ปางไสยาสน์
ปางไสยาสน์ หรือ ปางสีหไสยาสน์ เป็นชื่อเรียกโดยทั่วไป ของลักษณะของรูปสมมุติของพระพุทธเจ้า (พุทธลักษณะ) ในอิริยาบถบรรทม (นอน) ซึ่งแต่เดิมนั้นหมายถึงเฉพาะปางปรินิพพาน[1] แต่ในประเทศไทยได้มีการปรับเปลี่ยนคตินอกเหนือไปจากปางปรินิพพาน โดยอาจจำแนกอย่างไม่เป็นทางการ เป็น 9 ปาง ตามรายละเอียดในพุทธประวัติ ดังนี้[2][3]
- ปางทรงพระสุบิน ประทับนอนตะแคงขวา พระหัตย์ซ้ายทอดทาบไว้กับพระวรกาย พระพาหาขวาแนบพื้น งอหลังพระหัตถ์ขวาแนบกับพระปราง หลับพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย
- ปางทรงพักผ่อนปรกติ ประทับนอน มีพระอานนท์เป็นพุทธอุปัฏฐาก คอยนวดเฟ้นอยู่ด้านหลัง หลับพระเนตร ซึ่งเป็นอากัปกิริยาของการพักผ่อนโดยทั่วไป หรือสำราญพระอิริยาบถของพระพุทธองค์
- ปางโปรดอสุรินทราหู ประทับนอน พระกัจฉะ (รักแร้) ทับพระเขนย และพระหัตถ์ยกขึ้นประคองพระเศียร
- ปางทรงพยากรณ์พระอานนท์ ประทับนอนตะแคงขวา ลืมพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย พระหัตถ์ซ้ายทาบบนพระวรกายเบื้องซ้าย พระหัตถ์ขวายกขึ้นวางระหว่างพระนาภี
- ปางโปรดสุภัททปริพาชก ประทับนอนตะแคงขวา ลืมพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย พระหัตถ์ซ้ายทอดทาบไปตามพระวรกายเบื้องซ้าย พระหัตถ์ขวายกตั้งขึ้น จีบนิ้วพระหัตถ์เสมอระหว่างพระอังสา เป็นกิริยาขณะทรงแสดงธรรม
- ปางปัจฉิมโอวาท ประทับนอน และมีลักษณะพิเศษ คือ พระหัตถ์ขวายกตั้งขึ้นจีบพระองคุลี (จีบนิ้วหัวแม่มือจดข้อนิ้วมือแรกของนิ้วชี้) เสมอพระอุระ
- ปางปรินิพพาน ประกอบด้วย 3 ปาง
- ปางที่ 1 ประทับนอนตะแคงขวา หลับพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย พระหัตถ์ซ้ายทอดทาบพระวรกายเบื้องซ้าย พระหัตถ์ขวาหงายอยู่ที่พื้นขนาบพระเขนย เป็นพระอิริยาบถขณะเสด็จดับขันธปรินิพพาน
- ปางที่ 2 ประทับนอนหงาย พระบาทเหยียดเสมอกัน พระหัตถ์วางทับซ้อนกันบนพระอุระ บ้างก็ว่าทับซ้อนบนพระนาภี เป็นพระอิริยาบถหลังจากเสด็จดับขันธปรินิพพาน
- ปางที่ 3 ประทับนอนหงาย พระบาทเหยียดเสมอกัน พระหัตถ์วางทาบยาวขนาบพระวรกาย พระมหากัสสปะยืนถวายบังคมอยู่เบื้องพระบาท เป็นพระอิริยาบถหลังจากเสด็จดับขันธปรินิพพาน
ทั้งนี้ การจำแนกพุทธลักษณะว่าเป็นปางใดนั้น ต้องพิจารณาทิศเบื้องพระเศียร ประวัติและคติความเชื่อขณะที่สร้างพุทธลักษณะนั้น ๆ ด้วย[1]
อนึ่ง ปางไสยาสน์ที่นิยมสร้างเป็นพระพุทธรูปในไทย คือ ปางโปรดอสุรินทราหู และปางปรินิพพาน ส่วนปางอื่น ๆ มักปรากฏเป็นภาพวาด
ในต่างประเทศ
[แก้]ปางไสยาสน์ในทางสากล กล่าวคือ ในวัฒนธรรมต้นทางที่อินเดียและดินแดนโดยรอบ หมายถึง พุทธลักษณะขณะปรินิพพาน[1] โดยแสดงภาพพระพุทธองค์นอนตะแคงเบื้องขวา หลับพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย พระหัตถ์ซ้ายทอดทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาวางหงายอยู่ข้างพระเขนย พระบาทซ้ายทับซ้อนพระบาทขวา หลักฐานสำคัญ เช่น ถ้ำอชันตาในประเทศอินเดีย ซากพุทธสถานแห่งตัขต์ภาอีและซากนครใกล้เคียงที่ซาห์รีบาห์ลอลในอดีตแคว้นคันธาระในประเทศปากีสถานในปัจจุบัน และนครโบราณโปโลนนรุวะในศรีลังกา เป็นต้น
การสร้างพุทธปฏิมาไสยาสน์ได้รับความนิยมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ พระพุทธรูปไสยาสน์ขนาดใหญ่ในประเทศพม่า (พระนอนชเวตาลย่อง และพระนอนตาหวาน) พระพุทธรูปหินที่ปราสาทบาปวน ประเทศกัมพูชา และวัดไชยมังคลาราม ประเทศมาเลเซีย เป็นต้น
ในประเทศไทย
[แก้]ประวัติ
[แก้]ปรากฏหลักฐานพุทธลักษณะปางไสยาสน์ในดินแดนที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบันตั้งแต่ครั้งวัฒนธรรมทวารวดี ได้แก่ ภาพสลักหินนูนต่ำที่ถ้ำฝาโถ เขางู จังหวัดราชบุรี[1] องค์พระมีความยาว 8.75 เมตร สูง 1.85 เมตร หันพระเศียรไปทางปากถ้ำ มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 11-16 พบบริบทประกอบอย่างชัดเจนว่าเป็นปางปรินิพพาน[4] และพระพุทธรูปปางไสยาสน์วัดธรรมจักรเสมาราม สลักจากหินทราย ยาว 13.3 เมตร สูง 2.8 เมตร ที่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา[5]
ในสมัยสุโขทัย พบพุทธปฏิมาไสยาสน์ที่ปรากฏอยู่ในกลุ่มพระสี่อิริยาบถ คือ อิริยาบถ นั่ง นอน ยืน เดิน ที่วัดพระสี่อิริยาบถและวัดพระแก้วในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร คาดว่าสื่อความหมายว่าพุทธองค์ทรงสำราญอิริยาบถไสยาสน์ ขณะที่ทรงดำรงพระชนม์ชีพอยู่ตามพระอรรถกถาแห่งกลิสูตร[1]
