พระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี
ตราสัญลักษณ์
วันที่4–12 และ 21 เมษายน พ.ศ. 2525
ประเทศประเทศไทย
เหตุการณ์ก่อนหน้าพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 150 ปี
จัดโดยรัฐบาลไทย

พระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เป็นพระราชพิธีที่จัดขึ้นเนื่องในโอกาสที่กรุงรัตนโกสินทร์มีอายุครบ 200 ปี เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2525 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่ง พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี สมัยนั้น ได้กราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทว่า "ในปี พ.ศ. 2525 กรุงรัตนโกสินทร์จะมีอายุได้ 200 ปี นับเป็นมหามงคลสมัยแสดงถึงความมั่นคงของบ้านเมือง ได้ผ่านพ้นภัยพิบัติต่าง ๆ มาโดยสวัสดี มีความร่มเย็นเป็นสุขด้วยพระบารมีของพระผู้สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ และด้วยพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ผู้สืบราชสันตติวงศ์ทุกรัชกาลโดยลำดับ รัฐบาลและปวงชนชาวไทยจึงมีความปีติยินดี พร้อมกันแสดงความกตเวทิตาคุณ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อ พระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ และบรรพชนไทยที่จรรโลงชาติให้มีความรุ่งเรืองสันติสุขสืบมาตราบเท่าทุกวันนี้

จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดการ ในส่วนที่จะทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระราชพิธี สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์และฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยอนุโลมตามราชประเพณีที่มีมาแล้วในรัชกาลก่อน ทั้งให้สอดคล้องพอเหมาะ พอควรแก่กาลสมัยในปัจจุบัน ดังรายการต่อไปนี้..." [1]

พระราชพิธี ณ วันที่ 4 - 21 เมษายน 2525[แก้]

วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พุทธศักราช 2525[แก้]

เวลา 16:30 น. (สิบหกนาฬิกาสามสิบนาที) พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง พระสงฆ์ 24 รูป โดยมีสมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นประธานเจริญพระพุทธมนต์ และสมเด็จพระญาณสังวรวัดบวรนิเวศวิหาร แสดงพระธรรมเทศนา และสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะ 25 รูป สดับปกรณ์พระบรมอัฐิ สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า

วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พุทธศักราช 2525[แก้]

เวลา 08:00 น. (แปดนาฬิกา) พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค จากท่าวาสุกรีไปยังท่าราชวรดิฐ โดยจัดเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชทอดบัลลังก์บุษบกเป็นเรือนำ เชิญพระชัย(หลังช้าง)ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อกระบวนพยุหยาตราถึงท่าราชวรดิฐแล้ว เสด็จพระราชดำเนินสู่พระบรมมหาราชวัง และจัดกระบวนพระราชอิสริยยศน้อยแห่พระชัย (หลังช้าง) ไปยังพลับพลาท้องสนามหลวง

เวลา 10.30 น. (สิบนาฬิกาสามสิบนาที) เสด็จพระราชดำเนินไปยังพลับพลาท้องสนามหลวง พระบรมวงศานุวงศ์ คณะองคมนตรี ทูตานุทูต ข้าราชการ ทหาร พลเรือน สมาชิกรัฐสภา ลูกเสือ นักเรียน และทวยราษฎร์ทุกหมู่เหล่า เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เสด็จออกพระที่นั่งชุมสาย นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ถึงความพร้อมใจของรัฐบาลและปวงชนชาวไทย ที่ได้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงเป็นมหาราช และถวายชัยมงคล แล้วมีพระราชดำรัสตอบ จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีบวงสรวง ทรงแปรพระพักตร์สู่วัดพระศรีรัตนศาสดารามและปราสาทพระเทพบิดร ในพระบรมมหาราชวัง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะบวงสรวง สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าภาวาส บุนนาค รองราชเลขาธิการ อ่านราชาภิสดุดี เป็นการประกาศพระราชพิธีบวงสรวง

เวลาบ่าย (13:00 น.) เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ไปในการพระราชพิธีฉลองวัดพระแก้ว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นแม่กองบูรณปฏิสังขรณ์ตามคำกราบบังคมทูลขอของรัฐบาล กราบบังคมทูลรายงานในการบูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินทรงชักสายสูตรยกช่อฟ้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระราชทานเทียนชนวนไปจุดดอกไม้เพลิงถวายเป็นพุทธบูชาในการฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

