มอฟฟ์กิเดียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มอฟฟ์กิเดียน
ตัวละครใน สตาร์ วอร์ส
ไฟล์:Moff Gideon Star Wars.jpg
เจียนคาร์โล เอสโปซิโต เป็น มอฟฟ์กิเดียน ใน เดอะแมนดาลอเรียน
ปรากฏครั้งแรก
ปรากฏครั้งสุดท้าย
สร้างโดยจอน แฟฟโรว์
แสดงโดยเจียนคาร์โล เอสโปซิโต
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง
เผ่าพันธุ์มนุษย์
เพศชาย
ตำแหน่งมอฟฟ์
ผู้สืบทอดแห่งแมนดาลอร์ (อดีต)
อาชีพ
สังกัด
อาวุธ
ญาติโคลนของกิเดียนผู้มีสัมผัสถึงพลัง ("Chapter 24: The Return")

มอฟฟ์กิเดียน (อังกฤษ: Moff Gideon) เป็นตัวละครสมมติในเรื่องแต่งชุดสตาร์ วอร์ส ปรากฎตัวครั้งแรกในซีรีส์โทรทัศน์เรื่องเดอะแมนดาลอเรียน ซึ่งออกฉายทางดิสนีย์+ ซึ่งเขาเป็นตัวร้ายหลักของสามซีซันแรกของเรื่องนี้ กิเดียนเป็นผู้นำของภาคส่วนที่หลงเหลืออยู่ของจักรวรรดิกาแลกติกหลังการล่มสลาย เป็นผู้ครอบครองดาร์กเซเบอร์ ที่รับผิดชอบต่อการกวาดล้างแมนดาลอร์ และเขาพยายามตามล่าทารกที่มีสัมผัสถึงพลัง ชื่อ โกรกู ซึ่งถูกปกป้องโดยตัวละครที่เป็นที่มาของชื่อเรื่อง โดยกิเดียนวางแผนที่จะใช้เลือดของโกรกูเพื่อสร้างโคลนของเขาซึ่งสามารถสัมผัสถึงพลังได้

กิเดียนรับบทโดย เจียนคาร์โล เอสโปซิโต โดยจอน แฟฟโรว์ ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดและผู้อำนวยการสร้าง เดอะแมนดาลอเรียน เป็นผู้เชิญชวนเขาให้มารับบทนี้ จากที่เขาเคยร่วมงานกับเอสโปซิโตมาแล้วหลายครั้ง กิเดียนถูกนำเสนอออกมาในลักษณะของชายผู้น่ากลัว และโหดเหี้ยม ผู้ที่ "ดูจะรู้ทุก ๆ เรื่องเกี่ยวกับทุก ๆ คน"[1][2] และไม่ลังเลที่จะสังหารใครก็ตามเพื่อเป้าหมายที่เขาต้องการ ไม่เว้นแม้แต่คนของตน ตัวละครนี้ไม่ปรากฎตัวในเรื่องจนกระทั่งตอนรองสุดท้ายของซีซันแรก เขามีบทบาททีาสำคัญขึ้นในซีซันสองโดยปรากฏตัวในห้าตอน เขากลับมาในสองตอนสุดท้ายของซีซันสาม

เอสโปซิโตปฏิเสธที่จะจัดจำแนกประเภทตัวละครกิเดียนว่าเป็นตัวละคร "ดี" หรือ "เลว" โดยชี้ให้เห็นว่าการที่ตัวละครนี้พยายามจะคืนความสงบเรียบร้อยให้กับกาแลกซีอันไร้กฎหมายนั้น มองมุมหนึ่งแล้วก็อาจถือเป็น "ผู้มากอบกู้กาแลกซี" ก็ได้[3] กิเดียนสวมชุดดำทั้งชุด จึงมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับตัวละคร สตาร์ วอร์ส ดาร์ธ เวเดอร์ และนักวิจารณ์หลายคนก็ได้ชี้ให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันในแง่ของบุคลิกและการกระทำของตัวละครทั้งสอง ตัวละครกิเดียนได้รับการตอบรับในแง่บวกจากทั้งนักวิจารณ์และเหล่าผู้ชื่นชอบ สตาร์ วอร์ส เอสโปซิโตได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ไพรม์ไทม์เอมมีอวอร์ดสำหรับนักแสดงรับเชิญยอดเยี่ยมในซีรีส์ดรามา สำหรับการแสดงของเขาในซีซันแรก ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล นักแสดงตัวประกอบยอดเยี่ยมในซีรีส์ดรามา ในซีซันสอง

การปรากฏตัว[แก้]

ภูมิหลัง[แก้]

มีการเปิดเผยถึงบางรายละเอียดเกี่ยวกับภูมิหลังของตัวละครนี้ กิเดียนเคยเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานความปลอดภัยและความมั่นคงของจักรวรรดิ ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองลับและตำรวจลับของจักรวรรดิกาแลกติก[4][5][6] ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ใน เดอะแมนดาลอเรียน นั้น กิเดียนมีบทบาทในการกวาดล้างครั้งใหญ่ซึ่งเป็นภารกิจการกดขี่วัฒนธรรมที่รู้จักกันในชื่อ ชาวแมนดาลอร์ ซึ่งในท้ายที่สุดนั้นคร่าชีวิตชาวแมนดาลอร์ไปจำนวนมาก และทำให้ผู้รอดชีวิตที่เหลือนั้นกระจัดกระจายทั่วทั้งกาแลกซี[7][6][8][9] กิเดียนรู้ข้อมูลเกี่ยวการตัวละครที่เป็นชื่อเรื่องนี้หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เดอะแมนดาลอเรียน" รวมถึงตัวตนของเขา ด้วยเหตุที่ว่ากิเดียนอยู่ในเหตุการณ์การกวาดล้างนั่นเอง[6][10][11] ในตอน "Chapter 23: The Spies" ได้มีการเปิดเผยว่าในระหว่างการกวาดล้างครั้งใหญ่ของแมนดาลอร์นั้น โบ-คาทานได้ยอมจำนนแล้วมอบดาร์กเซเบอร์ และตำแหน่งผู้นำดาวแมนดาลอร์ให้มอฟฟ์กิเดียน เพื่อป้องกันการทิ้งระเบิดบนผิวดาว แต่มอฟฟ์กิเดียนกลับคำพูดแล้วสร้างให้มีการทำลายดาวเคราะห์นี้อยู่ดี คำว่า "มอฟฟ์" นั้นเป็นชื่อตำแหน่งของเจ้าหน้าที่จักรวรรดิระดับสูงผู้เคยรับตำแหน่งผู้ว่าราชการของเซกเตอร์เฉพาะในอวกาศสำหรับจักรวรรดิ[12][13][14] คำนี้เคยใช้ตั้งแต่ภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส ภาคดั้งเดิม (ต.ศ. 1977) ซึ่งมีตัวละครที่โดดเด่นคือ แกรนด์มอฟฟ์ทาร์คิน[6][15][16] แต่ถึงกระนั้นคำว่า "มอฟฟ์" ไม่ถูกใช้ในภาพยนตร์ดังกล่าวและตัวละครนั้นถูกเรียกด้วยตำแหน่งดังกล่าวในเครดิตจบเรื่องเท่านั้น

ชีวิตกิเดียนนั้นเปลี่ยนไปอย่างมากหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิ[5][17][18] และเขาได้กลายเป็นขุนศึกที่นำภาคส่วนที่หลงเหลืออยู่ของเขาเอง[19] ดังที่ตัวละครคารา ดูนกล่าวในซีรีส์นี้ เคยมีการเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่ากิเดียนนั้นถูกสำเร็จโทษจากอาชญากรรมสงครามก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในซีรีส์นี้ขึ้น[9][10][20] ใน เดอะแมนดาลอเรียน นั้น กิเดียนพยายามที่จะจับเอเลียนเด็ก โกรกู หรือที่รู้จักในชื่อ "เด็กทารก"[21][22] เพื่อนำเลือดของเขาไปใช้ในการทดลองลับของดร. เพอร์ชิง[23][24] ไม่นานก่อนที่กิเดียนจะปรากฏตัวใน เดอะแมนดาลอเรียน นั้น เขาส่งกองกำลังไปกำจัดเผ่าแมนดาลอเรียนบนดาวเนวาร์โรซึ่งถูกเปิดเผยออกมาในภายหลังว่าเขารู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขาในช่วงตอน "Chapter 3: The Sin"[6]

เดอะแมนดาลอเรียน ซีซันหนึ่ง[แก้]

กิเดียนปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในตอน "Chapter 7: The Reckoning" ซึ่งเป็นตอนก่อนสุดท้ายของซีซันแรกของ เดอะแมนดาลอเรียน[1][8][15] เขาปรากฏตัวในตอนที่เขาติดต่อ "ผู้ว่าจ้าง" ซึ่งเป็นบุคตลนิรนามผู้ทำงานเพื่อรับโกรกูมาให้กิเดียน ผู้ว่าจ้างพบกับนักล่าเงินรางวัล กรีฟ คาร์กา และเพื่อนของเขา คารา ดูน ที่ร้านอาหารบนดาวเนวาร์โร เขาอยู่ภายใต้ความคิดที่ว่ากรีฟได้นำโกรกูมาให้เขาพร้อมกับ แมนดาลอเรียนที่พยายามจะปกป้องโกรกูจากจักรวรรดิมาโดยตลอด แต่ในความเป็นจริงแล้ว โกรกูไม่ได้อยู่กับพวกเขาและการพบกันครั้งนี้เป็นกับดักที่วางแผนโดยเดอะแมนดาลอเรียนและพันธมิตรของเขา เพื่อฆ่าผู้ว่าจ้างและสตอร์มทรูปเปอร์ของเขา[25][12][15] ในตอนที่กิเดียนติดต่อผู้ว่าจ้างในระหว่างการพบกัน ผู้ว่างจ้างยืนยันกับเขาว่าเขามีโกรกูในครอบครอง กิเดียนบอกเขาว่าไม่เป็นอย่างนั้นและสั่งให้หมู่ของเดธทรูปเปอร์ของเขายิงเข้าไปในร้านอาหารและฆ่าผู้ว่าจ้างและพลทหารของเขา[15][16][25] หลังจากนั้นร้านอาหารนี้ถูกรายล้อมไปด้วยสตอร์มทรูปเปอร์และเดธทรูปเปอร์และกิเดียนนำยานทายไฟเตอร์ของเขาลงจอดนอกอาคารและก็โผล่ออกมา[8][15][26] แล้วแจ้งให้ แมนดาลอเรียน, คารา, และกรีฟทราบว่าเขาต้องการตัวโกรกู[15]

กิเดียนกลับมาในตอนสุดท้ายของซีซัน ชื่อ "Chapter 8: Redemption"[21] ซึ่งเขาคุยกับเดอะแมนดาลอเรียนและกลุ่มเขาเขาจากข้างนอกร้านอาหาร โดยบอกว่าเขาต้องการให้พวกเขาส่งตัวโกรกูมา[21][27] กิเดียนเปิดเผยว่าเขารู้รายละเอียดลับเกี่ยวกับทุก ๆ คน[10][27][20] และเรียกเดอะแมนดาลอเรียนด้วยชื่อจริงของเขา ดิน จาริน ทำให้ชื่อของเขานั้นถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรกในซีรีส์นี้[20][21][26] ในตอนที่ดรอยด์ ไอจี-11 มาถึงเพื่อช่วยเดอะแมนดาลอเรียนและพันธมิตรของเขา มีการยิงกันเกิดขึ้นชั่วขณะระหว่างพวกเขากับสตอร์มทรูปเปอร์ ในระหว่างการสู้ กิเดียนทำให้เดอะแมดาลอเรียนบาดเจ็บปางตายด้วยการยิงเครื่องสร้างพลังงานเข้าใส่เขาทำให้เกิดการระเบิดขึ้น[10][20][27]

เดอะแมนดาลอเรียนและเพื่อนของเขาสามารถหนีจากพวกจักรวรรดิได้ แต่ในตอนหลังนั้นกิเดียนเผชิญหน้ากับพวกเขา ณ สถานที่อื่นบนดาว ที่ซึ่งกิเดียนนั้นโจมตีพวกเขาจากข้างบนด้วยทายไฟเตอร์ในขณะที่พวกเขาอยู่บนพื้น[8][28] เดอะแมนดาลอเรียนใช้เจ็ตแพกของเขาเพื่อบินตามและจู่โจมสตาร์ไฟเตอร์ของกิเดียน[4][10][20] โดยยึดตะขอเกี่ยวของเขาเข้ากับปีกของยาน หลังจากที่เกาะอยู่บนทายไฟเตอร์กลางอากาศ เขาวางระเบิดบนยานและก็เกิดระเบิดขึ้น[20][26][28] ทำให้ยานทายไฟเตอร์ที่เสียหายนั้นตกลง ทำให้เดอะแมนดาลอเรียนและเพื่อนของเขาหลบหนีมาได้[8][20][26] ในฉากสุดท้ายตอนและซีซันนี้ กิเดียนสามารถเอาชีวิตรอดจากยานตกได้และนำตัวเขาออกจากซากโดยตัดผ่านโลหะหุ้มยานทายไฟเตอร์ด้วยดาร์กเซเบอร์ซึ่งเป็นกระบี่แสงที่มีใบมีดสีดำและเป็นโบราณวัตถุของแมนดาลอร์[29][30][31]

เดอะแมนดาลอเรียน ซีซันสอง[แก้]

ในตอน "Chapter 11: The Heiress" กิเดียนได้รับการติดต่อโดยกัปตันของยานขนสินค้าของจักรวรรดิบนดาวจันทร์ที่มีแต่มหาสมุทร แทรกส์ ซึ่งถูกล้อมโดยเดอะแมนดาลอเรียนและนักรบแมนดาลอร์รายอื่น ๆ ซึ่งนำโดยโบ-คาทาน ครีซ ผู้ตั้งเป้าหมายไปที่ยานขนสินค้าของจักรวรรดิด้วยหวังที่จะได้ครอบครองดาร์กเซเบอร์อีกครั้ง หลังจากที่คิดว่าจะเสียยานไป กิเดียนก็สั่งให้กัปตันทำลายยานและทุกคนบนยาน ชาวแมนดาลอร์ทั้งหลายสามารถป้องกันการทำลายยานได้แต่กัปตันของยานนั้นฆ่าตัวตายไปเพราะกลัวกิเดียนมากกว่าโบ-คาทาน ครีซ

แผนของกิเดียนนั้นได้รับการเปิดเผยเป็นบางส่วนในตอน "Chapter 12: The Siege" ซึ่งเดอะแมนดาลอเรียน, กรีฟ, คารา, และเพื่อนชาวมิธโรว์ของเขานั้นได้แทรกซึมเข้าไปในศูนย์การโคลนลับในฐานของจักรวรรดิบนดาวเนวาร์โร ณ ที่นั้น พวกเขาค้นพบว่ามีร่างหลายร่างอยู่ภายในตู้และมีข้อความที่บันทึกไว้จากดร. เพอร์ชิงถึงกิเดียน เพอร์ชิงกล่าวว่าเขาต้องการที่จะเข้าถึงเลือกของโกรกู ซึ่งต้องใช้เพื่อทำให้ร่างกายนั้นมีสัมผัสถึงพลัง[23] ถึงกระนั้นหลาย ๆ การทดลองก็ล้มเหลว[22][23] กิเดียนปรากฏตัวอีกครั้งในตอนจบของตอนโดยยืนอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยดาร์กทรูปเปอร์บนยานลาดตระเวนของเขาและมีเจ้าหน้าที่แจ้งให้เขาทราบว่าเดอะแมนดาลอเรียนนั้นยังครอบครองโกรกู และมีการติดเครื่องติดตามไว้บนยานของเขา เรเซอร์เครสต์

