ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำเภอหนองบัว"
Schatthong84 (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Schatthong84 (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 72: | บรรทัด 72: | ||
||๕.||ตำบลหนองกลับ|| || อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร |
||๕.||ตำบลหนองกลับ|| || อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร |
||
|} |
|} |
||
ต่อมาเมื่อมีประชาชนหนาแน่นเพิ่มขึ้น สภาพท้องที่มีความเจริญขึ้น '''กิ่งอำเภอหนองบัวจึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอ ตามพระราชกฤษฏีกา จัดตั้งอำเภอหนองบัว ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๓ ตอนที่ ๔๖ ลงวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๔๙๙ มีฐานะเป็นอำเภอหนองบัวตั้งแต่วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๔๙๙''' |
ต่อมาเมื่อมีประชาชนหนาแน่นเพิ่มขึ้น สภาพท้องที่มีความเจริญขึ้น '''กิ่งอำเภอหนองบัวจึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอ ตามพระราชกฤษฏีกา จัดตั้งอำเภอหนองบัว ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๓ ตอนที่ ๔๖ ลงวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๔๙๙ มีฐานะเป็นอำเภอหนองบัวตั้งแต่วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๔๙๙''' |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:22, 19 พฤษภาคม 2558
อำเภอหนองบัว | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Amphoe Nong Bua |
คำขวัญ: หลวงพ่อเดิมสร้างเมือง ลือเลื่องความสามัคคี ประเพณีบวชนาคหมู่ หินสีชมพูคู่เขาพระ เมืองพันสระนามกล่าวขาน พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านมากมี ข้าวสารดีมีชื่อ นามระบือคือหนองบัว | |
พิกัด: 15°33′24″N 100°4′24″E / 15.55667°N 100.07333°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | นครสวรรค์ |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 819.5 ตร.กม. (316.4 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2557) | |
• ทั้งหมด | 70,163 คน |
• ความหนาแน่น | 85.61 คน/ตร.กม. (221.7 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 60110 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 6004 |
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอหนองบัว หมู่ที่ 3 ตำบลหนองกลับ อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ 60110 |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย |
อำเภอหนองบัว เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครสวรรค์
