สาธร ยูนีค ทาวเวอร์
สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ | |
---|---|
![]() | |
ข้อมูลทั่วไป | |
ที่ตั้ง | ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร |
สถานะ | ปิดถาวร |
ก่อสร้าง | พ.ศ. 2533 |
การใช้งาน | คอนโดมีเนียม |
ความสูง | |
ชั้นสูงสุด | 185 เมตร[1] |
รายละเอียด | |
จำนวนชั้น | 49 (รวมชั้นใต้ดินสองชั้น) |
มูลค่า | ราคาประเมินปัจจุบันราว 3,000 ล้านบาท[2] |
บริษัท | |
สถาปนิก | รังสรรค์ ต่อสุวรรณ |
ผู้พัฒนา | บริษัท สาธร ยูนีค จำกัด |
สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ (อังกฤษ: Sathorn Unique Tower) เป็นตึกระฟ้าที่ยังสร้างไม่เสร็จ บนถนนเจริญกรุง ในพื้นที่แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร อาคารนี้ซึ่งวางแผนไว้ว่าเป็นโครงการอาคารชุดสูง ต้องหยุดชะงักลงในระหว่างวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 โดยในขณะนั้นก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 80% ปัจจุบันอาคารสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ ถือเป็นอาคารร้างที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร และกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักสำรวจเมือง
ประวัติ
[แก้]โครงการสาธร ยูนีค ถูกวางแผนให้เป็นอาคารชุดสุดหรูขนาด 47 ชั้น จำนวน 600 ยูนิต อาคารนี้ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้ออกแบบอาคารในเครือเดียวกับสาธร ยูนีคคือสเตท ทาวเวอร์อีกด้วย โครงการก่อสร้างนั้นเริ่มต้นขึ้นในปีพ.ศ. 2533 มีเจ้าของโครงการคือบริษัท สาธร ยูนีค จำกัด และได้รับการสนับสนุนเงินทุนส่วนมากจากบริษัทหลักทรัพย์ไทยเม็กซ์ การก่อสร้างได้เริ่มต้นขึ้นปีเดียวกัน โดยมี บริษัท สี่พระยาก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง[3]
ในปี พ.ศ. 2536 ผศ.รังสรรค์ ถูกจับกุมในข้อหาร่วมกันวางแผนลอบฆาตกรรมนายประมาณ ชันซื่อ ประธานศาลฎีกาในขณะนั้น แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากมือปืนถูกจับกุมได้ก่อน โดยในปี พ.ศ. 2551 ผศ.รังสรรค์ ได้ถูกพิพากษาว่ามีความผิด แต่สุดท้ายศาลอาญากรุงเทพใต้ก็ได้ทำการยกฟ้องในปีพ.ศ. 2553 คดีความดังกล่าวนี้ได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการรักษาเงินสนับสนุนโครงการของ ผศ.รังสรรค์ เป็นอย่างมาก และการก่อสร้างอาคารสาธร ยูนีค ก็เผชิญกับปัญหาความล่าช้าหลายครั้งเนื่องจากขาดแคลนเงินทุน[4][5]
จนกระทั่งเมื่อเกิดวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 ตลาดอสังหาริมทรัพย์เกิดการล้มละลาย เช่นเดียวกันกับบริษัทไฟแนนซ์ต่าง ๆ ที่ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการซึ่งก็ประสบปัญหาหนี้สิน โครงการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครต่างพากันหยุดชะงัก โดยมีอาคารหรูกว่า 300 แห่งที่ถูกทิ้งร้าง แต่อาคารส่วนมากได้สร้างเสร็จสมบูรณ์ในภายหลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัว (อาคารสเตท ทาวเวอร์ ก็ถือเป็นหนึ่งในอาคารดังกล่าว) แต่อย่างไรก็ตาม อาคารสาธร ยูนีค กลับถูกทิ้งร้างไว้ในสภาพเดิมนับแต่นั้นจนเป็นที่รู้จักกันในหมู่ของนักท่องเที่ยวต่างชาติในชื่อของ "Ghost Tower" แม้ว่าจะมีความพยายามในเรื่องการตกลงในเรื่องการซื้อขายและการรีไฟแนนซ์อยู่หลายครั้งโดยนายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ บุตรชายของผศ.รังสรรค์ที่เข้ามารับช่วงต่อจากบิดา[3][5][6] แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากนายพรรษิษฐ์ต้องการที่จะขายอาคารในราคาที่จะสามารถชดเชยเงินต้นให้ผู้ร่วมลงทุนในโครงการ[7]
ความพยายามขายอาคาร
[แก้]หลังจากเกิดเหตุอาคารสำนักงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างพังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศพม่าที่ส่งผลกระทบถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรฐานการก่อสร้างทั้งอาคารสำนักงานที่พังถล่มดังกล่าวรวมถึงตึกระฟ้าแห่งอื่น ๆ ที่เกิดรอยร้าวหรือสั่นไหว และนำมาเปรียบเทียบกับอาคารสาธร ยูนีค ที่แม้ถูกทิ้งร้างแต่กลับไม่มีโครงสร้างที่ได้รับความเสียหายมากนัก[8]
วันถัดมา (29 มีนาคม) มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์โพสต์ประกาศขายอาคารสาธร ยูนีค โดยตั้งราคาเริ่มต้นที่ 4,000 ล้านบาท[9] และ 4 วันหลังจากนั้น (2 เมษายน) ผู้ใช้ดังกล่าวกลับระบุว่าตึกดังกล่าวถูกขายออกเรียบร้อยแล้ว[10] อย่างไรก็ตาม บรรจง ชีวมงคลกานต์ ผู้ประกาศข่าวช่องเวิร์คพอยท์ ระบุในเวลาต่อมาว่าผู้ใช้ดังกล่าวมีพิรุธเนื่องจากลบโพสต์ดังกล่าวและปิดบัญชีเฟซบุ๊กของตนอย่างรวดเร็วหลังจากเป็นประเด็นเกิดขึ้น และมีผู้เล่าเพิ่มว่า ผศ.รังสรรค์ ไม่ได้ขายอาคารสาธร ยูนีค และกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง[11] ในที่สุด ในวันเดียวกัน ตามโพธ ต่อสุวรรณ บุตรชายของ ผศ.รังสรรค์ ได้ระบุว่าบิดาของตนมิได้ประกาศขายอาคารสาธร ยูนีค ตามที่นายหน้ารายดังกล่าวโพสต์ไว้แต่อย่างใด เนื่องจากมีข้อพิพาทและคดีความเป็นจำนวนมากที่ต่อเนื่องมาจากวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 และเชื่อว่าบิดาจะดำเนินคดีดังกล่าวทั้งหมดต่อไปจนกว่าบิดาจะเสียชีวิต[12]
ตัวอาคาร
[แก้]สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ ตั้งอยู่ในเขตสาทร ตัวอาคารใกล้กันกับถนนเจริญกรุง ซึ่งอยู่ระหว่างซอย 51 กับ 53 เยื้องกับวัดยานนาวา โดยเป็นบริเวณที่ใกล้กับจุดสิ้นสุดของถนนสาทรใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีสะพานตากสิน ในเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม ตัวอาคารได้รับการออกแบบให้มีทั้งหมด 49 ชั้น (รวมชั้นใต้ดินสองชั้น) มีพื้นที่รวม 2 ไร่ เชื่อมติดกับอาคารที่จอดรถสูงสิบชั้น ในการออกแบบนั้น ผศ.รังสรรค์เป็นที่รู้จักจากรูปแบบการออกแบบอาคารที่มักจะใช้ โดยอาคารแห่งนี้ได้เลือกใช้องค์ประกอบของความเป็นศิลปะกรีก-โรมันสมัยใหม่เหมือนกับตึกสเตท ทาวเวอร์ โดยเฉพาะในส่วนของเสาและระเบียง ก่อนที่การก่อสร้างทั้งหมดจะหยุดชะงักลง การก่อสร้างได้เสร็จสิ้นไปกว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์ ตัวโครงสร้างหลักของอาคารที่เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยและได้รับการยืนยันในเรื่องความปลอดภัยแข็งแรงของโครงสร้างแล้ว อย่างไรก็ตาม งานออกแบบภายในและการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานนั้นเพิ่งจะเริ่มต้นไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และงานส่วนกำแพงและรายละเอียดต่างๆเองก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชั้นบนของอาคาร[13]
