ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิสุทธิ"
GeonuchBot (คุย | ส่วนร่วม) ล change cats |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 13: | บรรทัด 13: | ||
*'''กังขาวิตรณวิสุทธิ''' หมายถึง ความหมดจดแห่ง[[ญาณ]]เป็นเครื่องข้ามพ้นความสงสัย ความบริสุทธิ์ขั้นที่ทำให้กำจัดความสงสัยได้ คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้แล้วจึงสิ้นสงสัย เห็นปฏิจจสมุปบาท |
*'''กังขาวิตรณวิสุทธิ''' หมายถึง ความหมดจดแห่ง[[ญาณ]]เป็นเครื่องข้ามพ้นความสงสัย ความบริสุทธิ์ขั้นที่ทำให้กำจัดความสงสัยได้ คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้แล้วจึงสิ้นสงสัย เห็นปฏิจจสมุปบาท |
||
*'''มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ''' หมายถึง ความหมดจดแห่งญาณเป็นเครื่องรู้เห็นว่าทางหรือมิใช่ทาง จิตรับรู้ถึงกระแสแห่งไตรลักษณ์ได้ |
*'''มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ''' หมายถึง ความหมดจดแห่งญาณเป็นเครื่องรู้เห็นว่าทางหรือมิใช่ทาง จิตรับรู้ถึงกระแสแห่งไตรลักษณ์ได้ |
||
*'''ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ''' หมายถึง ความหมดจดแห่งญาณอันรู้เห็นทางดำเนิน ([[ญาณ|วิปัสสนาญาณ 9]])รู้ทุกขอริ |
*'''ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ''' หมายถึง ความหมดจดแห่งญาณอันรู้เห็นทางดำเนิน ([[ญาณ|วิปัสสนาญาณ 9]]) รู้ทุกขอริยสัจจ์ รู้สมุทัยอริยสัจจ์ รู้นิโรธอริยสัจจ์ รู้มรรคอริยสัจจ์ทั้ง๘ และพิจารณาทั้งสิ้นพร้อมกัน (สามัคคีธรรม) เมื่อถึงสัจจานุโลมมิกญาณ คือหมุนธรรมจักรทั้ง๘ และพิจารณาดุจผู้พิพากษาพิจารณาเหตุทั้งสิ้น |
||
*'''ญาณทัสสนวิสุทธิ''' หมายถึง ความหมดจดแห่งญาณทัสสนะ คือการปฏิบัติบริบูรณ์จนก้าวผ่านภูมิจิตเดิมคือโคตรภูญาณและวิทานะญาณ ได้ความรู้แจ้งใน[[มรรค|อริยมรรค]]หรือมรรคญาณ ความบรรลุเป็น[[อริยบุคคล]]หรือผลญาณ พิจารณาธรรมที่ได้บรรลุแล้วคือปัจจเวกขณะญาณ ย่อมเกิดขึ้นในวิสุทธิข้อนี้ เป็นอันบรรลุผลที่หมายสูงสุดแห่งวิสุทธิ หรือไตรสิกขา หรือการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น |
*'''ญาณทัสสนวิสุทธิ''' หมายถึง ความหมดจดแห่งญาณทัสสนะ คือการปฏิบัติบริบูรณ์จนก้าวผ่านภูมิจิตเดิมคือโคตรภูญาณและวิทานะญาณ ได้ความรู้แจ้งใน[[มรรค|อริยมรรค]]หรือมรรคญาณ ความบรรลุเป็น[[อริยบุคคล]]หรือผลญาณ พิจารณาธรรมที่ได้บรรลุแล้วคือปัจจเวกขณะญาณ ย่อมเกิดขึ้นในวิสุทธิข้อนี้ เป็นอันบรรลุผลที่หมายสูงสุดแห่งวิสุทธิ หรือไตรสิกขา หรือการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:42, 15 กุมภาพันธ์ 2563
ส่วนหนึ่งของชุดบทความ |
ศาสนาพุทธ |
---|
