สถานีรถไฟเชียงรากน้อย
สถานีรถไฟเชียงรากน้อย | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ป้ายสถานีรถไฟเชียงรากน้อยทางทิศเหนือ | |||||||||||||||||
ข้อมูลทั่วไป | |||||||||||||||||
ที่ตั้ง | บ้านเชียงรากน้อย หมู่ 11 ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13180 | ||||||||||||||||
เจ้าของ | การรถไฟแห่งประเทศไทย | ||||||||||||||||
สาย | ทางรถไฟสายเหนือ ทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ | ||||||||||||||||
ชานชาลา | 5 | ||||||||||||||||
โครงสร้าง | |||||||||||||||||
ประเภทโครงสร้าง | ระดับดิน | ||||||||||||||||
ระดับชานชาลา | 2 | ||||||||||||||||
ที่จอดรถ | ลานว่างหน้าสถานี | ||||||||||||||||
ข้อมูลอื่น | |||||||||||||||||
รหัสสถานี | 1024 (ชน.) | ||||||||||||||||
เขตค่าโดยสาร | ช่องจำหน่ายตั๋วทุกสถานีรถไฟ | ||||||||||||||||
ประวัติ | |||||||||||||||||
เริ่มเปิดให้บริการ | 28 มีนาคม พ.ศ. 2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 | ||||||||||||||||
ผู้โดยสาร | |||||||||||||||||
ไม่เกิน 100 คน /วัน | |||||||||||||||||
การเชื่อมต่อ | |||||||||||||||||
| |||||||||||||||||
| |||||||||||||||||
|
สถานีรถไฟเชียงรากน้อย เป็นสถานีรถไฟประจำตำบลเชียงรากน้อย อยู่ในเส้นทางรถไฟสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และย่านชานเมือง
สถานีรถไฟเชียงรากน้อยเป็นสถานีชั้นที่ 2 งานการเดินรถแขวงกรุงเทพ กองจัดการเดินรถเขต1 ศูนย์กรุงเทพปริมณฑลและภาคตะวันออก การรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม สถานีรถไฟเชียงรากเปิดให้บริการเดินรถทุกวันทั้งขาขึ้นและขาล่องวันละ 18 ขบวน สถานีรถไฟ มีจำนวนย่านทางรถไฟ 5 ทาง เป็นทางหลัก 3 ทาง ทางหลีก 2 ทาง ทางติดชานชาลา 5 ทาง โดยทางทิศใต้ของสถานี ห่างไป 1 โลเมตร จะมีทางแยกเพื่อรับซีเมนต์ ที่บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด สาขาTPI ศูนย์จ่ายเชียงราก ซึ่งสถานนีรถไฟเชียงรากน้อยอยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพเป็นระยะทาง 46.01 กิโลเมตร ทางใต้ของสถานีไป 250 เมตร มีสะพานทางรถไฟข้ามคลองเชียงราก ที่เป็นเส้นแบ่งเขตจังหวัดปทุมธานี กับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ประวัติ
[แก้]รถไฟสาย กรุงเทพ-นครราชสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2444
ประวัติ เส้นทางเดินรถไฟสาย กรุงเทพ-โคราช สายแรกของไทย[1]
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เหตุการณ์ทางด้านการเมือง สืบเนื่องมาจากนโยบายขยายอาณานิคมของอังกฤษและฝรั่งเศส พระองค์ท่านทรงตระหนักถึงความสำคัญของการคมนาคมโดยเส้นทางรถไฟ เพราะการใช้แต่ทางเกวียนและแม่น้ำลำคลองเป็นพื้นนั้น ไม่เพียงพอแก่การบำรุงรักษาพระราชอาณาเขต ราษฎรที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงมีจิตใจโน้มเอียงไปทางประเทศใกล้เคียง สมควรที่จะสร้างทางรถไฟขึ้นในประเทศเพื่อติดต่อกับมณฑลชายแดนก่อนอื่น ทั้งนี้เพื่อสะดวกแก่การปกครอง ตรวจตราป้องกันการรุกรานเป็นการเปิดภูมิประเทศให้ประชาชนพลเมืองเข้าบุกเบิกพื้นที่ รกร้างว่างเปล่า ให้เป็นประโยชน์ทางเศรษกิจของประเทศ และจะเป็นเส้นทางขนส่งผู้โดยสารและสินค้าไปมาถึงกันได้ง่ายยิ่งขึ้น