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอหนองบัวตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอและจังหวัดข้างเคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอบางมูลนากและอำเภอดงเจริญ (จังหวัดพิจิตร)
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอชนแดนและอำเภอบึงสามพัน (จังหวัดเพชรบูรณ์)
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอไพศาลีและอำเภอท่าตะโก
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอชุมแสง
ลักษณะทางกายภาพ
-- ภูมิประเทศ --
อำเภอหนองบัวโดยทั่วไปแล้ว เป็นที่ราบลาดเอียงจากทิศตะวันออกลงไปทิศตะวันตก เนื่องจากมีเทือกเขาพระ-เขาสูง อยู่ทางทิศตะวันออก เป็นอำเภอที่ค่อนข้างแห้งแล้งเนื่องจากไม่มีแม่น้ำไหลผ่านและไม่ค่อยมีแหล่งน้ำธรรมชาติ จึงมีการขุดสระน้ำไว้อุปโภคและบริโภคมากมาย จนได้ชื่อว่า เมืองพันสระ สภาพดินมีทั้งดินเหนียว เหมาะแก่การเพาะปลูกข้าว และดินปนทรายตามที่ราบเชิงเขา เหมาะแก่การทำพืชไร่ ปัจจุบันมีการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง ที่ชาวบ้านเรียกว่า เขื่อนพระครูไกร เพื่อทดน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง เขตพื้นที่ระหว่างเพชรบูรณ์ทางตะวันออกและพิจิตร ทางตอนเหนือของจังหวัดนครสวรรค์คืออำเภอหนองบัว เป็นรอยต่อของภูมิประเทศแบบลอนลูกคลื่น ซึ่งมีภูเขาเตี้ย ๆ ห่าง ๆ กันตั้งอยู่กับพื้นที่ราบลุ่ม ซึ่งเทไปสู่ลำน้ำน่านแถวอำเภอชุมแสงก่อนจะรวมเป็นม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากน้ำโพต่อไป
-- ภูมิอากาศ --
เนื่องจาก ไม่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่หรือแม่น้ำไหลผ่าน จึงทำให้มีอากาศที่ค่อนข้างร้อนเกือบทั้งปี ฤดูฝน มีฝนน้อยกว่าพื้นที่อื่น ฤดูหนาว อากาศไม่หนาวมาก
-- เส้นทางการเดินทาง --
จากกรุงเทพมหานคร สามารถเดินทางโดยรถโดยสาร หรือรถยนต์
เส้นทางแรกวิ่งตามเส้นทางกรุงเทพ-นครสวรรค์ โดยมีทางแยกที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ไปทาง อ.ตากฟ้า ระยะทางจากแยกถึงตัวอำเภอประมาณ 100 กม. เส้นทาง ช่วงนี้ได้มีการซ่อมบำรุงถนน เมื่อปี 2553 ตามโครงการไทยเข้มแข็ง ถนนค่อนข้างดี
ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งวิ่งตามเส้นทางกรุงเทพ-นครสวรรค์ แล้วแยกไปทาง อ.ชุมแสง ซึ่งถนนเส้นจาก อ.ชุมแสงไป อ.หนองบัว เส้นทางแย่มาก เป็นหลุมเป็นบ่อ ไหล่ทางทรุดตัวตลอดเส้นทาง ซึ่งถนนเส้นนี้ สร้างมาเกือบ 30 ปีแล้ว ขาดการดูแลรักษา ขับมาทางเส้นทางนี้ต้องระมัดระวังอย่างมาก เคยมีโครงการถนนสี่เลน แต่โครงการได้สิ้นสุดไปแล้ว ไม่ได้เริ่มโครงการแต่อย่างใด ถนนก็ไม่ได้รับการดูแลจากหน่วยงานรัฐ เนื่องจากขาดงบประมาณ
