบี อาลอนโซ ทำประตูขึ้นนำ 2–0 เก็บชัยชนะเหนือ ฝรั่งเศส ด้วยคะแนนดังกล่าวได้สำเร็จ[26], ในรอบชิงชนะเลิศ กับ อิตาลี เขาได้ทำประตูขึ้นนำ 2-0 ในนาทีที่ 41 โดยผลการแข่งขันจบลงที่ชัยชนะ 4–0 ทำให้สเปนคว้าแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน [27][28]
ในปีถัดมาเขาได้เข้าร่วมแข่งขัน ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2013 ที่บราซิล โดยเขาสามารถทำ 2 ประตูได้ในเกมกับไนจีเรีย ในรอบแบ่งกลุ่มทำให้สเปนเอาชนะไป 3–0 โดยตลอดการแข่งขันเขาได้ลงเล่น 4 นัดรวมถึงในนัดชิงชนะเลิศ กับ บราซิล ที่มารากานัง ซึ่งทีมของพวกเขาแพ้ให้กับทีมเจ้าภาพไป 3–0 [29]
ในปีถัดมาเขาได้ถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมทีมเพื่อแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2014,[30] โดยเขาได้ลงเล่นครบทั้ง 3 นัดและทีมของพวกเขาตกรอบแรกของการแข่งขันครั้งนี้[31] ในปี ค.ศ. 2016 เขาได้เข้าแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่ฝรั่งเศส โดยเขาได้ลงเล่นทั้ง 4 นัดตลอดการแข่งขันรวมถึงในรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับอิตาลี ซึ่งสเปนแพ้ไป 2–0 ทำให้ทีมของพวกเขาตกรอบในรอบดังกล่าวนี้[32]ในปี ค.ศ. 2018 เขาได้แข่งขันฟุตบอลโลก ที่รัสเซีย ซึ่งเขาได้ลงเล่นในทุกนัดตลอดการแข่งขัน โดยทีมของเขาตกรอบในรอบ 16 ทีมสุดท้ายหลังจากแพ้การดวลลูกโทษ 4–3 ให้กับร้สเซียหลังเสมอกันใน 120 นาที 1–1 [33]
เกียรติประวัติ[แก้]
บาร์เซโลนา[2]
- ลาลีกา: 2012–13, 2014–15, 2015–16, 2017–18, 2018–19
- โกปาเดลเรย์: 2014–15, 2015–16, 2016–17, 2017–18
- ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา: 2013, 2016, 2018
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2014–15
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก: 2015
สเปน รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี
สเปน[2]
- ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป: 2012
- ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ รองชนะเลิศ: 2013
รางวัลส่วนตัว
- ทีมยอดเยี่ยมประจำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป: 2012[35]
- ฟีฟโปรเวิลด์ 11: ทีมลำดับที่ 2 2015[36] ทีมลำดับที่ 3 2013, 2014, 2016, 2018[37][38][39][40] ได้รับการเสนอชื่อ 2019 (ลำดับที่ 8 ในตำแหน่งกองหลัง)[41]
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล: 2014–15[42]
- ลาลิกา ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล: 2014–15[43]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "Jordi Alba". Liga de Fútbol Profesional. สืบค้นเมื่อ 16 August 2019.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 "Jordi Alba". FC Barcelona. สืบค้นเมื่อ 4 September 2018.
- ↑ Jordi Alba, la bala (Jordi Alba, the bullet); Marca, 2 June 2014 (in Spanish)
- ↑ Jordi Alba, el lateral que se incorporó por sorpresa (Jordi Alba, the full back who joined by surprise); Sphera Sports, 4 January 2014 (in Spanish)
- ↑ Jordi Alba ya es grana y Campano puede quedarse (Jordi Alba is already grana and Campano might stay); Diario AS, 26 July 2008 (in Spanish)
- ↑ Villa stars in Valencia win; ESPN Soccernet, 13 September 2009
- ↑ "Losc 1-1 Valencia". UEFA. 17 September 2009. สืบค้นเมื่อ 3 May 2020.
- ↑ Los Che complete woeful week; ESPN Soccernet, 11 April 2010
- ↑ Barcelona 2–1 Valencia: Barca outmanoeuvred early on, but stage second half fightback; Zonal Marking, 19 October 2010
- ↑ Valencia 2–2 Barcelona: Emery gets the better of Guardiola early on, but Barca fight back; Zonal Marking, 22 September 2011
- ↑ Tactical breakdown of Valencia 2 – Barcelona 2 (Emery v Guardiola); 101 Great Goals, 22 September 2011
- ↑ Alba anxious to learn; FIFA, 5 October 2011
- ↑ Agreement with Valencia over Jordi Alba; FC Barcelona, 28 June 2012
- ↑ "Messi bags brace for five-goal Barca". ESPN Soccernet. 19 August 2012. สืบค้นเมื่อ 20 August 2012.
- ↑ "Breathtaking Barcelona blow Milan away". UEFA. 12 March 2013. สืบค้นเมื่อ 13 March 2013.
