วัยอลวน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วัยอลวน
กำกับเปี๊ยก โปสเตอร์
บุญญรักษ์ นิลวงศ์ (ผู้ช่วยผู้กำกับ)
เขียนบทบุญญรักษ์ นิลวงศ์
นักแสดงนำไพโรจน์ สังวริบุตร
ลลนา สุลาวัลย์
จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา
ศิริวรรณ ทองแสง
สมควร กระจ่างศาสตร์
สมจิตต์ ทรัพย์สำรวย
นัฐกานต์ เศรษฐบุตร
กำกับภาพโชน บุนนาค
ตัดต่อประลอง แก้วประเสริฐ
ดนตรีประกอบชัยรัตน์ เทียบเทียม
บริษัทผู้สร้าง
เปี๊ยกโปสเตอร์ฟิล์ม
ผู้จัดจำหน่ายไฟว์สตาร์
วันฉาย19 กันยายน พ.ศ. 2519
ความยาว122 นาที
ประเทศไทย
ภาษาไทย
ต่อจากนี้รักอุตลุด (2520)
ชื่นชุลมุน (2521)
วัยอลวน 4 (2548)
ข้อมูลจาก IMDb
ข้อมูลจากสยามโซน

วัยอลวน เป็นภาพยนตร์ไทยที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2519 กำกับโดยเปี๊ยก โปสเตอร์ จากบทประพันธ์ของ บุญญรักษ์ นิลวงศ์ เจ้าของเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในหนัง ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับด้วย

วัยอลวนเป็นภาพยนตร์วัยรุ่นเรื่องแรกๆ ที่เปลี่ยนแนวทางของภาพยนตร์สมัยนั้น ที่พระเอกจะต้องเป็นสุภาพบุรุษหน้าตาดี ร่างกายกำยำ ชำนาญศิลปะการต่อสู้ ผู้กำกับเลือกใช้ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดงหน้าใหม่รูปร่างผอมเกร็ง ท่าทางยียวนกวนประสาท มารับบทพระเอก

การที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉีกแนวไปจากเรื่องอื่น ทำให้ในระยะแรกภาพยนตร์เรื่องนี้ขายไม่ได้ ไม่มีโรงภาพยนตร์ใดยอมซื้อเรื่องนี้ไปฉาย ประกอบกับช่วงนั้นเพิ่งเกิดความรุนแรงในเหตุการณ์ 6 ตุลาได้ไม่นาน แต่จากการจัดกิจกรรมของผู้ฉาย จัดรอบพิเศษให้กับนักเรียน ทำให้เกิดกระแสบอกต่อ [1] ประกอบกับมีเพลงประกอบที่ได้รับความนิยม คือเพลง สุขาอยู่หนใด น่ารัก ร้องและเล่นกีตาร์โดย ชัยรัตน์ เทียบเทียม [2] ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีรายได้สูงสุด ถึง 8 ล้านบาท และมีการสร้างภาคต่อ คือ รักอุตลุด ฉายในปี พ.ศ. 2520 และ ชื่นชุลมุน ฉายในปี พ.ศ. 2521

จากความนิยมของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ชื่อเล่น ตั้ม และ โอ๋ เป็นที่นิยมมากในสมัยนั้น [3]

ในปี พ.ศ. 2530 ได้มีการสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ทางช่อง 3 นำแสดงโดย ตฤณ เศรษฐโชค, เพ็ญพิสุทธิ์ คงสมุทร, รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง, สมควร กระจ่างศาสตร์

ในปี พ.ศ. 2548 วัยอลวน ได้กลับมาฉายอีกครั้งในเทศกาลภาพยนตร์ Bangkok Film เมื่อวันที่ 17 มกราคม[4] และวันที่ 8 พฤษภาคม และ 13 พฤษภาคม [5] เป็นส่วนหนึ่งของการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ภาคต่อ วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น ผลงานกำกับโดย ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์

ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นหนี่งในภาพยนตร์ไทย 100 เรื่องที่คนไทยควรดู [6] และหนึ่งในภาพยนตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติครั้งที่ 3 [7][8]

เรื่องย่อ[แก้]

ตั้ม (ไพโรจน์ สังวริบุตร) เด็กหนุ่มจากจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้ากรุงเทพโดยมุ่งมั่นจะสอบเข้าเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ แต่สอบเข้าไม่ได้ เลยเบนเข็มเข้าเรียนคณะนิติศาสตร์แทน พร้อมกับรับสอนหนังสือพิเศษหารายได้

นายเมศ (สมควร กระจ่างศาสตร์) เจ้าของบ้านที่ตั้มเช่าอยู่ มีลูกสาวอยู่สองคน คือ อ้อ (จิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา) และ โอ๋ (ลลนา สุลาวัลย์) คุณพ่อหวงลูกสาวมาก คอยกีดกันไอ้หนุ่มจากบ้านนอกต่างๆ นานา เป็นไม้เบื่อไม้เมากันถึงขนาดตั้มประกาศว่า ผมต้องเอาลูกสาวบ้านนี้มาทำเมียให้ได้!

เดิมตั้มตั้งใจจะจีบอ้อ นิสิตใหม่จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นแฟน แต่ต้องมาคอยสอนหนังสือพิเศษให้โอ๋ เด็กสาวแก่นแก้ว ขี้เอาแต่ใจ เมื่อเวลาผ่านไป ด้วยความสนิทสนมและเห็นอกเห็นใจ (ท่ามกลางการกีดกันจากคุณพ่อ) ก็ค่อยๆ พัฒนาไปเป็นความรัก

นักแสดงนำ[แก้]

เพลงประกอบ[แก้]

ภาพยนตร์ที่เพลงประกอบที่มีชื่อเสียง 2 เพลง คือ

อ้างอิง[แก้]

  1. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-28. สืบค้นเมื่อ 2007-08-05.
  2. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-12-12. สืบค้นเมื่อ 2007-08-05.
  3. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-27. สืบค้นเมื่อ 2021-09-30.
  4. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-27. สืบค้นเมื่อ 2007-08-05.
  5. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-29. สืบค้นเมื่อ 2007-08-05.
  6. โครงการ ๑๐๐ หนังไทยที่คนไทยควรดูในมิติภาพยนตร์ยังให้เกิดปัญญา[ลิงก์เสีย]
  7. ประกาศขึ้นทะเบียนภาพยนตร์ไทย 25 เรื่อง เป็นมรดกชาติ[ลิงก์เสีย]
  8. ภาพยนตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติครั้งที่ ๓
  9. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-02-21. สืบค้นเมื่อ 2007-08-05.