ทวีปอเมริกาใต้
| พื้นที่ | 17,840,000 ตารางกิโลเมตร (6,890,000 ตารางไมล์) (อันดับที่ 4) |
|---|---|
| ประชากร | 420,458,044 (พ.ศ. 2560; อันดับที่ 5)[1] |
| ความหนาแน่น | 21.4 คน/ตารางกิโลเมตร |
| จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 6.53 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ ค.ศ. 2021; อันดับที่ 5)[2] |
| จีดีพี (ราคาตลาด) | 2.90 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ ค.ศ. 2021; อันดับที่ 4)[3] |
| จีดีพีต่อหัว | 6,720 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ ค.ศ. 2021; อันดับที่ 5)[4] |
| เดมะนิม | ชาวอเมริกาใต้ |
| ประเทศ | |
| ดินแดน | ภายนอก (2–4) |
| ภาษา | |
| เขตเวลา | UTC-2 ถึง UTC-5 |
| เมืองใหญ่ | รายชื่อเมืองในทวีปอเมริกาใต้ |
| รหัส UN M49 | 005 – อเมริกาใต้419 – ลาตินอเมริกา019 – ทวีปอเมริกา001 – โลก |

อเมริกาใต้ (อังกฤษ: South America[5], สเปน: América del Sur[6], โปรตุเกส: América do Sul[7], ฝรั่งเศส: Amérique du Sud[8] มลายู(รูมี): Amerika Selatan[9], มลายู(ยาวี): اميريك سلتن) เป็นทวีปที่เส้นศูนย์สูตรพาดผ่าน อยู่ในซีกโลกตะวันตกและมีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในซีกโลกใต้ เป็นอนุทวีปทางใต้ของทวีปอเมริกา มีการใช้ทวีปอเมริกาใต้ในการเรียกแทนภูมิภาคต่าง ๆ (เช่น ลาตินอเมริกา กรวยใต้) เพิ่มมากขึ้นอันเป็นผลมากจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์[10]
ทางตะวันตกของทวีปติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันออกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก และทางเหนือติดกับทวีปอเมริกาเหนือ และ ทะเลแคริบเบียน ทวีปอเมริกาใต้ประกอบด้วยรัฐอธิปไตย 12 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา โบลิเวีย บราซิล ชิลี โคลอมเบีย เอกวาดอร์ กายอานา ปารากวัย เปรู ซูรินาม อุรุกวัย และ เวเนซุเอลา 1 จังหวัดโพ้นทะเลของฝรั่งเศส เฟรนช์เกียนา และดินแดนในภาวะพึ่งพิงอย่าง หมู่เกาะฟอล์กแลนด์และดินแดนโพ้นทะเลของบริเตน นอกจากนี้หมู่เกาะเอบีซี, เซนต์เฮเลนา อัสเซนชัน และตริสตันดากูนยา, เกาะบูเว, บางส่วนของปานามา, เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช, ประเทศตรินิแดดและโตเบโก มักนับรวมอยู่ในเขตของทวีปอเมริกาใต้ด้วย[5][6]
อเมริกาใต้มีขนาดพื้นที่ประมาณ 17,840,000 ล้านตารางกิโลเมตร ใน ค.ศ. 2025 มีประชากรอยู่ที่ 428 ล้านคน[1] อเมริกาใต้มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 รองจาก เอเชีย แอฟริกา และอเมริกาเหนือตามลำดับ ส่วนจำนวนประชากรเป็นอันดับ 5 รองจากเอเชีย แอฟริกา ยุโรป และอเมริกาเหนือ บราซิลเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในทวีป คิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรในทวีป รองลงมาคือ โคลัมเบีย อาร์เจนตินา เวเนซุเอลา และเปรู ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บราซิล สามารถสร้างมูลค่าจีดีพีได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีทวีป ทำให้บราซิลขึ้นเป็นมหาอำนาจประจำภูมิภาคนี้[10]
การตั้งถิ่นฐานของประชากรจะตั้งถิ่นฐานบริเวณชายฝั่งทางตะวันตกและทางตะวันออกของทวีป ภายในทวีปและภูมิภาคปาตาโกเนียเป็นพื้นที่ ๆ มีการตั้งถิ่นฐานเบาบางที่สุด บริเวณทางตะวันตกและทางใต้ของทวีปมีลักษณะเป็นเทือกเขา ส่วนทางตะวันออกจะมีทั้งพื้นที่สูง และที่ราบลุ่มแม่น้ำขนาดใหญ่ โดยมีแม่น้ำสายใหญ่ที่สำคัญ เช่น แม่น้ำแอมะซอน แม่น้ำโอริโนโก แม่น้ำปารานาไหลผ่าน ทวีปอเมริกาใต้ส่วนใหญ่อยู่ในเขตร้อน
