ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อุทยานแห่งชาติ"
ล →ประวัติศาสตร์อุทยานแห่งชาติ: เพิ่มการระบุข้อมูลอุทยานแห่งชาติในประเทศไทยเช่นเดียวกับอุทยานแห่งชาติในภาษาอื่นๆ ที่นำเสนออุทยานแห่งชาติของประเทศตนมากกว่าที่จะนำเสนอโดยเน้นสหรัฐอเมริกา ซึ่งในภาษาอังกฤษคำว่า National Park ก็ได้นำเสนอหลักการเดียวกันคือส่วนใหญ่เกี่ยวกับสหรัฐอเมริกา ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560 |
ล →วัตถุประสงค์การจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ: ใส่วัตถุประสงค์การจัดตั้งอุทยานแห่งชาติในประเทศไทยตามที่ พรบ.อุทยานแห่งชาติระบุ และ คำว่าอุทยานแห่งชาติ ใน Wiki แต่ละภาษาก็แสดงวัตถุประสงค์การจัดตั้งอุทยานแห่งชาติแตกต่างกันตามกฏหมายของประเทศนั้นๆ พร้อมอ้างอิง UNDP Thailand ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560 |
||
บรรทัด 25: | บรรทัด 25: | ||
ด้วยพื้นที่ประมาณ 2,915 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,821,875 ไร่ หรือประมาณ 1.8 ล้านไร่ ทำให้[[อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน]]เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดโดยได้รับการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2524 โดยกำหนดพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำและป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานเป็นเขตอุทยานฯ เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้น ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ คือยอดเขางะงันนิกยวงตอง อยู่ในเขตรอยต่อประเทศพม่าและไทย มีความสูง 1,513 เมตร รองลงมาคือยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูง 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากสันเขื่อนแก่งกระจาน มีถนนเลียบออกมาทางซ้ายมือเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวมหัศจรรย์เมืองไทย ประจำเดือนเมษายน โดยมีจุดเด่น คือ "ตระการตาลานผีเสื้อในป่าแก่งกระจาน"<ref>https://th.wikipedia.org/wiki/อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน</ref> |
ด้วยพื้นที่ประมาณ 2,915 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,821,875 ไร่ หรือประมาณ 1.8 ล้านไร่ ทำให้[[อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน]]เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดโดยได้รับการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2524 โดยกำหนดพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำและป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานเป็นเขตอุทยานฯ เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้น ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ คือยอดเขางะงันนิกยวงตอง อยู่ในเขตรอยต่อประเทศพม่าและไทย มีความสูง 1,513 เมตร รองลงมาคือยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูง 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากสันเขื่อนแก่งกระจาน มีถนนเลียบออกมาทางซ้ายมือเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวมหัศจรรย์เมืองไทย ประจำเดือนเมษายน โดยมีจุดเด่น คือ "ตระการตาลานผีเสื้อในป่าแก่งกระจาน"<ref>https://th.wikipedia.org/wiki/อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน</ref> |
||
==วัตถุประสงค์การจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ== |
==วัตถุประสงค์การจัดตั้งอุทยานแห่งชาติในประเทศไทย== |
||
การจัดตั้ง [[อุทยานแห่งชาติ]] ในประเทศไทยมีวัตถุประสงค์ด้วยกัน 3 ประการใหญ่ ๆ คือ เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และเพื่อการศึกษาค้นคว้าวิจัย อธิบายได้ดังนี้ <ref>http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=1173</ref> |
ตาม พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ได้ระบุวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง [[อุทยานแห่งชาติ]] ในประเทศไทยโดยมีวัตถุประสงค์ด้วยกัน 3 ประการใหญ่ ๆ คือ เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และเพื่อการศึกษาค้นคว้าวิจัย อธิบายได้ดังนี้ <ref>http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=1173</ref><ref>http://www.th.undp.org/content/dam/thailand/docs/PAC_book.pdf</ref> |
||
* '''1.เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ''' โดยแบ่งออกเป็นการอนุรักษ์จากสองส่วนคือ หน่วยงานภาครัฐและประชาชนชาวไทยในฐานะเจ้าของประเทศและจากการร่วมมือในการอนุรักษ์จากนานาชาติ |
* '''1.เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ''' โดยแบ่งออกเป็นการอนุรักษ์จากสองส่วนคือ หน่วยงานภาครัฐและประชาชนชาวไทยในฐานะเจ้าของประเทศและจากการร่วมมือในการอนุรักษ์จากนานาชาติ |
||
*ในระดับทั้งในองค์กรภาครัฐภายในประเทศ |
*ในระดับทั้งในองค์กรภาครัฐภายในประเทศ |
||
บรรทัด 40: | บรรทัด 40: | ||
*ในระดับนานาชาติ ตัวอย่างเช่นกรณีที่เกิดขึ้นที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนจากการยื่นมือความช่วยเหลือจากนานาประเทศที่เป็นพันธมิตรกับราชอาณาจักรไทย และหน่วยงานหรือองค์กรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางต่างหลั่งไหลมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการเยี่ยมชมภายในพื้นที่วนอุทยาน อันแสดงให้ถึงการมีความเชื่อมโยงถึงกันและช่วยเหลือกันและกันในยามยากลำบากหรืออาจเกิดขึ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งหากเกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับต่างประเทศ หากราชอาณาจักรสามารถมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยเหลือให้เกิดความสงบเรียบร้อยขึ้นและอยู่อย่างสันติสุขของประชากรโลก ไทยก็ยินดีเช่นกันที่จะไม่รีรอที่จะเข้ามีส่วนร่วมให้พ้นจากวิกฤตนั้น |