วิสุทธิ หมายถึง ความบริสุทธิ์ ความหมดจด ในศาสนาพุทธกล่าวถึง วิสุทธิ 7 ซึ่งหมายถึง ความบริสุทธิ์ที่สูงขึ้นไปตามลำดับ เป็นการชำระให้บริสุทธิ์ ด้วยการฝึกฝนตนเองที่เรียกว่าไตรสิกขา ไปโดยลำดับ จนบรรลุจุดมุ่งหมายคือนิพพาน มี 7 ขั้น คือ
- ศีลวิสุทธิ หรือ ความหมดจดแห่งศีล คือ การถือศีลอย่างไม่งมงาย ละสีลัพพัตตปรามาส ด้วยการมีศรัทธาพละสมดุลกับปัญญาพละ ไม่ศรัทธาจนถืออย่างไม่เข้าใจ หรือมีปัญญามาก เกิดความลังเลสงสัย ได้แต่ถือแต่ใจกลับไม่มีศรัทธา
เพราะการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ตั้งใจรักษา ทำให้สามารถปฏิบัติ สมาธิกับวิปัสสนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ได้กล่าวถึงปาริสุทธิศีล 4 ซึ่งหมายถึง ความประพฤติบริสุทธิ์ที่จัดเป็นศีล มีสี่ข้อ ได้แก่
- ปาฏิโมกขสังวรศีล หมายถึง ศีลคือความสำรวมในพระปาฏิโมกข์ เว้นจากข้อห้าม และทำตามข้ออนุญาต ตลอดจนประพฤติเคร่งครัดในสิกขาบท (คือ ศีลและมารยาทที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกนั่นเอง)
- อินทรียสังวรศีล หมายถึง ศีลคือความสำรวมอินทรีย์6 ระวังไม่ให้บาปอกุศลธรรมเกิดขึ้นได้ ในขณะที่รับรู้อินทรีย์ทั้งหก คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
- อาชีวปาริสุทธิศีล หมายถึง ศีลคือความบริสุทธิ์แห่งอาชีวะ เลี้ยงชีพในทางที่ชอบธรรม
- ปัจจัยสันนิสิตศีล หมายถึง ศีลที่เกี่ยวกับปัจจัยสี่ คือ การพิจารณาใช้สอยปัจจัย ให้เป็นไปตามประโยชน์ที่แท้ของสิ่งนั้น ไม่บริโภคด้วยตัณหา เช่น ไม่บริโภคด้วยความอยากรับประทาน ไม่บริโภคด้วยความอยากอยากใช้สอย
- จิตตวิสุทธิ หมายถึง ความหมดจดแห่งจิต คือ จิตที่สมดุล เพราะวิริยะพละเสมอกับสมาธิพละ ทำให้สมาธิก็สมดุล วิริยะก็สมดุล เป็นปัจจัยให้สติกำหนดรู้อยู่ในปัจจุบันขณะได้อย่างพอดี ไม่ไปในอนาคตเพราะวิริยะมีมาก ไม่อยู่ในอดีตเพราะสมาธิมีกำลังมากไป เป็นการฝึกอบรมจิตจนบังเกิดอัปปนาสมาธิ(หรือฌาน)ที่ปราศจากนิวรณ์ เพราะสติต่อเนื่องจนนิวรณ์ไม่สามารถเข้าแทรกในจิตได้ อันเป็นปทัฏฐานที่สำคัญ ทำให้เจริญวิปัสสนาได้ง่าย
- ทิฏฐิวิสุทธิ หมายถึง ความหมดจดแห่งทิฏฐิ คือ ความรู้เข้าใจ มองเห็นนามรูปตามสภาวะที่เป็นจริง เห็นรูปธาตุและนามธาตุเป็นคนละธาตุกันอย่างชัดเจน เป็นเหตุข่มความเข้าใจผิดว่ารูปขันธ์นี้เป็นเราเสียได้ เริ่มดำรงในภูมิแห่งความไม่หลงผิด
- กังขาวิตรณวิสุทธิ หมายถึง ความหมดจดแห่งญาณเป็นเครื่องข้ามพ้นความสงสัย ความบริสุทธิ์ขั้นที่ทำให้กำจัดความสงสัยได้ คือ กำหนดรู้ปัจจัยแห่งนามรูปได้แล้วจึงสิ้นสงสัย เห็นปฏิจจสมุปบาท
- มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ หมายถึง ความหมดจดแห่งญาณเป็นเครื่องรู้เห็นว่าทางหรือมิใช่ทาง จิตรับรู้ถึงกระแสแห่งไตรลักษณ์ได้
- ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ หมายถึง ความหมดจดแห่งญาณอันรู้เห็นทางดำเนิน (วิปัสสนาญาณ 9) รู้ทุกขอริยสัจจ์ รู้สมุทัยอริยสัจจ์ รู้นิโรธอริยสัจจ์ รู้มรรคอริยสัจจ์ทั้ง๘ และพิจารณาทั้งสิ้นพร้อมกัน (สามัคคีธรรม) เมื่อถึงสัจจานุโลมมิกญาณ คือหมุนธรรมจักรทั้ง๘ และพิจารณาดุจผู้พิพากษาพิจารณาเหตุทั้งสิ้น
- ญาณทัสสนวิสุทธิ หมายถึง ความหมดจดแห่งญาณทัสสนะ คือการปฏิบัติบริบูรณ์จนก้าวผ่านภูมิจิตเดิมคือโคตรภูญาณและวิทานะญาณ ได้ความรู้แจ้งในอริยมรรคหรือมรรคญาณ ความบรรลุเป็นอริยบุคคลหรือผลญาณ พิจารณาธรรมที่ได้บรรลุแล้วคือปัจจเวกขณะญาณ ย่อมเกิดขึ้นในวิสุทธิข้อนี้ เป็นอันบรรลุผลที่หมายสูงสุดแห่งวิสุทธิ หรือไตรสิกขา หรือการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น
วิสุทธิ 7 กับ วิปัสสนาญาณ
วิสุทธิ 7 เป็นปัจจัยส่งต่อกันขึ้นไปเพื่อบรรลุนิพพาน เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา ดังบรรยายในรถวินีตสูตร (พระสูตรหนึ่งในพระไตรปิฎกภาษาบาลี) เปรียบวิสุทธิ 7 ว่าเสมือนรถเจ็ดผลัด ส่งต่อกันให้บุคคลถึงที่หมาย สามารถเปรียบเทียบ ไตรสิกขา, วิสุทธิ 7, ญาณ 16 , ปาริสุทธิศีล 4 และสมาธิ ได้ดังนี้
- อธิศีลสิกขา
ศีลวิสุทธิ
- 1.ปาฏิโมกขสังวรศีล
- 2.อินทรียสังวรศีล
- 3.อาชีวปาริสุทธิศีล
- 4.ปัจจัยสันนิสิตศีล
- อธิจิตตสิกขา
จิตตวิสุทธิ
- -อุปจารสมาธิ
- -อัปปนาสมาธิ ในฌานสมาบัติ
- อธิปัญญาสิกขา
ทิฏฐิวิสุทธิ
- 1.นามรูปปริจเฉทญาณ
กังขาวิตรณวิสุทธิ
- 2.นามรูปปัจจัยปริคคหญาณ
มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ
- 3.สัมมสนญาณ
- 4.อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ ที่ยังเป็นวิปัสสนาญาณอย่างอ่อน (ตรุณอุทยัพพยญาณ)
ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ
- 4.อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ ที่เจริญขึ้น (พลวอุทยัพพยญาณ)
- 5.ภังคานุปัสสนาญาณ
- 6.ภยตูปัฏฐานญาณ
- 7.อาทีนวานุปัสสนาญาณ
- 8.นิพพิทานุปัสสนาญาณ
- 9.มุจจิตุกัมยตาญาณ
- 10.ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ
- 11.สังขารุเบกขาญาณ
- 12.สัจจานุโลมิกญาณ
ญาณทัสสนวิสุทธิ
- 13.โคตรภูญาณ
- 14.มัคคญาณ
- 15.ผลญาณ
- 16.ปัจจเวกขณญาณ
อ้างอิง
- รถวินีตสูตร จากพระไตรปิฎก (ภาษาไทย)
- พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). "พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์".
- พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). "พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม".
- พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). "พุทธธรรม".