ในตอน "Chapter 14: The Tradgedy" กิเดียนติดตามเดอะแมนดาลอเรียนไปยังดาวไทธอนและส่งยานขนส่งที่มีสตอร์มทรูปเปอร์เต็มลำสองยานไปเพื่อจับตัวโกรกู ในขณะที่เดอะแมนดาลอเรียนและโบบา เฟทท์ และเฟนเนค แชนด์ที่พึ่งมาถึงนั้นสู้กับพวกนั้น พวกเขาล้มเหลวก็ในการป้องกันไม่ให้โกรกูถูกจับตัวไปโดยดาร์กทรูปเปอร์สี่นายของกิเดียน และไม่ให้ยาน เรเซอร์เครสต์ นั้นถูกทำลายโดยการโจมตีจากวงโคจรโดยยานลาดตระเวนของกิเดียน หลังจากหนีมาพร้อมกับโกรกู กิเดียนเห็นเขาใช้พลังใส่สตอร์มทรูปเปอร์สองนายซึ่งเขาจับโยนไปโยนมาในห้องขังของเขา ก่อนที่จะสตันเขาและเตรียมที่จะนำตัวเขาไปให้ดร. เพอร์ชิงเพื่อให้การถ่ายเลือดนั้นเสร็จสมบูรณ์

ในตอน "Chapter 16: The Rescue" เดอะแมนดาลอเรียนและทีมของเขาแทรกซึมเข้าไปในยานของกิเดียน ซึ่งโกรกูถึงจับเป็นตัวประกัน กิเดียนเสนอโกรกูให้เดอะแมนดาลอเรียน ภายใต้ข้อเสนอว่าเขาต้องออกจากยานไป แต่กระนั้น กิเดียนกลับโจมตีเดอะแมนดาลอเรียนด้วยดาร์กเซเบอร์ เดอะแมนดาลอเรียนเอาชนะการต่อสู้ได้และมอบตัวกิเดียนให้กับคารา ดูน ในตอนที่เดอะแมนดาลอเรียนพยายามมอบดาร์กเซเบอร์ให้กับโบ-คาทาน กิเดียนเปิดเผยว่าผู้ครอบครองดาบนั้นตั้ง เป็นผู้สืบบรรลังก์ของดาวแมนดาลอร์โดยชอบธรรมและดาบนั้นจะได้มาด้วยการเอาชนะเท่านั้น หมู่ของดาร์ธทรูปเปอร์พยายามที่จะช่วยกิเดียนแต่ทรูปเปอร์เหล่านั้นก็ถูกทำลายโดยลุค สกายวอล์คเกอร์ ผู้มาเพื่อรับตัวโกรกูไปฝึนฝนให้เป็นเจได หลังจากพ่ายแพ้แล้ว กิเดียนพยายามฆ่าตัวตายแต่ถูกขัดขวางด้วยคารา ดูนและถูกจับกุมไป

คัมภีร์แห่งโบบ้า เฟตต์[แก้]

กิเดียนถูกกล่าวถึงโดยคร่าว ๆ ในภาคแยก คัมภีร์แห่งโบบ้า เฟตต์ ที่ดำเนินเรื่องหลังซีซันสองของ เดอะแมนดาลอเรียน ในตอน "Chapter 5: Return of the Mandalorian" เดอะแมนดาลอเรียนอธิบายให้กับผู้รอดชีวิตของเผ่าของเขาว่าเขาสามารถเอาชนะกิเดียนซึ่งเป็นผู้ก่อให้เกิด "การกวาดล้างของแมนดาลอร์" และได้ครอบครองดาร์กเซเบอร์ และกิเดียนถูกส่งตัวไปให้กับสาธารณรัฐใหม่เพื่อตัดสินคดี ช่างตีเหล็กอธิบายให้เดอะแมนดาลอเรียนฟังว่าการเป็นเจ้าของดาร์กเซเบอร์นั้นทำให้กิเดียนเป็น "ผู้สืบทอดแห่งแมนดาลอร์" ก่อนที่เดอะแมนดาลอเรียนจะชนะและเอากลับคืนมาได้ โดยตำแหน่งนี้ได้ตกเป็นของเขาแล้ว แต่กระนั้นด้วยการที่เขาถอดหมวกออก เขาจึงไม่ถูกนับโดยเผ่าของเขาว่าเขาเป็นชาวแมนดาลอร์ ก่อนที่เขาจะไปอาบน้ำในถ้ำใต้ซากของแมนดาลอร์

เดอะแมนดาลอเรียน ซีซันสาม[แก้]

หลังจากตอนจบของตอน "Chapter 16: The Rescue" มอฟฟ์กิเดียนนั้นถูกเชื่อว่าโดนจับกุมตัวไปและพาไปขึ้นศาล แต่กระนั้น ในตอนจบของตอน "Chapter 21: The Pirate" ซากของยานขนส่งซึ่งพากิเดียนไปขึ้นศาลนั้นถูกพบโดยคาร์สัน เทวา โดยมีชิ้นส่วนของโลหะผสมเบสการ์หลงเหลือไว้

ในตอน "Chapter 23: The Spies" ได้มีการเปิดเผยว่า เอเลีย เคน (หนึ่งในเจ้าหน้าที่บนสะพานเดินเรือของยานกิเดียน ซึ่งถูกเดอะแมนดาลอเรียนโจมตีในตอนจบของซีซัน 2 และผู้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ดร. เพอร์ชิงในนามของกิเดียน ในตอน "Chapter 19: The Convert") ได้ทำงานเป็นสายลับภายในสาธารณรัฐใหม่สำหรับมอฟฟ์กิเดียน และกิเดียนนั้นกำลังรวบรวมกำลังพลบนดาวแมนดาลอร์ มอฟฟ์กิเดียนนั้นเข้าร่วมการประชุมพร้อมกันกับสมาชิกของชาโดว์เคาน์ซิล ซึ่งเป็นกลุ่มของผู้นำภาคส่วนที่หลงเหลืออยู่ของจักรวรรดิ ซึ่งประกอบด้วย กัปตันจิแลด เพลเลออน และผู้บัญชาการเบรโดล ฮักซ์ (พ่อของนายพลฮักซ์ใน สตาร์ วอร์ส ไตรภาคต่อ) มอฟฟ์กิเดียนเริ่มถามเพลเลออนเกี่ยวกับจอมพลธรอว์นในการเป็นผู้นำของภาคส่วนที่หลงเหลืออยู่ของจักรวรรดิและการกลับมาของเขาจากริมนอก (Outer Rim) และเขาได้ขอกำลังพลเพิ่มเติมหลังจากที่รู้ว่าชาวแมนดาลอร์กำลังวางแผนที่จะยึดดาวแมนดาลอร์คืนหลังจากตอน "Chapter 22: Guns for Hire" ในตอนที่โบ-คาทาน ครีซและเดอะแมนดาลอเรียนค้นพบฐานทัพลับขอกิเดียนบนดาวแมนดาลอร์นั้น กิเดียนได้เผยตนออกมาให้ชาวแมนดาลอเรียนเห็นพร้อมกับชุดเกราะแมนดาลอเรียนใหม่ของเขา แล้วอวดอ้างถึงพลังใหม่ของเขา และบอกว่าเขาจะรวบรวมทรัพยากรที่ดีที่สุดของดาวแมนดาลอร์, นักโคลน, และเจได เพื่อสร้างกองทัพซึ่งสามารถคืนความสงบเรียบร้อยให้แก่กาแลกซีได้ หลังจากที่ออกจากที่พาจารินซึ่งถูกปลดอาวุธออกไปแล้วไปยังห้องประชุม กิเดียนก็สั่งให้กองยานทายอินเตอร์เซปเตอร์และทายบอมเบอร์ของเขา เริ่มโจมตีกองยานรบของชาวแมนดาลอร์ที่อยุ่ในวงโคจรเหนือดาวแมนดาลอร์ ทำให้โบ-คาทานสั่งอพยพชาวแมนดาลอร์ ในขณะที่พาซ วิซลานั้นยื้อเวลาให้ทุกคนสามารถหนีออกไปได้และสามารถฆ่าคนของกิเดียนได้หมด ก่อนหน่วยองครักษ์เปรโตเรียนซึ่งกิเดียนขอชาโดว์เคาน์ซิลไว้นั้นจะมาถึงและฆ่าวิซลาไป

ในตอน "Chapter 24: The Return" หลังจากเดอะแมนดาลอเรียนและโกรกูสามารถหลบหนีออกมาได้จากการจับกุมตัวของจักรวรรดิ มอฟฟ์กิเดียนจึงสร้างกับดักใหม่สำหรับพวกเขา มีการเปิดเผยออกมาว่าโปรเจ็คการโคลนลับที่กิเดียนกำลังร่วมมือกับดร. เพอร์ชิงและความพยายามในการตามล่าโกรกูนั้น เพื่อสร้างกองทัพโคลนกิเดียนที่มีสัมผัสถึงพลังซึ่งเดอะแมนดาลอเรียนนั้นได้ทำลายไป "ก่อนที่พวกเขาจะได้สูดหายใจแรก" (ถึงแม้ว่าจะมีร่างหนึ่งที่ลืมตาขึ้นมาหลังจากโกรกูเข้าใกล้ตู้ก็ตาม) ด้วยโทสะ กิเดียนจึงเริ่มโจมตีเดอะแมนดาลอเรียนอย่างโหดร้ายในขณะที่กองทัพบนดาวแมนดาลอร์เริ่มที่จะต่อสู้กับกองกำลังชาวแมนดาลอร์ของโบ-คาทาน หลังจากที่ทุบตีอย่างโหดร้าย กิเดียนก็สามารถที่จะแยกโกรกูออกจากเดอะแมนดาลอเรียนได้ โดยสั่งให้หน่วยองครักษ์เปรโตเรียนตามโกรกูไป เขาถูกขัดจังหวะโดยโบ-คาทานซึ่งถึงดาร์กเซเบอร์อยู่ เดอะแมนดาลอเรียนตามไปช่วยเหลือโกรกูจากหน่วยองครักษ์เปรโตเรียนนั้น กิเดียนได้หยิบคทาไฟฟ้าและเริ่มต่อสู้กับโบ-คาทาน โดยสู้จนเขาสามารถที่จะขย้ำและทำลายดาร์กเซเบอร์ด้วยน้ำมือของเขาได้ กิเดียนสู้กับโบ-คาทาน, เดอะแมนดาลอเรียน และโกรกูในขณะที่แอกซ์ วูฟส์ปล่อยให้ยานลาดระเวนของจักรวรรดิที่ขโมยมานั้นตกลงสู่ฐานของจักรวรรดิบนดาวแมนดาลอร์ กิเดียนปล่อยเสียงคำรามเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถูกไฟคลอกและตายไป

สื่ออื่น ๆ[แก้]

มอฟฟ์กิเดียนปรากฏตัวในฐานะตัวละครที่สามารถเล่นได้ในเกมเล่นตามบทบาท สตาร์ วอร์ส: กาแลกซีออฟฮีโร่ส์

ลักษณะตัวละคร[แก้]

คนคนนี้นั้นดูเหมือนจะเป็นคนที่ดุร้าย โดยหน้าตาของเขานั้นทำให้เกิดความคาดหวังที่มากเพราะเราไม่รู้ว่าเขาดีหรือเลว จักรวาลนี้ล่มสลายไปแล้ว แล้วใครกันที่พยายามจะทำให้จักรวาลนี้กับมารวมเป็นหนึ่งอีกครั้ง เป็นองค์กรหรือเปล่า? หรือว่าเป็นรัฐบาล? คืออะไรกัน? เป็นกองทัพไหม? เขาคือใคร เขาดูจะรู้ทุก ๆ อย่างเกี่ยวกับทุก ๆ คน? ดูเหมือนว่าจะเราจะมีตัวละครที่ดูลึกลับนะ แต่หากคุณได้เห็นเขาและได้รู้จักเขา คุณจะทึ่งเมื่อรู้ว่าเขาได้อำนาจมาได้อย่างไร

เจียนคาร์โล เอสโปซิโต[1]

กิเดียนเป็นคนที่อันตรายและดุร้าย[1][10] เขาไม่เคยลังเลที่จะทำร้ายหรือฆ่าใครก็ตามเพื่อจะได้สิ่งที่เขาต้องการ[10] ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้นำภาคส่วนที่หลงเหลืออยู่ของจักรวรรดิ แต่เขาก็ยอมรับว่าเขาทำเพื่อประโยชน์ของตัวเขาเอง[32] โดยในตอนสุดท้ายของซีซันแรกของ เดอะแมนดาลอเรียน นั้น เขาบอกเดอะแมนดาลอเรียนและเพื่อนของเขาว่าพวกเขาไว้ใจเขาไม่ได้และเขาจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด[10] กิเดียนไม่เคยลังเลที่จะฆ่าคนของเขาเลยหากไม่สามารถทำตามที่เขาต้องการได้[8][32] หรือแม้กระทั่งหากทำให้เขารำคาญ เช่นในตอนที่มีคนขัดจังหวะเขา[27][32] กิเดียนเป็นคนที่เจ้าเล่ห น่ากลัว[27][33] และไม่เคยให้อภัยใคร[6] โดยกิเดียนนั้นตั้งเป้าหมายอย่างแรงกล้าเพื่อให้สามารถบรรลุความต้องการของเขาได้[33] และยอมที่จะเสียสละชีวิตของคนของเขาเพื่อที่จะได้ตัวโกรกูมา[34] ความต้องการตัวโกรกูของเขาดูเหมือนจะเป็นความต้องการส่วนตัว จากที่เขาบอกเดอะแมนดาลอเรียนว่า: "มันมีความหมายต่อฉันมากกว่าที่แกจะได้รู้"[5][16][35]

กิเดียนเป็นนักวางแผนทางการทหารที่เก่งกาจ[36] และถึงแม้จักรวรรดิจะล่มสลายไป เขาก็ยังมีอำนาจ[16] เขาเป็นผู้บังคับบัญชากองกำลังที่มี่จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีผู้คน อุปกรณ์ และยานอวกาศ[36][37] สเตฟานี ดูบ ดวิลสันจาก Heavy.com ระบุว่า ถึงแม้ว่าตลอดซีซันแรกนั้น สตอร์มทรูปเปอร์ของภาคส่วนที่หลงเหลือของจักรวรรดิจะมีชุดเกราะที่ผุพังและสกปรก แต่กองกำลังภายใต้บัญชาการของกิเดียนนั้นมีชุดเกราะที่ใหม่และแวววาวตลอด ซึ่งสามารถสะท้อนถึงสถานีของกิเดียนได้[38] จากการที่กิเดียนเคยเกี่ยวข้องกับหน่วยงานความปลอดภัยและความมั่นคงของจักรวรรดิ เขานั้นมีข้อมูลลับเยอะในระดับหนึ่ง ดั้งนั้น เขาจึงเป็นคนที่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ที่ตัวละครในซีรีส์ไม่เคยรู้มาก่อน[4] เจียนคาร์โล เอสโปซิโตกล่าวว่าตัวละครของเขานั้น "ดูจะรู้ทุก ๆ เรื่องเกี่ยวกับทุก ๆ คน" ซึ่งได้ถูกแสดงให้เห็นในตอนสุดท้ายของซีซัน ในตอนที่เขาเปิดเผยว่าเขารู้ชื่อและข้อมูลเกี่ยวกับเดอะแมนดาลอเรียน คารา ดูน และกรีฟ คาร์กา[4][34]

เอสโปซิโตปฏิเสธที่จะจัดจำแนกประเภทตัวละครกิเดียนว่าเป็นตัวละคร "ดี" หรือ "เลว"[1][35] โดยชี้ให้เห็นว่าการที่ตัวละครนี้พยายามจะคืนความสงบเรียบร้อยให้กับกาแลกซีหลังการล่มสหายของจักรวรรดิ[1][18][19] เอสโปซิโตรู้สึกว่ากิเดียนกลายเป็น "เหมือนผู้พิทักษ์ของผู้คน" หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิ และด้วยความพยายามที่จะคืนความสงบเรียบร้อยให้กับช่วงไร้กฏหมายนั้น ตัวละครนี้ก็สามารถถูกมองเป็น "ผู้มากอบกู้" ก็ได้[3][6][39] เอสโปซิโตกล่าวเกี่ยวกับตัวละครว่า: "เขาเป็นคนดี? เขาเป็นคนเลว? เราไม่รู้ เรารู้เพียงว่าโลกใบนี้ต้องการผู้ที่ทำให้โลกนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้"[2] เขารู้สึกว่าความคลุมเครือทางศีลธรรมนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้ในช่วงเวลาที่ซีรีส์ปล่อยตัว โดยบอกว่า: "การที่ผู้นำใช้อำนาจในทางที่ผิดนั้นเป็นเพราะพวกเขามีความคิดซึ่งพวกเขาอยากจะทำด้วยตัวเอง; เรากำลังอยู่ในโลกนั้นในตอนนี้"[3] กิเดียนเห็นภาพในอนาคต[40] และมีความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับการคืนความสงบเรียบร้อยอย่างแรงกล้า[17][36] ซึ่งหนึ่งในหลักการขับเคลื่อนของจักรวรรดิที่เป็นการใช้กองทัพในการตรวจตรากาแลกซีที่กิเดียนก็นำมาใช้[36]

นักวิจารณ์หลายคนเสนอว่ากิเดียนอาจจะพยายามที่จะเลียนแบบ ดาร์ธ เวเดอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญของแฟรนไชส์ สตาร์ วอร์ส โดยเป็นผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของจักรวรรดิ[5][8][12] ลักษณะนิสัยและบุคลิกของกิเดียนนั้นก็มีความคล้ายคลึงกับเวเดอร์ เช่นการที่เขามักเลือกที่จะกำจัดผู้ใต้บังคับบัญชาที่ทำให้เขาผิดหวัง[8] เควิน เมลโรสจาก คอมิก บุ๊ก รีซอร์ส ยังกล่าวอีกว่ายานทายไฟเตอร์ของกิเดียนที่ตกลงก่อนที่จะจบตอนสุดท้ายของซีซันแรกนั้น คล้างคลึงกับฉากสุดท้ายของเวเดอร์ในภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส ดั้งเดิม ในตอนที่ยานทายแอดวานซ์ไฟเตอร์ของเขาหมุนวนแบบควบคุมไม่ได้ สู่ความเวิ้งว้างของอวกาศ[8]

แนวคิด และการสร้างตัวละคร[แก้]

การบรรยายภาพตัวละคร[แก้]

มอฟฟ์กิเดียนรับบทโดย เจียนคาร์โล เอสโปซิโต[41][42] โดยจอน แฟฟโรว์ ผู้ให้กำเนิด และผู้อำนวยการสร้าง เดอะแมนดาลอเรียน เป็นผู้เชิญชวนเขาให้มารับบทนี้[43][44] เอสโปซิโตและแฟฟโรว์นั้นเคยร่วมงานกันมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นของซีรีส์โทรทัศน์บันเทิงคดีวิทยาศาสตร์หลังพยากรณ์ รีโวลูชัน ซึ่งแฟฟโรว์เป็นผู้กำกับและเอสโปซิโตเป็นนักแสดงนำ หลังจากนั้นแฟฟโรว์ได้เป็นผู้กำกับการแสดงของเอสโปซิโตในโฆษณาสำหรับวิดีโอเกม เดสทินี[45][46][47] นำไปสู่การที่แฟฟโรว์เสนอบทให้แก่เอสโปซิโตสำหรับภาพยนตร์ดัดแปลงของเขา เมาคลีลูกหมาป่า (ค.ศ. 2016)[45][46][48] เอสโปซิโตกล่าวว่าสิ่งแรกที่เขาทำหลังจากตอบรับบทนี้คือการติดต่อเพื่อนของเขา ซามูเอล แอล. แจ็กสันซึ่งเป็นนักแสดงที่รับบทเป็นเมซ วินดู ใน สตาร์ วอร์ส ไตรภาคต้น และบอกว่า: "เฮ้เพื่อน ฉันได้อยู่ในซีรีส์นี้แล้วเว้ย!"[49]

การคัดเลือกเอสโปซิโตเป็นนักแสดงนั้นได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 2018[50][51][52] รายละเอียดเกี่ยวกับตัวละครของเขานั้นไม่ได้ถูกเปิดเผยในทันที แต่ก็มีการคาดการณ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าเขาอาจเป็นตัวร้าย เนื่องด้วยการแสดงในอดีตของเขาที่เป็นกัส ฟริงก์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวร้ายหลักจากเรื่อง ดับเครื่องชน คนดีแตก และเป็นตัวละครที่สำคัญในภาคแยก มีปัญหา ปรึกษาซอล[53] ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2019 ฟุตเทจของกิเดียนนั้นได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณชนที่การประชุม Star Wars Celebration ที่เมืองชิคาโก ซึ่งประกอบไปด้วยฉากสั้น ๆ ของตัวละครที่กำลังขับยานทายไฟเตอร์ของเขา[54] เอสโปซิโตปรากฏตัวในงาน D23 Expo ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2019 สำหรับการปล่อยตัวอย่างแรกของ เดอะแมนดาลอเรียน[55][56] นอกจากนี้ กิเดียนยังโผล่มาเป็นเวลาสั้น ๆ ในตัวอย่างที่สองซึ่งปล่อยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2019[57]

ในการเตรียมการสำหรับบทนี้ เอสโปซิโตนั่งย้อนดูภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส เรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ได้รู้สึกถึง "รูปแบบของภาพยนตร์นั้น ๆ" และพยายามที่จินตนาการว่าจะเป็นอย่างไร หากเขาได้เข้าไปอยู่ในจักรวาลสมมตินี้[39] ก่อนที่จะเข้าร่วม เดอะแมนดาลอเรียน นั้น เอสโปซิโตเป็นผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ในไตรภาคเดิมของ สตาร์ วอร์ส[1][18][39] แต่กระนั้น เขาก็กล่าวว่าเขาสนใจภาพยนตร์หลัง ๆ ในไตรภาคก่อนน้อยลง เพราะว่ามัน "เริ่มจะกลายเป็นสิ่งที่แตกต่างจากจักรวาลที่เขาอยากที่จะอยู่"[58][59] ในการกล่วาถึงภาพยนตร์ในไตรภาคเดิมของ สตาร์ วอร์ส เอสโปซิโตกล่าวว่า:

เอสโปซิโตนั้นผิดหวังกับการที่ภาพยนตร์เก่า ๆ ของ สตาร์ วอร์ส นั้นขาดความหลากหลายและเขารู้สึกยินดีมากที่งานสร้างหลัง ๆ ของ สตาร์ วอร์ส มีนักแสดงหน้าใหม่ที่เป็นคนกลุ่มน้อยนั้นมากขึ้น[39] รวมถึงใน เดอะแมนดาลอเรียน ซึ่งเขายกความดีความชอบให้กับแฟฟโรว์[40] เขากล่าวว่าการได้รับบทเป็นมอฟฟ์กิเดียนนั้น "คือฝันที่กลายเป็นจริง"[1] และกล่าวถึงบทบาทนี้: "เขาเป็นคนที่น่าสนใจมาก และผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างซีรีส์นี้"[19] หลังจากที่ซีรีส์นี้ฉายจบ เจียนคาร์โลบอกว่าสองในสี่ของลูกสาวเขาส่งข้อความมาหาเขาว่าอย่าทำร้ายเด็กทารก ซึ่งเป็นที่สนใจในอินเทอร์เน็ต เอสโปซิโตบอกว่าเขาตอบไปขำ ๆ: "ฉันจะบี้ไอเลวตัวจิ๋วหูยักษ์นั่น"[19][21]

เครื่องแต่งกาย[แก้]