วัฒนธรรมและชาติพันธุ์ของประชากรในทวีปนี้มีต้นกำเนิดจากปฏิสัมพันธ์ของชนพื้นเมืองกับกองกิสตาดอร์และผู้อพยพชาวยุโรป ชาวพื้นเมืองกับทาสชาวแอฟริกัน ผลจากการเป็นอาณานิคมเป็นเวลานานทำให้ประชากรส่วนใหญ่ในทวีปพูดภาษาโปรตุเกสและภาษาสเปนเป็นหลัก มีวัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตแบบตะวันตก ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 นั้นเมื่อนำเทียบกับ ยุโรป เอเชีย และ แอฟริกาแล้วอเมริกาใต้ถือเป็นทวีปที่สงบสุขและมีสงครามเพียงเล็กน้อย[11]
ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์
[แก้]
หลักฐานทางโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ พบว่ามีคนอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ตั้งแต่ประมาณ 12,500 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยพบเครื่องมือหินและเครื่องใช้ที่ทำด้วยหนังสัตว์ในประเทศชิลี กระทั่ง 200 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในประเทศเปรูปัจจุบันมีวัฒนธรรมนาสคาเกิดขึ้น โดยมีการศึกษาเกี่ยวกับการโคจรของดวงอาทิตย์และมีการใช้เครื่องประดับ
ประชากรในทวีปอเมริกาใต้ สันนิษฐานว่าอพยพมาจากทวีปเอเชียเข้าสู่ทวีปอเมริกาเหนือโดยผ่านช่องแคบเบริง แล้วเดินทางลงใต้ผ่านอเมริกากลางจนถึงอเมริกาใต้เช่นปัจจุบัน ดังนั้นชนพื้นเมืองของทวีปอเมริกาใต้และอเมริกาเหนือจึงมีความสัมพันธ์กันทางเชื้อชาติ โดยในเปรู อินเดียนแดงได้สร้างจักรวรรดิอินคา ครอบคลุมอาณาเขตกว้างขวางทางตะวันตกของทวีป โดยมีเมืองกุสโกเป็นศูนย์กลางของอาณาจักร
ในปี พ.ศ. 2042 คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เดินทางด้วยเรือมายังรอยต่อของอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ซึ่งชื่อของเขาก็เป็นที่มาของประเทศโคลอมเบียในปัจจุบัน กระทั่ง พ.ศ. 2043 ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปโดยเฉพาะประเทศสเปน อิตาลี โปรตุเกส อังกฤษ และฝรั่งเศส ได้เข้ามาสำรวจ และยึดครองดินแดนเป็นอาณานิคมเป็นจำนวนมาก ประเทศเจ้าของอาณานิคมจากยุโรปยึดครองและได้ผลประโยชน์จากดินแดนในทวีปอเมริกาใต้มานานหลายร้อยปี จนกระทั่งใน พ.ศ. 2261 โฆเซ เด ซาน มาร์ติน ปลดปล่อยประเทศอาร์เจนตินา, ชิลี, และเปรูให้เป็นอิสระจากสเปน และปลดปล่อยประเทศบราซิลให้เป็นอิสระจากโปรตุเกสในเวลาต่อมา ปัจจุบันประเทศฝรั่งเศสยังคงยึดครองดินแดนเฟรนช์เกียนาทางตอนเหนือของทวีปเอาไว้
ลักษณะทางกายภาพ
[แก้]ทำเลที่ตั้งและอาณาเขต
[แก้]ทวีปอเมริกาใต้ตั้งอยู่บนซีกโลกใต้เป็นส่วนมากโดยอยู่ระหว่างละติจูดที่ 12 องศาเหนือ ถึง 56 องศาใต้ และลองจิจูด 35 องศาตะวันออก ถึง 117 องศาตะวันตก มีเนื้อที่ประมาณ 17.8 ล้านตารางกิโลเมตร หรือคิดเป็นร้อยล่ะ 14 ของแผ่นดินโลก ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก และมีเนื้อที่แผ่นดินติดต่อกันทำให้ชายฝั่งของทะเลมีน้อยเมื่อเทียบกับขนาดของทวีป โดยทวีปอเมริกาใต้มีแผ่นดินใหญ่รูปร่างคล้ายสามเหลี่ยม
อาณาเขต
[แก้]ทวีปอเมริกาใต้มีอาณาเขตติดต่อกับทวีปต่าง ๆ ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับประเทศปานามาของทวีปอเมริกาเหนือ และจดทะเลแคริบเบียน
- ทิศตะวันออก จดมหาสมุทรแอตแลนติก อาณาเขตสิ้นสุดที่เกาะจอร์เจียใต้
- ทิศตะวันตก จดมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ และอาณาเขตสิ้นสุดที่เกาะอีสเตอร์ของประเทศชิลี
- ทิศใต้ จดช่องแคบเดรกในทวีปแอนตาร์กติกา และ อาณาเขตสิ้นสุดที่แหลมฮอร์นของประเทศชิลี
ทวีปอเมริกาใต้ประกอบด้วย 13 ประเทศ และ 3 เขตการปกครอง ซึ่งแบ่งออกตามลักษณะภูมิประเทศได้ 4 กลุ่ม ดังนี้
- เขตที่สูงกายอานา อยู่ทางตอนเหนือของทวีป มี 4 ประเทศ คือ ประเทศกายอานา ซูรินาม เวเนซุเอลา และโคลอมเบีย ประเทศโคลอมเบียมีประชากรมากที่สุดในเขตนี้
- เขตเทือกเขาแอนดีส อยู่ทางภาคตะวันตกของทวีป ประกอบด้วย 4 ประเทศ คือ ประเทศเปรู เอกวาดอร์ โบลิเวีย และ ชิลี ประเทศโบลิเวียมีเนื้อที่มากที่สุด ส่วนประเทศเปรูมีประชากรมากที่สุดในเขตนี้
- เขตลุ่มน้ำตะวันออกเฉียงใต้ของเทือกเขาแอนดิส ประกอบด้วยประเทศอาร์เจนตินา ปารากวัย และ อุรุกวัย ประเทศอาร์เจนตินามีเนื้อที่และประชากรมากที่สุดในเขตนี้
- เขตลุ่มน้ำแอมะซอนและที่ราบสูงบราซิล ได้แก่ ประเทศบราซิล ซึ่งมีเนื้อที่มากกว่า 8.5 ล้านตารางกิโลเมตร
ตารางแสดงประเทศในทวีปอเมริกาใต้
| ประเทศ | พื้นที่ (km²) |
ประชากร (1 กรกฎาคม 2548) |
ความหนาแน่น (per km²) |
เมืองหลวง |
|---|---|---|---|---|
| 214,970 | 765,283 | 3.6 | จอร์จทาวน์ | |
| 1,138,910 | 42,954,279 | 37.7 | โบโกตา | |
| 756,950 | 15,980,912 | 21.1 | ซานเตียโก | |
| 163,270 | 438,144 | 2.7 | ปารามาริโบ | |
| 8,514,877 | 187,550,726 | 22.0 | บราซิเลีย | |
| 1,098,580 | 8,857,870 | 8.1 | ซูเกร | |
| 406,750 | 6,347,884 | 15.6 | อาซุนซิออน | |
| 1,285,220 | 27,925,628 | 21.7 | ลิมา | |
| 912,050 | 25,375,281 | 27.8 | การากัส | |
| 12,173 | 2,967 | 0.24 | สแตนลีย์ | |
| 2,766,890 | 39,537,943 | 14.3 | บัวโนสไอเรส | |
| 176,220 | 3,415,920 | 19.4 | มอนเตวิเดโอ | |
| 283,560 | 13,363,593 | 47.1 | กีโต | |
| 3,093 | 0 | 0 | คิงเอดเวิร์ดพอยต์ | |
| 91,000 | 195,506 | 2.1 | กาแยน |
ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้
[แก้]| จุดที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ | สถานที่ | ประเทศ (จังหวัด/แคว้น/รัฐ) |
|---|---|---|
| จุดเหนือสุด | แหลมกายีนาส | ประเทศโคลอมเบีย (จังหวัดกวาคีรา) |
| จุดใต้สุด | แหลมฟาวเวิร์ด | ประเทศชิลี (แคว้นมากายาเนสและลาอันตาร์ตีกาชีเลนา) |
| จุดตะวันออกสุด | แหลมโคเคอรูส | ประเทศบราซิล (รัฐปาราอีบา) |
| จุดตะวันตกสุด | แหลมปารีนเนียส | ประเทศเปรู (แคว้นปิวรา) |
| ยอดเขาที่สูงที่สุด | ยอดเขาอากอนกากวา | ประเทศอาร์เจนตินา (รัฐเมนโดซา) |
| เกาะที่ใหญ่ที่สุด | เกาะติเอร์ราเดลฟูเอโก | ประเทศอาร์เจนตินา (รัฐติเอร์ราเดลฟูเอโก) และประเทศชิลี (แคว้นมากายาเนสและลาอันตาร์ตีกาชีเลนา) |
| แม่น้ำที่ยาวที่สุด | แม่น้ำแอมะซอน | ประเทศเปรู (แคว้นโลเรโต), ประเทศโคลอมเบีย (จังหวัดอามาโซนัส), และประเทศบราซิล (รัฐอามาโซนัส, รัฐปารา, รัฐอามาปา) |
| ผิวน้ำต่ำที่สุด | ทะเลสาบซานตากรุซ | ประเทศอาร์เจนตินา (รัฐซานตากรุซ) |
ลักษณะภูมิประเทศ
[แก้]แบ่งออกเป็น 4 ลักษณะ ได้แก่
เขตที่สูงกายอานา
[แก้]เขตที่สูงกายอานาประกอบด้วย เขตที่สูงกายอานา (Guiana Highland) และที่ลุ่มยาโนส (Llanos) เป็นพื้นที่อยู่ทางทิศเหนือสุดของทวีป เป็นหินอัคนีหรือหินแกรนิต มีความยาวในแนวตะวันออกถึงตะวันตกมากว่า 1,600 กิโลเมตร พื้นที่สูงเริ่มจากตอนใต้ของประเทศเวเนซุเอลาไปถึงเหนือสุดของประเทศบราซิล ประกอบด้วยที่ราบสูง มีร่องน้ำลึกมาก มีน้ำตกที่สูงสุดของโลก คือ น้ำตกเอนเจลซึ่งมีความสูง 979 เมตร
ที่ลุ่มยาโนสอยู่ทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของที่สูงกายอานา เป็นพื้นที่ราบลุ่มระหว่างเทือกเขาแอนดีสและที่สูงกายอานา อยู่ในประเทศโคลอมเบียและประเทศเวเนซุเอลา มีแม่น้ำที่สำคัญ คือ โอริโนโค (Orinoco) ซึ่งเกิดจากการทับถมของตะกอนน้ำทำให้เป็นที่ราบลุ่มสมบูรณ์
เขตเทือกเขาแอนดีส
[แก้]เทือกเขาแอนดีส เป็นเทือกเขาแคบวางตัวยาวในแนวเหนือ-ใต้เลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ เริ่มตั้งแต่แหลมเหนือสุดของทวีปอเมริกาใต้ เป็นแนวยาวลงไปจนสุดแหลมฮอร์นของประเทศชิลี ด้านทิศตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิก มีชายฝั่งแคบมากและภูเขาสูงชัน มีแม่น้ำสายสั้น ๆ ไหลลงมหาสมุทรแปซิฟิก บางบริเวณเป็นเขตแห้งแล้งหรือหนาวเย็นจัด ด้านทิศตะวันออกของเทือกเขาแอนดีสจะมีความลาดชันน้อยกว่าซีกตะวันตก และเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสำคัญ เช่น แม่น้ำแอมะซอน เป็นต้น
เขตลุ่มน้ำภาคใต้
[แก้]เขตลุ่มน้ำภาคใต้อยู่ทางทิศตะวันออกของเทือกเขาแอนดีส เริ่มตั้งแต่ตอนใต้ของประเทศโบลิเวียไปจนสุดแหลมภาคใต้ของประเทศอาร์เจนตินา ประกอบด้วยที่ราบแพมพาส (Pampas) และปาตาโกเนีย (Patagonia) ในประเทศอาร์เจนตินา
ที่ราบแพมพาสมีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติขนาดใหญ่ และมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านไปลงสู่อ่าวริโอเดลาปลาตา (Río de la Plata) ระหว่างเมืองหลวงของประเทศอุรุกวัย (กรุงมอนเตวิเดโอ) และประเทศอาร์เจนตินา (กรุงบัวโนสไอเรส)
ที่ราบปาตาโกเนีย มีภูมิอากาศแบบทะเลทรายหนาวเย็น อยู่ทางตอนใต้ของประเทศอาร์เจนตินา มีพื้นที่ค่อนข้างขรุขระและมีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น พื้นที่บางส่วนเป็นธารน้ำแข็งและทะเลสาบ ชายฝั่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเพนกวิน, แมวน้ำ, วาฬ, และสัตว์อื่น ๆ ที่อาศัยอยู่
เขตลุ่มน้ำแอมะซอนและที่สูงบราซิลในประเทศบราซิล เริ่มตั้งแต่ด้านตะวันออกของเทือกเขาแอนดีสในประเทศเปรูจนถึงด้านตะวันออกของบริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกลุ่มน้ำแอมะซอน หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "แอมะโซเนีย" (Amazonia) เป็นพื้นที่ราบต่ำ มีระดับความสูงต่ำกว่า 200 เมตร มีความลาดเทน้อยมาก แม่น้ำมีความยาว 6,570 กิโลเมตร คลุมพื้นที่มากกว่า 8 ล้านตารางกิโลเมตร พื้นที่เต็มไปด้วยป่าดิบชื้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนที่สูงบราซิลอยู่ทางทิศตะวันออกติดมหาสมุทรแอตแลนติก เริ่มตั้งแต่ตอนกลางของประเทศบราซิลลงไปติดประเทศอุรุกวัย มีความยาวประมาณ 1,280 กิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขาไม่สูงมากนัก นอกจากภูมิประเทศทั้งหมด 4 เขต แล้ว ทวีปอเมริกาใต้ยังมีชายฝั่งทะเล โดยทางตะวันออกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก และทางตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งบริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ของทวีปจะเป็นฟยอร์ด (Fjord) ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของธารน้ำแข็ง และมีสัตว์หลายชนิดอาศัยอยู่
ทางตอนเหนือของทวีปมีแม่น้ำไหลลงทะเลแคริบเบียน แม่น้ำแอมะซอนไหลจากเทือกเขาแอนดีสลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกที่เมืองมากาปา ประเทศบราซิล โดยบริเวณปากแม่น้ำนั้นมีเกาะเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีแม่น้ำปารากวัย, แม่น้ำอุรุกวัย, แม่น้ำซาลาโต, แม่น้ำซูบัต, และแม่น้ำสายสั้น ๆ อีกจำนวนมาก ไหลจากทางทิศตะวันตกของทวีปไปลงมหาสมุทรแอตแลนติกทางด้านตะวันออก
ลักษณะภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ
[แก้]ลักษณะภูมิอากาศ
[แก้]ทวีปอเมริกาใต้ มีเนื้อที่ส่วนมากอยู่ในเขตร้อน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของทวีป จะมีลักษณะอากาศแบบมรสุมเขตร้อนจนถึงแบบอบอุ่น ส่วนในทางใต้จะได้รับอิทธิพลจากขั้วโลกใต้ ทำให้มีอากาศหนาวเย็น สามารถแบ่งภูมิอากาศตามแบบเคิปเปนได้ดังนี้
- เขตภูมิอากาศแบบป่าดิบชื้น หรือฝนตกชุกเขตร้อน (Af) และภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อน (Am) มีฝนตกชุกมากทั้งปี เช่น พื้นที่ชายฝั่งตะวันตกและตอนใต้ของประเทศโคลอมเบีย ตอนเหนือและชายฝั่งตะวันออกของประเทศบราซิล เป็นต้น
- เขตภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนา (Aw) เป็นเขตภูมิอากาศแบบร้อนชื้นสลับแล้ง ได้แก่ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศบราซิลและทางทิศตะวันตกของประเทศเอกวาดอร์
- เขตภูมิอากาศแบบทะเลทรายเขตร้อน (BWh) เป็นเขตภูมิอากาศที่มีฝนตกน้อยกว่า 250 มิลลิเมตรต่อปี เช่น พื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศเวเนซุเอลาที่ติดกับทะเลแคริบเบียน เป็นต้น
- เขตภูมิอากาศแบบทะเลทรายเขตหนาว (BWk) เป็นเขตภูมิอากาศแบบทะเลทรายแต่มีอากาศหนาวเย็น ได้แก่ พื้นที่ทางตะวันตกของเทือกเขาแอนดีส ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณประเทศเปรูและชิลี
- เขตภูมิอากาศแบบแห้งแล้งกึ่งทะเลทรายหรือทุ่งหญ้าสเตปป์ (BSh) เป็นเขตภูมิอากาศแบบแห้งแล้ง ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยในรอบปี 380-760 มิลลิเมตร ได้แก่ พื้นที่ทางเหนือสุดของทวีปในประเทศโคลอมเบียและทางตอนกลางของอาร์เจนตินา
- เขตภูมิอากาศแบบอบอุ่นชื้น (Cfa) เป็นเขตที่มีฝนตกชุก เนื้องจากชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันออก มีกระแสน้ำอุ่นบราซิลไหลเลียบชายฝั่งลงมาทางทิศใต้ เช่น บริเวณประเทศอาร์เจนตินาและอุรุกวัยที่ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก
- เขตภูมิอากาศแบบชื้นภาคพื้นสมุทรชายฝั่งตะวันตก (Cfb) มีฤดูหนาวยาวนาน ได้แก่ พื้นที่ด้านตะวันตกของประเทศชิลีและปลายแหลมของทวีป
- เขตภูมิอากาศแบบที่สูง (H) เป็นภูมิอากาศที่หนาวเย็นบนเทือกเขาสูง ได้แก่ บริเวณเทือกเขาแอนดีส
ทวีปอเมริกาใต้ถือเป็นทวีปที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมากๆ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่ามากมายโดยหากแบ่งตามประเภทสัตว์ต่างๆ ในอเมริกาใต้จะสามารถแบ่งได้ดังนี้[13]
โดยทวีปอเมริกาใต้มีจำนวนปลาน้ำจืดมากถึงประมาณ 2700 ชนิด โดยมาจากป่าอเมซอนมาถึงประมาณ 1500 ชนิดโดยส่วนใหญ่เป็นปลาในกลุ่ม characins กว่า 800 ชนิด[13] นกในทวีปอเมริกาใต้มีกว่า 87 วงศ์ และมีประมาณ 3000 ชนิดซึ่งมากกว่ากว่าในแอฟริกา หรือ เอเชียเสียอีก[13]
ตัวอย่างปลาและนกเฉพาะถิ่นในทวีปอเมริกาใต้เช่น[13]
- ปลาปิรันยากินเนื้อ เป็นปลากินเนื้อเป็นอาหาร มักอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ พบในแม่น้ำแอมะซอน และแม่น้ำหลายสายในทวีปอเมริกาใต้ มีฟันที่แหลมคมรูปสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ โดยรวมแล้วปลาปิรันยาในทวีปอเมริกามีมากถึงประมาณ 40 ชนิด
- นกญันดู (Ñañdú) เป็นนกบินไม่ได้ชนิดหนึ่งคล้ายนกกระจอกเทศแต่ตัวเล็กกว่ามีถิ่นกำเนิดจำกัดอยู่ที่ประเทศ อาร์เจนตินา โบลิเวีย บราซิล ชิลี ปารากวัย เปรู และ อุรุกวัย ในทวีปอเมริกาใต้มีนกญันดูมีอยู่ 2 ชนิดคือ นกญันดูอเมริกาหรือนกเรีย[14](Rhea americana) และนกญันดูจิ๋ว (Rhea pennata) [15]
- นกคูราโซว์ (Curassows) เป็นนกเป็นชนิดที่มีลำตัวใหญ่ที่สุดในวงศ์เครซิด(Cracidae) อาศัยอยู่ในบริเวณเขตร้อนของอเมริกาใต้




ก่อนที่ทวีปอเมริกาใต้จะแยกตัวออกจากทวีปอื่นๆ อย่างสมบูรณ์ได้มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายหลายชนิดอพยพเข้ามาด้วยระยะเวลาที่ยาวนานทำให้เกิดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเฉพาะถิ่นขึ้นในทวีปอเมริกาใต้[13]
ตัวอย่างสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเฉพาะถิ่นในทวีปอเมริกาใต้เช่น[13]
- บิกุญญา เป็นหนึ่งในสัตว์ป่าวงศ์อูฐ (camelid) ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สูงมากบนเทือกเขาแอนดีสในทวีปอเมริกาใต้
สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกและสัตว์เลื้อยคลาน

ส่วนใหญ่สัตว์เลื้อยคลานในทวีปอเมริกาใต้จะเป็นพวกเขียดงู, ซาลาแมนเดอร์, คางคก และ กบหลากหลายชนิด ส่วนทางด้านของสัตว์เลื้อยคลานทวีปอเมริกาใต้มีความหลากหลายของเต่า, จระเข้, ตุ๊กแก, อิกัวนา, เตกู(เป็นวงศ์หนึ่งของพวกกิ้งก่าที่พบมากในเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้)[16],แอมฟิสเบนา(เป็นสกุลหนึ่งของพวกกิ้งก่าที่ไม่มีแขนขา) และงูต่างๆ อย่างมาก[13]
ตัวอย่างสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกและสัตว์เลื้อยคลานเฉพาะถิ่นในทวีปอเมริกาใต้เช่น
- อิกัวนาสีชมพู สัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งในวงศ์อิกัวนาพบเฉพาะที่หมู่เกาะกาลาปาโกส ในประเทศเอกวาดอร์ทวีปอเมริกาใต้[17]

พวกแมลง, แมงมุม, ปู, ตะขาบ และกิ้งกือในทวีปอเมริกาใต้ส่วนใหญ่ไม่พบในที่อื่นๆ ในโลก สัตว์ขาปล้องหลายพันชนิดโดยเฉพาะแมลงในอเมริกาใต้ยังไม่ถูกจัดกลุ่มทางอนุกรมวิธาน ทวีปอเมริกาใต้เป็นทวีปที่มีความหลากหลายของผีเสื้อมากที่สุด โดยสัตว์ขาปล้องหลายชนิดในอเมริกาใต้ เช่น ยุง เป็นพาหะของหลายๆ โรคในมนุษย์ เช่น ไข้เลือดออก และ มาลาเรีย[13]
ตัวอย่างสัตว์ขาปล้องเฉพาะถิ่นในทวีปอเมริกาใต้เช่น
- ตะขาบยักษ์ขาเหลืองเปรู เป็นตะขาบชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสกุล Scolopendra อาศัยอยู่ทางแถบเหนือและตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ เป็นสัตว์กินเนื้อ โดยกินจิ้งจก, กบ, นก, หนู และแม้แต่ค้างคาวเป็นอาหาร และขึ้นชื่อในเรื่องความดุร้าย
ลักษณะเขตพืชพรรณธรรมชาติและชุมชีพในทวีปอเมริกาใต้
[แก้]ทวีปอเมริกาใต้เป็นทวีปที่มีพื้นที่ป่าไม้มากที่สุดในโลก และสามารถแบ่งการกระจายตัวของสัตว์ตามเขตพืชพรรณเป็นชุมชีพ (ecological communities) ได้มากมาย ตัวอย่างชุมชีพที่สำคัญของทวีปอเมริกาใต้ได้แก่

โดยลุ่มน้ำแอมะซอนนั้นเป็นพื้นที่ป่าไม้เขตร้อนที่สำคัญ พืชพรรณธรรมชาติในทวีปอเมริกามีป่าไม้ที่มีลำต้นสูง มีกิ่งสาขาในระดับต่ำ รากมีลักษณะเป็นแนวนูนขึ้นมาบนต้น ใบใหญ่ และมีสีเขียวตลอดปี พันธุ์ไม้มีความหลากหลายมาก มักพบกล้วยไม้ ไม้เลื้อย เช่น เถาวัลย์ เฟิร์น และมอส เป็นต้น ป่าดิบชื้นในลุ่มน้ำแอมะซอนเป็นป่าไม้ประมาณร้อยล่ะ 25 ของพื้นที่ป่าไม้โลก ด้วยความที่ป่าแอมะซอนมีพืชพรรณธรรมชาติที่หลากหลายขนาดนี้ จึงถูกขนานนามว่าเป็น "ปอดของโลก"[18] นอกจากนั้นยังพบป่าดิบชื้นในประเทศเวเนซุเอลา โคลอมเบีย และเอกวาดอร์ อีกด้วย[6][9]
ตัวอย่างสัตว์เฉพาะถิ่นในป่าดิบชื้นแอมะซอน[13]
- ปลาช่อนยักษ์อเมซอน ปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ในวงศ์ปลาอะราไพม่า (Arapaimidae) ในอันดับปลาลิ้นกระดูก (Osteoglossiformes)
- ปลาปิรันยากินเนื้อ มีกว่า 40 ชนิด ในแม่น้ำแอมะซอน และแม่น้ำหลายสายในทวีปอเมริกาใต้

เป็นที่ราบต่ำอุดมสมบูรณ์ในทวีปอเมริกาใต้ภูมิอากาศไม่รุนแรง มีหยาดน้ำฟ้า 600 ถึง 1,200 มิลลิเมตรซึ่งกระจายเกือบเท่ากันตลอดทั้งปี ทำให้ดินเหมาะสมแก่เกษตรกรรม ที่ราบนี้มีสัตว์ป่าเอกลักษณ์เพราะลักษณะภูมิประเทศต่าง ๆ ที่อยู่รอบ

ตัวอย่างสัตว์เฉพาะถิ่นของเขตปัมปัสในประเทศอาร์เจนตินา
- นกญันดู โดยนกญันดูทั้ง 2 ชนิด (นกญันดูอเมริกา และ นกญันดูจิ๋ว) สามารถอาศัยอยู่ได้ที่เขตปัมปัสในประเทศอาร์เจนตินาได้ทั้งสิ้น

ภาพแสดงนกญันดูจิ๋ว - กัวนาโก เป็นสิ่งมีชีวิตวงศ์ Camelidae เช่นเดียวกับพวกบิกุญญา ยามา และอัลปากา มีรูปร่างเล็ก ผอมเพรียว เมื่อยืนมีความสูงประมาณ 1-1.2 เมตร (เท้าถึงไหล่) หนักประมาณ 90-140 กิโลกรัม ลำตัวเป็นสีน้ำตาลอ่อน หน้าท้องสีขาว หางสั้น หัวใหญ่ หูใหญ่ตั้งตรง และคอยาว ซึ่งผิวหนังตรงคอค่อนข้างหนา เพื่อป้องกันการโจมตีของนักล่า[13]

เป็นเทือกเขาที่วางตัวขนานกับด้านตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ เป็นเทือกเขาที่ยาวที่สุดในโลก พาดผ่าน 7 ประเทศตั้งแต่ เวเนซุเอลา, โคลอมเบีย, เอกวาดอร์, เปรู, โบลิเวีย, ชิลี, และอาร์เจนตินา เป็นบริเวณที่หนาวเย็นและมีความดันออกซิเจนต่ำ ตัวอย่างสัตว์เฉพาะถิ่นของเทือกเขาสูงแอนดีส
- นกญันดู โดยนกญันดูที่สามารถอาศัยอยู่บนเทือกเขาสูงแอนดีสได้มีแค่นกญันดูจิ๋วเท่านั้น โดยแม้แต่ในทุ่งหญ้าพูนา (puna desértica) บนเทือกเขาสูงแอนดีส ที่มีความสูงถึง 4,500 เมตร (14,800 ฟุต) มันก็สามารถอาศัยอยู่ได้ [19][20]
- บิกุญญา[13] โดยพวกมันเป็นสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ในปี ค.ศ. 1974 นั้น มีบิกุญญาหลงเหลืออยู่เพียงประมาณ 6,000 ตัว ทุกวันนี้ ประชากรบิกุญญาได้รับการฟื้นฟูขึ้นจนมีจำนวนประมาณ 350,000 ตัว และแม้ว่าองค์กรอนุรักษ์ต่าง ๆ จะลดระดับสถานะภัยคุกคามของบิกุญญาลงแล้ว แต่ก็ยังคงเรียกร้องให้มีแผนการอนุรักษ์อย่างแข็งขันเพื่อปกป้องบิกุญญาจากการบุกรุกเข้าไปล่าสัตว์ การสูญเสียถิ่นที่อยู่ และภัยคุกคามอื่น ๆ
