อาร์ทีเอส (รถดีเซลราง)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
RTS
ประจำการการรถไฟแห่งประเทศไทย
ผู้ผลิตโทกีวคาร์ คอร์เปอเรชัน
เข้าประจำการพ.ศ. 2514–2553
จำนวนที่ผลิต12 คัน (มีห้องขับ 8 คัน / ไม่มีห้องขับ 4 คัน)
หมายเลขตัวรถD9-D16 (รถกำลัง)
TS4-TS7 (รถพ่วง)
ความจุผู้โดยสาร30 ที่นั่ง (รถกำลัง)
25 ที่นั่ง พร้อมห้องสัมพาระ (รถพ่วง)
คุณลักษณะ
วัสดุตัวถังสแตนเลสสตีล
ความยาว20.800 m (68 ft 2.9 in)
ความกว้าง2.748 m (9 ft 0.2 in)
ความสูง3.765 m (12 ft 4.2 in)
จำนวนประตู4 ประตู
รูปแบบการจัดวางล้อ2A-1
ความเร็วสูงสุด70 km/h (43 mph)
น้ำหนัก31.80 ตัน
น้ำหนักกดเพลา8.39 ตัน
เครื่องยนต์Cummins NHH220B1
กำลังขับเคลื่อน220 แรงม้า ที่ 2,100 รอบ/นาที
แรงฉุดลากไฮดรอลิก
ระบบเบรกลมอัด 2 สูบ
มาตรฐานทางกว้าง1,000 mm (3 ft 3 38 in)
รถดีเซลรางอาร์ทีเอส จอดปลดระวางที่สถานีรถไฟมาบกะเบา

อาร์ทีเอส (RTS) เป็นรถดีเซลรางตัวถังสแตนเลสสตีลรุ่นแรกของการรถไฟแห่งประเทศไทย ใช้สำหรับการทำขบวนขบวนรถชานเมืองสายแม่กลองโดยเฉพาะ สั่งซื้อจากบริษัท Tokyu Car Corporation , ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2514 และ ปลดประจำการทั้งหมดในปี พ.ศ.2553

อาร์ทีเอส (RTS) ยังเป็นต้นแบบให้รถดีเซลราง และ รถโดยสารรุ่นต่อ ๆ มา เปลี่ยนมาใช้ตัวถังที่ทำจากสแตนเลสสตีล

ประวัติ[แก้]

รถพ่วงดีเซลรางอาร์ทีเอส จอดเป็นรถแคมป์คาร์ ที่โรงรถจักรนครราชสีมา

หลังจากการมาถึงของรถดีเซลรางรุ่นใหม่ ๆ ซึ่งมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ดี และคล่องตัวกว่าการใช้รถจักลาก ประกอบกับความต้องการรถโดยสารใหม่มาทดแทนรถโดยสารรุ่นเก่า ในทางรถไฟสายชานเมืองแม่กลอง ที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้งาน การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงได้จัดหารถดีเซลรางรุ่นใหม่ สำหรับการทำขบวนขบวนรถชานเมืองสายแม่กลองโดยเฉพาะโดยได้ออกมาเป็น อาร์ทีเอส (RTS)

รถดีเซลรางรุ่นนี้ต่างจากรถรุ่นอื่น ๆ ในยุคนั้นอย่างมากเพราะตัวถังประกอบขึ้นมาจากเหล็กกล้าไร้สนิม หรือ สแตนเลสสตีล เพื่อรองรับสภาพการใช้งานในสายชานเมืองแม่กลอง ที่มีเส้นทางใกล้ทะเล และ นาเกลือ ป้องกันการกัดกร่อนตัวถังจากไอเค็มของน้ำทะเล ที่มักจะเกิดปัญหาตัวรถผุกร่อนและเกิดสนิม ในรถรุ่นก่อน ๆ ที่ใช้ตัวถังที่เป็นเหล็กกล้าธรรมดา

การมาถึงของ อาร์ทีเอส (RTS) ทำให้เป็นต้นแบบให้รถดีเซลราง และ รถโดยสารรุ่นต่อ ๆ มา เปลี่ยนมาใช้ตัวถังที่ทำจากสแตนเลสสตีล เพื่อความคงทนและอายุการใช้งานตัวถังที่นานยิ่งขึ้น

อาร์ทีเอส (RTS) เริ่มหมดสภาพ และ ถยอยปลดระวาง ตั้งแต่ช่วงประมาณปี พ.ศ. 2543 - 2553 ปัจจุบัน อาร์ทีเอส (RTS) ปลดระวางทั้งหมด และ ย้ายไปจอดตามย่านสถานีต่าง ๆ ตั้งแต่ พ.ศ.2553 แม้จะปลดระวางนานแล้วแต่ตัวถังที่ทำจากสแตนเลสสตีลยังคงสภาพเดิมตามที่ออกแบบไว้

ทดลองใช้งานบนเส้นทางสายหลัก[แก้]

ราวปี พ.ศ.2520 - 2521 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ทดลองนำ อาร์ทีเอส (RTS) มาทดลองใช้งานบนเส้นทางสายหลักช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อวิ่งประเมินผลต่าง ๆ สำหรับการจัดหารถดีเซลรางรุ่นใหม่ จนได้มาเป็นต้นแบบให้รถดีเซลราง ทีเอชเอ็น (THN) ในเวลาต่อมา

ภายหลัง อาร์ทีเอส (RTS) ก็นำกลับไปใช้งานใน สายวงเวียนใหญ่ - มหาชัย

การใช้งาน[แก้]

อาร์ทีเอส (RTS) เคยใช้งานร่วมกับ เอ็นเคเอฟ (NKF) อยู่ช่วงนึง แต่ประสบปัญหาปิดประตูไม่ได้ ต้องวิ่งทำขบวนแบบเปิดประตูทิ้งไว้