ชุดของมอฟฟ์กิเดียนนั้นได้รับการออกแบบโดยไบรอัน แมเทียส ซึ่งเป็นนักออกแบบแนวคิดและศิลปินสำหรับ เดอะแมนดาลอเรียน เขากล่าวว่าการออกแบบชุดของกิเดียนนั้นเป็น "หนึ่งในไฮไลท์ของซีรีส์นี้ในความคิดของผมและสำหรับอาชีพผมทั้งหมด"[59] ชุดนี้นั้นมีต้นแบบมาจากงานออกแบบโดยนักออกแบบชุด โจเซฟ พอร์โร พร้อมด้วยอุปกรณ์ประกอบฉากและงานผลิตชุดโดยแฟรงก์ อิพโพลิโต และบริษัท Thingergy[59] ชุดนี้นั้นมีสีดำทั้งหมดและมีเกราะ ผ้าคลุม และชิ้นส่วนอกที่ประณีต[5] นักวิจารณ์หลายคนยังชี้ให้เห็นว่าชุดนี้มีความคล้ายคลึงกับของตัวละคร สตาร์ วอร์ส ดาร์ธ เวเดอร์[5][8][12] เอสโปซิโตบอกว่าชุดของเขา "เจ๋ง"[17] และบอกว่าเขาอยากจะเก็บชุดของเขาและอุปกรณ์ประกอบฉากอื่น ๆ หลังจากถ่ายทำเสร็จ แต่เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้: "พวกเขาบอกผมว่า ของเหล่านี้จะไปจบที่พิพิธภัณฑ์ คุณจะรู้สึกเป็นเกียรติมากในตอนที่คุณเห็นมันในอีกไม่กี่ปี แต่คุณไม่สามารถเอามันไปได้ในตอนนี้"[39]

การถ่ายทำ[แก้]

ฉากของเอสโปซิโตใน เดอะแมนดาลอเรียน นั้นถ่ายทำที่เวทีเสียงในแคลิฟอร์เนียใต้ โดยใช้ วอลูม (อังกฤษ: Volume) ซึ่งเป็นเวทีจับการเคลื่อนไหวที่เหมือนโกดังขนาดใหญ่ พร้อมกรีนสกรีนและกล้องติดตามที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่[40][60][61] วอลูมนั้นเปิดโอกาสให้มีการถ่ายทำจับภาพนักแสดงและใส่ไว้ในสิ่งแวดล้อมดิจิทัล โดยใช้การผสมกันระหว่างองค์ประกอบที่จับต้องได้ภายในฉากและภาพต่าง ๆ ที่ฉายลงบนจอได้ เอสโปสิโตกล่าวว่าการถ่ายทำฉากในวอลูมนั้น: "เราสามารถควบคุมบรรยากาศทางกายภาพของอะไรก็ตามที่ฉายอยู่บนกำแพงและควบคุมว่าแรงโนมถ่วงนั้นเป็นอย่างไร โดยคุณจะรู้สึกเหมือนว่าคุณได้เล่นกับแรงโน้มถ่วง"[60][61]

เอสโปซิโตนั้นชอบการทำงานร่วมกับไทกา ไวทีที ซึ่งเป็นผู้กำกับตอนสุดท้ายเป็นพิเศษ โดยเป็นผู้ที่เขาอธิบายว่า "อยู่ในโลกของเขาเองอย่างสร้างสรรค์" และเรียกว่า "มนุษย์ที่แตกต่างและแปลกประหลาดมาก แต่เราทุกคนก็เป็นศิลปินที่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่หรือ?"[62] ฉากที่มีมอฟฟ์กิเดียนขับยานทายไฟเตอร์ของเขานั้นถูกถ่ายทำในวอลูม และไวทีทีค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญกับรายละเอียดในตอนทำงานร่วมกับเอสโปซิโตในฉากนั้น ยกตัวอย่าง เช่น ไวทีทีให้ข้อติชมที่เฉพาะมาก ๆ แก่เอสโปซิโต เกี่ยวกับว่าเขารู้สึกว่าเอสโปซิโตต้องทำอย่างไรกับเท้าของเขา ในระหว่างฉากที่เขาตัดยานทายไฟเตอร์ของเขาและออกมาจากยาน เอสโปซิโตรู้สึกว่าแนวทางนั้นเป็นอะไรที่น่าสับสนโดยบอกว่า: "อะไรมันรบกวนคุณในเรื่องว่าเท้าของผมเป็นอย่างไรหรือ? ผมอยู่บนโลก [ใบนี้] และอยู่สูงขึ้นไป [บน] ท้องฟ้า 30 ฟุตนะ"[62] เอสโปซิโตกล่าวว่าเขาชอบมองและชอบมีปฏิสัมพันธ์กับหุ่นเชิดแอนิเมโทรนิกของโกรกูในช่วงถ่ายทำ โดยบอกว่า: "มันทำให้ใจผมละลาย เพราะว่าในความจริงแล้วนั้น เจ้าทารกนี้ทำในสิ่งที่คุณจินตนาการไม่สามารถได้เลย และเมื่อคุณมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นและตัวจิ๋ว ๆ นั่น คุณจะทำอะไรได้นอกจากตกหลุมรักมัน?[21] เอสโปซิโตไม่เคยเห็นฟุตเทจที่เสร็จสมบูรณ์ของ เดอะแมนดาลอเรียน จนกระทั่งไม่กี่เดือนก่อนที่ซีรีส์จะฉาย[40]

การตอบรับ[แก้]

มอฟฟ์กิเดียนได้รับเสียงตอบรับในทางบวกโดยนักวิจารณ์และแฟน ๆ[38] สกอตต์ สโนว์เดนจาก Space.com กล่าวว่าเจียนคาร์โล เอสโปซิโตนั้น "สวมบทบาทได้สมบูรณ์แบบ"[25] ฌอน คีนจากซีเน็ตกล่าวว่าตัวละครนี้นั้น "งดงามอย่างยิ่ง" และ "โคตรน่ากลัว"[27] นักเขียนของ สกรีนแรนท์ กีกี เอแวนส์กล่าวว่ามอฟฟ์กิเดียนนั้น "เป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างน่าสะพรึงกลัว"[33] เควิน แพนโทจาจาก สกรีนแรนท์ กล่าวว่าตัวละครนี้นั้น "รู้สึกเหมือนเป็นภัยร้ายในทันที" ตั้งแต่การแนะนำตัวละครนี้ในซีรีส์[63] สเตฟานี ดูป ดวิลสันจาก Heavy.com กล่าวว่าตัวละครนี้ "เป็นการผสมผสานระหว่างความบ้าคลั่งและทรงพลังที่กำลังพอดี"[38] นักเขียนของ SyFy แมทธิว แจ็คสันกล่าวว่าถึงแม้การปรากฏตัวของกิเดียนในซีซันแรกนั้นมีไม่เยอะ แต่เขานั้นส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยเขียนว่า "ตัวละครนี้ตั้งตนเองให้เป็นผู้มีอำนาจที่พึงคำนึงถึงอย่างรวดเร็ว"[19] ไบรอัน ซิลลีแมนจาก SyFy นั้นเรียกมอฟฟ์กิเดียนว่าตัวร้ายที่ "น่าเกรงขาม"[15] นักเขียนของ ไอจีเอ็น ลอรา พรูดอมกล่าวว่าตอนจบของซีซีนแรกนั้นจบด้วยมอฟฟ์กิเดียนนั้นอยู่ในตำแหน่งที่เป็น "คู่ปรับที่คู่ควร" สำหรับเดอะแมนดาลอเรียนและเพื่อน ๆ ของเขา[4] เบน แพร์สันจาก /Film กล่าวว่าตัวละครนี้ "สร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่" ในตอนสุดท้ายของซีซัน[34] เคทลีน แกลเลเกอร์จาก บัสเทิล ชี้ให้เห็นว่าในทันทีหลังจากตอน "Chapter 7: The Reckoning" ออกอากาศ มีแฟน ๆ หลายคนแสดงอารมณ์ "โกรธ เศร้า และกังวลใจ" เกี่ยวกับมอฟฟ์กิเดียน โดยเฉพาะบนเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย เนื่องด้วยบทบาทของเขาที่มีต่อการตายของตัวละคร ควิล และการลักพาตัวเด็กทารกไปในตอนจบของตอนนั้น[35] มอฟฟ์กิเดียนติดอันดับที่สองบนรายชื่อตัวละครที่น่าสนใจมากที่สุดจากซีซันแรกของ เดอะแมนดาลอเรียน ซึ่งจัดโดย สกรีนแรนท์[64] และติดอันดับที่สามในรายชื่อสิบอันดับตัวละครที่ดีที่สุดจากซีรีส์[63] และชุดของเขานั้นติดอันดับที่เจ็ดในรายชื่อสิบอันดับชุดที่ดีที่สุดจากซีซันแรก[65]

