เปา ตอร์เรส
ข้อมูลส่วนตัว | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | เปา ฟรันซิสโก ตอร์เรส | ||||||||||||||||
วันเกิด | [1] | 16 มกราคม ค.ศ. 1997||||||||||||||||
สถานที่เกิด | บิยาร์เรอัล สเปน[1] | ||||||||||||||||
ส่วนสูง | 1.92 เมตร (6 ฟุต 4 นิ้ว)[1] | ||||||||||||||||
ตำแหน่ง | เซ็นเตอร์แบ็ก | ||||||||||||||||
ข้อมูลสโมสร | |||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน | แอสตันวิลลา | ||||||||||||||||
หมายเลข | 14 | ||||||||||||||||
สโมสรเยาวชน | |||||||||||||||||
2002–2016 | บิยาร์เรอัล | ||||||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | |||||||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | ||||||||||||||
2016 | บิยาร์เรอัล เซ | 1 | (0) | ||||||||||||||
2016–2018 | บิยาร์เรอัล เบ | 59 | (2) | ||||||||||||||
2017–2023 | บิยาร์เรอัล | 98 | (8) | ||||||||||||||
2018–2019 | → มาลากา (ยืม) | 38 | (1) | ||||||||||||||
2023– | แอสตันวิลลา | 0 | |||||||||||||||
ทีมชาติ‡ | |||||||||||||||||
2019 | สเปน อายุไม่เกิน 21 ปี | 1 | (0) | ||||||||||||||
2021– | สเปน อายุไม่เกิน 21 ปี | 7 | (0) | ||||||||||||||
2019– | สเปน | 17 | (1) | ||||||||||||||
เกียรติประวัติ
| |||||||||||||||||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 11 มิถุนายน ค.ศ. 2021 ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2021 |
เปา ฟรันซิสโก ตอร์เรส (สเปน: Pau Francisco Torres; เกิด 16 มกราคม ค.ศ. 1997) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กให้กับแอสตันวิลลา สโมสรในพรีเมียร์ลีก และทีมชาติสเปน
สโมสรอาชีพ
[แก้]เปา ตอร์เรส เกิดในบิยาร์เรอัล จังหวัดกัสเตยอน แคว้นบาเลนเซีย เขาเข้าร่วมทีมเยาวชนของบิยาร์เรอัล สโมสรในบ้านเกิด เมื่ออายุเพียง 5 ปี ก่อนที่เมื่อเขาอายุ 19 ปี เขาจะถูกดันขึ้นสู่ทีมสำรองของสโมสรซึ่งขณะนั้นลงเล่นอยู่ในเซกุนดาดิบิซิออน เบ โดยเขาได้ลงเล่นครั้งแรกในวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2016 ในนัดที่พวกเขาออกไปเยือนอูเอ กูร์นัลยา โดยทีมของเขาแพ้ด้วยคะแนน 1–0[2] ก่อนที่เขาจะทำประตูแรกได้ในวันที่ 8 ตุลาคม ปีเดียวกัน ในนัดเหย้ากับบาดาโลนา เป็นประตูขึ้นนำ 1–0 ก่อนที่จะจบลงด้วยการเสมอกัน 2–2[3] หลังจากเขาลงเล่น 17 นัดจาก 18 นัดแรกของฤดูกาลที่บิยาร์เรอัล เบ แข่งขัน ในวันที่ 20 ธันวาคม เขาได้ถูกเรียกตัวขึ้นไปลงเล่นกับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเกมโกปาเดลเรย์ รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง กับเซเด โตเลโด โดยเขาถูกเปลี่ยนตัวลงเล่นแทนบิกตอร์ รุยซ์ ในนาทีที่ 80 โดยผลจบลงด้วยการเสมอกัน 1–1 รวมผลสองนัดชนะไปด้วยคะแนน 4–1[4] ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่เกิดในบิยาร์เรอัลที่ลงเล่นให้กับสโมสรเป็นคนแรกในรอบ 13 ปี[5] ในนัดถัดมาในอีก 21 วันถัดมา เขากลับไปลงเล่นกับทีมสำรองอีกครั้งและทำ 1 ประตู ช่วยให้ทีมเอาชนะอูเอ กูร์นัลยา 4–2 โดยเป็นประตูสุดท้ายของเขาที่ทำให้กับบิยาร์เรอัล เบได้ โดยตลอดฤดูกาลเขาลงเล่น 34 นัด จากที่บิยาร์เรอัล เบ แข่งขันทั้งหมด 38 นัด[6]