- ปัจจุบันถนนเส้นหนองบัว-ชุมแสง ได้มีการปรับปรุงดีขึ้นมาก โดย พันตำรวจโทนุกูล แสงศิริ นุกูล แสงศิริ
ตำนานพื้นเมือง
- ชื่ออำเภอหนองบัวนั้น มาจากตำนานโบราณว่า ในสมัยโบราณมีพระฤๅษีนารายณ์ได้บำเพ็ญเพียรที่ข้างหนองน้ำ(บ้านกุฏิฤๅษี)ในหนองน้ำมีกอบัวอยู่ ต่อมามีเทพธิดาถือกำเนิดเป็นเด็กทารกอยู่ในดอกบัว พระฤๅษีจึงเป็นผู้เลี้ยงดูจนเติบใหญ่และให้ชื่อว่า นางทิพย์เกสร เมื่อถึงวันปีใหม่(สงกรานต์)นางทิพย์เกสรก็จะขึ้นมาโล้ชิงช้าร้องเพลงพวงมาลัยเล่นใต้ต้นมะขามหย่อง(ปัจจุบัน เหลือเพียงชื่อ ถนนมะขามหย่อง)ริมหนองน้ำนั้น และไม่ไกลกันนักมีหนองน้ำอีกแห่งหนึ่งเป็นที่อาศัยของครอบครัวพรานป่า เมื่อพรานป่าได้ยินเพลงพวงมาลัยอันไพเราะที่นางทิพย์เกสรได้ขับร้อง เกิดความสงสัยว่าใครเป็นผู้ขับร้อง จึงเดินทางตามเสียงมา แต่ด้วยฤทธิ์นางทิพย์เกสรพรานป่าจึงไม่เห็นตัวนาง พรานป่าจึงเดินกลับบ้านตนแต่ก็ยังได้ยินเสียงอยู่จึงเดินค้นหาหลายรอบ แต่ก็ไม่พบ หนองน้ำที่พระฤๅษีอยู่เรียกว่าหนองบัว(ตำบลหนองบัว)หรือเรียกว่าเกาะลอยเพราะในอดีตมีเกาะเล็กๆอยู่กลางหนองน้ำแต่เนื่องจากน้ำไม่พอใช้ทางการจึงขุดออกและลอกให้ลึกกว่าเดิม ส่วนหนองน้ำที่พรานอาศัยอยู่เรียกว่าหนองกลับ(ตำบลหนองกลับ)
ประวัติอำเภอ
- ตามประวัติวัดหนองกลับ-หนองบัว จากหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพพระครูนิกรปทุมรักษ์(หลวงปู่อ๋อย นามสกุล พรมบุญ เกิด ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๔๒-มรณะ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๒๙ อายุ ๘๗ ปี)อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ:วัดหนองกลับ และอดีตเจ้าคณะอำเภอหนองบัวรูปแรก พ.ศ. ๒๕๓๒ กล่าวว่า วัดหนองกลับ นี้ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๓ ในสมัยรัชกาลที่ ๒ ใครสร้างไม่ปรากฏ ตามคำบอกเล่าทราบว่า ตรงที่สร้างวัดนี้ ในห้วงเหตุการณ์กบฏเจ้าอนุวงศ์ยกทัพตีเมืองนครราชสีมา(โคราช)สมัยราชกาลที่ ๓ เป็นที่ตั้งค่ายของชาวหนองบัว-หนองกลับ เพื่อป้องกันทัพเวียงจันทน์ที่ผ่านมา ด้วยบ้านนี้ตั้งมาหลายร้อยปี จึงมีวัดเก่าแก่ชื่อ วัดหนองม่วง ในเขตหนองกลับ และวัดสระมะนาว ในเขตหนองบัว เมื่อชาวบ้านทั้งสองบ้านมาตั้งค่ายที่วัดหนองกลับ จึงย้ายวัดมาด้วยเป็นเหตุให้มีวัดติดกันสองวัด ในสมัยนั้นชาวบ้านเรียกวัดนอกและวัดใน (บ้านนอกคือตำบลหนองกลับ บ้านในคือตำบลหนองบัว)ต่อมาภิกษุวัดในเป็นอหิวาต์มรณภาพ ภิกษุที่เหลือจึงย้ายไปวัดนอก(วัดหนองกลับในปัจจุบัน)จึงเป็นการรวมวัดโดยปริยาย สำหรับชื่อวัดเดิมมีผู้ตั้งไว้ว่า วัดประทุมคงคา ต่อมาเปลี่ยนเป็น วัดหงษ์ เพราะมีเสาหงษ์อยู่หน้าวัด ต่อมามีเจ้าเมืองพิจิตรมาตรวจราชการ จึงเปลี่ยนชื่อวัดให้เหมือนกับชื่อหมู่บ้านว่า วัดหนองกลับ แต่เนื่องจากอยู่ติดหนองบัว จึงนิยมเรียก วัดหนองบัว