นอกจากชุมชีพที่สำคัญทั้ง 3 แล้วทวีปอเมริกาใต้ยังมีชุมชีพอื่นๆ อีก เช่น ที่ราบสูงและที่ราบลุ่มทางภาคตะวันออกตอนกลางซึ่งก็มีนกญันดูอยู่เช่นกัน ป่าทางตอนใต้ของชิลีที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีนกญันดูแต่ก็มี ชีโลเอ้ (Rhyncholestes raphanurus) สัตว์มีกระเป๋าหน้าท้องซึ่งเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ดึกดำบรรพ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นต้น
ป่าไม้และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอเมริกาใต้
[แก้]จากการประมาณการขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) พบว่าป่าไม้ทั่วโลกมีปริมาณคาร์บอนสะสมในชีวมวล 289 กิกะตัน ซึ่งในจำนวนนี้ ประมาณ 100 กิกะตันอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งหมายความว่าป่าไม้ป้องกันไม่ให้คาร์บอนไดออกไซด์กว่า100 กิกะตันกระจายสู่ชั้นบรรยากาศ แม้ว่าในปัจจุบันผู้คนจะหันมาสนใจด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นแต่การตัดไม้ทำลายป่า การเสื่อมโทรมของที่ดิน (Degradación de la tierra) และการจัดการพื้นที่ป่าไม้ที่ไม่ดีทำให้ระบบนิเวศของทวีปอเมริกาใต้มีความเสี่ยงจะถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง
การทำปลูกปาล์มเชิงเดี่ยวเข้าไปแทนที่ป่าเขตร้อน ซึ่งเป็นการทำลายระบบนิเวศส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำสะอาด ภูมิอากาศ อาหาร และเส้นใยสำหรับประชากรในท้องถิ่น โรงงานอุตสาหกรรมบางแห่งปล่อยสารปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำสำหรับการบริโภคของมนุษย์ การบริโภคของสัตว์ รวมถึงการชลประทาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่บริโภค
การเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยวในอเมริกาใต้ เช่น ปาล์มและถั่วเหลือง จำเป็นต้องใช้พื้นที่กว้าง ก่อให้เกิดการทำลายระบบนิเวศอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น การปลูกถั่วเหลือง ครอบคลุมพื้นที่เทียบเท่ากับประเทศฝรั่งเศส[6]
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ บางครั้งถูกรวมด้วย ขึ้นอยู่กับคำนิยามของชายแดนอเมริกาเหนือ-ใต้ ประเทศปานามาอาจอยู่ในกลุ่มประเทศข้ามทวีป
- 1 2 3 4 ถูกรวมเป็นครั้งคราว ในทางกายภาพเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกาใต้ แต่ในทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของอเมริกาเหนือ
- ↑ ถูกรวมเป็นครั้งคราว เกาะภูเขาไฟโดดเดี่ยวบนแผ่นอเมริกาใต้ ในทางธรณีวิทยา เกาะอัสเซนชันเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกาใต้ แต่ในทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของทวีปแอฟริกา
- ↑ ถูกรวมเป็นครั้งคราว เกาะภูเขาไฟโดดเดี่ยวระหว่างแผ่นแอฟริกากับแผ่นแอนตาร์กติก ในทางชีวภูมิศาสตร์และธรณีวิทยา เกาะบูเวมีส่วนเกี่ยวข้องกับแอนตาร์กติกา ถึงแม้ว่าในทางภูมิศาสตร์มันจะอยู่ใกล้กับแอนตาร์กติกาและแอฟริกา แผนโลกของสหประชาชาติจัดให้เกาะนี้อยู่ในอเมริกาใต้แทน
- ↑ ในทางธรณีวิทยา เกาะเซาท์จอร์เจียและส่วนใต้สุดของอเมริกาใต้ฝั่งแผ่นดินใหญ่อยู่ในแผ่นสโกเชีย ในขณะที่หมู่เกาะเซาท์แซนด์วิชอยู่ใกล้กับแผ่นแซนด์วิช ในทางชีวภูมิศาสตร์และอุทกวิทยา เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิชมีส่วนเกี่ยวข้องกับแอนตาร์กติกา แผนโลกของสหประชาชาติได้รวมดินแดนพิพาทในอเมริกาใต้ด้วย
อ้างอิง
[แก้]- 1 2 "การประเมินประชากรโลก พ.ศ. 2560". ESA.UN.org (custom data acquired via website). United Nations Department of Economic and Social Affairs, Population Division. สืบค้นเมื่อ 10 September 2017.
- ↑ "GDP PPP, current prices". International Monetary Fund. 2021. สืบค้นเมื่อ 16 January 2021.
- ↑ "GDP Nominal, current prices". International Monetary Fund. 2021. สืบค้นเมื่อ 16 January 2021.
