แผ่นแอนตาร์กติก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แผ่นแอนตาร์กติก
แผ่นแอนตาร์กติก
ประเภทแผ่นหลัก
พื้นที่โดยประมาณ60,900,000 กม.2[1]
การเคลื่อนตัว1ใต้-ตะวันตก
อัตราเร็ว112–14 มม./ปี
ลักษณะภูมิศาสตร์ทวีปแอนตาร์กติกา, ที่ราบสูงเกร์กือเลน, มหาสมุทรใต้
1โดยเทียบกับแผ่นแอฟริกา

แผ่นแอนตาร์กติกา (อังกฤษ: Antarctic Plate) เป็นแผ่นธรณีแปรสัณฐานขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยทวีปแอนตาร์กติก และหมู่เกาะห่างไกลในมหาสมุทรใต้และมหาสมุทรอื่นโดยรอบ หลังจากการแตกออกของมหาทวีปกอนด์วานา (ส่วนใต้ของมหาทวีปแพนเจีย) แผ่นแอนตาร์กติกาเริ่มเคลื่อนทวีปแอนตาร์กติกาไปทางใต้จนถึงตำแหน่งปัจจุบันที่อยู่ห่างไกล เป็นผลให้เกิดการพัฒนาภูมิอากาศแบบหนาวเย็นมากขึ้นบนทวีป[2] ตัวแผ่นนั้นถูกล้อมรอบด้วยระบบเทือกเขากลางมหาสมุทรเกือบทั้งหมด โดยมีแผ่นเปลือกโลกที่อยู่ติดกัน ได้แก่ แผ่นนัซกา แผ่นอเมริกาใต้ แผ่นแอฟริกา แผ่นโซมาเลีย แผ่นอินโด-ออสเตรเลีย แผ่นแปซิฟิก และส่วนที่มีขอบเขตเป็นรอยเลื่อนผ่านกันนั่นคิอแผ่นสโกเชีย

แผ่นแอนตาร์กติกามีพื้นที่ประมาณ 60,900,000 ตารางกิโลเมตร[3] นับเป็นแผ่นเปลือกโลกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ห้าของโลก

มีการประมาณกันว่าแผ่นแอนตาร์กติกามีการเคลื่อนตัวไปเข้าหามหาสมุทรแอตแลนติกอย่างน้อย 1 เซนติเมตรต่อปี[4]

การมุดตัวลงใต้แผ่นอเมริกาใต้[แก้]

แผ่นแอนตาร์กติกาเริ่มมุดตัวลงใต้แผ่นอเมริกาใต้เมื่อ 14 ล้านปีก่อนในสมัยไมโอซีน ในตอนแรกการมุดตัวนั้นเกิดขึ้นที่ปลายทางใต้สุดของปาตาโกเนียเท่านั้น ซึ่งหมายถึงว่าสามแยกชิลีนั้นอยู่ใกล้กับช่องแคบมาเจลลัน จากการที่ส่วนใต้ของแผ่นนัซกาและเทือกเขากลางมหาสมุทรชิลีถูกกลืนไปโดยการมุดตัวและพื้นที่ตอนเหนือของแผ่นแอนตาร์กติกายิ่งมุดตัวลงไปใต้ปาตาโกเนียมากขึ้น ทำให้สามแยกชิลีปัจจุบันนั้นขยับไปอยู่ทางด้านหน้าของคาบสมุทรไตเตาที่ตำแหน่ง 46°15' S[5][6] การมุดตัวนี้ถือเป็นการยกปาตาโกเนียให้สูงขึ้น เนื่องจากการมุดตัวนั้นได้ลดการไหลกดลงอย่างรุนแรง (vigorous down-dragging flow) ก่อนหน้านี้ในเนื้อโลกที่เกิดจากการมุดตัวลงของแผ่นนัซกาใต้ปาตาโกเนีย ภูมิลักษณ์พลวัตที่เกิดจากการยกตัวสูงขึ้นของแผ่นเปลือกโลกนี้คือการยกตัวขึ้นของตะพักทะเลอายุยุคควอเทอร์นารี และชายหาดทั่วชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของปาตาโกเนีย[6]

แผ่นดิน[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Sizes of Tectonic or Lithospheric Plates". Geology.about.com. March 5, 2014. สืบค้นเมื่อ January 22, 2016.
  2. Fitzgerald, Paul (2002). "Tectonics and landscape evolution of the Antarctic plate since the breakup of Gondwana, with an emphasis on the West Antarctic Rift System and the Transantarctic Mountains" (PDF). Royal Society of New Zealand Bulletin (35): 453–469. สืบค้นเมื่อ February 1, 2015.
  3. Wohletz, K.H.; Brown, W.K. "SFT and the Earth's Tectonic Plates". Los Alamos National Laboratory. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 17, 2013.
  4. Jiang, Wei-Ping; E, Dong-Chen; Zhan, Bi-Wei; Liu, You-Wen (2009). "New Model of Antarctic Plate Motion and Its Analysis". Chinese Journal of Geophysics (ภาษาอังกฤษ). 52 (1): 23–32. doi:10.1002/cjg2.1323. ISSN 2326-0440.
  5. Cande, S.C.; Leslie, R.B. (1986). "Late Cenozoic Tectonics of the Southern Chile Trench". Journal of Geophysical Research: Solid Earth. 91 (B1): 471–496. Bibcode:1986JGR....91..471C. doi:10.1029/JB091iB01p00471.
  6. 6.0 6.1 Pedoja, Kevin; Regard, Vincent; Husson, Laurent; Martinod, Joseph; Guillaume, Benjamin; Fucks, Enrique; Iglesias, Maximiliano; Weill, Pierre (2011). "Uplift of quaternary shorelines in eastern Patagonia: Darwin revisited" (PDF). Geomorphology. 127 (3–4): 121–142. Bibcode:2011Geomo.127..121P. doi:10.1016/j.geomorph.2010.08.003.