- ต่อมาทางราชการตั้งกิ่งอำเภอหนองบัวขึ้น จึงโอน ต.หนองกลับ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ต.หนองบัว อ.ชุมแสง ต.ห้วยร่วม อ.ชุมแสง ต.ห้วยใหญ่ อ.ชุมแสง และ ต.ธารทหาร อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ มารวมกันเป็นกิ่งอำเภอหนองบัว โดยใช้วัดหนองกลับ เป็นที่ทำการกิ่งอำเภอ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๑-พ.ศ. ๒๔๙๔ เป็นกิ่งอำเภอหนองบัวอยู่ ๙ ปี
- ต่อมายกเป็นอำเภอ จึงสร้างที่ว่าการอำเภอขึ้น
อำเภอหนองบัว
กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศตั้งกิ่งอำเภอหนองบัวขึ้น เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๙๑ ให้ขึ้นอยู่ในการปกครองของอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ กิ่งอำเภอหนองบัวขณะนั้น มีตำบลในการปกครอง คือ
๑. | ตำบลหนองบัว | อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ | |
๒. | ตำบลห้วยร่วม | อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ | |
๓. | ตำบลห้วยใหญ่ | อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ | |
๔. | ตำบลธารทหาร | อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ | |
๕. | ตำบลหนองกลับ | อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร |
ต่อมาเมื่อมีประชาชนหนาแน่นเพิ่มขึ้น สภาพท้องที่มีความเจริญขึ้น กิ่งอำเภอหนองบัวจึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอ ตามพระราชกฤษฏีกา จัดตั้งอำเภอหนองบัว ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๓ ตอนที่ ๔๖ ลงวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๔๙๙ มีฐานะเป็นอำเภอหนองบัวตั้งแต่วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๔๙๙
เมื่อแรกตั้งที่ว่าการกิ่งอำเภอ ได้อาศัยใต้ถุนกุฏิพระใบฎีกาโปน เอี่ยมเนตร พระวัดใหญ่ : วัดหนองกลับ โดยใช้ไม้รวกผ่าจักเป็นฝาล้อมรอบ มีพื้นใช้เป็นที่ทำการตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๔๙๑
เดือนพฤศจิกายน ๒๔๙๒ ได้รื้ออาคารโรงสีที่สร้างไว้ ไฟไหม้บางส่วน มีผู้บริจาคให้ประกอบกับตัวไม้ที่มีอยู่ในวัดหนองกลับเพิ่มเติมรวมกัน ปลูกเป็นอาคารยกพื้นสูง ๕๐ เซนติเมตร กว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๒ เมตร หลังคามุงหญ้าแฝก ปลูกสร้างบริเวณต้นมะขวิดต้นมะสังข์ในวัด อันเป็นที่ตั้งเมรุปัจจุบัน ขณะนั้นเมรุยังไม่ได้ก่อสร้าง ใช้อาคารดังกล่าวเป็นที่ปฏิบัติงาน