ในการแสดงเป็นกิเดียนในตอนสุดท้ายของซีซันแรกนั้น เอสโปซิโตได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลไพรม์ไทม์เอมมีอวอร์ดสำหรับนักแสดงรับเชิญยอดเยี่ยมในซีรีส์ดรามา[66]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 1.6 1.7 Baysinger, Tim (December 17, 2019). "'Mandalorian': Giancarlo Esposito Would Rather We Not Make Any Assumptions About Moff Gideon". TheWrap. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  2. 2.0 2.1 Esposito, Giancarlo (December 11, 2019). "Conan: Giancarlo Esposito". Conan. ฤดูกาล 9. ตอน 1328. TBS. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 14, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020. Is he good? Is he bad? We don't know. We do know that the world needs someone to put it back together. Moff seems to know everything about everyone, and no one knows how he gets his information.
  3. 3.0 3.1 3.2 Esposito, Giancarlo (November 22, 2019). 'The Mandalorian recap: Mando makes a terrible mistake. Entertainment Weekly. เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ 4:33–5:07. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020. I know my character Moff Gideon has other ideas and he could be a savior. Because in a world that is lawless, with leaders who exhibit kind of a faulty power because they still have ideas that they want to aggrandize themselves, we're in that world now. And that's why this show is so very particular at this time in our history. Yes it's entertainment, but yet it's also enlightening in the way that we are all struggling with that moral boundary. Do we accept, do we not accept?
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 Prudom, Laura (January 15, 2020). "The Mandalorian Episode 8 Review". IGN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 31, 2019. สืบค้นเมื่อ January 24, 2020.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 Dumaraog, Ana (January 4, 2020). "The Mandalorian Theory: Moff Gideon Wants To Become The New Darth Vader". Screen Rant. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 24, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  6. 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 6.5 6.6 Saavedra, John (December 27, 2019). "Star Wars: The Mandalorian - Who Is Moff Gideon?". Den of Geek. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 1, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  7. Dumaraog, Ana (December 31, 2019). "The Mandalorian Season 2 Will Answer BIG Star Wars Questions". Screen Rant. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  8. 8.00 8.01 8.02 8.03 8.04 8.05 8.06 8.07 8.08 8.09 Melrose, Kevin (December 27, 2019). "The Mandalorian Season 1's Surprising Final Scene, Explained". Comic Book Resources. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  9. 9.0 9.1 Hurley, Laura (December 27, 2019). "What The Mandalorian's Big Finale Reveal Could Mean For Season 2, The Clone Wars And More". CinemaBlend. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  10. 10.0 10.1 10.2 10.3 10.4 10.5 10.6 10.7 Kirby, Meaghan (December 27, 2019). "The Mandalorian season finale recap: Mando and Moff Gideon face off". Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 26, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  11. Goslin, Austen (December 27, 2019). "What we know about the mysterious new lightsaber in The Mandalorian". Polygon. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 12, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  12. 12.0 12.1 12.2 12.3 Bundel, Ani (December 18, 2019). "Who Is Moff Gideon On 'The Mandalorian'? Here's What To Know About The Commander". Elite Daily. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 26, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  13. Phillips, Patrick (January 24, 2020). "Why Moff Gideon may be after Baby Yoda". Looper. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 24, 2020. สืบค้นเมื่อ January 24, 2020.
  14. Spencer, Samuel (December 19, 2019). "'The Mandalorian' Episode 7: What Moff Gideon and His Army of Troopers Means for the Finale". Newsweek. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 26, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  15. 15.0 15.1 15.2 15.3 15.4 15.5 15.6 Silliman, Brian (December 18, 2019). "Mando and Baby Yoda meet the Moff: Breaking down The Mandalorian Chapter 7". Syfy. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 24, 2020. สืบค้นเมื่อ January 24, 2020.
  16. 16.0 16.1 16.2 16.3 Hedash, Kara (December 19, 2019). "The Mandalorian Reveals REAL Season 1 Villain: Moff Gideon Explained". Screen Rant. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 23, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  17. 17.0 17.1 17.2 Seemayer, Zach (September 22, 2019). "Giancarlo Esposito Opens Up About 'Exciting' Role in 'The Mandalorian' (Exclusive)". Entertainment Tonight. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  18. 18.0 18.1 18.2 Schremph, Kelly (December 5, 2019). "Giancarlo Esposito's 'Mandalorian' Character Moff Gideon Is A "Big Player" In The Galaxy". Bustle. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 2, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  19. 19.0 19.1 19.2 19.3 19.4 Jackson, Matthew (January 24, 2020). "Giancarlo Esposito teases Moff Gideon's dark plans for Baby Yoda in The Mandalorian". SyFy. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  20. 20.0 20.1 20.2 20.3 20.4 20.5 20.6 Snowden, Scott (December 27, 2019). "'The Mandalorian' Finale is an Electrifying End to Season 1". Space.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 12, 2020. สืบค้นเมื่อ January 20, 2020.
  21. 21.0 21.1 21.2 21.3 21.4 21.5 Jackson, Matthew (January 24, 2020). "Giancarlo Esposito teases Moff Gideon's dark plans for Baby Yoda in The Mandalorian". SyFy. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  22. 22.0 22.1 Lash, Jolie (January 17, 2020). "The Mandalorian Season 2: Giancarlo Esposito Offers Clue on Why Moff Gideon Wants Baby Yoda". IGN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 21, 2020. สืบค้นเมื่อ January 24, 2020.
  23. 23.0 23.1 23.2 "19 Big Questions About That Mandalorian Finale". The Vulture. December 18, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 19, 2020. สืบค้นเมื่อ December 25, 2020.
  24. "The Mandalorian Explains Why Moff Gideon Experimented on Baby Yoda". Esquire. November 20, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 28, 2020. สืบค้นเมื่อ December 25, 2020.
  25. 25.0 25.1 25.2 Romano, Evan (December 18, 2019). "The Mandalorian's Primary Villain, Moff Gideon, Has A Face TV Fans Already Fear". Men's Health. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 28, 2019. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  26. 26.0 26.1 26.2 26.3 Roman, Julian (December 27, 2019). "The Mandalorian Season 1 Finale Recap and Review: The Phoenix Rises". TVweb. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  27. 27.0 27.1 27.2 27.3 27.4 27.5 Keane, Sean (December 27, 2019). "The Mandalorian season finale recap: Baby Yoda gets into wild action in episode 8". CNET. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 26, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  28. 28.0 28.1 Owen, Phil (January 16, 2020). "'The Mandalorian': What You Need to Know About Moff Gideon's Weird Sword". TheWrap. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 26, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  29. Knox, Kelly (February 11, 2020). "What is the Darksaber?". StarWars.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 21, 2020. สืบค้นเมื่อ February 12, 2020.
  30. Dockterman, Eliana (December 28, 2019). "The Darksaber Made a Crucial Appearance in The Mandalorian's Season Finale. Here's Its Significance in Star Wars Lore". Time. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 5, 2020. สืบค้นเมื่อ January 24, 2020.
  31. Langmann, Brady (January 2, 2020). "Moff Gideon's Darksaber Is a Major Clue For The Mandalorian Season Two". Esquire. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 2, 2022. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  32. 32.0 32.1 32.2 Hannemann, Emily (December 27, 2019). "'The Mandalorian' Comes Full Circle in 'Redemption' (RECAP)". TV Insider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 26, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  33. 33.0 33.1 33.2 Evans, Kiki (January 23, 2020). "The Mandalorian Characters Sorted Into Their Hogwarts Houses". Screen Rant. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 2, 2021. สืบค้นเมื่อ January 23, 2020.
  34. 34.0 34.1 34.2 Pearson, Ben (January 20, 2020). "'The Mandalorian': Giancarlo Esposito Hints at Why Moff Gideon Wants Baby Yoda". /Film. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 24, 2020. สืบค้นเมื่อ January 24, 2020.