ในฤดูกาลถัดมา เขาได้ถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่ตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาลลาลิกา ก่อนที่จะได้ลงเล่นในนัดที่ 13 ของฤดูกาล ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 ในนัดที่พวกเขาแพ้ให้กับเซบิยา 2–3 จากการเปลี่ยนตัวลงมาแทนมานู ตริเกโรส ในนาทีที่ 84[7] ในอีก 10 วันถัดมา เขาได้ลงเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีกเป็นครั้งแรก โดยเป็นเกมในรอบแบ่งกลุ่ม พบกับมัคคาบีเทลอาวีฟที่เอสตาดิโอเดลาเซรามิกา บิยาร์เรอัลแพ้ด้วยคะแนน 1–0[8] ตลอดฤดูกาลเขาลงเล่น 4 นัดให้กับทีมชุดใหญ่และอีก 31 นัดให้กับทีมสำรอง
ในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 2018 เขาถูกยืมตัวให้ไปลงเล่นกับมาลากาในเซกุนดาดิบิซิออน[9] เขาได้ลงเล่นนัดแรกในวันที่ 18 สิงหาคม ในนัดเปิดฤดูกาลกับลูโก โดยยืนในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก คู่กับลุยส์ เอร์นันเดซ โดยได้ลงเล่นครบ 90 นาทีช่วยให้ทีมเอาชนะไปด้วยคะแนน 1–2[10] ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 เขาทำประตูแรกให้กับมาลากาได้ในเกมลีกนัดที่ 12 พบกับโอซาซูนาที่เอลซาดาร์ เป็นประตูขึ้นนำ 0–1 ก่อนที่สุดท้ายจะถูกแซงเอาชนะไป 2–1[11] โดยตลอดฤดูกาลในทุกรายการเขาพลาดการลงเล่นเพียง 5 นัด[12] ช่วยให้ทีมเข้าสู่รอบเพลย์-ออฟเลื่อนชั้น ก่อนที่จะแพ้ให้กับเดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา ในรอบรองชนะเลิศ[13]
หลังหมดสัญญายืมตัวกลับมาลากา เปา ตอร์เรส ก็ได้ถูกเรียกกลับสู่บิยาร์เรอัล และได้เป็นสมาชิกของทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ ใน 20 นัดแรกที่บิยาร์เรอัลลงแข่งขันตัวเขาได้ลงเล่นครบทุกนาที[14] ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2019 เขาได้ต่อสัญญากับทีมออกไปจนถึงปี ค.ศ. 2024[15] ในอีกสามวันถัดมา เขาสามารถทำประตูแรกในลาลิกาได้ในนัดที่ออกไปเยือนเซอา โอซาซูนา เป็นประตูขึ้นนำ 0–1 ในนาทีที่ 5 ก่อนที่ทีมของเขาจะแพ้ไปด้วยคะแนน 2–1[16] ตลอดฤดูกาลเขาลงเล่นในนัดอย่างเป็นทางการ 38 นัดจากที่บิยาร์เรอัลลงเล่น 45 นัด พร้อมกับทำ 2 ประตู[17]ช่วยให้ทีมจบลำดับที่ห้าบนตารางคะแนนลาลิกา ซึ่งจะได้สิทธิ์ลงเล่นยูฟ่ายูโรปาลีกในฤดูกาลถัดไป ในฤดูกาล 2020–21 เขายังคงยึดตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก คู่กับราอุล อัลบิโอลได้อย่างต่อเนื่อง[18] ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 เขายังทำประตูให้กับบิยาร์เรอัลได้ในเกมลีกนัดที่ 8 กับเรอัลบายาโดลิด ช่วยให้ทีมเอาชนะไป 2–0[19] รวมถึงในวันที่ 13 ธันวาคม เขาทำประตูให้บิยาร์เรอัลขึ้นนำเรอัลเบติส 1–0 ที่เบนิโต บิยามาริน ก่อนที่จะถูกตีเสมอเป็น 1–1 และจบลงด้วยคะแนนนี้[20]ในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2021 เขายังทำประตูได้ในเกมยูฟ่ายูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก พบกับดือนามอกือยิว ที่สนามโอลิมปิสกีเนชันแนลสปอตส์คอมเพล็กซ์ เป็นประตูขึ้้นนำ 1–0 ในนาทีที่ 30 ก่อนที่ทีมจะเอาชนะไป 2–0 รวมผลในนัดที่สองเป็น 4–0[21] หลังจากนั้น บิยาร์เรอัล ได้ผานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่กดัญสก์ ซึ่งเขาก็ได้ลงเล่นในนัดนี้โดยทั้งสองทีมได้เสมอกันใน 120 นาที 1–1 ทำให้ต้องดวลลูกโทษตัดสิน โดยเปา ตอร์เรสได้รับหน้าที่นี้เป็นคนที่ 10 หลังจาก 9 คนก่อนหน้านี้ของทั้งสองทีมทำเข้าประตูทั้งหมด ซึ่งเขาก็ทำประตูผ่านมือของดาบิด เด เฆอา เข้าไปสำเร็จเช่นกัน ก่อนที่ เด เฆอา จะดวลลูกโทษพลาด ทำให้บิยาร์เรอัลชนะในช่วงการดวลลูกโทษ 11–10[22]คว้าแชมป์รายการหลักเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และเป็นแชมป์แรกในระดับอาชีพของเปา ตอร์เรส