ต้นปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ทางราชการได้อนุมัติเงินงบประมาณสร้างที่ว่าการกิ่งอำเภอใหม่ สร้างแล้วเสร็จราวกลางปี ๒๔๙๔ ต่อมาในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้รับงบประมาณสร้างที่ว่าการอำเภอหนองบัว เป็นตึก ๒ ชั้น ในวงเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ (นายเดชชาติ วงศ์โมกลเชษฐ์) ได้มาทำพิธีเปิดป้าย ที่ว่าการอำเภอ เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๒๑ และใช้เป็นที่ทำการตั้งแต่วันทำพิธีเปิดเป็นต้นมา
รายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอหนองบัว
๑. | ร.ต.ต. ประทวน สิทธิธูรณ์ | ๑๘ ธ.ค. ๒๔๙๐ - ๘ มี.ค.๒๔๙๒ | |
๒. | นายสืบศักดิ์ สุขไทย | ๘ มี.ค.๒๔๙๒ - ๒๒ มี.ค.๒๔๙๕ | |
๓. | นายบรรจบ ศรีเจริญ | ๒๒ มี.ค.๒๔๙๕ - ๒ ส.ค. ๒๔๙๙ |
รายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอหนองบัว
๑. | นายสืบศักดิ์ สุขไทย | ๑๔ ก.ค. ๒๔๙๙ - ๑๗ เม.ย. ๒๕๐๒ | |
๒. | นายอรุณ วิไลรัตน์ | ๑๗ เม.ย. ๒๕๐๒ - ๒๐ ต.ค. ๒๕๐๘ | |
๓. | นายอำนาจ ศศิธร | ๒๐ ต.ค. ๒๕๐๘ - ๓ ก.ค. ๒๕๑๔ | |
๔. | นายชาติ สุขเจริญ | ๖ ก.ค. ๒๕๑๔ - ๑๔ พ.ค. ๒๕๑๗ | |
๕. | นายธนุศ อิศรางกูร ณ อยุธยา | ๑๔ พ.ค. ๒๔๑๗ - ๒๘ พ.ย. ๒๕๑๘ | |
๖. | นายสงวน ประพันธ์โรจน์ | ๒๘ พ.ย. ๒๕๑๘ - ๒๕ ส.ค. ๒๕๒๑ | |
๗. | นายไชยเจริญ เฟื่องเรือง | ๒๘ ส.ค. ๒๕๒๑ -๓๑ พ.ค.๒๕๒๔ | |
๘. | นายสมหมาย ฉัตรทอง | ๑ มิ.ย.๒๕๒๔ - ๑๔ ก.พ.๒๕๒๘ | |
๙. | นายดารา การุณยวนิช | ๑๕ ก.พ. ๒๕๒๘ - ๑๕ ต.ค.๒๕๓๐ | |
๑๐. | นายสุนทร มากบุญ | ๑๖ ต.ค.๒๕๓๐ - ๒๐ ม.ค.๒๕๓๒ | |
๑๑. | นายอัมพร วังศพ่าห์ | ๒๓ ม.ค.๒๕๓๒ - ๓ ธ.ค.๒๕๓๓ | |
๑๒. | ร.ต.เสรี ลักษณะสุต | ๓ ธ.ค.๒๕๓๓ - ๑๐ ก.พ. ๒๕๓๕ | |
๑๓. | นายสุวิทย์ หงส์ธนนันท์ | ๑๙ ก.พ. ๒๕๓๕ - ๕ พ.ย.๒๕๓๖ | |
๑๔. | นายวิมล จันทวานิช | ๘ พ.ย.๒๕๓๖ - ๓๑ ต.ค. ๒๕๓๘ | |
๑๕. | นายมานิตย์ แพทย์จรัส | ๑ พ.ย. ๒๕๓๘ - ๙ ก.พ. ๒๕๔๑ | |
๑๖. | นายสุรเชษฐ์ ธีรัทธานนท์ | ๙ ก.พ.๒๕๔๑ - ๑ พ.ย. ๒๕๔๑ | |
๑๗. | นายเสรี คัมภีรธัมโม | ๒. พ.ย.๒๕๔๑ - ๑๕ ธ.ค.๒๕๔๕ | |
๑๘. | นายวีระชัย ภู่เพียงใจ | ๑๖ ธ.ค.๒๕๔๕ - ๓๐ ต.ค. ๒๕๔๗ | |
๑๙. | นายสมดี คชายั่งยืน | ๑ พ.ย.๒๕๔๗ - ๒๓ ธ.ค.๒๕๔๘ | |
๒๐. | นายธนพัฒน์ บูรณศักดิ์ภิญโญ | ๒๖ ธ.ค.๒๕๔๘ - ๒๑ พ.ย.๒๕๕๑ | |
๒๑. | นายเมธี ปรัชญาสกุล | ๒๔ พ.ย.๒๕๕๑ - ๙ ธ.ค. ๒๕๕๔ | |
๒๒. | นายจิตวัฒน์ วิกสิต | ๑๓ ธ.ค.๒๕๕๔ - ๘ มี.ค.๒๕๕๖ | |
๒๓. | นายเมธี ปรัชญากสุล | ๑๑ มี.ค. ๒๕๕๖ - ๓๐ ก.ย. ๒๕๕๗ | |
๒๔. | น.ส.กันตรัตน์ เริ่มสูงเนิน | ๓๐ มี.ค. ๒๕๕๘ - ปัจจุบัน |
