เอเอสอาร์ (รถดีเซลราง)
Sprinter Railcar / ASR | |
---|---|
![]() รถดีเซลรางสปรินเตอร์ที่สถานีรถไฟพัทยา | |
ประเภทและที่มา | |
ชื่อเรียกรุ่น | ASR (AirConditioner Sprinter RailCar) |
รุ่นเลขที่ | กซข.ป.2501 - 2512 , กซม.ป.2113 - 2120 |
โมเดลโรงงาน | BREL Class158/T |
ผู้ผลิต | British Rail Engineering Limited (BREL) /สหราชอาณาจักร ![]() |
ปีที่ประจำการ | พ.ศ. 2534 |
จำนวน | 20 คัน (แบบมีห้องขับ 12 คัน / แบบไม่มีห้องขับ 8 คัน) |
ข้อมูลทั่วไป | |
ชนิด | รถดีเซลราง |
มาตรฐานทางกว้าง | 1.000 เมตร |
การจัดวางล้อ | 2-A1 |
วัสดุตัวถัง | เหล็กกล้า , ไฟเบอร์กลาส |
ความยาว | 23.370 เมตร |
ความกว้าง | 2.800 เมตร |
ความสูง | 3.786 เมตร |
น้ำหนัก | จอดนิ่ง 37.09 ตัน (รถมีห้องขับ) 37.06 ตัน (รถไม่มีห้องขับ) ใช้การ 38.91 ตัน (รถมีห้องขับ) 37.73 ตัน (รถไม่มีห้องขับ) |
น้ำหนักกดเพลา | 9.73 ตัน (รถมีห้องขับ) 9.43 ตัน (รถไม่มีห้องขับ) |
เครื่องยนต์ | Cummins NT-855-R5 |
ระบบส่งกำลัง | ไฮดรอลิก |
ชุดส่งกำลัง | Voith T221R2 |
ความจุถังเชื้อเพลิง | 1,500 ลิตร |
ระบบห้ามล้อ | ลมอัด 2 สูบ ควบคุมด้วยไฟฟ้า |
จำนวนห้องขับ | 1 ฝั่ง (กซข.ป.2501 - 2512) ไม่มี (กซม.ป.2113 - 2120) |
ความจุผู้โดยสาร | 72 ที่นั่ง/คัน (กซข.ป.2501 - 2512) 80 ที่นั่ง/คัน (กซม.ป.2113 - 2120) |
ประตูทางขึ้น | 4 ประตู (กซข.ป.2501 - 2512) 2 ประตู (กซม.ป.2113 - 2120) ข้างละ 2 ประตู (กซข.ป.2501 - 2512) ข้างละ 1 ประตู (กซม.ป.2113 - 2120) |
ประสิทธิภาพ | |
กำลังเครื่องยนต์ | 285 แรงม้า ที่ 2,100 รอบ/นาที |
ความเร็วสูงสุด | 120 กม./ชม. |
ความเร็วให้บริการ | 120 กม./ชม. |
การใช้งาน | |
ประจำการใน | การรถไฟแห่งประเทศไทย / ประเทศไทย ![]() |
เอเอสอาร์ (ASR) หรือรถดีเซลรางสปรินเตอร์ (อังกฤษ: Sprinter Diesel Railcar) เป็นรถดีเซลรางปรับอากาศของการรถไฟแห่งประเทศไทย ใช้สำหรับการทำขบวนรถโดยสาร และ ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลราง สั่งซื้อจากบริษัท British Rail Engineering Limited (BREL) สหราชอาณาจักร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 มีต้นแบบมาจาก บริติช เรล คลาส 158 (อังกฤษ: British Rail Class 158) ที่ใช้งานในสหราชอาณาจักร
รถดีเซลรางสปรินเตอร์ มีชื่อรุ่นจากโรงงานว่า คลาส 158/T (อังกฤษ: Class 158/T) โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยได้นำชื่อ สปรินเตอร์(อังกฤษ: Sprinter) มาจากชื่อตระกูลรถดีเซลรางของประเทศอังกฤษ ที่มีความหมายว่า "นักวิ่ง" ซึ่งสื่อความหมายได้ถึงความรวดเร็ว มาใช้ตั้งเป็นชื่อเรียกรุ่น รถดีเซลรางสปรินเตอร์ยังมักถูกเรียกว่า "ยอดนักวิ่ง" อีกด้วย
การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เปิดตัวรถดีเซลรางสปรินเตอร์ เป็นรถด่วนพิเศษดีเซลรางครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2534 ในชื่อ รถด่วนพิเศษ "สปรินเตอร์" สปรินเตอร์ขบวนแรกของไทย คือ ขบวนที่ 907/908 กรุงเทพ–เชียงใหม่–กรุงเทพ ออกให้บริการวันแรก 11 มิถุนายน พ.ศ. 2534 โดยวิ่งให้บริการด้วยความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดสถิติใหม่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และถือเป็นรถไฟที่วิ่งเร็วที่สุดในไทยในขณะนั้นด้วย
ข้อมูลทั่วไป[แก้]
- ประเภท : รถดีเซลรางปรับอากาศ (Air Conditioner Diesel Rail Car)
- รุ่นเลขที่:
- กซข.ป. 2501 - 2512 (มีห้องขับ) จำนวน 12 คัน
- กซม.ป. 2113 - 2120 (ไม่มีห้องขับ) จำนวน 8 คัน
- เครื่องยนต์ : Cummins NT-855-R5
- กำลังขับเคลื่อน : 285 แรงม้า ที่ 2,100 รอบต่อนาที
- ระบบขับเคลื่อน : ใช้เครื่องถ่ายทอดกำลังแบบไฮดรอลิค (Hydraulic Torque Converter) Voith T221R2 ควบคุมโดยอัตโนมัติ พร้อมวงจรเปลี่ยนทิศทางการขับภายในตัว
- ความเร็วสูงสุด : 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- น้ำหนักตัวรถ :
- มีห้องขับ : 37.090 ตัน (น้ำหนักรถเปล่า) 38.906 ตัน (น้ำหนักขณะทำขบวน)
- ไม่มีห้องขับ : 35.960 ตัน (น้ำหนักรถเปล่า) 37.730 ตัน (น้ำหนักขณะทำขบวน)
- น้ำหนักกดเพลา : 9.73 ตัน
- ระบบปรับอากาศ : Westinghouse RA102
- ประตูขึ้น-ลงรถ : เป็นแบบเปิดเองด้วยมือทั้งหมด ทั้งของห้องโดยสารและห้องขับ
- ประตูกั้นภายในรถ : เป็นประตูแบบเลื่อนอัตโนมัติ แยกเป็นสองบาน ซ้าย-ขวา ใช้ปุ่มกดเปิด-ปิด
- เบาะนั่ง : เบาะนวม ชุดละ 2 ที่นั่ง สามารถปรับเอนได้ มีถาดวางอาหารหลังเบาะ สามารถหมุนกลับด้านเบาะได้ ตามทิศทางที่รถวิ่ง
- จำนวนที่นั่ง : 72 ที่นั่ง (มีห้องขับ), 80 ที่นั่ง (ไม่มีห้องขับ)
- ผู้ผลิต : British Rail Engineering Limited (BREL) / สหราชอาณาจักร
- ราคาต่อคัน :
- 23,378,654 บาท (หมายเลข 2501–2512)
- 22,520,523 บาท (หมายเลข 2113–2120)
- วันที่เข้าประจำการ: 23 พฤษภาคม – 6 สิงหาคม พ.ศ. 2534
ปรับปรุงใหม่[แก้]
เมื่อปี พ.ศ. 2555 การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้นำรถดีเซลรางสปรินเตอร์ จำนวน 3 คัน มาปรับปรุงใหม่ทั้งหมด เป็นจำนวน 1 ชุด ภายใต้โครงการ Sprinter Refurbish หรือการปรับปรุงใหม่ทั้งคัน
- ได้แก่หมายเลข 2509 , 2118และ 2512 มีการปรับปรุงด้านหน้ารถแบบใหม่ โดยใช้ไฟหน้าของรถบรรทุกวอลโวมาใช้แทนของเดิม มีการปรับปรุงระบบช่วงล่าง ระบบขับเคลื่อน ระบบไฟฟ้าภายในรถ
(ปัจจุบันรถดีเซลรางสปรินเตอร์ชุดดังกล่าวจอดรอการซ่อมบำรุง)
ปัญหาด้านการใช้งานและการซ่อมบำรุง[แก้]
รถดีเซลรางสปรินเตอร์เป็นรถดีเซลรางที่ทำความเร็วได้ถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และมักจะเป็นอุบัติเหตุรุนแรง เนื่องจากมีจุดตัดทางข้ามทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้นหรือทางลักผ่านหลายจุด และผู้ขับขี่พาหนะทางถนนไม่เคารพกฎจราจร และเป็นเหตุทำให้ตัวรถเกิดความเสียหายเป็นอย่างมากเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
แต่รถดีเซลรางสปรินเตอร์ เป็นรถที่ใช้วัสดุตัวถังเป็นเหล็กกล้าร่วมกับไฟเบอร์กลาส ทำให้การซ่อมแซมตัวถังยากกว่าตัวถังแบบเหล็กกล้าหรือสแตนเลสสตีล รวมไปถึงระบบต่าง ๆ ที่สลับซับซ้อน ยากต่อการซ่อมบำรุง เป็นสาเหตุให้มีรถดีเซลรางสปรินเตอร์หลายคันที่ยังคงจอดรอการซ่อมบำรุง ไม่ได้ถูกนำมาใช้งานต่อ หรือมีอายุการใช้งานที่น้อยกว่าคันอื่น ๆ
ขบวนรถที่ให้บริการ[แก้]
- ปัจจุบัน
- ขบวนรถเร็วที่ 997/998 กรุงเทพ–บ้านพลูตาหลวง–กรุงเทพ
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 3/4 กรุงเทพ–สวรรคโลก–ศิลาอาสน์–กรุงเทพ (ปัจจุบันงดให้บริการชั่วคราว)
- อดีต
- ขบวนรถจัดเฉพาะที่ 981/982 บางซื่อ–บางซ่อน–บางซื่อ (ยกเลิกการเดินรถแล้ว เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2560)
- ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวที่ 987/988 กรุงเทพ–สวนนงนุช–กรุงเทพ (ยกเลิกการเดินรถ และเปลี่ยนเป็นขบวนรถเร็วที่ 997/998 โดยขยายเส้นทางเป็นกรุงเทพ–บ้านพลูตาหลวง–กรุงเทพ)
- ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศเลขที่ขบวน 9/10 กรุงเทพ–เชียงใหม่–กรุงเทพ
- ขบวนรถด่วนพิเศษ (ไม่ทราบเลขขบวน) กรุงเทพ–หนองคาย–กรุงเทพ เปิดการเดินรถวันที่ 22–23 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 (ยกเลิกการเดินรถแล้ว)
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 43/44 กรุงเทพ–สุราษฎร์ธานี–กรุงเทพ (ปัจจุบันใช้รถดีเซลรางแดวูทำขบวนแทน)
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 5/6 กรุงเทพ–พิษณุโลก–กรุงเทพ (ยกเลิกการเดินรถแล้ว)
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 7/8 กรุงเทพ–สวรรคโลก–กรุงเทพ (ยกเลิกการเดินรถแล้ว)
- ขบวนรถด่วนที่ 71/74 กรุงเทพ–ศรีสะเกษ–กรุงเทพ (ปัจจุบันใช้รถดีเซลรางทีเอชเอ็น, เอ็นเคเอฟ และเอทีอาร์ ทำขบวน และขยายเส้นทางเป็นกรุงเทพ–อุบลราชธานี–กรุงเทพ โดยยกเลิกขบวนที่ 74 และเปลี่ยนเลขขบวนรถเที่ยวกลับเป็น 72)
- ขบวนรถชานเมืองที่ 367/368 กรุงเทพ–ฉะเชิงเทรา–กรุงเทพ (ปัจจุบันใช้รถจักรพ่วงรถโดยสาร บชสชั้น3 ทำขบวนแทน)
- ขบวนรถชานเมืองที่ 389/390 กรุงเทพ–ฉะเชิงเทรา–กรุงเทพ (ปัจจุบันใช้รถดีเซลรางทีเอชเอ็น, เอ็นเคเอฟ ทำขบวน)
- ขบวนรถชานเมืองที่ 391/388 กรุงเทพ–ฉะเชิงเทรา–กรุงเทพ (ปัจจุบันใช้รถดีเซลรางทีเอชเอ็น, เอ็นเคเอฟ ทำขบวน)[1]
รถดีเซลรางสปรินเทอร์ หมายเลข 2509 (สีเดิม) ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 3 (สีเดิม) ขณะวิ่งผ่านชานชาลารางที่ 10 สถานีรถไฟชุมทางบ้านภาชี
ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 3 (สีเดิม) ขณะกำลังหยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟพิชัย
อ้างอิง[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: รถดีเซลรางสปรินเตอร์ |
- รถไฟไทยแกลลอรี่
- http://www.geocities.ws/railsthai/train01.htm
- ภาพพิธีเปิดเดินขบวนรถสปรินเตอร์ กรุงเทพ–หนองคาย–กรุงเทพ เที่ยวปฐมฤกษ์ ระหว่างวันที่ 22 - 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2534
- ภาพพิธีเปิดเดินขบวนรถด่วนพิเศษสปรินเตอร์ กรุงเทพ–เชียงใหม่–กรุงเทพ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2534
- http://pantip.com/topic/31921860