เฟร์รัน ตอร์เรส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เฟร์รัน ตอร์เรส
เฟร์รัน ขณะลงเล่นให้กับบาเลนเซีย ในปี ค.ศ. 2019
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม เฟร์รัน ตอร์เรส การ์ซิอา[1]
วันเกิด (2000-02-29) 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2000 (24 ปี)[2]
สถานที่เกิด โฟโยส สเปน
ส่วนสูง 1.84 เมตร (6 ฟุต 0 นิ้ว)
ตำแหน่ง ปีก
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
บาร์เซโลนา
หมายเลข 19
สโมสรเยาวชน
2006–2017 บาเลนเซีย
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2016–2017 บาเลนเซีย เบ 12 (1)
2017–2020 บาเลนเซีย 71 (6)
2020–2021 แมนเชสเตอร์ซิตี 28 (9)
2022– บาร์เซโลนา 26 (5)
ทีมชาติ
2016–2017 สเปน อายุไม่เกิน 17 ปี 24 (2)
2018–2019 สเปน อายุไม่เกิน 19 ปี 17 (9)
2019– สเปน อายุไม่เกิน 21 ปี 6 (0)
2020– สเปน 30 (13)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 19:15, 18 ตุลาคม ค.ศ. 2022 (UTC)
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 19:15, 18 ตุลาคม ค.ศ. 2022 (UTC)

เฟร์รัน ตอร์เรส การ์ซิอา (สเปน: Ferran Torres García; เกิด 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2000) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันลงเล่นในตำแหน่งกองหน้า ให้แก่บาร์เซโลนา สโมสรในลาลิกา และทีมชาติสเปน

สโมสรอาชีพ[แก้]

บาร์เซโลนา[แก้]

วันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 2021 แมนเชสเตอร์ซิตี ได้ประกาศยืนยันว่า ตอร์เรส จะย้ายออกจากทีมและได้บรรลุข้อตกลงในการไปยังบาร์เซโลนา ด้วยค่าตัว 46.3 ล้านยูโร เป็นสัญญาถาวรเป็นเวลา 5 ปี จนถึง 30 มิถุนายน ค.ศ. 2027 โดยมีค่าฉีกสัญญา 1 พันล้านยูโร[3] เขาลงเล่นกับทีมเป็นนัดแรกในวันที่ 12 มกราคม ในรอบรองชนะเลิศซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา ฤดูกาล 2021–2022 ซึ่งเป็นเกมเอลกลาซิโก ครั้งที่ 248 กับเรอัลมาดริด ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแต่ถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่นาทีที่ 46 ซึ่งทีมของเขาแพ้ไป 3–2 [4] ในอีกแปดวันถัดมา เขาทำประตูแรกให้กับบาร์เซโลนาได้ ซึ่งเป็นประตูแรกของนัดที่ออกไปเยือนอัตเลติกบิลบาโอ ที่ซานมาเมส ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของโกปาเดลเรย์ ซึ่งบาร์เซโลนาพ่ายแพ้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3–2[5] ในวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2022 เขาทำประตู และยังแอสซิตส์ให้กับปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ ทำประตูช่วยให้บาร์เซโลนาเอาชนะเรอัลมาดริด 0–4 ที่ซานเตียโก เบร์นาเบว[6]

ระดับทีมชาติ[แก้]

ในปี ค.ศ. 2017 ตอร์เรส เป็นสมาชิกของทีมชาติสเปนชุดที่ชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี หลังเอาชนะอังกฤษในรอบชิงชนะเลิศ และยังเป็นสมาชิกของทีมที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี แต่กลับแพ้ต่ออังกฤษ[7][8]

แค่ 16 วันหลังจากเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ซิตี ตอร์เรสถูกเรียกติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่เป็นครั้งแรก[9] เขาประเดิมลงเล่นนัดแรกในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2020 ในนัดที่ออกไปเยือนเยอรมนี ในยูฟ่าเนชันส์ลีก โดยเขาได้ลงเล่นครบ 90 นาที และผลจบลงด้วยการเสมอกัน 1–1 สามวันหลังจาก เขาทำประตูแรกไก้ในนัดที่ พฤศจิกายน ค าชนะยูเครน 4–0[10] ในวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 เขาทำแฮตทริกแรกในอาชีพได้ในนัดที่เอาชนะเยอรมนี 6–0 ที่ลาการ์ตูฆา[11][12] ในวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 ได้มีการประกาศว่า ตอร์เรส ได้เป็นหนึ่งใน 24 นักเตะทีมชาติสเปนของลุยส์ เอนริเก เพื่อแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020[13] เขาทำได้หนึ่งประตูในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งเป็นประตูขึ้นนำโครเอเชีย 3–1 ในนาทีที่ 76 ก่อนที่สเปนจะเอาชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ 5–3 ในวันที่ 28 มิถุนายน[14] ก่อนที่สเปนจะตกรอบรองชนะเลิศ[15]

ในวันที่ 6 ตุลาคม ตอร์เรส ทำสองประตูซึ่งทำให้สเปนเอาชนะอิตาลีเจ้าของแชมป์ยุโรป 2–1 ในรอบรองชนะเลิศยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ที่ซานซีโร[16] ในอีกสี่วันถัดมา สเปนพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศต่อฝรั่งเศส 2–1[17] สองประตูดังกล่าวของเขาทำให้เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในยูฟ่าเนชันส์ลีก รอบสุดท้าย ร่วมกับการีม แบนเซมา และกีลียาน อึมบาเปของฝรั่งเศส แต่ตอร์เรสได้รับรางวัลผู้ทำประตูสูงสุดเนื่องจากยังทำสองแอสซิสต์[18]

สถิติอาชีพ[แก้]

สโมสร[แก้]

ณ วันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 2022[19][20]
การลงเล่น และทำประตู ในแต่ฤดูกาล สโมสร และการแข่งขัน
สโมสร ฤดูกาล ลีก ถ้วย ลีกคัพ ยุโรป อื่น ๆ รวม
ดิวิชัน ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
บาเลนเซีย เบ 2016–17 เซกุนดาดิบิซิออน เบ 2 0 2 0
2017–18 10 1 10 1
รวม 12 1 12 1
บาเลนเซีย 2017–18 ลาลิกา 13 0 3 0 16 0
2018–19 24 2 6 1 7[a] 0 37 3
2019–20 34 4 3 0 6[b] 2 1[c] 0 44 6
รวม 71 6 12 1 13 2 1 0 97 9
แมนเชสเตอร์ซิตี 2020–21 พรีเมียร์ลีก 24 7 3 1 3 1 6[b] 4 36 13
2021–22[21] 4 2 0 0 1 1 1[b] 0 1[d] 0 7 3
รวม 28 9 3 1 4 2 7 4 1 0 43 16
บาร์เซโลนา 2021–22[22] ลาลิกา 18 4 1 1 6[e] 2 1[c] 0 26 7
2022–23[20] 8 1 0 0 3[b] 1 0 0 11 2
รวม 26 5 1 1 0 0 9 3 1 0 37 9
รวมทั้งหมด 137 21 16 3 4 2 29 9 3 0 189 35

ทีมชาติ[แก้]

ณ วันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2021[23]
ลงเล่นและทำประตูในแต่ละทีมชาติ และปี
ทีมชาติ ปี ลงเล่น ประตู
สเปน 2020 7 4
2021 15 8
รวม 22 12

เกียรติประวัติ[แก้]

สโมสร[แก้]

บาเลนเซีย[20]

แมนเชสเตอร์ซิตี

สเปน อายุไม่เกิน 19 ปี

สเปน

ส่วนบุคคล

อ้างอิง[แก้]

  1. "2020/21 Premier League squads confirmed". Premier League. 20 October 2020. สืบค้นเมื่อ 25 October 2020.
  2. "Ferrán Torres: Overview". ESPN. สืบค้นเมื่อ 20 February 2021.
  3. "Ferran Torres: Barcelona confirm Manchester City forward has joined". BBC Sport. 28 December 2021. สืบค้นเมื่อ 29 December 2021.
  4. Ferran Torres makes FC Barcelona debut fcbarcelona.com เขียนเมื่อ 13 มกราคม ค.ศ. 2022 สืบค้นเมื่อ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2022
  5. "Ferran Torres opens FC Barcelona account". FC Barcelona (ภาษาอังกฤษ). 20 January 2022. สืบค้นเมื่อ 23 January 2022.
  6. "La Liga: Barca earn stunning 4-0 win at Real Madrid in Clasico". BBC Sport. 19 March 2022. สืบค้นเมื่อ 20 March 2022.
  7. Chozas, Sergio Santos (27 October 2017). "Ferrán Torres on interest from big clubs and hopes of lifting the World Cup". AS. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-29. สืบค้นเมื่อ 6 March 2020.
  8. Unwin, Will (28 October 2017). "England 5–2 Spain: Under-17 World Cup final – as it happened!". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 6 March 2020.
  9. "OFICIAL | Lista de convocados de la Selección española para los partidos de la UEFA Nations League ante Alemania y Ucrania". SE Futbol (ภาษาสเปน). 20 August 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-30. สืบค้นเมื่อ 20 August 2020.
  10. "Nations League: Ansu Fati, 17, scores for Spain v Ukraine". BBC Sport. 6 September 2020.
  11. "Spain 6-0 Germany: Ferran Torres hat-trick helps hosts reach Nations League finals". BBC Sport. 17 Novemember 2020. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  12. Mendola, Nicholas (17 November 2020). "UEFA Nations League: Spain obliterates Germany behind Ferran Torres". NBC Sports. สืบค้นเมื่อ 17 November 2020.
  13. Braidwood, Jamie (24 May 2021). "Euro 2020 news LIVE: Sergio Ramos left out of Spain squad plus latest before England announcement". The Independent. สืบค้นเมื่อ 24 May 2021.
  14. "Spain beat Croatia in eight-goal thriller". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 28 June 2021.
  15. Italy 1-1 Spain (pens: 4-2): Azzurri hold nerve to reach EURO final uefa.com writted on Tuesday 6 July 2021 Retrieved on 15 November 2022
  16. "Italy 1-2 Spain: Ferran Torres double ends Azzurri run". UEFA.com. 6 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.
  17. "Spain vs. France - Football Match Report". ESPN.com. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.
  18. "UEFA Nations League finals top scorer: Kylian Mbappé". UEFA.com. Union of European Football Associations. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.
  19. "Ferrán Torres". SofaScore. สืบค้นเมื่อ 6 October 2019.
  20. 20.0 20.1 20.2 ข้อมูลของ เฟร์รัน ตอร์เรส ที่ ซ็อกเกอร์เวย์
  21. "Games played by เฟร์รัน ตอร์เรส in 2021/2022". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 1 October 2021.
  22. "Ferrán Torres » Club matches". worldfootball.net (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-12-28.
  23. Torres, Ferran ที่ National-Football-Teams.com
  24. "Ferran Torres: Overvieาะ่าาบw". Premier League. สืบค้นเมื่อ 28 May 2021.
  25. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ golden boy
  26. "France beat Spain to win Nations League". UEFA. Union of European Football Associations. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  27. "2019 U19 EURO team of the tournament". UEFA.com. 30 July 2019.
  28. "Torres wins Nissan Goal of the Season with spectacular Newcastle strike". Manchester City F.C. 24 May 2021. สืบค้นเมื่อ 27 May 2021.
  29. "UEFA Nations League Top Scorers". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 11 October 2021.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  30. "UEFA Nations League finals top scorer: Kylian Mbappé". UEFA.com. Union of European Football Associations. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 10 October 2021.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]