ข้อมูลจากหนังสือ ๖๐ ปี(๒๔๙๑-๒๕๕๐) จารึกไว้บนแผ่นดิน อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ โดย นายสมหมาย ฉัตรทอง(๒๕๔๗) แก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอหนองบัว ณ วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘
เรื่องเล่า
- ในอดีตพื้นที่แถบนี้แห้งแล้งมาก จึงเกิดเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งมีพวกลาว(คนเฒ่าคนแก่เล่ามา)อพยพมาถึงดินแดนนี้ ก็หาน้ำดื่มน้ำใช้ไม่ได้ วัวควายที่นำมาด้วยก็อดน้ำเจียนตาย พวกลาวจึงนำก้อนสำลีไปขอน้ำชาวบ้าน บอกว่าขอแค่ชุบก้อนสำลีไปให้วัวควายกิน แต่ด้วยความที่แห้งแล้งมาก ชาวบ้านต่างก็ให้ไม่ได้ พวกลาวโกรธแค้นจึงสาปแช่งชาวบ้านถิ่นนี้ให้ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ทำมาค้าขายไม่ขึ้น ชาวบ้านในอดีตจึงเชื่อกันว่า เป็นเหตุให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ เช่น มีฝนตกรอบตัวอำเภอจนน้ำท่วม แต่ที่หนองบัวกลับแห้งแล้งจนข้าวกล้าตาย หรือ ช่วงลงนา มักจะมีฝนชุกจนน้ำท่วมนาไม่ได้ผลผลิต
- อีกเรื่องมีอยู่ว่า ในอดีตมีเมืองลับแลที่ร่ำรวยมากคนธรรมดาไม่สามารถพบเจอได้ ชาวเมืองลับแลจะนำสร้อยทองมาแขวนตามต้นไม้ให้ชาวบ้านยืมใส่ในช่วงเทศกาลแล้วให้เอาไปคืน แต่มีบางคนที่นำมาแล้วไม่ปฏิบัติตามกติกา คือ ยึดถือเป็นของตนเอง ทำให้ชาวเมืองลับแล ไม่ไว้วางใจ จึงไม่นำมาให้ยืมอีกเลย
- คนหนองบัวรุ่นเก่าเล่าสืบต่อกันมาว่า พื้นที่แถบนี้เนื่องจากมีโลหะธาตุอุดมสมบูรณ์ จึงต้องส่งส่วยเหล็กหางกุ้ง ให้กับทางเมืองหลวงสมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวบ้านจะทำการสลุงเหล็ก โดยนำแร่เหล็กมาจาก เขาเหล็ก ที่บ้านคลองกำลัง เขตรอยต่อกับเพชรบูรณ์ ห่างจากหนองบัวไปราว ๒๐ กิโลเมตร เมื่อสลุงแล้วจะเรียกว่าเหล็กหางกุ้ง ไปส่งส่วยแทนการเสียเงินปีละ ๖ บาท ผู้นำของชุมชมเรียกชื่อว่า พ่อหลวงโลหะ และลูกหลานที่สืบเชื้อสายต่อมาใช่นามสกุลกันว่า โลหะเวช
- ใกล้หนองบัว บริเวณท้ายตลาด มีโบราณสถาณเรียกว่า กุฏิฤษี ตั้งอยู่ พบเศษขี้เหล็ก หรือตะกรันเหล็กอยู่มากมาย นอกจากนี้ตามทุ่งและภูเขาบางแห่ง ยังพบก้อนแร่ตะกั่วที่ผ่านการสลุงแล้ว ก้อนเล็กก้อนใหญ่ จำนวนมาก ชาวบ้านเรียกว่าตะกั่วเถื่อน ปัจจุบันในเขตอำเภอหนองบัว ที่เหมืองแร่ทุ่งทองห่างจากตัวอำเภอ ๑๗ กิโลเมตร มีการผลิตแร่ยิปซั่มเป็นจำนวนมาก ในบริเวณเหมืองแร่แห่งนี้ ยังได้พบเครื่องมือหินขัดและเศษภาชนะจำนวนหนึ่งอยู่ในเขตเหมือง และยังไม่มีการสำรวจบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ชาติพันธุ์ชาวอำเภอหนองบัว
