ดับเบิลยูดับเบิลยูอี แชมเปียนชิป
WWE Championship ดับเบิลยูดับเบิลยูอี แชมเปียนชิป | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
รายละเอียด | |||||||||||||||||||||
แชมเปี้ยน | Cody Rhodes | ||||||||||||||||||||
วันที่ชนะ | April 7, 2024 | ||||||||||||||||||||
สมาคม | WWE | ||||||||||||||||||||
ค่าย | SmackDown | ||||||||||||||||||||
วันก่อตั้ง | April 25, 1963 | ||||||||||||||||||||
ชื่ออื่น | * WWWF World Heavyweight Championship (1963–1971)
| ||||||||||||||||||||
|
ดับเบิลยูดับเบิลยูอี แชมเปียนชิป (WWE Championship) เป็นเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทที่สร้างขึ้นโดยสมาคม ดับเบิลยูดับเบิลยูอี ปัจจุบันอยู่ทางฝั่ง รอว์ เป็นหนึ่งในสองแชมป์โลกของ WWE ควบคู่ไปกับ WWE Universal Championship ทางฝั่ง SmackDown แชมป์คนปัจจุบันคือ โรแมน เรนส์ ซึ่งครองแชมป์เป็นสมัยที่ 4 และได้รับการยอมรับว่าเป็น Undisputed WWE Universal Champion โดยเขาครองทั้ง WWE Championship และ Universal Championship
ประวัติ
[แก้]หลังจากที่บร็อก เลสเนอร์คว้าแชมป์ WWE Undisputed Championship จาก เดอะร็อก มาได้ และเซ็นสัญญากับผู้จัดการทั่วไปของสแมคดาวน์ ในขณะนั้นคือสเตฟานี แม็กแมน โดยจะป้องกันเข็มขัดให้กับ สแมคดาวน์ เท่านั้น พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเข็มขัดเป็น WWE Championship ทำให้แชมป์ WWE เป็นกรรมสิทธิ์ของสแมคดาวน์
เข็มขัดรูปแบบเก่านี้ถูกยุติที่เจบีแอล หลังจากที่เสียแชมป์ให้กับจอห์น ซีนา แล้วตนไม่ยอมเสียเข็มขัดให้ จึงนำเข็มขัดเส้นนี้ไปทำลายทิ้ง ซีนาจึงได้เปลี่ยนแปลงเข็มขัดเส้นนี้โดยให้มีตัวสัญลักษณ์ WWE หมุนอยู่กลางเส้น จนกระทั่งวันที่ 6 มิถุนายน 2005 สืบเนื่องมาจากผลการจับฉลากWWE ดราฟท์ 2005 เมื่อซีนาถูกย้ายไปอยู่รอว์ พร้อมด้วยเข็มขัดแชมป์ WWE ทำให้แชมป์ WWE กลายมาเป็นกรรมสิทธิ์ของรอว์
เมื่อซีนา ย้ายมาอยู่รอว์ ก็สามารถป้องกันแชมป์ WWE ได้เป็นเวลายาวนาน โดยสามารถปราบผู้ท้าชิงตัวฉกาจลงได้ถึง 2 คน ได้แก่ คริส เจริโค และเคิร์ต แองเกิล แต่ต่อมาก็เสียแชมป์ให้กับเอดจ์ ที่ใช้สิทธิ์ของกระเป๋า Money in The Bank ในศึก New Year's Revolution 2006 ในขณะที่ซีนากำลังบาดเจ็บ หลังจากนั้นเอดจ์ที่กำลังเห่อแชมป์โลกของตนเองในขณะนั้น ไม่ต้องการให้มีอัตราลักษณ์ของผู้อื่นอยู่บนเข็มขัดที่ตนถือครอง จึงนำเข็มขัดของซีนาไปถ่วงน้ำแล้วเปลี่ยนสัญลักษณ์ WWE ที่หมุนนั้นเป็นรูปตัว R ซึ่งเข้ากับเอดจ์ที่รับบทบาทนั้น แล้วซีนาก็ชิงคืนมาได้ แล้วทำการเปลี่ยนหัวเข็มขัดให้เป็นดังเดิม