- ↑ "The first La Liga title for eight FC Barcelona players". FC Barcelona. 13 May 2015. สืบค้นเมื่อ 7 June 2015.
- ↑ "Agreement to extend Jordi Alba's contract until 30 June 2020". FC Barcelona. 2 June 2015. สืบค้นเมื่อ 2 June 2015.
- ↑ "Barcelona see off Juventus to claim fifth title". UEFA. 6 June 2015. สืบค้นเมื่อ 7 June 2015.
- ↑ "Almería 1–2 Barcelona". BBC Sport. 8 November 2014. สืบค้นเมื่อ 16 February 2016.
- ↑ "Barça make history with second treble!". FC Barcelona. 6 June 2015. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 7 June 2015. สืบค้นเมื่อ 7 June 2015.
- ↑ "Messi sirve el doblete" [Messi hands out double] (ภาษาสเปน). Marca. 22 May 2016. สืบค้นเมื่อ 23 May 2016.
- ↑ "Jordi Alba, a blaugrana until 2024". www.fcbarcelona.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-05-09.
- ↑ Only one new face as Del Bosque names Spain squad; Shanghai Daily, 30 September 2011
- ↑ Spain 3–1 Scotland; BBC Sport, 11 October 2011
- ↑ "Euro 2012 trio Mata, Alba & Martinez in Spain Olympic squad". BBC Sport. 5 July 2012. สืบค้นเมื่อ 19 February 2018.
- ↑ Centurion Alonso sends Spain into last four; UEFA, 23 June 2012
- ↑ "Spain overpower Italy to win UEFA EURO 2012". UEFA. 1 July 2012. สืบค้นเมื่อ 3 July 2012.
- ↑ Jordi Alba: I cannot believe what has happened; Goal, 1 July 2012
- ↑ "Alba brace sees Spain top group". FIFA. 23 June 2013. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 26 June 2013. สืบค้นเมื่อ 25 June 2013.
- ↑ "Spain World Cup 2014 squad". The Daily Telegraph. 2 June 2014. สืบค้นเมื่อ 9 July 2014.
- ↑ "Villa and Spain bow out on a high". FIFA. 23 June 2014. สืบค้นเมื่อ 9 July 2014.
- ↑ แม่แบบ:Cute web
- ↑ "Morata misses out on Spain's 23-man World Cup squad". Goal. 21 May 2018. สืบค้นเมื่อ 21 May 2018.
- ↑ "ITA – ESP 1:2 (0:0)" (PDF). Pescara 2009. 4 July 2009. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 15 February 2012. สืบค้นเมื่อ 10 April 2014.
- ↑ "UEFA EURO 2012 Team of the Tournament". UEFA. 2 July 2012. สืบค้นเมื่อ 9 July 2014.
- ↑ "2015 World XI: the reserve teams". FIFPro. 11 January 2016. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 9 April 2019. สืบค้นเมื่อ 1 October 2017.
- ↑ "FifPro announces reserve Teams of the Year – but Luis Suarez and Arjen Robben won't be laughing while Iker Casillas is somehow named the second best goalkeeper of 2013". The Independent. 15 January 2014. สืบค้นเมื่อ 1 October 2017.
- ↑ "FIFA FIFPro World XI: the reserve teams". FIFPro. 15 January 2015. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 14 April 2019. สืบค้นเมื่อ 1 October 2017.
- ↑ "2016 World 11: the reserve teams". FIFPro. 9 January 2017. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 9 April 2019. สืบค้นเมื่อ 1 October 2017.
- ↑ "World 11: The Reserve Team for 2017–18". FIFPro. 24 September 2018. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 26 June 2019. สืบค้นเมื่อ 25 September 2018.
- ↑ "Rankings: How All 55 Male Players Finished". FIFPro World Players' Union. 23 September 2019.
- ↑ "UEFA Champions League squad of the season". UEFA. 9 June 2015. สืบค้นเมื่อ 9 June 2015.
- ↑ "The 2014/15 Liga BBVA Ideal XI". Liga de Fútbol Profesional. 15 June 2015. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 15 September 2018. สืบค้นเมื่อ 17 June 2015.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: ฌอร์ดี อัลบา |
- FC Barcelona official profile
- ประวัติของ ฌอร์ดี อัลบา ที่ BDFutbol
- CiberChe biography and stats (สเปน)
- National team data
- ฌอร์ดี อัลบา ที่ National-Football-Teams.com
- ฌอร์ดี อัลบา – สถิติการลงแข่งจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) (อังกฤษ)
- ฌอร์ดี อัลบา – สถิติการลงแข่งจากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) (อังกฤษ)
|
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2532
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักฟุตบอลชาวสเปน
- นักฟุตบอลชาวกาตาลา
- ผู้เล่นในลาลิกา
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา
- นักฟุตบอลทีมชาติสเปน
- ผู้เล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012
- นักฟุตบอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012
- กองหลังฟุตบอล
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2014
- ปีกฟุตบอล
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2018
- ผู้เล่นในชุดชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
- ผู้เล่นในชุดชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป