ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 33: | บรรทัด 33: | ||
|{{flagicon|China}} [[ประเทศจีน|จีน]] |
|{{flagicon|China}} [[ประเทศจีน|จีน]] |
||
|เอเชีย-แปซิฟิก |
|เอเชีย-แปซิฟิก |
||
|{{flagicon|China}} [[ประเทศจีน|สาธารณรัฐประชาชนจีน]] ( |
|{{flagicon|China}} [[ประเทศจีน|สาธารณรัฐประชาชนจีน]] (ตั้งแต่ 1971) |
||
|{{flagicon|Republic of China}} [[สาธารณรัฐจีน (ค.ศ. 1912–1949)|สาธารณรัฐจีน]] (1946–1949) (รวม[[จีนแผ่นดินใหญ่|แผ่นดินใหญ่]]และ[[ไต้หวัน]])<br />{{flagicon|Taiwan}} [[ไต้หวัน|สาธารณรัฐจีน]] (1946–1971) (รวม[[ไต้หวัน]]ทั้งหมด) |
|{{flagicon|Republic of China}} [[สาธารณรัฐจีน (ค.ศ. 1912–1949)|สาธารณรัฐจีน]] (1946–1949) (รวม[[จีนแผ่นดินใหญ่|แผ่นดินใหญ่]]และ[[ไต้หวัน]])<br />{{flagicon|Taiwan}} [[ไต้หวัน|สาธารณรัฐจีน]] (1946–1971) (รวม[[ไต้หวัน]]ทั้งหมด) |
||
|- |
|- |
||
|{{flagicon|France}} [[ประเทศฝรั่งเศส|ฝรั่งเศส]] |
|{{flagicon|France}} [[ประเทศฝรั่งเศส|ฝรั่งเศส]] |
||
|ยุโรปตะวันตก<br/>และอื่นๆ |
|ยุโรปตะวันตก<br/>และอื่นๆ |
||
|{{flagicon|France}} [[ประเทศฝรั่งเศส|สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5]] ( |
|{{flagicon|France}} [[ประเทศฝรั่งเศส|สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5]] (ตั้งแต่ 1958) |
||
|{{flagicon|France}} [[รัฐบาลชั่วคราวแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส]] (1945–1946)<br />{{flagicon|France}} [[สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 4]] (1946–1958) |
|{{flagicon|France}} [[รัฐบาลชั่วคราวแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส]] (1945–1946)<br />{{flagicon|France}} [[สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 4]] (1946–1958) |
||
|- |
|- |
||
|{{flagicon|Russia}} [[ประเทศรัสเซีย|รัสเซีย]] |
|{{flagicon|Russia}} [[ประเทศรัสเซีย|รัสเซีย]] |
||
|ยุโรปตะวันออก |
|ยุโรปตะวันออก |
||
|{{flagicon|Russia}} [[ประเทศรัสเซีย|สหพันธรัฐรัสเซีย]] ( |
|{{flagicon|Russia}} [[ประเทศรัสเซีย|สหพันธรัฐรัสเซีย]] (ตั้งแต่ 1992) |
||
|{{flagicon|Soviet Union}} [[สหภาพโซเวียต|สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต]] (1946–1991) |
|{{flagicon|Soviet Union}} [[สหภาพโซเวียต|สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต]] (1946–1991) |
||
|- |
|- |
||
|{{flagicon|United Kingdom}} [[สหราชอาณาจักร]] |
|{{flagicon|United Kingdom}} [[สหราชอาณาจักร]] |
||
|ยุโรปตะวันตก<br/>และอื่นๆ |
|ยุโรปตะวันตก<br/>และอื่นๆ |
||
|{{flagicon|United Kingdom}} [[สหราชอาณาจักร|สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ]] ( |
|{{flagicon|United Kingdom}} [[สหราชอาณาจักร|สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ]] (ตั้งแต่ 1946) |
||
|— |
|— |
||
|- |
|- |
||
|{{flagicon|United States}} [[สหรัฐ]] |
|{{flagicon|United States}} [[สหรัฐ]] |
||
|ยุโรปตะวันตก<br/>และอื่นๆ |
|ยุโรปตะวันตก<br/>และอื่นๆ |
||
|{{flagicon|United States}} [[สหรัฐ|สหรัฐอเมริกา]] ( |
|{{flagicon|United States}} [[สหรัฐ|สหรัฐอเมริกา]] (ตั้งแต่ 1946) |
||
|— |
|— |
||
|} |
|} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:22, 6 กันยายน 2561
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ | |
---|---|
ห้องประชุมคณะมนตรีความมั่นคงในนครนิวยอร์ก | |
ประเภท | เสาหลัก |
หัวหน้า | ประธานคณะมนตรี |
จัดตั้ง | ค.ศ. 1945 (พ.ศ. 2488) |
เว็บไซต์ | un |
ต้นสังกัด | สหประชาชาติ |
โครงสร้าง | กลุ่มแอฟริกัน กลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก กลุ่มยุโรปตะวันออก กลุ่มละตินอเมริกาและแคริบเบียน ยุโรปตะวันตกและกลุ่มอื่นๆ |
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (อังกฤษ: United Nations Security Council; UNSC) เป็นหนึ่งใน 6 เสาหลักของสหประชาชาติ และเป็นองค์กรในสหประชาชาติที่มีอิทธิพลรองลงมาจากสมัชชาใหญ่ เป็นองค์กรที่มีอำนาจในการเรียกระดมพลจากรัฐสมาชิกในสหประชาชาติเพื่อจัดตั้งเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปปฏิบัติหน้าที่รักษาสันติภาพในประเทศและสงครามต่างๆ และยังมีอำนาจในการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อประเทศต่างๆ
สมาชิก
คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา และสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) 10 ประเทศ ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี และไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งซ้ำได้ในทันทีเมื่อหมดวาระ
สมาชิกถาวร
รัฐชาติ | กลุ่มภูมิภาค | รัฐผู้แทนในปัจจุบัน | รัฐผู้แทนในอดีต |
---|---|---|---|
จีน | เอเชีย-แปซิฟิก | สาธารณรัฐประชาชนจีน (ตั้งแต่ 1971) | สาธารณรัฐจีน (1946–1949) (รวมแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน) สาธารณรัฐจีน (1946–1971) (รวมไต้หวันทั้งหมด) |
ฝรั่งเศส | ยุโรปตะวันตก และอื่นๆ |
สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5 (ตั้งแต่ 1958) | รัฐบาลชั่วคราวแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (1945–1946) สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 4 (1946–1958) |
รัสเซีย | ยุโรปตะวันออก | สหพันธรัฐรัสเซีย (ตั้งแต่ 1992) | สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต (1946–1991) |
สหราชอาณาจักร | ยุโรปตะวันตก และอื่นๆ |
สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (ตั้งแต่ 1946) | — |
สหรัฐ | ยุโรปตะวันตก และอื่นๆ |
สหรัฐอเมริกา (ตั้งแต่ 1946) | — |
สมาชิกไม่ถาวร
การเลือกตั้งสมาชิกไม่ถาวรของ UNSC จะแบ่งตามกลุ่มภูมิภาค 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก กลุ่มแอฟริกา กลุ่มลาตินอเมริกาและแคริบเบียน (GRULAC) กลุ่มยุโรปตะวันออก (EES) และ กลุ่มยุโรปตะวันตกและประเทศอื่น (WEOG) โดยกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิกได้รับการจัดสรรที่นั่ง 2 ที่ กลุ่มแอฟริกา 3 ที่ กลุ่ม GRULAC 2 ที่ กลุ่มยุโรปตะวันออก 1 ที่ และกลุ่ม WEOG 2 ที่
โดยการเลือกตั้งสมาชิกไม่ถาวร UNSC จะมีขึ้นในช่วงสมัยการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีการประชุมหลักๆ ในช่วงเดือนกันยายน ถึงธันวาคมของทุกปี โดยประเทศที่จะได้รับการเลือกตั้งจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของสมาชิกที่เข้าร่วมการประชุม UNGA โดยเป็น การลงคะแนนลับ ทั้งนี้ สมาชิก UNSC ที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 มกราคม ของปีถัดไป
วาระ | กลุ่มแอฟริกา | กลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก | ละตินอเมริกาและแคริบเบียน | ยุโรปตะวันตกและอื่นๆ | ยุโรปตะวันออก | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2017 | เอธิโอเปีย | คาซัคสถาน | โบลิเวีย | สวีเดน | อิตาลี[1][2] | |||||
2018 | โกตดิวัวร์ | อิเควทอเรียลกินี | คูเวต | เปรู | เนเธอร์แลนด์ | โปแลนด์ | ||||
2019 | แอฟริกาใต้ | อินโดนีเซีย[3] | โดมินิกัน | เบลเยียม | เยอรมนี | |||||
2020 |
ประเทศที่สมัครเป็นสมาชิกถาวร
กลุ่มจี4 ได้เสนอให้มีการเพิ่มจำนวนสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจากปัจจุบัน 15 ประเทศ เป็น 25 ประเทศ โดยให้เพิ่มสมาชิกถาวรหกประเทศ และสมาชิกไม่ถาวรสี่ประเทศ รวมทั้งจากเอเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกา ซึ่งทางด้านสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสได้ให้การสนับสนุนข้อเสนอของกลุ่มจี4 ส่วนด้านสหรัฐอเมริกาก็เห็นด้วยกับการเพิ่มจำนวนสมาชิกทั้งประเภทถาวรและไม่ถาวรในปริมาณจำกัด และต้องการให้มีการคัดเลือกสมาชิกถาวรใหม่โดยพิจารณาจากการเข้ามีส่วนร่วมในการรักษา สันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และทางด้านรัสเซียและจีนก็ได้แสดงการสนับสนุนการเพิ่มจำนวนสมาชิกในคณะมนตรีความมั่นคง แต่ต้องการให้เพิ่มจำนวนเพียงจำกัดและอย่างค่อยเป็นค่อยไป และขึ้นอยู่กับความเห็นชอบในวงกว้างที่สุดในหมู่บรรดาสมาชิกสหประชาชาติ
การลงคะแนนเสียง
ข้อ 27 ของกฎบัตรสหประชาชาติกำหนดวิธีการลงคะแนนเสียงข้อมติ คือ แต่ละประเทศสมาชิกฯ มีคะแนนเสียงหนึ่งคะแนนเท่ากัน โดยคำวินิจฉัยของ UNSC ในทุกเรื่องจะต้องกระทำด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบของสมาชิกอย่างน้อย 9 ประเทศ โดยต้องรวมคะแนนเสียงเห็นพ้องของประเทศสมาชิกถาวรทั้ง 5 ประเทศ ด้วย (เป็นที่มาของคำว่า “สิทธิยับยั้ง” (veto) อย่างไรก็ดี ไม่มีคำว่า veto ปรากฏในกฎบัตรฯ) ยกเว้นในกรณีพิจารณาความ (procedural matters) ต้องการเสียงเห็นชอบจากสมาชิกประเภทใดก็ได้จำนวนอย่างน้อย 9 ประเทศ
บทบาทและหน้าที่
- ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ
- สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ
- เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน
- วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ
- ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร
- เรียกร้องให้สมาชิกประเทศทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน
- ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน
- เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
- ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์
- เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก
- ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ
อ้างอิง
- ↑ "General Assembly Elects 4 New Non-permanent Members to Security Council, as Western and Others Group Fails to Fill Final Vacancy". United Nations. สืบค้นเมื่อ 9 August 2016.
- ↑ "Elected to Security Council in Single Round of General Assembly Voting, Italy Says It Will Cede Non-Permanent Seat to Netherlands after 1 Year". United Nations. สืบค้นเมื่อ 9 August 2016.
- ↑ "General Assembly Elects Belgium, Dominican Republic, Germany, Indonesia, South Africa as Non-permanent Members of Security Council". United Nations. 8 June 2018. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.