แต่แล้วในปี 2007 ซีนาได้รับบาดเจ็บ ทำให้แรนดี ออร์ตันส้มหล่นเอาแชมป์ไปครองในเดือนตุลาคม No Mercy 2007 วินซ์ แม็กแมน มอบเข็มขัดแชมป์ให้แก่ออร์ตันฟรีๆ แต่ทริปเปิลเอชก็ได้เข้ามาขัดขวาง และขอชิงแชมป์ตั้งแต่ตอนนั้น และทริปเปิลเอชได้แชมป์ไป แต่วินซ์ก็ใช้กลโกง ให้ทริปเปิลเอชเจอกับอูมากาในแมตช์ที่ 2 และคู่เอกก็คือทริปเปิลเอชเจอกับออร์ตันชิงแชมป์ WWE เท่ากับว่าทริปเปิลเอชได้ปล้ำ 3 แมตช์ในคืนเดียว สุดท้ายก็สู้ไม่ได้ ต้องเสียแชมป์คืนแก่ออร์ตันไป ทริปเปิลเอชเป็นแชมป์ได้เพียงแค่ 1 ชั่วโมงกว่าเท่านั้นเอง
แต่แชมป์ของ ออร์ตัน ก็มาสะดุดลงในแบคแลช (2008) เมื่อมีการปล้ำแบบ 4 เส้า แพ้คัดออก เพื่อแชมป์ WWE ระหว่าง ออร์ตัน , เจบีแอล , จอห์น ซีนา และทริปเปิลเอช สุดท้ายแล้ว ทริปเปิลเอช ก็ได้แชมป์ WWE ไปครอง จนถึงการ DRAFT ประจำปี 2008 ทริปเปิลเอช ได้ถูก DRAFT ไปสแมคดาวน์ และเป็นการไปพร้อมกับแชมป์ WWE ของเค้าด้วย แต่ก็ยังดีที่ เอดจ์ ที่อยู่ สแมคดาวน์ เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เสียแชมป์ให้คนของรอว์ คือ ซีเอ็ม พังก์ แชมป์เลยลงตัว ทำให้แชมป์ WWE กลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของสแมคดาวน์ อีกครั้งหนึ่ง
หลังจากที่เอดจ์เสียแชมป์โลกเฮฟวี่เวทไป จึงหันมาชิงแชมป์ WWE กับทริปเปิลเอช แต่จนแล้วจนรอด เอดจ์ ก็ไม่สามารถชิงแชมป์จากทริปเปิลเอช ได้ แถม เอดจ์ มีเรื่องกับ วิคกี เกอร์เรโร จนต้องเจอกับดิอันเดอร์เทเกอร์ หายไปพักใหญ่ และอีกปีต่อมา ทริปเปิล เอช ก็ถูก DRAFT ตัวกลับไปที่รอว์ พร้อมกับเข็ดขัดแชมป์ WWE ในขณะที่ จอห์น ซีนา ก็เสียแชมป์โลกเฮฟวี่เวทให้กับเอดจ์ คนของสแมคดาวน์ไป ทำให้แชมป์ WWE กลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของรอว์ อีกครั้ง จนถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2011 ซึ่งได้มีการยกเลิกการแบ่งค่ายระหว่างรอว์ และสแมคดาวน์ อย่างเป็นทางการ
เข็มขัดรูปแบบของซีนาถูกยุติลงในรอว์ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2013 เมื่อเดอะร็อก แชมป์ WWE ในตอนนั้นได้ออกมาพูดถึงเข็มขัดแชมป์ WWE ว่ามันไม่ควรจะดูเหมือนของเล่นแบบนี้ และที่สำคัญมันไม่ควรจะหมุนได้ด้วย จากนั้นก็เปิดตัวเข็มขัดเส้นใหม่ และซีนาออกมายืนจ้องหน้าเดอะร็อกท่ามกลางเสียงโห่ของคนดู จากนั้นซีเอ็ม พังก์เอาเข็มขัดเส้นเก่ามาฟาดใส่กลางหลังซีนาจนล้มกลิ้ง จากนั้นก็โยนเข็มขัดเก่าทิ้งไว้ข้างๆตัวซีนา ก่อนจะยืนชี้หน้าเดอะร็อกแล้วเดินกลับไป
ภายหลังจากที่ซีนาสามารถคว้าแชมป์ WWE มาได้จากเดอะร็อกในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 แต่ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนเข็มขัดแชมป์กลับไปเป็นรูปแบบหมุนได้ดังเดิม
ในทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2013) เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2013 ได้มีการจัดแมตซ์ TLC ระหว่าง แชมป์ WWE แรนดี ออร์ตัน และ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท จอห์น ซีนา เพื่อการรวมเข็มขัดแชมป์โลกทั้งสองเส้นเป็นหนึ่งเดียว สุดท้ายออร์ตันก็สามารถเอาชนะไปได้ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น WWE World Heavyweight Championship หลังจากที่ได้มีการแยกเข็มขัดแชมป์โลกเป็น 2 เส้นมาตลอดนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2002
รูปแบบเข็มขัดแชมป์ได้ถูกเปลี่ยนอีกครั้งในรอว์ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2014 โดย ทริปเปิลเอช ประธาน COO ของ WWE และสเตฟานี แม็กแมน ได้มอบเข็มขัดรูปแบบใหม่ ที่ใช้ตราสัญลักษณ์ใหม่ของ WWE ไว้ตรงกลางหัวเข็มขัด ให้กับ บร็อก เลสเนอร์ ที่เพิ่งคว้าแชมป์ จากซีนา มาได้ในศึกซัมเมอร์สแลมในคืนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการรวมเข็มขัดให้เหลือเส้นเดียว หลังจากที่ต้องถือเข็มขัด 2 เส้นมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2013
เข็มขัดแชมป์ได้ถูกเปลี่ยนชื่ออีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 2016 เป็น WWE World Championship เนื่องจาก WWE ได้ทำการแยกค่าย รอว์ กับ สแมคดาวน์ อีกครั้งเหมือนเช่นปี 2002 โดย ดีน แอมโบรส แชมป์ในขณะนั้นได้ถูกดราฟท์ไปอยู่ค่ายสแมคดาวน์ ทำให้เข็มขัดแชมป์กลายเป็นกรรมสิทธิ์ของสแมคดาวน์ ในขณะที่ฝั่งรอว์ ก็ได้สร้างเข็มขัดแชมป์โลกขึ้นมาใหม่ในชื่อว่า WWE Universal Championship ก่อนจะกลับมาใช้ชื่อ WWE Championship อีกครั้งในเดือนธันวาคม 2016
ในเดือนธันวาคม 2017 รูปแบบเข็มขัดได้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยตราสัญลักษณ์ตรงส่วนที่เป็นเส้นทแยงได้ถูกเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีดำ แต่เพียงไม่กี่วันก็กลับมาใช้รูปแบบเดิม
เข็มขัดแชมป์ WWE ได้กลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของ รอว์ อีกครั้ง ในเดือนตุลาคม 2019 โดย บร็อก เลสเนอร์ แชมป์ในขณะนั้น ได้ขอออกจาก สแมคดาวน์ เพื่อไปสะสางบัญชีแค้นกับ เรย์ มิสเตอริโอ ที่อยู่ฝั่ง รอว์ เข็มขัดแชมป์จึงถูกย้ายไปด้วยโดยปริยาย โดยฝั่งของ สแมคดาวน์ ก็ได้ "เดอะฟีนด์" เบรย์ ไวแอ็ตต์ เอาชนะ เซท โรลลินส์ และนำแชมป์ Universal มาสู่ค่ายอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ Nemer, Paul (September 2, 2002). "Full WWE Raw Results – 9/2/02". WrestleView. สืบค้นเมื่อ November 24, 2009.
- ↑ "The 5 shortest WWE Title reigns in history". สืบค้นเมื่อ June 26, 2016.