ชุมชนดั้งเดิมของอำเภอหนองบัว คือ ชุมชนในเขตพื้นที่อำเภอหนองบัว ทั้งหมดที่อยู่อาศัยมาก่อนประกาศตั้งเป็นอำเภอ ตามหลักฐานที่ปรากฏ บางหมู่บ้านมีชุมชนอาศัยอยู่ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าชุมชนดั้งเดิมจำนวนหนึ่งอพยพมากจากสุโขทัย ทั้งยังมีชาวไทยพวนและคนลาว มีทั้ง ลาวโซ่ง หรือ ที่เรียกว่า “ไทยทรงดำ” หรือ “ ไทยดำ ลาวใต้ หรือลาวเวียง ซึ่งย้ายมาจากเวียงจันทน์ มีจำนวนประมาณ ๙๐๐ คน ชนกลุ่มนี้อาศัยอยู่ในเขตตำบลหนองบัว ตำบลหนองกลับ ตำบลห้วยร่วม ตำบลห้วยใหญ่ตำบลห้วยถั่วเหนือ ตำบลห้วยถั่วใต้ คนไทยซงดำ หรือ โซ่ง หรือ ไทยดำ ชนกลุ่มนี้อาศัยอยู่ ในเขตตำบลธารทหารและกระจายอยู่ทั่ว ๆ ไป คนไทยจากถิ่นอื่น ๆ ซึ่งอพยพย้ายถิ่นมาจากทางจังหวัดภาคกลาง รวมถึงคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งอาศัยอยู่กระจายไปในส่วนต่าง ๆ ของอำเภอใกล้บริเวณ หนองน้ำ ชาวบ้านต่างก็ ยึดพื้นที่ใกล้หนองน้ำแห่งนี้เป็นที่พักอาศัย ทำมาหากินต่อกันมา ต่อมามีผู้คนอพยพมาจากถิ่น อื่น ๆ อาทิ เช่น สุโขทัย ชัยภูมิ โคราช เพชรบูรณ์ มาตั้งถิ่นฐานที่อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ และยังมีคนหนองบัวบางส่วนสืบเชื้อสายไทใหญ่ที่อพยพเข้ามาอยู่อาศัยมานานเต็มที จนเหลือแต่ร่องรอยความทรงจำในสำเนียงที่พูด เสียงแปร่งไปกว่าคนทั่วไป หรือมีการทำนาข้าวเหนียวเก็บไว้กินเฉพาะกลุ่ม
เพลงพื้นบ้าน
๑.เพลงเชิญมารำวง
- เชิญเถิดมารำวง::ขอเชิญโฉมยงเข้าสู่วงรำ
- อย่าเอียงอย่าอาย::อย่าหน่ายอย่างแหนง
- อย่าคิดระแวงให้ฉันชอกช้ำ::คนสวยขอเชิญมารำ
- หล่อ หล่อ ขอเชิญมารำ::โปรดเชื่อน้ำคำอย่ามารำล่วงเกิน
๒.เพลงเล่นหัวเมือง
- ยามเย็นเดินเล่นหัวเมือง::หอมดอกดาวเรืองที่เธอถือมา
- ขอฉันดอกได้ไหมเธอจ๋า::ถ้าหากเธอให้ก็จะเก็บไว้บูชา(ซ้ำ)
- ยามเย็นเดินเล่นชายทุ่ง::ผ้าขาวม้าคาดพุงนุ่งกางเกงขายาว
- แต่ตัวไปอวดสาว ๆ::นุ่งกางเกงขายาวผ้าขาวม้าคาดพุง
๓.เพลงไทยเสรี
- รำไทยสมัยเสรี :: น้องกับพี่คืนนี้มารำวง
- (ช)ขอมองดูหน้า:: (ญ)อุ๊ยอย่าฉันอาย (ซ้ำ)
- ไม่รักไม่ใคร่ :: แล้วขอให้ได้รำวง
๔.เพลงหงษ์
- หงส์ หงส์ หงส์ อย่าทะนงไปนัก ปีกของเจ้าจะหัก หักลงกลางหนอง
- อย่าทะนงไปเลย ว่าจะมีคู่ครอง อย่ามัวหลงลำพอง หงส์ทองขยับปีกบิน
- อย่าให้ฉันแลมอง หงส์(ละ)หงส์ทองขยับปีกบิน
๕.เพลงลา
- รักก็ลาไม่รักก็ลา ออกปากจะลาน้ำตาไหลล่วง
- แสนรักกระไรแสนห่วง(ซ้ำ) สงสารแม่ดวงจันทรา
- ลาทีลาทีสวัสดี ลารักลารักสวัสดี ดึกแล้วไปนอนเสียที(ซ้ำ)
- คนดีของพี่ฝันดีตลอดคืน ลาที ลาที ฉันขอลาทีเถิดแม่งามงอน
- อันที่จริงไม่อยากจะไป บ้านฉันอยู่ไกล จำใจจากจร
- ขอสาบานต่อหน้าเทวา ขอผ้าเช็ดน้ำตาเมื่อเวลาฉันนอน
ชื่อหมู่บ้าน ในเขตเทศบาลตำบลหนองบัว (บ้านใน+บ้านนอก)
ตำบลหนองบัว
- หมู่ที่ 1 ชุมชนบ้านมาบตะคร้อ
- หมู่ที่ 2 ชุมชนบ้านเนินน้ำเย็น
- หมู่ที่ 3 ชุมชนบ้านกุฏิฤๅษี
- หมู่ที่ 7 ชุมชนบ้านโคกมะขามหวาน