วันอังคารที่ 6 เมษายน พุทธศักราช 2525[แก้]

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปยังชานชาลาเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า ไปในการพระราชพิธีวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ ถวายพุ่มดอกไม้ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช แล้วเสด็จพระราชดำเนินสู่พลับพลาพิธี ทรงศีล และทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะถวายเครื่องบวงสรวง ณ พระที่นั่งชุมสาย หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รองราชเลขาธิการอ่านอาศิรวาทปฐมราชสดุดี จบแล้วทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารปืนใหญ่ยิงสลุต 21 นัด พระสงฆ์ในมณฑลพิธีกับพระสงฆ์ 209 รูป สี่มุม ป้อมกำแพงพระบรมมหาราชวัง และพระสงฆ์ทั่วราชอาณาจักร ลงอุโบสถเจริญ ชัยมงคลคาถา วัดในพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นทั่วราชอาณาจักร ย่ำฆ้องกลองระฆังขึ้นพร้อมกัน 3 ลา

วันพุธที่ 7 เมษายน พุทธศักราช 2525[แก้]

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ไปในการพระราชพิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราช ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระสยามเทวาธิราชจากวิมานในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ มาประดิษฐานที่บุษบกมุขเด็จ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้อาณาประชาราษฎร์ได้สักการะพระสยามเทวาธิราชเป็นครั้งแรก ถึงวันที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2525 มีประชาชนทั่วทุกสารทิศเดินทางมาอย่างเนืองแน่นทุกวัน

วันจันทร์ที่ 12 เมษายน พุทธศักราช 2525[แก้]

มีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ด้วยกระบวนพยุหยาตราชลมารคน้อย ไปยังสะพานพระพุทธยอดฟ้า (ฝั่งธนบุรี) และเชิญไปยังวงเวียนใหญ่ ก่อนที่จะอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง ในเวลาต่อมา

วันพุธที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2525[แก้]

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลหลักเมือง ไปในการพระราชพิธีสมโภชหลักเมือง และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลบวงสรวงพระเทพารักษ์ ซึ่งได้บูรณะศาลหลักเมืองใหม่ให้ใหญ่สง่างาม เพื่อเป็นสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลแก่พระมหานครรัตนโกสินทร์

รัฐพิธี[แก้]

รัฐบาลไทยได้เตรียมการจัดรัฐพิธี เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

  • วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2525 เวลา 19.00 น. พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปยังทำเนียบรัฐบาล ไปในงานมหามงคลสโมสรสันนิบาต เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อเบื้องพระยุคลบาทในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และแสดงออกถึงความชื่นชมยินดี ที่พระบรมราชจักรีวงศ์ได้สถิตสถาพรมาเป็นเวลา 200 ปี ยั่งยืนนานยิ่งกว่าพระบรมราชวงศ์อื่นใดที่เสด็จขึ้นผ่านพิภพปกครองราชอาณาจักรไทยมาแล้วในอดีต โดยขอพระราชทานเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระบรมวงศานุวงศ์ เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ วิจิตรงดงามยิ่งกว่างานใด ๆ ที่เคยจัดมา

การประชาสัมพันธ์[แก้]

โดยสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีโทรทัศน์ และสื่อมวลชนทุกสำนัก จะถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดยให้ทุกสถานีเชื่อมโยงสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

ตราสัญลักษณ์[แก้]

ตราสัญลักษณ์ พระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ภาพมีลักษณะเป็นศิลปไทยทั้งสีและลายเส้น ประกอบด้วย ภาพเทวดาสององค์พนมมือไว้ หันหน้าเข้าหากัน อันมีความหมายว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองแห่งชาวเทวดา และได้ร่วมกันเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ในวาระสำคัญครบ 200 ปี เหนือภาพเทวดาเป็นภาพซุ้มวิมาน หมายถึง สิ่งก่อสร้างของกรุงเทพมหานคร (แบบซุ้มนี้ได้แบบมาจากซุ้มประดิษฐานพระสยามเทวาธิราช ในพระบรมมหาราชวัง ตามคำแนะนำของท่านรองราชเลขาธิการ) เบื้องล่างเป็นอักษรข้อความว่า สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี อยู่ด้านบน พ.ศ. 2525 อยู่ด้านล่าง 

อ้างอิง[แก้]