  35. 35.0 35.1 35.2 Gallagher, Caitlin (December 18, 2019). "Moff Gideon Captured Baby Yoda On 'The Mandalorian' But His Motives Are Still Unclear". Bustle. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 2, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  36. 36.0 36.1 36.2 36.3 Joest, Mick (September 23, 2019). "Why The Mandalorian's Giancarlo Esposito Thinks Moff Gideon Is So 'Exciting'". CinemaBlend. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  37. Trumbore, Dave (October 29, 2019). "New 'The Mandalorian' Trailer, Explained: Blurrgs, Battle Droids & Amban Phase-Pulse Blasters". Collider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 9, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  38. 38.0 38.1 38.2 Dwilson, Stephanie Dube (December 18, 2019). "Moff Gideon on 'The Mandalorian': Background, Theories & Predictions". Heavy.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 26, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  39. 39.0 39.1 39.2 39.3 39.4 Topel, Fred (July 29, 2019). "'The Mandalorian': Giancarlo Esposito's Character Could Be a Gangster or "a Savior" [Exclusive]". /Film. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 26, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  40. 40.0 40.1 40.2 40.3 Itzkoff, Dave (October 29, 2019). "Giancarlo Esposito Didn't Get to Keep His 'Star Wars' Weapons". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  41. Romano, Evan (November 5, 2019). "Everything We Know About The Mandalorian Cast and Characters". Men's Health. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  42. Caulfield, AJ (April 14, 2019). "The Mandalorian: First footage, new photos, character details revealed at Star Wars Celebration". Looper. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  43. Esposito, Giancarlo (April 18, 2019). 'The Mandalorian' Actor Giancarlo Esposito Describes the New Technology Used on the 'Star Wars' Show. Collider. เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ 1:50–2:07. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020. So when you have great minds who are just creative, thinking about how they can do things that update new things, that bring new life into other stories that we've seen before in a very new a and different way, I'm always honored. So when he called me, I said, 'Hey, how many people have done this?'
  44. Esposito, Giancarlo (November 22, 2019). 'The Mandalorian recap: Mando makes a terrible mistake. Entertainment Weekly. เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ 2:20–2:57. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020. I know for me, these films, they formed a part of my childhood and they gave me the ability to dream and to feel like they would take me to another place. And when you have a film that does that in an imaginary world that could be so real, it's very exciting for you. They taught me how to feel like a champion, how to feel like there are always going to be challenges but that if we are able to come together as a family somehow and if I can believe in myself, I can overcome anything. So for me to be a part of this was very exciting when Jon asked me. I worked with him before.
  45. 45.0 45.1 Esposito, Giancarlo (September 22, 2019). Giancarlo Esposito Opens Up About 'Exciting' Role in 'The Mandalorian' (Exclusive). Entertainment Tonight. เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ 1:38–2:29. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020. I've worked with him three times. Once on the pilot of Revolution, a show I did with Eric Kripke that was so wonderful. Made his acquaintance, and then he asked me to do a Destiny commercial where I was reaching Rudyard Kipling, and we started to talk about The Lion King and Disney movies that we really really loved, so he tapped me for Jungle Book and I was able to do that with him. He is very specific and wonderful because he's an actor. So you get an actor directing you, he knows what you're feeling inside, he knows where you're going, and he gives you suggestions you can really utilize and use. Not just about, 'Oh, here go, stand there we want to do a shot like this.' Explains the shot and says, What do you feel inside you?' That's a respectful, wonderful actor turned director turned writer turned producer. The incredible and fabulous Jon Favreau.
  46. 46.0 46.1 Esposito, Giancarlo (April 18, 2019). 'The Mandalorian' Actor Giancarlo Esposito Describes the New Technology Used on the 'Star Wars' Show. Collider. เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ 1:27–1:50. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020. Jon and I did Revolution. We did Jungle Book together. We did a commercial for Destiny that led to Jungle Book, and our conversation on Destiny, then he asked me to do a Destiny commercial where I was reaching Rudyard, reading that wonderful poem, Mowgli, the Jungle Book story, and Jon said wouldn't it be great if that was redone? And I said, 'Man, that would be really fantastic.' A year later, he's calling me to do that.
  47. Graser, Marc (May 23, 2013). "First Look: Jon Favreau Directs Live Action Promo for Videogame 'Destiny'". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  48. Radish, Christina (April 13, 2016). "'The Jungle Book': 14 Things to Know About Disney's CG Marvel". Collider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  49. Esposito, Giancarlo (April 18, 2019). 'The Mandalorian' Actor Giancarlo Esposito Describes the New Technology Used on the 'Star Wars' Show. Collider. เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ 2:08–2:12. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020. The first guy I called was Sam Jackson and said, 'Yo man, I'm in that series too, dude!'
  50. Breznican, Anthony (December 12, 2018). "Star Wars series The Mandalorian casts Carl Weathers, Giancarlo Esposito and Werner Herzog". Entertainment Weekly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 14, 2019. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  51. Baysinger, Tim (December 12, 2018). "'The Mandalorian': Giancarlo Esposito, Werner Herzog and More Board 'Star Wars' TV Show". TheWrap. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  52. Greene, Steve (December 12, 2018). "'The Mandalorian' Adds Werner Herzog, Giancarlo Esposito, Carl Weathers to Cast". IndieWire. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  53. "Star Wars' The Mandalorian: An Updated Cast List". CinemaBlend. December 13, 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 24, 2019. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  54. Erbland, Kate (April 14, 2019). "'The Mandalorian' First Footage: 'Star Wars' Live-Action TV Series Introduces a Mysterious Mission". IndieWire. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 18, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  55. Radulovic, Petrana (August 24, 2019). "Everything we learned at D23's Disney Plus presentation". Polygon. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 24, 2019. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  56. "The Galaxy Far, Far Away Just Got A Little Bigger…". StarWars.com. August 23, 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 24, 2019. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  57. Trumbore, Dave (October 29, 2019). "New 'The Mandalorian' Trailer, Explained: Blurrgs, Battle Droids & Amban Phase-Pulse Blasters". Collider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 9, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  58. Trivedi, Sachin (January 23, 2020). "'The Mandalorian' Season 2: What To Expect From New Villain Moff Gideon". International Business Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 27, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  59. 59.0 59.1 59.2 Burwick, Kevin (January 17, 2020). "The Mandalorian Season 2 Is Giving Moff Gideon a Lot More Screen Time". TVweb. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  60. 60.0 60.1 Chitwood, Adam (April 18, 2019). "'The Mandalorian' Actor Giancarlo Esposito Describes the New Technology Used on the 'Star Wars' Show". Collider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 22, 2019. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  61. 61.0 61.1 Pereira, Alyssa (January 24, 2020). "'The Mandalorian' was shot largely inside a California soundstage". San Francisco Chronicle. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 25, 2020. สืบค้นเมื่อ January 26, 2020.
  62. 62.0 62.1 Topel, Fred (January 17, 2020). "'The Mandalorian' Season 2 Will Give Giancarlo Esposito's Moff Gideon a Bigger Role [TCA 2020]". /Film. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 24, 2020. สืบค้นเมื่อ January 25, 2020.
  63. 63.0 63.1 Pantoja, Kevin (January 2, 2020). "The Mandalorian: 10 Best New Star Wars Characters Introduced In The Show, Ranked". Screen Rant. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 3, 2020. สืบค้นเมื่อ January 21, 2020.
  64. Pham, Danny (December 31, 2019). "The Mandalorian: 10 Most Interesting Characters In Season 1". Screen Rant. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 1, 2020. สืบค้นเมื่อ January 20, 2020.
  65. Atkin, Jessie (January 8, 2020). "The Mandalorian: 10 of the Best Outfits From Season 1". Screen Rant. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 9, 2020. สืบค้นเมื่อ February 11, 2020.
  66. "Outstanding Guest Actor In A Drama Series Nominees / Winners 2020". Emmys. July 28, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 27, 2021. สืบค้นเมื่อ January 1, 2021.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]