- หมู่ที่ 8 ชุมชนบ้านโคกมะตูม
- หมู่ที่ 9 ชุมชนบ้านคลองมะรื่น
- หมู่ที่ 14 ชุมชนบ้านทุ่งท้ายเนิน
ตำบลหนองกลับ
- หมู่ที่ 1 ชุมชนบ้านไร่โพธิ์ทอง
- หมู่ที่ 2 ชุมชนบ้านใหญ่
- หมู่ที่ 3 ชุมชนบ้านสุขสำราญ
- หมู่ที่ 4 ชุมชนบ้านเนินพลวง
- หมู่ที่ 9 ชุมชนบ้านเนินตาเกิด
- หมู่ที่ 12 ชุมชนบ้านเนินขี้เหล็ก
- หมู่ที่ 13 ชุมชนบ้านเนินสาน
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอหนองบัวแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 9 ตำบล 105 หมู่บ้าน ได้แก่
1. | หนองบัว | (Nong Bua) | 20 หมู่บ้าน | 6. | ห้วยถั่วเหนือ | (Huai Thua Nuea) | 9 หมู่บ้าน | ||||||||||
2. | หนองกลับ | (Nong Klap) | 15 หมู่บ้าน | 7. | ห้วยใหญ่ | (Huai Yai) | 6 หมู่บ้าน | ||||||||||
3. | ธารทหาร | (Than Thahan) | 9 หมู่บ้าน | 8. | ทุ่งทอง | (Thung Thong) | 14 หมู่บ้าน | ||||||||||
4. | ห้วยร่วม | (Huai Ruam) | 11 หมู่บ้าน | 9. | วังบ่อ | (Wang Bo) | 14 หมู่บ้าน | ||||||||||
5. | ห้วยถั่วใต้ | (Huai Thua Tai) | 7 หมู่บ้าน |
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอหนองบัวประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 10 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลตำบลหนองบัว ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลหนองบัวและตำบลหนองกลับ
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองบัว (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลหนองบัว)
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกลับ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองกลับ (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลหนองบัว)
- องค์การบริหารส่วนตำบลธารทหาร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลธารทหารทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยร่วม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยร่วมทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยถั่วใต้ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยถั่วใต้ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยถั่วเหนือ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยถั่วเหนือทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลห้วยใหญ่ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งทอง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทุ่งทองทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลวังบ่อ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังบ่อทั้งตำบล