*ในระดับนานาชาติ ตัวอย่างเช่นกรณีที่เกิดขึ้นที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนจากการยื่นมือความช่วยเหลือจากนานาประเทศที่เป็นพันธมิตรกับราชอาณาจักรไทย และหน่วยงานหรือองค์กรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางต่างหลั่งไหลมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการเยี่ยมชมภายในพื้นที่วนอุทยาน อันแสดงให้ถึงการมีความเชื่อมโยงถึงกันและช่วยเหลือกันและกันในยามยากลำบากหรืออาจเกิดขึ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งหากเกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับต่างประเทศ หากราชอาณาจักรสามารถมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยเหลือให้เกิดความสงบเรียบร้อยขึ้นและอยู่อย่างสันติสุขของประชากรโลก ไทยก็ยินดีเช่นกันที่จะไม่รีรอที่จะเข้ามีส่วนร่วมให้พ้นจากวิกฤตนั้น |
||
* '''2.เพื่อการท่องเที่ยวและการพักผ่อนหย่อนใจ'''ของผู้คนบริเวณโดยรอบทิศทางของอุทยานแห่งชาติหรือกล่าวคือผู้คนทุกพื้นที่ที่ติดกับอุทยานแห่งชาติสามารถพักผ่อนหย่อนใจหรือมีส่วนร่วมอนุรักษ์มรดกอันล้ำค่าของชาติไว้เพื่อให้ลูกหลานได้สืบสานไปเป็นมรดกตราบนานเท่านานและเป็นความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตน |
* '''2.เพื่อเป็นแหล่งนันทนาการการท่องเที่ยวและการพักผ่อนหย่อนใจเพื่อความรื่นรมย์ของประชาชน'''ของผู้คนบริเวณโดยรอบทิศทางของอุทยานแห่งชาติหรือกล่าวคือผู้คนทุกพื้นที่ที่ติดกับอุทยานแห่งชาติสามารถพักผ่อนหย่อนใจหรือมีส่วนร่วมอนุรักษ์มรดกอันล้ำค่าของชาติไว้เพื่อให้ลูกหลานได้สืบสานไปเป็นมรดกตราบนานเท่านานและเป็นความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตน |
||
* '''3.เพื่อศึกษาค้นคว้าวิจัย''' พื้นที่อุทยานแห่งชาติสามารถจัดเป็นห้องทดลองทางธรรมชาติกลางแจ้ง ที่สามารถค้นคว้าวิจัยไม่มีที่สิ้นสุด เหมาะเป็นที่ศึกษาของนักศึกษา นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป เพราะภายในอุทยานแห่งชาติมีสิ่งมีชีวิตสำหรับนักศึกษา นับตั้งแต่การเจริญเติบโต การพัฒนาทางชีววิทยา วิวัฒนาการ และจำนวนประชากรของสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป<ref>http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=1173</ref> พื้นที่อุทยานแห่งชาติสามารถจัดเป็นห้องทดลองทางธรรมชาติกลางแจ้ง ที่สามารถค้นคว้าวิจัยไม่มีที่สิ้นสุด เหมาะเป็นที่ศึกษาของนักศึกษา นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป เพราะภายในอุทยานแห่งชาติมีสิ่งมีชีวิตสำหรับนักศึกษา นับตั้งแต่การเจริญเติบโต การพัฒนาทางชีววิทยา วิวัฒนาการ และจำนวนประชากรของสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในปี ค.ศ. 1961 ณ สหรัฐอเมริกาที่ประชุม Pan Pacific Science Congress โดยนักจิตวิทยาด้านการวิจัยได้ออกแบบแนวคิดอธิบายคำว่า “ Research” โดยแยกเป็นอักษรอธิบายความหมายไว้ดังนี้ |
* '''3.เพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ ค้นคว้าวิจัย''' พื้นที่อุทยานแห่งชาติสามารถจัดเป็นห้องทดลองทางธรรมชาติกลางแจ้ง ที่สามารถค้นคว้าวิจัยไม่มีที่สิ้นสุด เหมาะเป็นที่ศึกษาของนักศึกษา นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป เพราะภายในอุทยานแห่งชาติมีสิ่งมีชีวิตสำหรับนักศึกษา นับตั้งแต่การเจริญเติบโต การพัฒนาทางชีววิทยา วิวัฒนาการ และจำนวนประชากรของสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป<ref>http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=1173</ref> พื้นที่อุทยานแห่งชาติสามารถจัดเป็นห้องทดลองทางธรรมชาติกลางแจ้ง ที่สามารถค้นคว้าวิจัยไม่มีที่สิ้นสุด เหมาะเป็นที่ศึกษาของนักศึกษา นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป เพราะภายในอุทยานแห่งชาติมีสิ่งมีชีวิตสำหรับนักศึกษา นับตั้งแต่การเจริญเติบโต การพัฒนาทางชีววิทยา วิวัฒนาการ และจำนวนประชากรของสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในปี ค.ศ. 1961 ณ สหรัฐอเมริกาที่ประชุม Pan Pacific Science Congress โดยนักจิตวิทยาด้านการวิจัยได้ออกแบบแนวคิดอธิบายคำว่า “ Research” โดยแยกเป็นอักษรอธิบายความหมายไว้ดังนี้ |
||
'''R''' = Recruitment & Relationship หมายถึง การฝึกตนให้มีความรู้ รวมทั้งรวบรวมผู้ที่มีความรู้เพื่อปฏิบัติงานรวมกันติดต่อสัมพันธ์และประสานงานกัน |
'''R''' = Recruitment & Relationship หมายถึง การฝึกตนให้มีความรู้ รวมทั้งรวบรวมผู้ที่มีความรู้เพื่อปฏิบัติงานรวมกันติดต่อสัมพันธ์และประสานงานกัน |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:42, 24 กรกฎาคม 2561
ประเทศไทยจำแนกพื้นที่คุ้มครองตามหลักสากล โดยให้นิยามของพื้นที่คุ้มครองหมายถึงพื้นดินและหรือพื้นน้ำที่ประกาศจัดตั้งขึ้นโดยมีเจตนารมณ์ในการในการคุ้มครองและดูแลรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและ ทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรทางวัฒนธรรมท่ีเกี่ยวข้อง มีการจัดการด้วยเครื่องมือทางกฎหมายหรือมาตรการอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพ โดย IUCN ได้นิยามคำว่าอุทยานแห่งชาติไว้ว่า พื้นที่ธรรมชาติ ทางบกและหรือ ทางทะเลซึ่ง ประกาศจัดตั้ง เพื่อ (ก) รักษา ความมั่นคงของ ระบบนิเวศสำหรับคนในยุค ปัจจุบันและ อนาคต (ข) ไม่ให้มีการใช้ ประโยชน์ ทรัพยากรหรือ การตั้งถิ่นฐาน ที่ไม่สอดคล้อง กับวัตถุประสงค์ ของการประกาศ จัดตั้ง (ค) เป็น พื้นที่รองรับ ด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา ความสำคัญต่อ จิตวิญญาณ และโอกาสด้าน นันทนาการแก่ ผู้มาเยือน โดย ต้องสอดคล้อง กับสภาพ แวดล้อมทาง ธรรมชาติ และ วัฒนธรรม[1]
นิยาม อุทยานแห่งชาติ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้นิยามไว้ดังนี้ คำว่าอุทยานแห่งชาติ คือกฎหมายที่ประกาศ โดยมีพระราชกฤษฎีกาประกาศกำหนดให้พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งในราชอาณาจักรไทยที่เป็นของราชการมิใช่พื้นที่ครอบครองของผุ้หนึ่งผู้ใดมาก่อนให้สงวนรักษาไว้ให้คงสภาพเดิมเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่การศึกษาและความรื่นรมย์ของประชาชน โดยมีพระราชกฤษฎีกาประกาศกำหนดให้เป็น อุทยานแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ [2] อุทยานแห่งชาติ ตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า "National Park" ซึ่งหมายถึง เขตบริเวณพื้นที่ซึ่งสงวน ไว้เพื่อที่จะรักษา และทำการคุ้มครองทรัยากรทางธรรมชาติ นั้นๆ ให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาติเดิมมิให้ถูกทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงไป ตามหลักสากลแล้ว อุทยานแห่งชาตินั้นจะต้องมีพื้นที่ ทั่วทั้งบริเวณไม่น้อยกว่า 6,250 ไร่ หรือประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร ที่สำคัญในพื้นที่ ของอุทยานแห่งชาตินั้นจะต้องมี ธรรมชาติของ วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
ประวัติศาสตร์อุทยานแห่งชาติของประเทศไทย
แนวความคิดเรื่องอุทยานแห่งชาติ เริ่มต้น 100 กว่าปีแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรทำให้มีพื้นที่เพื่อที่อยู่อาศัยและพื้นที่เพาะปลูกมีผลผลิตน้อยลง การสำรวจและบุกเบิกดังกล่าวส่งผลให้มีการค้นพบภูมิประเทศที่งดงามหลายแห่ง การตั้งถิ่นฐานและการเพาะปลูกในพื้นที่ป่าเพิ่มมากขึ้น ทำให้พื้นที่ป่าลดลงมาก จนปี พ.ศ. 2407 แนวความคิดทางนิเวศวิทยาของ George Perkins Marsh ในหนังสือ Man and Nature ที่ว่า "มนุษย์ต้องอยู่ร่วมกับธรรมชาติ การทำลายธรรมชาติก็เท่ากับว่าเป็นการทำลายตัวมนุษย์เอง" ได้จุดประกายให้มีการริเริ่มการสงวนแหล่งธรรมชาติขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2415 อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของโลกจึงได้ถูกจัดตั้งขึ้นที่ Yellowstone โดย Abraham Lincoln ในประเทศไทยแนวความคิดในการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติได้ริเริ่มขึ้นภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องมาจากอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการพื้นที่เพื่อการเพาะปลูกเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ผลที่ตามมาคือการหักล้างถางพงเปลี่ยนสภาพป่าเป็นไร่นา ประกอบกับความเจริญทางด้านวัตถุและเทคโนโลยี มีการใช้อาวุธที่ทันสมัยล่าสัตว์อย่างล้างผลาญ ทำให้สัตว์ป่าลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว สัตว์ป่าบางชนิดสูญพันธุ์ไป จนในที่สุดรัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองรักษาทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะด้านป่าไม้และสัตว์ป่า จึงดำริให้มีการจัดตั้งสวนรุกขชาติ วนอุทยาน และอุทยานแห่งชาติ โดยกำหนดให้ป่าภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นวนอุทยานแห่งแรก ในปี พ.ศ. 2486 แต่ด้วยเป็นช่วงสงครามโลก การดำเนินงานเพื่อประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติจึงมีอุปสรรคและต้องระงับไปจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2502 ฯลฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและกระทรวงมหาดไทยร่วมกันพิจารณากำหนดพื้นที่ป่าเพื่อจัดตั้งอุทยานแห่งชาติขึ้น[3] ปัจจุบันประเทศไทยมีอุทยานแห่งชาติจำนวน 131 แห่ง[4] ด้วยพื้นที่ทั้งหมด 40,000,739.00 ไร่ หรือประมาณ 64,001.18 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 12.47 % ของเนื้อที่ของประเทศ จากพื้นที่ประเทศไทยทั้งหมด 320,696,887.50 ไร่ หรือประมาณ 513,115.02 ตารางกิโลเมตร[5]
อุทยานแห่งชาติแห่งแรกในประเทศไทยคือ
ในปี 2505 พื้นที่ที่เขาใหญ่มีพื้นที่ติดต่อกับที่ตั้งโดยรอบถึง 11 อำเภอ ใน 4 จังหวัด อันได้แก่ อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา; อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี; อำเภอปากพลี อำเภอบ้านนา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก; และอำเภอแก่งคอย อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี โดยประกาศให้เขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย โดยได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2505 โดยใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" และได้รับสมญานามว่าเป็น "อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน"
อุทยานแห่งชาติล่าสุดของประเทศไทยคือ
พื้นที่ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติล่าสุดคือ อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2560 อยู่ที่ จังหวัดเชียงใหม่ ใช้เวลายาวนานถึง 26 ปี ที่กรมป่าไม้ได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ เมื่อปี 2534 เพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ จนมีประกาศในราขกิจจานุเบกษาให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2560 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 131 ของประเทศไทย[6] และนับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่สามในรัชกาลปัจจุบัน (ที่แรกคืออุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ที่สอง อุทยานแห่งชาติขุนสถาน)
อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอสันกำแพงอำเภอดอยสะเก็ด อำเภอแม่ออนจังหวัดเชียงใหม่ และท้องที่อำเภอบ้านธิ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นพื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำปิง มีพันธุ์ไม้มีค่าและสัตว์ป่าที่สำคัญหลายชนิดและประกอบ ด้วยจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งเช่น น้ำตก อ่างเก็บน้ำ เขื่อน หน้าผา และยอดเขาที่สูงเด่น เป็นต้น มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 320,750 ไร่ หรือ 513.20 ตารางกิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติในประเทศไทยที่มีพื้นที่มากที่สุดคือ
ด้วยพื้นที่ประมาณ 2,915 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,821,875 ไร่ หรือประมาณ 1.8 ล้านไร่ ทำให้อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดโดยได้รับการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2524 โดยกำหนดพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำและป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานเป็นเขตอุทยานฯ เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้น ยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ คือยอดเขางะงันนิกยวงตอง อยู่ในเขตรอยต่อประเทศพม่าและไทย มีความสูง 1,513 เมตร รองลงมาคือยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูง 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากสันเขื่อนแก่งกระจาน มีถนนเลียบออกมาทางซ้ายมือเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวมหัศจรรย์เมืองไทย ประจำเดือนเมษายน โดยมีจุดเด่น คือ "ตระการตาลานผีเสื้อในป่าแก่งกระจาน"[7]
วัตถุประสงค์การจัดตั้งอุทยานแห่งชาติในประเทศไทย
ตาม พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ได้ระบุวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง อุทยานแห่งชาติ ในประเทศไทยโดยมีวัตถุประสงค์ด้วยกัน 3 ประการใหญ่ ๆ คือ เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และเพื่อการศึกษาค้นคว้าวิจัย อธิบายได้ดังนี้ [8][9]
- 1.เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ โดยแบ่งออกเป็นการอนุรักษ์จากสองส่วนคือ หน่วยงานภาครัฐและประชาชนชาวไทยในฐานะเจ้าของประเทศและจากการร่วมมือในการอนุรักษ์จากนานาชาติ
*ในระดับทั้งในองค์กรภาครัฐภายในประเทศ *จากการอนุรักษ์โดยจากองค์กรภาครัฐที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลอุทยานแห่งชาติเองและลงไปจนถึงองค์กรที่เกี่ยวข้องระดับชุมชน โดยเริ่มตั้งแต่ กระทรวง ทบวง กรม ไล่ลงไปจนถึงองค์กรระดับท้องถิ่น หรือหากโดย ละเอียดคืออุทยานแห่งชาติอยู่ในสถานะของกรมโดยชื่อขององค์กรอย่างเป็นทางการคือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นองค์กรภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีรัฐมนตรีกำกับ ดูแล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของอธิบดีกรมกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนอกจากนี้ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก *จากการอนุรักษ์โดยจากองค์กรมหาชน เช่น สถาบันการเงิน, บริษัทโทรคมนาคม, ฯลฯ *จากการอนุรักษ์โดยจากองค์กรเอกชน เช่น บริษัท, ห้าง, ร้าน,ห้างหุ้นส่วนจำกัด, คณะบุคคล ต่างๆ ฯลฯ *จากการอนุรักษ์โดยมูลนิธิต่างๆ เช่น มูลนิธิชัยพัฒนา, มูลนิธิสืบนาคะสเถียร, สมาคมอนุรักษ์ป่ามรดกโลกดงพญาเย็น เขาใหญ่, ฯลฯ *และจากภาคประชาชนทั้งประเทศ โดยประชากรชาวไทยทุกคนผู้เป็นส่วนหนึ่งในการเป็นเจ้าของร่วมกันของแผ่นดินเกิด
*ในระดับนานาชาติ ตัวอย่างเช่นกรณีที่เกิดขึ้นที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนจากการยื่นมือความช่วยเหลือจากนานาประเทศที่เป็นพันธมิตรกับราชอาณาจักรไทย และหน่วยงานหรือองค์กรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางต่างหลั่งไหลมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการเยี่ยมชมภายในพื้นที่วนอุทยาน อันแสดงให้ถึงการมีความเชื่อมโยงถึงกันและช่วยเหลือกันและกันในยามยากลำบากหรืออาจเกิดขึ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งหากเกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับต่างประเทศ หากราชอาณาจักรสามารถมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยเหลือให้เกิดความสงบเรียบร้อยขึ้นและอยู่อย่างสันติสุขของประชากรโลก ไทยก็ยินดีเช่นกันที่จะไม่รีรอที่จะเข้ามีส่วนร่วมให้พ้นจากวิกฤตนั้น
- 2.เพื่อเป็นแหล่งนันทนาการการท่องเที่ยวและการพักผ่อนหย่อนใจเพื่อความรื่นรมย์ของประชาชนของผู้คนบริเวณโดยรอบทิศทางของอุทยานแห่งชาติหรือกล่าวคือผู้คนทุกพื้นที่ที่ติดกับอุทยานแห่งชาติสามารถพักผ่อนหย่อนใจหรือมีส่วนร่วมอนุรักษ์มรดกอันล้ำค่าของชาติไว้เพื่อให้ลูกหลานได้สืบสานไปเป็นมรดกตราบนานเท่านานและเป็นความภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตน
- 3.เพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ ค้นคว้าวิจัย พื้นที่อุทยานแห่งชาติสามารถจัดเป็นห้องทดลองทางธรรมชาติกลางแจ้ง ที่สามารถค้นคว้าวิจัยไม่มีที่สิ้นสุด เหมาะเป็นที่ศึกษาของนักศึกษา นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป เพราะภายในอุทยานแห่งชาติมีสิ่งมีชีวิตสำหรับนักศึกษา นับตั้งแต่การเจริญเติบโต การพัฒนาทางชีววิทยา วิวัฒนาการ และจำนวนประชากรของสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป[10] พื้นที่อุทยานแห่งชาติสามารถจัดเป็นห้องทดลองทางธรรมชาติกลางแจ้ง ที่สามารถค้นคว้าวิจัยไม่มีที่สิ้นสุด เหมาะเป็นที่ศึกษาของนักศึกษา นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป เพราะภายในอุทยานแห่งชาติมีสิ่งมีชีวิตสำหรับนักศึกษา นับตั้งแต่การเจริญเติบโต การพัฒนาทางชีววิทยา วิวัฒนาการ และจำนวนประชากรของสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในปี ค.ศ. 1961 ณ สหรัฐอเมริกาที่ประชุม Pan Pacific Science Congress โดยนักจิตวิทยาด้านการวิจัยได้ออกแบบแนวคิดอธิบายคำว่า “ Research” โดยแยกเป็นอักษรอธิบายความหมายไว้ดังนี้
R = Recruitment & Relationship หมายถึง การฝึกตนให้มีความรู้ รวมทั้งรวบรวมผู้ที่มีความรู้เพื่อปฏิบัติงานรวมกันติดต่อสัมพันธ์และประสานงานกัน
E = Education & Efficency หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีการศึกษามีความรู้(Education)และสมรรถภาพสูงในการวิจัย(Efficency)
S = Science & Stimulation หมายถึง เป็นศาสตร์ที่ต้องมีการพิสูจน์ค้นคว้า เพื่อหาความจริงและผู้วิจัยต้องมีความคิดริเริ่มกระตือรือร้นที่จะทำวิจัย
E = Evaluation & Equipment หมายถึงรู้จักประเมินผลว่ามีประโยชน์สมควรจะทำต่อไปหรือไม่และต้องรู้จักใช้เครื่องมือต่างๆในการวิจัย
A = Aim & Attitude หมายถึง มีจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายที่แน่นอนและมีทัศนคติที่ดีต่อการติดตามผลการวิจัย
R = Result หมายถึง การวิจัยได้มาผลเป็นอย่างไรก็ตามจะต้องยอมรับผลทางวิจัยนั้นอย่างดุษฎี และเป็นผลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าอย่างมีระบบ
C = Curiosity หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีความอยากรู้อยากเห็นมีความสนใจและขวนขวายในการวิจัยอยู่ตลอดเวลา
H = Horizon หมายถึง เมื่อผลการวิจัยปรากฏออกมาแล้วย่อมทำให้ทราบและเข้าใจในปัญหาเหล่านั้นได้ เหมือนกับการเกิดแสงสว่างขึ้น แต่ถ้ายังไม่เกิดแสงสว่างผู้วิจัยต้องดำเนินการต่อไปจนกว่าจะพบแสงสว่าง ในทางสังคมแสงสว่าง หมายถึงผลการวิจัยก่อให้เกิดสุขแก่สังคม (อารมณ์ สนานภู่ : 2545)
โดยเมื่อสรุปเมื่อเรานำเอาอักษร ที่ได้กล่าวถึงความหมายต่างๆข้างต้นมาวิเคราะห์ เราก็จะเห็นได้ถึงความสัมพันธ์ของ คำว่า วิจัย (Research) กับ อริยสัจ ๔ (Noble Truth) โดย พื้นฐานก่อนที่จะมาเป็นการวิจัย (Research) นั้น เริ่มจากการที่มีความสงสัยว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นอย่างไร เปรียบได้ดังทุกข์ เป็นสิ่งที่ทนได้ยาก เนื่องเกิดจากความสงสัย เมื่อเกิดความสงสัยขึ้นมา ก็อยากรู้อยากเห็น (C=Curiosity) ซึ่งเป็นตัณหา ความทะยานอยาก เรียกว่า สมุทัย เพราะเหตุให้เกิดทุกข์ จากนั้นก็หาวิธีการต่างๆ ในการวิจัย ไม่ว่าจะเป็น (R=Recruitment, Relationship), (E=Education, Efficiency), (S=Science, Stimulation), (E=Evaluation, Equipment), (A=Aim, Attitude) และ (R=Result)ซึ่งเป็นวิธีการที่มีแบบแผนเป็นระเบียบ ซึ่งดับตัณหาได้สิ้นเชิง ทุกข์ดับไปหมด ได้ชื่อว่านิโรธ เพราะเป็นความดับทุกข์ เพราะได้ทราบถึงผลของความอยากรู้ สิ่งสุดท้ายคือ (H=Horizon) เกิดแสงสว่าง โดยผลการวิจัย ทำให้เข้าใจในปัญหาต่างๆ ทำให้เกิดความรู้ที่เรียกว่าปัญญา คือ ปัญญาอันเห็นชอบว่าสิ่งนี้คือทุกข์ สิ่งนี้เหตุให้ทุกข์เกิด สิ่งนี้ความดับทุกข์ สิ่งนี้ทางให้ถึงความดับทุกข์ มีชื่อว่ามรรค เพราะเป็นข้อปฏิบัติให้ถึงดับทุกข์ ดังที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้เห็นภาพของความสัมพันธ์ของคำว่า วิจัย (Research) กับ อริยสัจ ๔ (Noble Truth) และสามารถที่จะเชื่อมโยงถึงกระบวนการต่าง ๆ ได้อย่างมีเหตุและผล ตามหลักของ การวิจัย และ อริยสัจ ๔
รายชื่ออุทยานแห่งชาติที่ได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 จนถึงปัจจุบัน ได้มีการประกาศราชกิจจานุเบกษาให้พื้นที่ในประเทศไทยเป็นอุทยานแห่งชาติแล้วทั้งสิ้น 131 แห่ง โดยเริ่มตั้งแต่ 18 ก.ย. 2505 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครนายก จนกระทั่งล่าสุด 12 ธ.ค. 2560 อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ จังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน[11]
ประเภทของอุทยานแห่งชาติ
อุทยานแห่งชาติ แบ่งออกเป็น อุทยานแห่งชาติทางทะเล และ อุทยานแห่งชาติทางบก ซึ่งอุทยานแห่งชาติทางบกนั้นจะประกอบไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศวิทยา จุดประสงค์ของการมีอุทยานแห่งชาติก็เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรนั้น ๆ
- อุทยานแห่งชาติทางทะเล ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล, อุทยานแห่งชาติทะเลบัน จังหวัดสตูล, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี, อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา, อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ( หาดในยาง ) จังหวัดภูเก็ต, อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า - หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง, อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จังหวัดตราด, อุทยานแห่งชาติแหลมสน จังหวัดระนอง , จังหวัดพังงา, อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา จังหวัดตรัง , จังหวัดสตูล, อุทยานแห่งชาติเขาลำปี - หาดท้ายเหมือง จังหวัดพังงา, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่, อุทยานแห่งชาติเขาหลัก - ลำรู่ จังหวัดพังงา, อุทยานแห่งชาติหาดวนกร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, อุทยานแห่งชาติธารโบกธรณี จังหวัดกระบี่, อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพร, อุทยานแห่งชาติกระบุรี จังหวัดระนอง, อุทยานแห่งชาติหาดขนอม - หมู่เกาะทะเลใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช , จังหวัดสุราษฎร์ธานี, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพยาม จังหวัดระนอง, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระ-เกาะพระทอง จังหวัดพังงา, อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง จังหวัดนราธิวาส.
- อุทยานแห่งชาติทางบก ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติที่ไม่ได้ระบุทางทะเลและได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว[12]
อุทยานแห่งชาติแบ่งตามภาคของประเทศไทย
กรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้แบ่งอุทยานแห่งชาติตามภาคต่างๆ ของประเทศไทยไว้ 6 ภาคดังนี้[13]
- 1. ภาคเหนือ
- 2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- 3. ภาคตะวันตก
- 4. ภาคตะวันออก
- 5. ภาคกลาง
- 6. ภาคใต้
พรรณไม้และสัตว์ป่าที่สามารถพบเฉพาะถิ่นในอุทยานแห่งชาติแต่ละแห่ง
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมีความโดดเด่น เป็นศูนย์รวมสภาพผืนป่าหลายแบบในบริเวณเดียวกัน คือ ผืนป่าภาคเหนือ ผืนป่าภาคตะวันออก และผืนป่า ภาคใต้ พันธุ์ไม้หายาก เช่น จำปีเพชร Magnolia mediocris (Dandy) Figlar โมลีสยาม Reevesia pubescens Mast. var. siamensis (Craib) Anthony แตงพะเนินทุ่ง และพบ กล้วยไม้รองเท้านารีสายพันธุ์ต่างๆ จำนวนมาก รวมทั้งการค้นพบพืชพันธุ์ใหม่ๆ ที่พบครั้งแรกในโลกอยู่บ่อยครั้ง นอกเหนือไปจากนี้ยังได้มีการสำรวจพบจระเข้น้ำจืด Crocodylus Siamensis ที่ยังมีชีวิตและมีการขยายพันธุ์เพิ่มประชากร อยู่ในธรรมชาติ ซึ่งค้นพบและบันทึกภาพได้โดย แอล. บรู๊ซ แคคูลี นักถ่ายภาพชาวอเมริกัน หลังจากนั้นทางอุทยานจึงได้ปิดการล่องแพบริเวณต้นน้ำดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะไปรบกวนการขยายพันธุ์ของจระเข้ [14] แมวดาว Prionailurus bengalensis หนึ่งในแมวป่าและเสืออย่างน้อย ๖ ชนิดที่มีรายงานการพบในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กระโถนพระราม (Sapria ram Banziger & B. Hansen) สามร้อยต่อใหญ่ Vanilla pilifera Holtum สมเสร็จ Tapirus indicus สัตว์ป่าหายาก มีเอกลักษณ์ตรงลำตัวสีขาวสลับดำ ปลายหูสีขาว จมูกยาวที่เคลื่อนไหวได้ ยังคงพบกระจายอยู่ในหลายบริเวณของป่าแก่งกระจาน[15] พบมากบนสันเขาในที่สูง นกเค้าหน้าผากขาว Otus sagittatus
-
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
-
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
-
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
-
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
-
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
-
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง
-
อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช
พรรณไม้ที่สามารถพบในอุทยานแห่งชาติ
พรรณไม้ในที่นี้หมายถึงป่า โดยในประเทศไทยแบ่งออกเป็น ป่าไม้ในประเทศไทย แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ป่าดงดิบหรือป่าไม้ผลัดใบ (Evergeen forest) และ ป่าผลัดใบ (Deciduous Forest)[16]
ระบบนิเวศน์ของป่าไม้ชนิดที่ประกอบด้วยพันธุ์ไม้ชนิดไม่ผลัดใบคือมีใบเขียวตลอดเวลา หรือป่าดงดิบ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ 1. ป่าดิบเมืองร้อน (Tropical evergreen forest) 2. ป่าสน (Coniferous forest) 3. ป่าพรุหรือป่าบึง (Swamp forest) 4. ป่าชายหาด (Beach forest)
ส่วนระบบนิเวศน์ป่าชนิดที่ประกอบด้วยพันธุ์ไม้ชนิดผลัดใบหรือทิ้งใบเก่าในฤดูแล้ง เพื่อจะแตกใบใหม่เมื่อเข้าฤดูฝน ยกเว้นพืชชั้นล่างจะไม่ผลัดใบ จะพบป่าชนิดนี้ตั้งแต่ระดับความสูง 50-800 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. ป่าเบญจพรรณ 2. ป่าแดง ป่าแพะ หรือป่าเต็งรัง 3. ป่าหญ้า
ในที่นี้ขอแบ่งออกเป็น ไม้บก และไม้น้ำ เพื่อความเข้าใจต่อการศึกษา
- ไม้บก หรือ ต้นไม้ มีตั้งแต่ ต้นไทร, ต้นตะแบก, ต้นสักทอง, ต้นอินทนิล, ต้นคูน, ต้นแดง, ต้นพยอม, ต้นตะเคียน, ต้นยางนา, เฟิร์น, ฯลฯ
-
อาทิตย์อัสดงที่ยอดภูกระดึง
-
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
-
สีสันของพรรณไม้ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
-
พยับหมอก Blue Flower from Phu Langka National Park, Thailand
-
Pink Flower from the road side to Phu Langka National Park, Thailand
-
Orange flower from Phu Langka National Park, Thailand
- ไม้น้ำ มีตั้งแต่ คล้าน้ำช่อตั้ง, คล้าน้ำช่อห้อย ฯลฯ
-
Lotus in National Park, Thailand
- กล้วยไม้ มีตั้งแต่ กล้วยไม้ป่า, รองเท้านารี, เอื้อง ฯลฯ ตัวอย่างเช่น อุทยานแห่งชาติภูแลนคา พบกล้วยไม้หลากหลายชนิด อาทิ พบกล้วยไม้ทั้งหมด 2 วงศ์ย่อย 20 สกุล 34 ชนิด โดยเป็นกล้วยไม้ท่ไม่ทราบ สกุล 2 ชนิด วงศ์ย่อยที่มีจานวนสกุล และชนิดมากที่สุด คือ วงศ์ย่อย Epidendroideae พบ จานวน 17 สกุล 29 ชนิด สกุลที่มีจานวนชนิดมากที่สุดคือ Dendrobium (สกุลหวาย) และBulbophyllum (สกุลสิงโต) พบสกุลละ 5 ชนิด[17] อุทยานแห่งชาติภูกระดึง พบกล้วยไม้ทั้งหมด 2 วงศ์ย่อย 36 สกุล 76 ชนิดได้แก่ Epidendroideae พบ 29 สกุล 63 ชนิด และ Orchidoideae พบ 7 สกุล 13 ชนิดแบ่งเป็น กลว้ยไม้อิงอาศัย 33 ชนิด[18] อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว พบกล้วยไม้จำนวน 56 สกุล 129 ชนิด สกุลที่พบมากที่สุด คือสกุลหวาย (Dendrobium Sw.) มี 30 ชนิด และพบกล้วยไม้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธ์ 8 ชนิด ได้แก่ ผาเวียง (Dendrobium albosanguineum Lindl. ex Paxton) กล้วยส้มสยาม (Didymoplexiella siamensis(Rolfe) Seidenf.) เอื้องคีรีวงศ์ (Didymoplexiopsis khiriwongensis Seidenf.) รองเท้านารีเหลืองปราจีน (Paphiopedilum concolor (Lindl. ex Bateman) Pfitzer) นางอั้ว (Pacteilis susanae (L.) Raf.) ช้างกระ (Rhynchostylis gigantea (Lindl.) Ridl.) สามปอยแพะ (Vanda bensonii Bateman) และเอื้องปากเป็ด (V. pumila Hook.f.)[19]
-
กล้วยไม้ในอุทยานแห่งชาติ
-
กล้วยไม้ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
-
กล้วยไม้ Plant of Thailand
-
Orchid at National Park, Thailand กล้วยไม้ในอุทยานแห่งชาติ
-
กล้วยไม้ Plant of Thailand
-
กล้วยไม้ ในอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่าที่สามารถพบได้ในอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติ ในที่นี้หมายถึง สัตว์ทุกชนิดไม่ว่า สัตว์บก สัตว์น้ำ สัตว์ปีก แมลง หรือแมง ซึ่งโดยภาพธรรมชาติย่อมเกิดและดำรงชีวิตอยู่ในป่าหรือในน้ำและให้หมายความรวมถึงไข่ของสัตว์ป่าเหล่านั้นทุกชนิดด้วย[20]
- สัตว์ป่าที่พบในอุทยาน* สัตว์บก เริ่มตั้งแต่ อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทยคืออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นักท่องเที่ยวสามารถพบ ช้างป่า ระหว่างการเดินทางได้สม่ำเสมอ, นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติแห่งอื่นๆ ยังพบ เสือโคร่ง, กระทิง, แรด, ควายป่า, กระซู่, กรูปรี, สมัน, เนื้อทราย[21] , กระจง, แมวดาว, ไก่ฟ้าพญาลอ, ไก่ฟ้าหลังขาว, ละอง, ละมั่ง[22], หมาไน และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 71 ชนิด ซึ่งได้แก่ ลิงชะนี กวางผา หมี, สมเสร็จ, เลียงผา เสือดำ, เสือดาว, แมวลายหินอ่อน[23]และหมูป่า, กระต่าย, กระรอก พบอยู่ตามทุ่งหญ้ากว้างทั่ว ๆ ไป ฯลฯ
- สัตว์น้ำ เช่น ปลาฉลามวาฬ, ปลาฉลาม, พบวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ 6 ตัว ปรากฏตัวใกล้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนสลับขึ้นมาบนผิวน้ำเพื่อกินปลา[24] , พะยูน อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง[25] , ปลาโลมา, เต่าทะเลต่างๆ, กระเบนราหู, ปลาทะเลต่างๆ, ปลาการ์ตูน, ประการัง, ปลาดาว, ม้าน้ำ, หอยทะเลต่างๆ, ฯลฯ
- สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น จรเข้ , กบชนิดต่างๆ, ปู, เหี้ย
- สัตว์เลื้อยคลาน เช่น งู, งูเห่า, งูจงอาง, งูเหลือม
- สัตว์ปีก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีนกป่ามากมายกว่า 350 ชนิด, อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่นี่มีนกป่ามากกว่า 440 ชนิด, อุทยานแห่งชาติแม่ยม จากงานวิจัยความหลากหลายของชนิดของนกในอุทยานแห่งชาติแม่ยม ทั้ง 7 เส้นทาง ผลการศึกษาพบว่า พบนกทั้งสิ้น 16 อันดับ 53 วงศ์ 114 สกุล 172 ชนิด เป็นนกประจำถิ่น 134 ชนิด นก อพยพ 33 ชนิด นกอพยพผ่าน 3 ชนิด และนกอพยพมาทำรังวางไข่ 2 ชนิด เส้นทางสำรวจที่มีความหลากชนิดของ นกมากที่สุดคือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติหล่มด้ง - จุดชมวิวทะเลหมอก สำรวจพบนก 125 ชนิด ความชุกชุมของนก แบ่งออกเป็น 4 ระดับ มีความชุกชุมมาก 35ชนิด ความชุกชุมปานกลาง 12 ชนิด ความชุกชุมน้อย 38 ชนิด ความชุกชุม น้อยมาก 40 ชนิด ความหนาแน่นของนก มากที่สุด คือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติโป่งนำร้อน, จากการศึกษาความหลากชนิดของนกในอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก โดย Kunsorn(2005)ด้วยวิธีสำรวจ ตามเส้นทางพบนก 177 ชนิด 40 วงศ์[26] , นกเงือก, นกสายพันธ์ต่างๆ เช่น นกยางกรอกพันธุ์ชวา (Ardeola speciosa) และนกกระเต็นน้อยธรรมดา (Alcedo atthis) เป็นต้น นกที่หากินชายทุ่ง เช่น นกเด้าดินสวน (Anthus hodgsoni) และนกเด้าดินทุ่งเล็ก (Anthus rufulus) เป็นต้นนกท่หากินตามป่าโปร่งทั่วไปเช่น นกขุนแผน (Urocissa erythroryncha) และนกตะขาบทุ่ง (Coracias benghalensis) , นกกะรางหัวหงอก (Garrulax leucolophus) และไก่ป่า (Gallus gallus), นกจับแมลงจุกดำ (Hypothymis azurea) และนกแต้วแล้วธรรมดา (Pitta moluccensis), นกขมิ้นหัวดำใหญ่(Oriolusxanthornus)และนกไต่ไม้หน้าผากำมะหย่(Sittafrontalis), นกขุนทอง (Gracula religiosa) และนกขุนแผนอกสีส้ม (Harpactesoreskios)} อุทยานแห่งชาติเขาสก จากรายงานการวิจัยพบว่ามีนก ท้งหมด 145 ชนิด จาก 11 อันดับ 30 วงศ์ วงศ์ท่พบมากท่สุด คือ วงศ์นกปรอด (Family Pycnonotidae) พบจำนวน 15 ชนิด มีชนิดนกท่อยู่ในสถานภาพตามทะเบียนรายการชนิดพันธุ์ท่ถูกคุกคามของประเทศไทย ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ 2 ชนิด สถานภาพมีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ 2 ชนิด และสถานภาพใกล้ถูกคุกคาม 8 ชนิด[27] กระเรียน , นกยูง ฯลฯ
- แมลงหรือแมง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีผีเสื้ออยู่กว่า 189 ชนิด,แมลงปอ, แมลงเต่าทอง, แมงมุม ฯลฯ
-
Dragonfly from Phu Langka National Park, Thailand
-
Insect from Phu Langka National Park, Thailand
-
ผีเสื้อ
-
แมงมุม
-
หนอน
-
หมาใน
-
โขลงช้างป่า
-
โขลงช้างมารวมตัว เพื่อกินโป่ง
-
เคี้ยวเอื้อง
-
ลิงเสนที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
-
นักล่าแห่งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
- ผีเสื้อในอุทยานแห่งชาติ เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีผีเสื้ออยู่กว่า 189 ชนิด
-
ผีเสื้อที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา, Thailand
-
ผีเสื้อที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา
-
Bang Krang Camp
- แมงมุมในอุทยานแห่งชาติ พบความหลากหลายกว่า 500 ชนิด จาก 40,300 ชนิดทั่วโลก[28] เช่น แมงมุมฝาปิดที่อุทยานแห่งชาติแม่วงศ์[29] , แมงมุมแม่หม่ายสีน้ำตาลที่อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่[30]
-
แมงมุมในอุทยานแห่งชาติภูลังกา, Thailand]]
-
Spider from Phu Langka National Park, Thailand
-
Spider from Phu Langka National Park, Thailand
-
แมงมุมในอุทยานแห่งชาติ
- แมลงปอในอุทยานแห่งชาติ
-
Dragonfly from Phu Langka National Park, Thailand
-
Look at Dragonfly in the national park in Thailand
ความสวยงามของพระอาทิตย์ตกจากอุทยานแห่งชาติต่างๆ
-
พระอาทิตย์ตกที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา
-
พระอาทิตย์ตกที่ Phu Suansai national park, Thailand
-
Sunset at Phu Suansai national park, Thailand
-
Sunset at Phu Suansai National park, Thailand
-
Sunset at Phu Suansai national park, Thailand
-
Sunset by Peak Hora Photographer
-
พระอาทิตย์ตก
-
อาทิตย์ตกยามเย็น
อุทยานแห่งชาติที่สำคัญของโลก
อุทยานแห่งชาติที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนปีละจำนวนมาก สิบอันดับที่ถูกจัดให้เป็นอุทยานแห่งชาติยอดนิยม[31] คือ
- 1. อุทยานแห่งชาติ Corcovado National Park ที่ประเทศ (Costa Rica)
- 2. อุทยานแห่งชาติ Galapagos National Park ที่ประเทศ (Ecuador)
- 3. อุทยานแห่งชาติ Grand Canyon National Park ที่ประเทศ (USA)
- 4. อุทยานแห่งชาติ Great Barrier Reef National Park ที่ประเทศ (Australia)
- 5. อุทยานแห่งชาติ Jim Corbett National Park ที่ประเทศ (India)
- 6. อุทยานแห่งชาติ Kruger National Park ที่ประเทศ (South Africa)
- 7. อุทยานแห่งชาติ Manú National Park ที่ประเทศ (Peru)
- 8. อุทยานแห่งชาติ Tarangire National Park ที่ประเทศ (Tanzania)
- 9. อุทยานแห่งชาติ Tikal National Park ที่ประเทศ (Guatemala)
- 10. อุทยานแห่งชาติ Torres del Paine National Park ที่ประเทศ (Chile)
ความหมายของอุทยานแห่งชาติ
อุทยานแห่งชาติ ตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า "national park" ซึ่งหมายถึง เขตบริเวณพื้นที่ซึ่งสงวน ไว้เพื่อที่จะรักษา และทำการคุ้มครอง ทรัยากรทางธรรมชาติ นั้นๆ ให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาติเดิมมิให้ถูกทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงไป ตามหลักสากลแล้ว อุทยานแห่งชาตินั้นจะต้องมีพื้นที่ ทั่วทั้งบริเวณไม่น้อยกว่า 6,250 ไร่ หรือประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร ที่สำคัญในพื้นที่ ของอุทยานแห่งชาตินั้นจะต้องมี ธรรมชาติของ วิวทิวทัศน์ ที่สวยงาม
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- http://portal.dnp.go.th
- http://e-directory.mnre.go.th/detail/1/
- https://www.gotoknow.org/posts/625137
- http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=1173
- https://th.wikipedia.org/wiki/อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
- ↑ http://www.th.undp.org/content/dam/thailand/docs/PAC_book.pdf
- ↑ http://www.royin.go.th/dictionary/
- ↑ http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=1169
- ↑ http://portal.dnp.go.th/DNP/FileSystem/download?uuid=6c63799b-f8c5-4dc9-a153-5443f8b4debd.pdf
- ↑ http://portal.dnp.go.th/DNP/FileSystem/download?uuid=6c63799b-f8c5-4dc9-a153-5443f8b4debd.pdf
- ↑ http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=3855
- ↑ https://th.wikipedia.org/wiki/อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
- ↑ http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=1173
- ↑ http://www.th.undp.org/content/dam/thailand/docs/PAC_book.pdf
- ↑ http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=1173
- ↑ http://portal.dnp.go.th/DNP/FileSystem/download?uuid=6c63799b-f8c5-4dc9-a153-5443f8b4debd.pdf
- ↑ https://en.wikipedia.org/wiki/Category:National_parks_of_Thailand
- ↑ http://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=5520
- ↑ ดันป่า ‘แก่งกระจาน’ มรดกโลก http://www.raorakpar.org/raorakparboard/index.php?topic=40.0
- ↑ กลุ่มป่าแก่งกระจาน กับการผลักดันสู่การเป็นมรดกโลก http://samarn.multiply.com/journal/item/73
- ↑ https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet6/envi2/subtiger/subt.htm
- ↑ http://www.edu.nrru.ac.th/edkorat/wp-content/uploads/2016/08/การศึกษาชนิดของกล้วยไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา-จังหวัดชัยภูมิ.pdf
- ↑ http://www.chulapedia.chula.ac.th/images/7/73/Kora_1.pdf
- ↑ http://www.qsbg.or.th/bot/pdf/article/article-Y2552-V38-N38-23-12-2010-9-48-412.pdf
- ↑ https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet6/envi2/subtiger/subt.htm
- ↑ http://www.dnp.go.th/wildlifednp/index.php?option=com_content&view=article&id=13&Itemid=3
- ↑ https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000072414
- ↑ https://workpointnews.com/2018/03/05/พบสัตว์ป่าหายาก-อาทิ-เสื/
- ↑ https://news.thaipbs.or.th/content/272209
- ↑ https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_572912
- ↑ http://frc.forest.ku.ac.th/frcdatabase/bulletin/fforjournal/20180320_103753.pdf
- ↑ http://dspace.spu.ac.th/bitstream/123456789/1128/1/ธีรพล%20ทองเพชร.pdf
- ↑ https://www.thairath.co.th/content/337832
- ↑ https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_670462
- ↑ http://www.tnews.co.th/contents/454135
- ↑ https://discovercorps.com/blog/top-10-national-parks-in-the-world/