อาคารแห่งนี้ได้กลายมาเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความท้าทาย และยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย แม้จะมีการปิดไม่ให้บุคคลใดเข้าถึงตัวอาคาร แต่ก็มีรายงานว่าผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปในตัวอาคารได้ด้วยการให้สินบนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยใต้อาคาร และในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557 อาคารแห่งนี้กลับมาเป็นที่พูดถึงกันอีกครั้งหลังจากที่มีการพบศพชายชาวสวีเดนในสภาพแขวนคอ เสียชีวิตบนชั้นที่ 43 โดยสาเหตุการเสียชีวิตนั้นได้มีการยืนยันว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ซึ่งทางสำนักข่าวหลายแห่งก็ได้มีการตั้งข้อสงสัยถึงความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยของอาคารแห่งนี้
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 นายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ ซึ่งได้เข้ามาเป็นหนึ่งสมาชิกบอร์ดบริหารของบริษัท สาทร ยูนีค จำกัด ได้เปิดเผยว่าได้ทำการแจ้งความข้อหาบุกรุกอาคารสถานที่แก่บุคคลทั้งหมด 5 คน ที่ได้โพสต์รูปและคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการเข้ามาในอาคารลงบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งในจำนวนนี้ยังรวมไปถึงชาวต่างชาติสองคนที่ได้ทำวิดีโอที่พวกเขาแสดงการวิ่งฟรีรันนิ่งบนตึกแห่งนี้[14][15] นายพรรษิษฐ์ได้กล่าว่าเขาต้องการให้การแจ้งความครั้งนี้เป็นตัวอย่างและหยุดยั้งคนที่จะเข้ามาปีนป่ายบนตึกที่มีความอันตราย เขาได้ระบุเพิ่มว่าจำนวนผู้เข้ามาในตัวอาคารอย่างผิดกฎหมายนั้นเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีการเผยแพร่เรื่องอาคารแห่งนี้ในโลกออนไลน์กันมากขึ้น โดยในบางสัปดาห์นั้นมีผู้เข้าไปยังตัวอาคารมากกว่าหนึ่งร้อยคน ซึ่งตนก็ไม่สามารถห้ามไม่ให้ยามรับสินบนจากผู้เข้าชมตึกได้เนื่องจากไม่สามารถเฝ้าตึกด้วยตัวเองตลอดทั้งวัน[16]
อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2560 นายพรรษิษฐ์ได้อนุญาตให้มิวเซียมสยามจัดการสัมมนาที่ตัวอาคาร ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการระลึก 20 ปีของวิกฤติเศรษฐกิจ[17] นอกจากนี้ยังอนุมัติให้จีดีเอชใช้ตึกนี้เป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง เพื่อน..ที่ระลึก อีกด้วย[18]
นักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะรู้จักและเรียกชื่ออาคารแห่งนี้กันว่า "Ghost Tower" และเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความท้าทายและต้องการถ่ายภาพมุมสูง[19]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Sathorn Unique Tower". Emporis. สืบค้นเมื่อ 24 March 2015.
- ↑ ข่าวดังข้ามเวลา : Ghost Tower ระทึกตึกร้างในตำนาน [คลิปเต็มรายการ], สำนักข่าวไทย TNAMCOT .วันที่ 7 ม.ค. 2019
- ↑ 3.0 3.1 "ระบุสาธรยูนิคใกล้ได้ข้อสรุป เผยเจรจาหนี้เสร็จ-นักลงทุนสนซื้อเพียบ". Manager Online. 25 February 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-05. สืบค้นเมื่อ 24 March 2015.
- ↑ Waites, Dan (2014). CultureShock! Bangkok. Marshall Cavendish International Asia Pte Ltd. ISBN 9789814516938.
- ↑ 5.0 5.1 "รังสรรค์ 70 ปี ไม่มีวันสาย พ่อผม ยังฝันจะทำโครงการที่สูงที่สุดในประเทศ". Prachachat Turakij Online. No. 22 September 2010. สืบค้นเมื่อ 24 March 2015.
- ↑ Barta, Patrick (27 July 2007). "High-Rise Relics: Ghost Structures Haunt Bangkok". The Wall Street Journal. สืบค้นเมื่อ 24 March 2015.
- ↑ "เปิดใจเจ้าของตึกร้างระฟ้า 'สาธรยูนีค' อนุสรณ์ 20 ปี วิกฤติต้มยำกุ้ง". Thairath Online. 1 March 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-17. สืบค้นเมื่อ 2 August 2017.
- ↑ "รู้จัก 'ตึกสาทรยูนีค' แข็งแรงยืนหนึ่ง สร้างไม่เสร็จแต่ยังทนทุกดรามา". ทีเอ็นเอ็น. 29 มีนาคม 2025. สืบค้นเมื่อ 29 มีนาคม 2025.
- ↑ "ประกาศขาย 4 พันล้าน สาทร ยูนีค ทาวเวอร์ ตึกร้างกลางกรุง". อมรินทร์ทีวี. 29 มีนาคม 2025. สืบค้นเมื่อ 29 มีนาคม 2025.
- ↑ "ปิดการขายแล้วจ้า! "สาธร ยูนีค" 4 พันล้านขายได้แล้ว เผยคนไทยซื้อเปิดตัวทุกคนรู้จักหมด". เดลินิวส์. 2 เมษายน 2025. สืบค้นเมื่อ 2 เมษายน 2025.
- ↑ ""เฮียบรรจง" จับพิรุธนายหน้าโพสต์ขายตึกสาธร ยูนีค หลังล่าสุดลบโพสต์ทิ้งแล้ว". ผู้จัดการออนไลน์. 2 เมษายน 2025. สืบค้นเมื่อ 2 เมษายน 2025.
- ↑ "ลูกเจ้าของตึกยันเอง ไม่ได้ขาย สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด". ข่าวสด. 2 เมษายน 2025. สืบค้นเมื่อ 2 เมษายน 2025.
- ↑ "ตึกร้างพันล้าน สาธร ยูนีค EP.1 สร้างต่อ-รื้อทิ้ง!? ไขปมโอกาสพังถล่ม". Thairath Online. 10 December 2014. สืบค้นเมื่อ 24 March 2015.
- ↑ Campbell-Dollaghan, Kelsey (13 February 2014). "Inside Bangkok's Abandoned, Half-Finished Ghost Tower". Gizmodo. สืบค้นเมื่อ 24 March 2015.
- ↑ Kang, Dake (1 March 2017). "Ghost Tower haunts Bangkok 20 years after financial crisis". AP. สืบค้นเมื่อ 2 August 2017.
- ↑ "Man's death puts spotlight on access to 'ghost tower'". The Nation. 8 December 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-28. สืบค้นเมื่อ 24 March 2015.
- ↑ "พลิกวิกฤตเป็นโอกาส! เสวนา "สูตรไม่สำเร็จ เศรษฐกิจ 2540"". Museum Siam. National Discovery Museum Institute. 16 February 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-03. สืบค้นเมื่อ 2 August 2017.
- ↑ ที่ระลึก ปี 40 (YouTube video). GDH 559. 1 August 2017. สืบค้นเมื่อ 2 August 2017.
- ↑ "ตึกร้างพันล้าน สาธร ยูนีค EP.3 ไขรหัสปรับฮวงจุ้ย เสริมบารมี ฟื้นที่ดินทำเลทอง". Thairath Online. 12 December 2014. สืบค้นเมื่อ 24 March 2015.