ในวันพุธที่ 12 กรกฎาคม 2023 เปาเซ็นสัญญากับแอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัว 31.5 ล้านปอนด์ ตามรายงาน[23]
ระดับทีมชาติ
[แก้]ตอร์เรส ได้รับการเรียกติดทีมชาติสเปนครั้งแรกในระดับรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เพื่อแข่งขันกระชับมิตรกับโรมาเนีย และออสเตรีย โดยเขาได้ลงเล่นครบ 90 นาทีในเกมกับออสเตรียโดยทีมของเขาเอาชนะไปด้วยคะแนน 3–0 ซึ่งเป็นนัดเดียวของเขาที่ลงเล่นให้กับสเปนในระดับเยาวชน[24] ในวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 2019 โรเบิร์ต โมเรโน ได้เรียกเขาติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่เพื่อแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 กับนอร์เวย์และสวีเดน[25] เขาไม่ได้ลงเล่นในสองนัดนี้ ก่อนที่จะถูกเรียกตัวมาอีกรั้งในเดือนถัดมาเพื่อแข่งขันกับ มอลตาและโรมาเนีย โดยได้ลงเล่นในนัดกับมอลตาในวันที่ 15 พฤศจิกายน จากการเปลี่ยนตัวลงมาแทนเซร์ฆิโอ ราโมส ในนาทีที่ 61 และทำประตูได้ในนาทีต่อมาเป็นประตูขึ้นนำ 3–0 ดานิ โอลโม ยังทำประตูได้ในเกมแรกของเขาในเกมนี้ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่นักเตะทีมชาติสเปนทำประตูได้ในนัดแรกของเขาพร้อมกันสองประตูก่อนที่สเปนจะเอาชนะไป 7–0 ที่รามอนเดการ์รันซา ในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2020 เขายังได้ลงเล่นเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงครั้งแรกในเกมยูฟ่าเนชันส์ลีก กับเยอรมนี โดยยืนตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับเซร์ฆิโอ ราโมส โดยทั้งสองทีมเสมอกันไป 1–1[26]
ในวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 ลุยส์ เอนริเก ได้เรียกเปา ตอร์เรสเป็น 1 ใน 24 นักเตะทีมชาติสเปนเพื่อแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบสุดท้าย[27]
สถิติอาชีพ
[แก้]สโมสร
[แก้]- ณ วันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 (สิ้นสุดฤดูกาล 2021–22)[28]
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ถ้วย | ยุโรป | อื่น ๆ | รวม | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลีก | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
บิยาร์เรอัลเบ | 2016–17 | เซกุนดาดิบิซิออนเบ | 34 | 2 | — | — | — | 34 | 2 | |||
2017–18 | 25 | 0 | — | — | 6[a] | 0 | 31 | 0 | ||||
รวม | 59 | 2 | — | — | 6 | 0 | 65 | 2 | ||||
บิยาร์เรอัล | 2016–17 | ลาลิกา | 0 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | — | 1 | 0 | |
2017–18 | 2 | 0 | 3 | 0 | 1[b] | 0 | — | 6 | 0 | |||
2019–20 | 34 | 2 | 2 | 0 | — | — | 36 | 2 | ||||
2020–21 | 33 | 2 | 2 | 0 | 9[b] | 1 | — | 44 | 3 | |||
2021–22 | 33 | 5 | 1 | 0 | 12[c] | 1 | 1[d] | 0 | 47 | 6 | ||
รวม | 102 | 9 | 9 | 0 | 22 | 2 | 1 | 0 | 134 | 11 | ||
มาลากา (ยืมตัว) | 2018–19 | เซกุนดาดิบิซิออน | 38 | 1 | 0 | 0 | — | 2[e] | 0 | 40 | 1 | |
รวมทั้งหมด | 199 | 12 | 9 | 0 | 22 | 2 | 9 | 0 | 239 | 14 |
- ↑ ลงเล่นในเซกุนดาดิบิซิออนเบ รอบเลย์-ออฟ เลื่อนชั้น
- ↑ 2.0 2.1 ลงเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีก
- ↑ ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
- ↑ ลงเล่นในยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2021
- ↑ ลงเล่นในเซกุนดาดิบิซิออน รอบเพลย์-ออฟ
ทีมชาติ
[แก้]- ณ วันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 2022[29]
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
สเปน | 2019 | 1 | 1 |
2020 | 6 | 0 | |
2021 | 9 | 0 | |
2022 | 3 | 0 | |
รวม | 19 | 1 |
ประตูในนามทีมชาติ
[แก้]- รายชื่อประตูของสเปนจะขึ้นต้นก่อน คอลัมน์ "คะแนน" หมายถึงผลคะแนนหลังจากตอร์เรสทำประตูได้[29]
ลำดับ | วันที่ | สนาม | คู่แข่ง | คะแนน | ผล | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 | เอสตาดิโอรามอนเดการ์รันซา, กาดิซ, สเปน | มอลตา | 3–0 | 7–0 | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก |
เกียรติประวัติ
[แก้]บิยาร์เรอัล
สเปน อายุไม่เกิน 23 ปี
- โอลิมปิกฤดูร้อน เหรียญเงิน: 2020[31]
สเปน
- ยูฟ่าเนชันส์ลีก รองชนะเลิศ: 2020–21[32]
ส่วนบุคคล
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 "Pau Torres". Eurosport. สืบค้นเมื่อ 12 January 2021.
- ↑ "El Villarreal B se estrenó con derrota en Cornellà con un solitario gol encajado en el minuto 91 (1–0)" [Villarreal B had losing debut in Cornellà with lone goal against in the 91st minute (1–0)] (ภาษาสเปน). Castellón Información. 21 August 2016. สืบค้นเมื่อ 18 December 2019.
- ↑ "Al Villarreal B le anulan dos goles legales ante un Badalona que el empató en el minuto 94 (2–2)" [Villarreal B have two legal goals disallowed against a Badalona who drew in the 94th minute (2–2)] (ภาษาสเปน). Castellón Información. 9 October 2016. สืบค้นเมื่อ 18 December 2019.
- ↑ Matilla, Alfredo (20 December 2016). "Pato evita la sorpresa del Toledo y Manolo, la goleada" [Pato avoids Toledo's surprise and Manolo, a rout]. Diario AS (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 27 October 2017.
- ↑ "Pau Torres, primer futbolista nacido en Vila-real que debuta en 13 años" [Pau Torres, first footballer born in Villarreal who debuts in 13 years]. Sport (ภาษาสเปน). 22 December 2016. สืบค้นเมื่อ 27 October 2017.
- ↑ Pau Torres Transfermarkt DETAILED STATS สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2021
- ↑ "El Sevilla remonta dos goles y se lleva la victoria de Villarreal" [Sevilla come back from two goals and take win from Villarreal] (ภาษาสเปน). RTVE. 26 November 2017. สืบค้นเมื่อ 18 December 2019.
- ↑ "El Villarreal cierra con derrota un partido intrascendente" [Villarreal complete formality of a match with loss]. La Vanguardia (ภาษาสเปน). 7 December 2017. สืบค้นเมื่อ 19 December 2019.
- ↑ Puga, Manu (8 August 2018). "Pau Torres: "La oferta del Málaga CF era irrechazable"" [Pau Torres: "Málaga CF's offer could not be refused"]. La Opinión de Málaga (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 9 August 2018.
- ↑ MALAGA 1:2 CF LUGO Transfermarkt สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2021
- ↑ MALAGA 1:2 OSASUNA Transfermarkt สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2021
- ↑ "Pau Torres volverá al Villarreal" [Pau Torres will return to Villarreal]. La Opinión de Málaga (ภาษาสเปน). 5 June 2019. สืบค้นเมื่อ 3 October 2019.