- ↑ "Nominal GDP per capita". International Monetary Fund. 2021. สืบค้นเมื่อ 16 January 2021.
- 1 2 "South America | Facts, Land, People, & Economy | Britannica". www.britannica.com (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-25. สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
- 1 2 3 4 "América del Sur | Climate-Diplomacy". climate-diplomacy.org (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
- ↑ "América do Sul: países, mapa, geografia, história". Brasil Escola (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
- ↑ "Amérique du Sud — Wikivoyage, le guide de voyage et de tourisme collaboratif gratuit". fr.wikivoyage.org (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
- 1 2 UNIVERSITAS SAINS & TEKNOLOGI KOMPUTER. "Amerika selatan" (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-10-10. สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
- 1 2 Schenoni, Luis L. (1 January 1970). "Unveiling the South American Balance". Estudos Internacionais 2(2): 215–232. สืบค้นเมื่อ 8 December 2016.
- ↑ Holsti 1996, p. 155
- ↑ Includes Easter Island in the Pacific Ocean, a Chilean territory frequently reckoned in Oceania. Santiago is the administrative capital of Chile; Valparaíso is the site of legislative meetings.
- 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 "South America - Wildlife, Ecosystems, Biodiversity | Britannica". www.britannica.com (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-25. สืบค้นเมื่อ 2025-07-26.
- ↑ "สวนสัตว์เปิดเขาเขียว". khaokheow.zoothailand.org (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2025-07-05. สืบค้นเมื่อ 2025-07-23.
- ↑ John, Roy (2006-10-01). ""The Clements Checklist of Birds of the World 6th Edition" by James F. Clements. 2007. [book review]". The Canadian Field-Naturalist. 120 (4): 483. doi:10.22621/cfn.v120i4.366. ISSN 0008-3550.
- ↑ "[Pets สัตว์ครองโลก] เตกู (Tegu) รายละเอียด: เตกู (Tegu) เตกู (Tegu) มี ถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบทะเลทรายละติน ประเทศสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก จัดอยู่ในจำพวกสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ที่หน้าตาจะคล้ายตะกวดในบ้านเรา แต่มีหลากสีสันทั้ง". www.blockdit.com. สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
- ↑ "16 of the most endangered animals in South America". Voyagers Travel (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-12-11. สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
- ↑ Digixonic, Bryan (2025-03-10). "Biodiversity and the Amazon Rainforest". Palotoa Amazon (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2025-07-27.
- ↑ Davies, S. J. J. F. (2003). Hutchins, Michael (บ.ก.). Rheas. Vol. 8 Birds I Tinamous and Ratites to Hoatzins (2nd ed.). Farmington Hills, MI: Gale Group. p. 69-71. ISBN 0787657840.
- ↑ "Rhea pennata: BirdLife International". IUCN Red List of Threatened Species. 2014-07-24. สืบค้นเมื่อ 2025-07-23.
ข้อมูล
[แก้]- "South America". The Columbia Gazetteer of the World Online. 2005. New York: Columbia University Press.
- Latin American Network Information Database
- Holsti, Kalevi J. (1996). The State, War and the State of War. Cambridge Studies in International Relations.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]
Wikijunior South America ที่วิกิตำรา