ดังนั้นในปี พ.ศ. 2430 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ เซอร์แอนดรู คลาก และบริษัทปันชาร์ด แมกทักการ์ด โลเธอร์ ดำเนินการสำรวจเพื่อสร้างทางรถไฟจาก กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ และมีทางแยกตั้งแต่เมืองสระบุรี – เมืองนครราชสีมาสายหนึ่ง จากเมืองอุตรดิตถ์ – ตำบลท่าเดื่อริมฝั่งแม่น้ำโขงสายหนึ่ง และจากเมืองเชียงใหม่ไปยังเชียงราย เชียงแสนหลวงอีกสายหนึ่ง โดยทำการสำรวจให้แล้วเสร็จเป็นตอน ๆ รวม 8 ตอน ในราคาค่าจ้างโดยเฉลี่ยไม่เกินไมล์ละ 100 ปอนด์ ทั้งสองฝ่ายลงนามในสัญญา เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2430
เมื่อได้สำรวจแนวทางต่าง ๆ แล้ว รัฐบาลพิจารณาเห็นว่าจุดแรกที่สมควรจะสร้างทางรถไฟเชื่อมกับเมืองหลวงของไทยก่อนอื่น คือ นครราชสีมา ดังนั้นในเดือนตุลาคม 2433 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งกรมรถไฟขึ้น สังกัดอยู่ในกระทรวงโยธาธิการมีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัติวงศ์ ทรงเป็นเสนาบดี และนาย เค. เบ็ทเก ชาวเยอรมัน เป็นเจ้ากรมรถไฟพร้อมกันนั้นได้ เปิดประมูลสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพ – นครราชสีมา เป็นสายแรก ณ ที่ทำการรถไฟกรุงเทพ
ปรากฏว่า มิสเตอร์ จี มูเร แคมป์เบล แห่งอังกฤษ เป็นผู้ค้ำประกันประมูลได้ในราคาต่ำสุด โดยเสนอราคาเป็นเงิน 9,956,164 บาท พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระราชทานพระบรมราชานุมัติให้กระทรวงโยธาธิการว่าจ้าง มิสเตอร์ จี. มูเร แคมป์เบลล์ สร้างทางรถไฟหลวงจากกรุงเทพฯถึงนครราชสีมา เป็นสายแรก และได้เสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชพิธีกระทำพระฤกษ์ เริ่มการสร้างทางรถไฟ ณ บริเวณย่านสถานีกรุงเทพ เมื่อวันที่ 09 มีนาคม พ.ศ. 2434
ในปี พ.ศ. 2439 การก่อสร้างทางรถไฟสาย กรุงเทพฯ – นครราชสีมา สำเร็จบางส่วนพอที่จะเปิดการเดินรถได้ ดังนั้น ในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงเสด็จพระราชดำเนิน มาทรงประกอบพระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟระหว่าง สถานีกรุงเทพ – อยุธยา ระยะทาง 71 กิโลเมตร และเปิดให้ประชาชนเดินทางไปมาระหว่าง กรุงเทพ – อยุธยา ได้ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2439 เป็นต้นไป ในระยะแรกเดินขบวนรถขึ้นล่องวันละ 4 ขบวน มีสถานีรวม 9 สถานี คือ สถานีกรุงเทพ บางซื่อ หลักสี่ หลักหก คลองรังสิต เชียงราก เชียงรากน้อย บางปะอิน และกรุงเก่า
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ตำนานแห่งรถไฟไทย rotfaithai.com สืบค้นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2562.