- ↑ Deportivo La Coruna 4 Malaga 2 espn June 16, 2019 สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2021
- ↑ "Pau Torres, entre los once que han disputado todos los minutos en Liga" [Pau Torres, amongst eleven who have played every minute in League]. La Vanguardia (ภาษาสเปน). 7 October 2019. สืบค้นเมื่อ 19 December 2019.
- ↑ "El Villarreal CF renueva a Pau hasta 2024" [Villarreal CF renew Pau until 2024] (ภาษาสเปน). Villarreal CF. 2 October 2019. สืบค้นเมื่อ 3 October 2019.
- ↑ McTear, Euan (5 October 2019). "Villarreal are the latest to suffer at El Sadar". Marca. สืบค้นเมื่อ 6 October 2019.
- ↑ #4 Pau Torres Transfermrkt สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2021
- ↑ #4 Pau Torres Transfermarkt สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2021
- ↑ https://www.espn.com/soccer/match?gameId=582130 Villarreal 2-0 Real Valladolid] espn November 3, 2020 สืบค้นเมื่อ June 19, 2021
- ↑ เรอัล เบติส VS. บียาร์เรอัล 1 - 1 soccerway.com 13/12/2020 สืบค้นเมื่อ 19/6/2021]
- ↑ Dynamo Kyiv-Villarreal | UEFA Europa League UEFA.com สืบค้นมื่อ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2021
- ↑ What Manchester United transfer target Pau Torres told David de Gea after final penalty miss manchestereveningnews เขียนโดย Daniel Murphy 2 JUN 2021 สืบค้นเมื่อ 18 JUN 2021
- ↑ "Aston Villa sign Villarreal defender Torres". BBC Sport. 12 July 2023. สืบค้นเมื่อ 12 July 2023.
- ↑ #4 Pau Torres Transfermarkt สืบค้นเมื่อ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2021
- ↑ Díaz, José Félix; Clancy, Conor (4 October 2019). "Reguilon, Pau Torres and Gerard Moreno named in Spain squad for first time". Marca. สืบค้นเมื่อ 6 October 2019.
- ↑ "Dani Olmo and Pau Torres make history in Spain stroll". Diario AS. 15 November 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-20. สืบค้นเมื่อ 16 November 2019.
- ↑ Braidwood, Jamie (24 May 2021). "Euro 2020 news LIVE: Sergio Ramos left out of Spain squad plus latest before England announcement". The Independent. สืบค้นเมื่อ 24 May 2021.
- ↑ ข้อมูลของ เปา ตอร์เรส ที่ ซ็อกเกอร์เวย์
- ↑ 29.0 29.1 ข้อมูลของ เปา ตอร์เรส ที่ ซ็อกเกอร์เวย์
- ↑ Stone, Simon (26 May 2021). "Villarreal 1–1 Manchester United". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 26 May 2021.
- ↑ "Tokyo Olympics 2021 medal count updates: who has won more? Tally by country, today, 7 August". Diario AS. 7 August 2021. สืบค้นเมื่อ 23 August 2021.
- ↑ "Spain 1–2 France". UEFA. 10 October 2021. สืบค้นเมื่อ 12 October 2021.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "UEFA Europa League Squad of the Season 2020/21". UEFA. 28 May 2021. สืบค้นเมื่อ 30 May 2021.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- โปรไฟล์ที่เว็บไซต์สโมสรฟุตบอลบิยาร์เรอัล
- ประวัติของ เปา ตอร์เรส ที่ BDFutbol
- เปา ตอร์เรส ที่ National-Football-Teams.com
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2540
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักฟุตบอลชาวสเปน
- นักฟุตบอลจากแคว้นบาเลนเซีย
- กองหลังฟุตบอล
- ผู้เล่นในลาลิกา
- ผู้เล่นในเซกุนดาดิบิซิออน เบ
- ผุ้เล่นในเตร์เซราดิบิซิออน
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลบิยาร์เรอัล เซ
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลบิยาร์เรอัล เบ
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลบิยาร์เรอัล
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลมาลากา
- ผู้เล่นในชุดชนะเลิศยูฟ่ายูโรปาลีก
- นักฟุตบอลทีมชาติสเปน
- ผู้เล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020
- นักฟุตบอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2022