อำเภอสุไหงโก-ลก

พิกัด: 6°04′22″N 101°59′30″E / 6.07269°N 101.99158°E / 6.07269; 101.99158
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อำเภอสุไหงโก-ลก
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันAmphoe Su-ngai Kolok
สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก
คำขวัญ: 
สุไหงโก-ลกใต้สุดแดนสยาม วัฒนธรรมงามสองศาสนา ปาเต๊ะ-บาติกดูงามตา แหล่งศึกษาป่าพรุสิรินธร
แผนที่จังหวัดนราธิวาส เน้นอำเภอสุไหงโก-ลก
แผนที่จังหวัดนราธิวาส เน้นอำเภอสุไหงโก-ลก
พิกัด: 6°1′46″N 101°57′58″E / 6.02944°N 101.96611°E / 6.02944; 101.96611
ประเทศ ไทย
จังหวัดนราธิวาส
พื้นที่
 • ทั้งหมด134.8 ตร.กม. (52.0 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2565)
 • ทั้งหมด78,543 คน
 • ความหนาแน่น582.66 คน/ตร.กม. (1,509.1 คน/ตร.ไมล์)
รหัสไปรษณีย์ 96120
รหัสภูมิศาสตร์9610
ที่ตั้งที่ว่าการที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก ถนน
ทรายทอง 2 ตำบลสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส 96120
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

สุไหงโก-ลก เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนราธิวาส เป็นเมืองที่ประชากรมากเป็นอันดับสองในจังหวัดนราธิวาส เป็นศูนย์กลางทางการค้า การคมนาคม การลงทุน การเงิน และธนาคารที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของชายแดนภาคใต้ เนื่องด้วยเป็นหัวเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญมีด่านศุลกากร ที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าทั้งนำเข้าและส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย และเป็นปลายทางของทางรถไฟสายใต้ที่สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ของทางรถไฟสายใต้และสถานีสุดท้ายของทางรถไฟสายใต้ โดยสุดเขตแดนเมืองรันตูปันยัง ประเทศมาเลเซีย และมีระยะทางห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพมากที่สุด ถึง 1,142 กิโลเมตร

ปัจจุบันอำเภอสุไหงโก-ลกมีความเจริญและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคใต้ตอนล่าง มีด่านการค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุดของฝั่งตะวันออก เป็นศูนย์กลางของการค้าขายส่งสินค้าทั้งพืชผักผลไม้ ตลอดจนไม้ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และขนมนมเนยจากประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ที่ผ่านเข้าออกด่านสุไหงโก-ลกกว่าปีละหลายแสนคน

ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]

อำเภอสุไหงโก-ลกมีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้

ประวัติ[แก้]

สุไหงโก-ลกเดิมเป็นป่าดงดิบรกร้างว่างเปล่าในเขตตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงปาดี ความเป็นป่าทึบทำให้ชาวบ้านเรียกว่า "ป่าจันตุหลี" หมายความว่า ทึบจนเรียกไม่ได้ยิน เหมือนหูหนวก เมื่อเริ่มมีผู้เข้ามาหักร้างถางพง จากชื่อป่าจันตุหลีเปลี่ยนเป็น "สุไหงโก-ลก" ซึ่งเป็นภาษามลายู มาจากคำว่า "สุไหง" แปลว่า แม่น้ำ ลำคลอง และคำว่า "โก-ลก" แปลว่า คดเคี้ยว ถ้าเป็นคำนามหมายถึง มีดพร้า (ที่คนพื้นเมืองนิยมใช้) เมื่อนำคำว่าสุไหงรวมกับโก-ลก จึงหมายถึง แม่น้ำที่คดเคี้ยว หรือ แม่น้ำมีดอีโต้ ชาวบ้านคงเรียกชื่อเมืองตามแม่น้ำที่ไหลผ่านพื้นที่ ปัจจุบันแม่น้ำสายนี้เป็นเส้นกั้นพรมแดนประเทศไทยกับรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย

เมื่อปี พ.ศ. 2460 ได้มีการกรุยทางเพื่อก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมไปรัฐกลันตันโดยกำหนดตั้งสถานีรถไฟในเขตป่าจันตุหลี ซึ่งต่อมาก็คือสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นสถานีรถไฟสถานีสุดท้ายของประเทศไทยที่มีระยะทางไกลที่สุด ชาวบ้านปูโยะที่เห็นการณ์ไกลได้เริ่มเข้ามาจับจองที่ดิน บ้างก็ขออนุญาตทำสวนยางพาราแต่ยังไม่มีการปลูกสร้างบ้านเรือน ชุมชนที่ชาวปูโยะติดต่อค้าขายมีเฉพาะรันตูปันยังของกลันตันซึ่งมีราษฎรอยู่อาศัยและประกอบอาชีพค้าขายเป็นหลักแหล่งแล้ว

แม้ว่าจะเปิดการเดินรถไฟเป็นรถรวมจากหาดใหญ่ไปสิ้นระยะที่สุไหงโกลกเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2464 แต่ราษฎรก็ยังไม่ได้รับความสะดวก เนื่องจากป่าถูกจับจองไว้โดยมิได้ก่อประโยชน์ ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2468 นายวงศ์ ไชยสุวรรณ อาศัยที่ดินของนายฉ่ำที่หลังสถานีรถไฟ พร้อมนายฮวด นายซั้ว นายกวาซ่อง นายเจ๊ะหมัด นายหลีหลง และนายหวัง รวม 7 คน เป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงซึ่งมีทั้งคนไทย คนมุสลิม และคนจีนร่วมกันพัฒนาเมือง (สุนทรธรรมพาที: 2501) นับเป็นต้นแบบแห่งสังคมพหุลักษณ์ที่มีเสน่ห์ยิ่ง ปี พ.ศ. 2472 กำนันตำบลปูโยะถึงแก่กรรม นายวงศ์ ไชยสุวรรณจึงได้รับแต่งตั้งเป็นกำนันได้พัฒนาจนเริ่มกลายเป็นเมือง ได้อาศัยเงินจากเพื่อน 5 คน ได้ 500 บาท ตัดถนนถึง 31 สาย ลักษณะถนนตัดพาดผ่านกันเป็นตาหมากรุก จึงมีสี่แยกจำนวนมาก แต่เชื่อว่านั่นคือแนวคิดการป้องกันการลุกลามของไฟเมื่อเกิดอัคคีภัย ดังนั้นจึงมีผู้คนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานและประกอบอาชีพมากมาย ตำบลปูโยะมีประชากรถึง 12,300 คน ทางราชการจึงแยกเป็น 2 ตำบล คือ ตำบลปูโยะและตำบลสุไหงโก-ลก

ต่อมาเมื่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ล่องใต้มาตรวจราชการที่ตำบลสุไหงโก-ลก นายวงศ์ ไชยสุวรรณได้ร้องขอให้ตั้งท้องถิ่นนี้ขึ้นเป็นเทศบาล ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเห็นด้วย จึงได้มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลตำบลสุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2483 มีนายวงศ์ ไชยสุวรรณ เป็นนายกเทศมนตรีคนแรก เหตุการณ์นี้พระครูสุนทรธรรมภาณีได้เขียนคำกลอนบันทึกไว้ว่า

ใน พ.ศ. สองสี่แปดสิบสาม นายกนามจอมพล ป. พิบูลย์ศรี ออกเที่ยวตรวจราชการงานที่มี มาถึงแดนโก-ลกโชคดีแรง กำนันวงศ์ร้องขอต่อ ฯพณฯ ท่าน ขอเปิดการเทศบาลขึ้นในแขวง จอมพล ป. เห็นตามความชี้แจง คุณวงศ์แต่งเปิดเขตเทศบาล ฯลฯ ในเจ็ดปีที่คุณวงศ์เป็นนายก สร้างโก-ลกให้สง่าหรูหราแสน ทำประโยชน์มากมายเมืองชายแดน ตามแบบแปลนที่จะเล่ากล่าวต่อไป หนึ่งขอตั้งไปรษณีย์โทรเลข งานชิ้นเอกสร้างสรรค์ทันสมัย เรื่องที่สองร้องขอตั้งต่อไป โรงเรียนใหม่ถึงขั้นชั้นมัธยม ทางกระทรวงศึกษาอนุญาต ความมุ่งมาตรมั่นหมายก็ได้ผล ฯลฯ ประการสี่มีข้อขอเสนอ ตั้งเป็นอำเภอปรารถนา เพราะโก-ลกคนมากหากเป็นป่า กิจธุระต้องไปติดต่อสุไหงปาดี รัฐบาลเห็นพ้องอนุญาต แจ้งประกาศบอกกระบวนมาถ้วนถี่ ให้ตั้งก่อนเป็นกิ่งจึงจะดี แต่บัดนี้เป็นอำเภอเสมอกัน

หลังจากตั้งเทศบาลแล้ว 7 ปี ตำบลสุไหงโก-ลกจึงได้ยกฐานะเป็น กิ่งอำเภอสุไหงโก-ลก[1] ขึ้นกับอำเภอสุไหงปาดี โดยมีเขตปกครอง 4 ตำบล คือ ตำบลสุไหงโก-ลก ตำบลปูโยะ ตำบลปาเสมัส ของอำเภอสุไหงปาดี และตำบลมูโนะ (รับโอนมาจากอำเภอตากใบ) ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม ปีเดียวกัน

กระทั่งวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2496 กิ่งอำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส จึงได้รับการยกฐานะเป็น อำเภอสุไหงโก-ลก[2] ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม ปีเดียวกัน มีนายนอบ นพสงค์ เป็นนายอำเภอคนแรก เขตการปกครอง 4 ตำบลเท่าเดิม

ส่วนตำบลสุไหงโก-ลกอยู่ในเขตเทศบาล ความน่าภูมิใจของเทศบาลนี้คือ เป็นเทศบาลเดียวในประเทศไทยที่จัดตั้งก่อนอำเภอถึง 13 ปีและเกิดจากความต้องการของประชาชน ปัจจุบันเทศบาลตำบลสุไหงโก-ลกได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกเมื่อ ปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นมา ปัจจุบันอำเภอสุไหงโก-ลกมีความเจริญและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคใต้ตอนล่าง มีด่านการค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุดของฝั่งตะวันออก เป็นศูนย์กลางของการค้าขายส่งสินค้าทั้งพืชผักผลไม้ ตลอดจนไม้ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และขนมนมเนยจากประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ที่ผ่านเข้าออกด่านสุไหงโก-ลกกว่าปีละหลายแสนคน

การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

การปกครองของอำเภอสุไหงโก-ลกมี 4 ตำบล 19 หมู่บ้าน ได้แก่

1. สุไหงโก-ลก (Su-ngai Kolok) -
2. ปาเสมัส (Pase Mat) 8 หมู่บ้าน
3. มูโนะ (Muno) 5 หมู่บ้าน
4. ปูโยะ (Puyo) 6 หมู่บ้าน

การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]

ท้องที่อำเภอสุไหงโก-ลกประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4 แห่ง ได้แก่

  • เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลสุไหงโก-ลกทั้งตำบล
  • เทศบาลตำบลปาเสมัส ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปาเสมัสทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลมูโนะ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลมูโนะทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลปูโยะ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลปูโยะทั้งตำบล

หน่วยกู้ภัย[แก้]

  • มูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก
  • มูลนิธิสว่างอารมย์สุไหงโก-ลก

ประชากร[แก้]

สถานที่ท่องเที่ยว[แก้]

สถานที่สำคัญ[แก้]

โรงแรมและสถานที่พัก[แก้]

โรงแรมและสถานที่พักอำเภอสุไหงโก-ลกมีหลายหลายให้เลือกโดยมีห้องพักทั้งหมดประมาณมากกว่า 5,000 กว่าห้อง (พ.ศ. 2549)

  • โรงแรมเก็นติ้ง ถนนเอเซีย 18 (ตั้งอยู่เยื้องสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก)
  • โรงแรมเซ็นเตอร์พ้อยท์ สุไหงโก-ลก)
  • โรงแรมมารีน่าสายธาร ถนนเจริญเขต 3 (ซอยภูธร)
  • โรงแรมแกรนการ์เดนร์ ถนนประชาวิวัฒ
  • โรงแรมอินเตอร์ทาวเวอร์ ถนนประชาวิวัฒ
  • โรงแรมธารารีเจน ถนนเจริญเขต 3 (ซอยภูธร)
  • โรงแรมซิตี้
  • โรงแรมเวนิส พาเลซ โฮเทล
  • โรงแรมเมอลินร์ แมนดาลิน โอเต็ล
  • โรงแรมแพน แปซิฟิค
  • โรงแรมแกรนด์ มิลเลนเนียม สุไหงโก-ลก
  • โรงแรมริเวียร่า
  • โรงแรมปาร์คสัน
  • โรงแรมแชงกรีลา
  • โรงแรมเดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น
  • โรงแรมทักษิณ 1
  • โรงแรมทักษิณ 2
  • โรงแรมอิมเพรส
  • โรงแรมพลาซ่า โอเต็ล
  • โรงแรมพิมานโฮเต็ล
  • โรงแรมวาเลนไทน์โฮเต็ล
  • โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ สุไหงโก-ลก
  • โรงแรมเบิร์จอาราเบียน แอนด์ เปอร์เซีย
  • โรงแรมเซ็นทรัลซีตี้
  • โรงแรมรอยัลปาร์ค (ถนนชื่นมรรคา)
  • บังกะโลโก-ลก (12 หลัง) และโรงแรมอื่น ๆ อีกประมาณ 30 แห่ง (รวมทั้งเมืองมีโรงแรมประมาณ 54 แห่ง)
  • โรงแรมรามัน ริเวอร์แพน (จำนวน 185 ห้อง) ถนนประชานิเวศ

อ้างอิง[แก้]

  1. [1] เก็บถาวร 2011-11-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ยกฐานะตำบลขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ
  2. [2] เก็บถาวร 2012-04-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งอำเภอจักราช อำเภอสัตตหีบ อำเภอศรีสงคราม อำเภอชะอวด อำเภอหนองแซง อำเภอภาชี อำเภอเขาไชยสน อำเภอชุมพลบุรี อำเภอวาริชภูมิ อำเภอสบปราบ และอำเภอสุไหงโกลก พ.ศ. ๒๔๙๖

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

6°04′22″N 101°59′30″E / 6.07269°N 101.99158°E / 6.07269; 101.99158