ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศีล"
→ดูเพิ่ม: มีในบทความแล้ว |
ล เปลี่ยนไปใช้เลขอารบิก |
||
บรรทัด 2: | บรรทัด 2: | ||
{{พุทธศาสนา}} |
{{พุทธศาสนา}} |
||
'''ศีล''' แปลได้หลายความหมาย ซึ่งในอรรถกถา นิยมให้ความหมายว่า สีลนะ แล้วให้คำจำกัดความของคำว่า สีลนะ ไว้ |
'''ศีล''' แปลได้หลายความหมาย ซึ่งในอรรถกถา นิยมให้ความหมายว่า สีลนะ แล้วให้คำจำกัดความของคำว่า สีลนะ ไว้ 2 ข้อหลัก คือ |
||
# '''สมาทานํ''' - การสำรวมกายวาจาไว้เรียบร้อยดี |
# '''สมาทานํ''' - การสำรวมกายวาจาไว้เรียบร้อยดี |
||
# '''อุปธารณํ''' - รองรับการทำบุญชั้นสูงกว่าศีลขึ้นไป ได้แก่ รองรับการรักษาธุดงค์ การทำสมาธิ การทำวิปัสสนา. |
# '''อุปธารณํ''' - รองรับการทำบุญชั้นสูงกว่าศีลขึ้นไป ได้แก่ รองรับการรักษาธุดงค์ การทำสมาธิ การทำวิปัสสนา. |
||
บรรทัด 9: | บรรทัด 9: | ||
'''ศีล'''ในทางพระพุทธศาสนามี่อยู่หลายอย่างด้วยกัน. |
'''ศีล'''ในทางพระพุทธศาสนามี่อยู่หลายอย่างด้วยกัน. |
||
# [[ปัญจศีล]] (ศีล |
# [[ปัญจศีล]] (ศีล 5) หรือเรียกว่านิจจศีล (คือถือเนื่องนิจจ์) |
||
# [[อาชีวัฏฐมกศีล]] (ศีลกุศลกรรมบท |
# [[อาชีวัฏฐมกศีล]] (ศีลกุศลกรรมบท 10) หรือเรียกว่าอาทิพรหมจริยาศีล (หรือเรียกอีกอย่างว่า นวศีล) |
||
# [[อัฏฐศีล]] (ศีล |
# [[อัฏฐศีล]] (ศีล 8) หรือเรียกว่าอุโบสถศีล (ศีลอุโบสถ) |
||
# [[ทสศีล]] (ศีล |
# [[ทสศีล]] (ศีล 10) |
||
# [[ภิกษุณีวินัย]] (ศีล |
# [[ภิกษุณีวินัย]] (ศีล 311) |
||
# [[ภิกษุวินัย]] (ศีล |
# [[ภิกษุวินัย]] (ศีล 227) |
||
ศีล แบ่งเป็น |
ศีล แบ่งเป็น 3 ระดับ คือจุลศีล (ศีลอย่างน้อย) ได้แก่ คหัฏฐศีลทั้ง 2 คือ ศีล5 และอาชีวัฏฐมกศีล มัชฌิมศีล (ศีลอย่างกลาง) ได้แก่ บรรพชาศีลทั้ง 2 คือได้แก่อัฏฐศีล และทสศีล มหาศีล (ศิลอย่างสูง) ได้แก่ อุปสมบททั้ง2 คือ ภิกษุณีวินัย และภิกษุวินัย |
||
'''ศีล''' คือ หลักในการปฏิบัติเพื่อที่จะให้ผู้ปฏิบัติมีกาย วาจา ใจ เป็นอิสระ จากเครื่องเหนี่ยวรั้งทั้งปวง และปกป้องตัวเองจากความเสื่อมทั้งหลาย และพ้นจากกรรมชั่ว ที่จะกลับมาสนองกับผู้ที่ไม่ปฏิบัติในศีล |
'''ศีล''' คือ หลักในการปฏิบัติเพื่อที่จะให้ผู้ปฏิบัติมีกาย วาจา ใจ เป็นอิสระ จากเครื่องเหนี่ยวรั้งทั้งปวง และปกป้องตัวเองจากความเสื่อมทั้งหลาย และพ้นจากกรรมชั่ว ที่จะกลับมาสนองกับผู้ที่ไม่ปฏิบัติในศีล |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:54, 17 กรกฎาคม 2552
ส่วนหนึ่งของชุดบทความ |
ศาสนาพุทธ |
---|
ศีล แปลได้หลายความหมาย ซึ่งในอรรถกถา นิยมให้ความหมายว่า สีลนะ แล้วให้คำจำกัดความของคำว่า สีลนะ ไว้ 2 ข้อหลัก คือ
- สมาทานํ - การสำรวมกายวาจาไว้เรียบร้อยดี
- อุปธารณํ - รองรับการทำบุญชั้นสูงกว่าศีลขึ้นไป ได้แก่ รองรับการรักษาธุดงค์ การทำสมาธิ การทำวิปัสสนา.
กล่าวโดยสรุป ศีล จึงหมายถึง ความประพฤติดีทางกายและวาจา, การรักษากายและวาจาให้เรียบร้อย, ข้อปฏิบัติสำหรับควบคุมกายและวาจา ให้ตั้งอยู่ในความดีงาม, การรักษาปกติตามระเบียบวินัย, ปกติมารยาทที่สะอาดปราศจากโทษ, ข้อปฏิบัติในการเว้นจากความชั่ว, ข้อปฏิบัติในการฝึกหัดกายวาจาให้ดียิ่งขึ้น, ความสุจริตทางกายวาจาและอาชีพ; และยังมักใช้เป็นคำเรียกอย่างง่ายสำหรับคำว่า "อธิศีลสิกขา" ด้วย.
ศีลในทางพระพุทธศาสนามี่อยู่หลายอย่างด้วยกัน.
- ปัญจศีล (ศีล 5) หรือเรียกว่านิจจศีล (คือถือเนื่องนิจจ์)
- อาชีวัฏฐมกศีล (ศีลกุศลกรรมบท 10) หรือเรียกว่าอาทิพรหมจริยาศีล (หรือเรียกอีกอย่างว่า นวศีล)
- อัฏฐศีล (ศีล 8) หรือเรียกว่าอุโบสถศีล (ศีลอุโบสถ)
- ทสศีล (ศีล 10)
- ภิกษุณีวินัย (ศีล 311)
- ภิกษุวินัย (ศีล 227)
ศีล แบ่งเป็น 3 ระดับ คือจุลศีล (ศีลอย่างน้อย) ได้แก่ คหัฏฐศีลทั้ง 2 คือ ศีล5 และอาชีวัฏฐมกศีล มัชฌิมศีล (ศีลอย่างกลาง) ได้แก่ บรรพชาศีลทั้ง 2 คือได้แก่อัฏฐศีล และทสศีล มหาศีล (ศิลอย่างสูง) ได้แก่ อุปสมบททั้ง2 คือ ภิกษุณีวินัย และภิกษุวินัย
ศีล คือ หลักในการปฏิบัติเพื่อที่จะให้ผู้ปฏิบัติมีกาย วาจา ใจ เป็นอิสระ จากเครื่องเหนี่ยวรั้งทั้งปวง และปกป้องตัวเองจากความเสื่อมทั้งหลาย และพ้นจากกรรมชั่ว ที่จะกลับมาสนองกับผู้ที่ไม่ปฏิบัติในศีล
อานิสงส์ของการรักษาศีลแต่ละชั้นย่อมแตกต่างกันไป ตอนนี้ขอกล่าวถึงอานิสงส์กว้างๆ จากการรักษาศีล คือ ทำให้กาย วาจา ใจ สงบไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ทำให้สามารถที่จะทำให้จิตสงบได้ง่ายในการทำสมาธิ
อ้างอิง
- พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). "พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์".