รายชื่อแหล่งมรดกโลกในประเทศมองโกเลีย
หน้าตา
องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกของประเทศมองโกเลียทั้งสิ้น 6 แหล่ง[1]
ประเทศมองโกเลียมีสถานที่ที่ได้ขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) เพื่อพิจารณาเป็นมรดกโลกในอนาคตทั้งสิ้น 11 แห่ง[1]
สถานที่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก
[แก้]แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม
[แก้]- *หมายเหตุ: ระบุชื่อสถานที่ตามที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก
สถานที่ | ภาพ | ที่ตั้ง | ประเภท | พื้นที่ (เฮกตาร์) |
ปีขึ้นทะเบียน (พ.ศ./ค.ศ.) |
หมายเหตุ | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
ภูมิทัศน์วัฒนธรรมหุบเขาออร์ค็อง | 47°28′41.2″N 102°40′47.0″E / 47.478111°N 102.679722°E | วัฒนธรรม: (ii), (iii), (iv) |
121,967; พื้นที่กันชน 61,044 |
2547/2004 | ตั้งแต่คริสต์สหัสวรรษที่ 1 หุบเขาออร์ค็องได้ดึงดูดชนเผ่ามากมายเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ตั้งแต่ชนเผ่าร่อนเร่ที่มีสังคมปศุสัตว์ ชาวฮั่น ชาวเติร์ก ชาวอุยกูร์ ชาวคีตัน และชาวมองโกล จึงพบหลักฐานทางโบราณคดีของแต่ละชนเผ่าที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่ ได้แก่ จารึกอักษรเติร์กโบราณในคริสต์ศตวรรษที่ 8 ซากเมืองโบราณของชาวอุยกูร์ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 และเมืองคาราคอรม เมืองหลวงจักรวรรดิมองโกลในคริสต์ศตวรรษที่ 13 | 1081[2] | |
กลุ่มภาพบนแผ่นหินแห่งเทือกเขาอัลไตในมองโกเลีย | 49°20′00.5″N 88°23′42.5″E / 49.333472°N 88.395139°E | วัฒนธรรม: (iii) |
11,300; พื้นที่กันชน 10,700 |
2554/2011 | ภายในอุทยานแห่งชาติอัลไตตาวอนบ็อกด์ มีการค้นพบภาพแกะสลักหินสามแห่งที่สื่อถึงวิถีชีวิตของผู้คนตั้งแต่การล่าสัตว์ การต้อนสัตว์ และการขี่ม้าเร่ร่อนในหุบเขาที่มีอายุระหว่าง 11,000-6,000 ปีก่อนคริสตกาล สะท้อนถึงวัฒนธรรมผู้คนมองโกเลียตั้งแต่ตอนปลายของยุคไพลสโตซีนจนถึงยุคสมัยประวัติศาสตร์ | 1382[3] | |
ภูเขาใหญ่บูร์คันคัลดุนและภูมิทัศน์ศักดิ์สิทธิ์โดยรอบ | 48°45′44.4″N 109°00′37.2″E / 48.762333°N 109.010333°E | วัฒนธรรม: (iv), (vi) |
443,739.2; พื้นที่กันชน 271,651.17 |
2558/2015 | บูร์คันคัลดุนมีความหมายว่า “ภูเขาของพระเจ้า“ ในภาษามองโกเลีย ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีความเชื่อว่าเจงกีส ข่าน ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิมองโกลในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 ได้กำเนิดและถูกฝังพระบรมศพไว้ที่นี่ จึงมีการเคารพบูชาภูเขาแห่งนี้ตามความเชื่อโบราณที่สืบทอดมายาวนานกว่า 800 ปี ผสมผสานกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนาที่เข้ามามีบทบาทในคริสต์ศตวรรษที่ 15 | 1440[4] | |
โบราณสถานหินกวางและแหล่งยุคสำริดที่เกี่ยวข้อง | 48°10′18.0″N 101°05′34.8″E / 48.171667°N 101.093000°E | วัฒนธรรม: (i), (iii) |
9,768.03 | 2566/2023 | บริเวณภาคเหนือของมองโกเลียมีการขุดค้นพบกลุ่มหินกวางที่นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าอาจเป็นแผ่นป้ายหลุมศพ โดยกลุ่มหินเหล่านี้มีอายุอยู่ในช่วง 1,200-700 ปีก่อนคริสตกาลซึ่งอยู่ในช่วงยุคสำริด ตัวหินนอกจากมีการแกะสลักเป็นรูปกวางอันเป็นที่มาของชื่อแล้ว ยังประกอบไปด้วยรูปแกะสลักสัตว์ท้องถิ่น รถม้าศึก อาวุธ เครื่องมือ รวมใปถึงใบหน้ามนุษย์อีกด้วย | 1621[5] |
แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ
[แก้]- *หมายเหตุ: ระบุชื่อสถานที่ตามที่ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก
สถานที่ | ภาพ | ที่ตั้ง | ประเภท | พื้นที่ (เฮกตาร์) |
ปีขึ้นทะเบียน (พ.ศ./ค.ศ.) |
หมายเหตุ | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
แอ่งน้ำอุฟส์นูร์ (ร่วมกับรัสเซีย) |
50°23′23.3″N 92°51′36.5″E / 50.389806°N 92.860139°E | ธรรมชาติ: (ix), (x) |
898,063.5; พื้นที่กันชน 170,790 |
2546/2003 | พื้นที่แอ่งน้ำอุฟส์นูร์ถือได้ว่าเป็นแอ่งที่อุดมไปด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพของทะเลสาบอุฟส์และดินดอนปากแม่น้ำเทสซึ่งตั้งอยู่ระหว่างประเทศมองโกเลียและประเทศรัสเซีย จึงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่หาได้ยากในยูเรเซีย เช่น เสือดาวหิมะ หนูเจอร์บิลมองโกเลีย แกะภูเขา แพะภูเขาไซบีเรีย เป็นต้น | 769[6] | |
ภูมิทัศน์แห่งดาอูเรีย (ร่วมกับรัสเซีย) |
49°53′57.3″N 115°27′19.3″E / 49.899250°N 115.455361°E | ธรรมชาติ: (ix), (x) |
912,624; พื้นที่กันชน 307,317 |
2560/2017 | เขตพื้นที่ธรรมชาติประกอบไปด้วยผืนป่าผลัดใบ เขตทุ่งไม้พุ่ม ทุ่งหญ้า และพื้นที่ชุ่มชื้นบริเวณทะเลสาบทอเรย์ ประกอบด้วย 1) เขตอนุรักษ์ธรรมชาติดาอูสกีย์ อันเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดและภูมิทัศน์หุบผาใหญ่ของรัสเซีย และ 2) เขตสงวนชีวมณฑลมองโกลแดกืร์ อันเป็นแหล่งขยายพันธุ์ของนกกระเรียนคอขาวที่สำคัญในมองโกเลีย | 1448[7] |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "World Heritage Properties in Mongolia". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 19 กันยายน 2023.
- ↑ "Orkhon Valley Cultural Landscape". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Petroglyphic Complexes of the Mongolian Altai". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Great Burkhan Khaldun Mountain and its surrounding sacred landscape". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Deer Stone Monuments and Related Bronze Age Sites". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 17 กันยายน 2023.
- ↑ "Uvs Nuur Basin". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2015.
- ↑ "Landscapes of Dauria". UNESCO. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2017.