ในสมัยอยุธยาตอนปลายเรื่อยมาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เป็นช่วงเวลาที่มีความนิยมการสร้างพุทธปฏิมาไสยาสน์ที่มีขนาดใหญ่ และปรากฏให้เห็นอย่างแพร่หลาย เช่น พระนอนจักรสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี, พระพุทธไสยาสน์ที่วัดขุนอิทรประมูล และวัดป่าโมก จังหวัดอ่างทอง และพระพุทธไสยาส วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพมหานคร
การสร้างพุทธปฏิมาไสยาสน์ขนาดใหญ่หลัง พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา ปรากฏคติความเชื่อในการสร้างพุทธปฏิมาไสยาสน์ขนาดใหญ่ว่าเป็น ปางโปรดอสุรินทราหู อย่างไรก็ตาม ปางนี้ไม่ปรากฏอยู่ในตำราพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ตามมติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ด้วยตำราดังกล่าวได้มีการรวบรวมปางพระพุทธรูปที่ทรงคิดจากเรื่องราวในพุทธประวัติรวมทั้งสิ้น 40 ปาง ซึ่งถือเป็นต้นแบบของปางพระพุทธรูปในสมัยรัตนโกสินทร์ แต่ปรากฏอยู่ในหนังสือตำนานพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ที่เขียนขึ้นราว พ.ศ. 2505 โดยพระธรรมโกศาจารย์ (ชอบ อนุจารี)[1]
พระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ในไทย
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อื่น ๆ
[แก้]
|
|
กำลังก่อสร้าง
[แก้]- พระพุทธเมตตามหาโลกนารถ ยาว 99 เมตร อุทยานลานบุญมหาวิหาร สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา[26]
- พระนอนใหญ่ (พระพุทธสีหไสยาสน์) ยาว 209 เมตร วัดป่าสว่างบุญ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
- พระพุทธสีหไสยาสน์ชนะมาร 108 เมตร วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 [1] พุทธปฏิมาไสยาสน์ขนาดใหญ่ในดินแดนไทย:คติการสร้างที่ปรับเปลี่ยน และความสัมพันธ์กับขนาดการสร้าง
- ↑ พระพุทธไสยาสน์ปางต่างๆ
- ↑ ไขข้อข้องใจ “พระนอน...เพราะอะไร?”
- ↑ ฐานข้อมูลแหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย
- ↑ วัดธรรมจักรเสมาราม
- ↑ "พระพุทธไสยาสน์(พระนอน) ในร่ม ที่มีความสูง ยาว ที่สุดในประเทศไทยและในโลก". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-04-18. สืบค้นเมื่อ 2021-10-02.
- ↑ ขอพรพระนอนองค์ใหญ่ วัดไผ่ล้อม จันทบุรี
- ↑ ceediz.com. "วัดบางพลีใหญ่กลาง". สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ไปด้วยกัน.คอม. "วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-09-30. สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ จังหวัดอ่างทอง. "วัดขุนอินทประมูล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-09-30. สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ธรรมมะไทย. "พระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมก". สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ททท. "วัดวิเชียรบำรุง". สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ไปด้วยกัน.คอม. "วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-09-30. สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ กลุ่มงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานจังหวัดอ่างทอง. "วัดม่วง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-04-11. สืบค้นเมื่อ 03-10-2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ อบจ.สงขลา (2017-07-13). "พระนอนวัดแหลมพ้อ หนึ่งเดียว พระนอนบนเกาะยอ ที่ต้องไปชม". สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ททท. (2017-07-13). "วัดโลกยสุธาราม". สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (2017-07-13). "วัดโลกยสุธาราม". สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (2017-07-13). "วัดโลกยสุธาราม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-09-30. สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ พระนอนศักดิ์สิทธิ์เมืองไทย
- ↑ ททท. "วัดราษฎร์ประคองธรรม". สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ https://www.bloggertrip.com/mahattamangkhalaramtemple/ วัดมหัตตมังคลาราม (วัดหาดใหญ่ใน) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
- ↑ ททท. "วัดราษฎร์ประคองธรรม". สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ http://www.mahathera.onab.go.th/files/mati_doc/CCF01792551_00144.pdf
- ↑ "สายธรรมห้ามพลาด : อิ่มบุญ อุ่นใจ ตะเวนไหว้พระ (นอน) ณ อยุธยา". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-09-30. สืบค้นเมื่อ 2021-10-02.
- ↑ วัดพระนอน ตำนานวัดพระนอนจากใบลาน
- ↑ ‘สรพงศ์ ชาตรี’ ตั้งเศียรพระนอนยาว 99 เมตร หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในโลก