ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สี จิ้นผิง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tinn1232 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ผู้นำประเทศ
| name = สี จิ้นผิง <br> 习近平
| image = Xi Jinping 2016.jpg
| imagesize = 230px
| order = [[รายนามประธานาธิบดีจีน|ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน]]
| term_start = [[15 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2556]]
| term_end =
| predecessor = [[หู จิ่นเทา]]
| successor =
| primeminister = [[หลี่ เค่อเฉียง]]
| order2 = [[คณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง (จีน)|ประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง<br>แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน]]
| term_start2 = [[15 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2556]]
| term_end2 =
| predecessor2 = [[หู จิ่นเทา]]
| successor2 =
| order3 = [[เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน|เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์<br>แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน]]
| term_start3 = 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
| term_end3 =
| predecessor3 = [[หู จิ่นเทา]]
| successor3 =
| order4 = [[คณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง (จีน)|ประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง<br>แห่งพรรคคอมมิวนิสต์]]
| term_start4 = 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
| term_end4 =
| predecessor4 = [[หู จิ่นเทา]]
| successor4 =
| order5 = รองประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
| term_start5 = 27 ตุลาคม พ.ศ. 2551
| term_end5 = 14 มีนาคม พ.ศ. 2556
| president5 = [[หู จิ่นเทา]]
| predecessor5 = [[เจิง ชิ่งหลง]]
| successor5 = [[หลี่ หยวนเฉา]]
| birth_date = {{วันเกิดและอายุ|2496|6|15}}
| birth_place = [[กรุงปักกิ่ง]] [[ประเทศจีน]] {{flagicon|CHN}}
| death_date =
| death_place =
| party = [[พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน]]
| spouse =[[เผิง ลี่หยวน]]
| religion =
| alma_mater = [[มหาวิทยาลัยชิงหัว]]
| signature =
| footnotes =
|}}
{{Chinese|title=สี จิ้นผิง|s=习近平|t=習近平|y=jaahp káhn pìhng|p=Xí Jìnpíng|mi={{IPAc-cmn|x|i|2|-|j|in|4|p|ing|2}}|order=st}}

'''สี จิ้นผิง''' ({{zh-all|s=习近平|t=習近平|p=Xí Jìnpíng}}; เกิด 15 มิถุนายน พ.ศ. 2496) เป็นผู้นำสูงสุดแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนคนปัจจุบัน ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง[[เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน]], ประธานาธิบดี, ประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง, อธิการบดีโรงเรียนพรรคกลาง (Central Party School) สมาชิกคนแรกของคณะกรมการเมืองถาวรแห่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ซึ่งเป็นองค์กรบริหารอำนาจสูงสุดโดยพฤตินัยของจีน<ref>BBC News (2012). [http://www.bbc.co.uk/news/world-asia-china-20322288 China confirms leadership change]. Retrieved 17 November 2012.</ref> ปัจจุบัน เขาดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกระดับสูงสุดของสำนักงานเลขาธิการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน<ref>{{cite web|url=http://www.forbes.com/profile/xi-jinping/ |title=Xi Jinping - First Secretary of the Secretariat of the Communist Party, ''People'''s Republic of China |work=Forbes |date=2012-04-18 |accessdate=2012-11-16}}</ref>

เขาเป็นหัวหน้าของคณะผู้นำจีนรุ่นที่ห้าของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและเป็นผู้นำจีนคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เกิดหลังการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างแท้จริง<ref>{{cite web|url=http://www.giga-hamburg.de/dl/download.php?d=/content/ias/archiv/cds/cds_0905.pdf |title=deckblatt-ca-data sup-form.pdf |format=PDF |accessdate=20 October 2010}}</ref><ref>http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9550000120157</ref> มีท่าทีแข็งกร้าวต่อการฉ้อราษฎร์บังหลวงและความเปิดเผยเกี่ยวกับการปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจแบบตลาด<ref name=NWK01>{{cite web|first=Jonathan|last=Ansfield|date=22 December 2007 |url=http://www.newsweek.com/id/81558 |title=Xi Jinping: China’s New Boss And The ‘L’ Word |work=Newsweek |accessdate=20 October 2010}}</ref>

==ประวัติ==
==ประวัติ==
สี จิ้นผิง เป็นบุตรของ สี จงชุน อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน ผู้ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของประธาน [[เหมา เจ๋อตง]] แต่ก่อน[[การปฏิวัติวัฒนธรรม]]ไม่นาน จงชุนก็ถูกปรับลดตำแหน่งลงเป็นเพียงกรรมกร เนื่องจากเป็นผู้อนุมัติให้มีการตีพิมพ์หนังสือที่วิจารณ์ประธานเหมา ครอบครัวสีก็เข้าสู่ความทุกข์ยาก และเนื่องจากประวัติที่ด่างพร้อยของบิดาทำให้เขาเป็นนักเรียนที่มักถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอ พี่สาวของสีก็ถูกกลั่นแกล้งเช่นกัน ด้วยความทุกข์หลายประการสุดท้ายเธอก็ฆ่าตัวตาย<ref name = "NYT"/> และแล้ว สี จิ้นผิง ก็กลายเป็นหนึ่งใน 29,000 ปัญญาชนชุดแรกที่ถูกกวาดต้อนไปเข้ารับการศึกษา ใช้ชีวิตเรียนรู้การทำไร่ทำนาและปศุสัตว์ พำนักอยู่ในถ้ำที่เหลียงเจี่ยเหอ หมู่บ้านเล็ก ๆ ทางเหนือของ[[มณฑลชานซี]]ในปี พ.ศ. 2512<ref name = "NYT"/> ถึงกระนั้น เขามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาก สี จิ้นผิง ซึ่งยังคงอาศัยอยู่ในถ้ำ ได้เขียนจดหมายสมัครเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะถูกปฏิเสธมาตลอด แต่ในที่สุด หลังจากความพยายามหลายครั้ง เขาก็ได้เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ <ref name = "NYT"/>
สี จิ้นผิง เป็นบุตรของ สี จงชุน อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน ผู้ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของประธาน [[เหมา เจ๋อตง]] แต่ก่อน[[การปฏิวัติวัฒนธรรม]]ไม่นาน จงชุนก็ถูกปรับลดตำแหน่งลงเป็นเพียงกรรมกร เนื่องจากเป็นผู้อนุมัติให้มีการตีพิมพ์หนังสือที่วิจารณ์ประธานเหมา ครอบครัวสีก็เข้าสู่ความทุกข์ยาก และเนื่องจากประวัติที่ด่างพร้อยของบิดาทำให้เขาเป็นนักเรียนที่มักถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอ พี่สาวของสีก็ถูกกลั่นแกล้งเช่นกัน ด้วยความทุกข์หลายประการสุดท้ายเธอก็ฆ่าตัวตาย<ref name = "NYT"/> และแล้ว สี จิ้นผิง ก็กลายเป็นหนึ่งใน 29,000 ปัญญาชนชุดแรกที่ถูกกวาดต้อนไปเข้ารับการศึกษา ใช้ชีวิตเรียนรู้การทำไร่ทำนาและปศุสัตว์ พำนักอยู่ในถ้ำที่เหลียงเจี่ยเหอ หมู่บ้านเล็ก ๆ ทางเหนือของ[[มณฑลชานซี]]ในปี พ.ศ. 2512<ref name = "NYT"/> ถึงกระนั้น เขามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาก สี จิ้นผิง ซึ่งยังคงอาศัยอยู่ในถ้ำ ได้เขียนจดหมายสมัครเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะถูกปฏิเสธมาตลอด แต่ในที่สุด หลังจากความพยายามหลายครั้ง เขาก็ได้เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ <ref name = "NYT"/>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:10, 25 กุมภาพันธ์ 2561

ประวัติ

สี จิ้นผิง เป็นบุตรของ สี จงชุน อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน ผู้ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของประธาน เหมา เจ๋อตง แต่ก่อนการปฏิวัติวัฒนธรรมไม่นาน จงชุนก็ถูกปรับลดตำแหน่งลงเป็นเพียงกรรมกร เนื่องจากเป็นผู้อนุมัติให้มีการตีพิมพ์หนังสือที่วิจารณ์ประธานเหมา ครอบครัวสีก็เข้าสู่ความทุกข์ยาก และเนื่องจากประวัติที่ด่างพร้อยของบิดาทำให้เขาเป็นนักเรียนที่มักถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอ พี่สาวของสีก็ถูกกลั่นแกล้งเช่นกัน ด้วยความทุกข์หลายประการสุดท้ายเธอก็ฆ่าตัวตาย[1] และแล้ว สี จิ้นผิง ก็กลายเป็นหนึ่งใน 29,000 ปัญญาชนชุดแรกที่ถูกกวาดต้อนไปเข้ารับการศึกษา ใช้ชีวิตเรียนรู้การทำไร่ทำนาและปศุสัตว์ พำนักอยู่ในถ้ำที่เหลียงเจี่ยเหอ หมู่บ้านเล็ก ๆ ทางเหนือของมณฑลชานซีในปี พ.ศ. 2512[1] ถึงกระนั้น เขามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาก สี จิ้นผิง ซึ่งยังคงอาศัยอยู่ในถ้ำ ได้เขียนจดหมายสมัครเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะถูกปฏิเสธมาตลอด แต่ในที่สุด หลังจากความพยายามหลายครั้ง เขาก็ได้เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ [1]

ในปี พ.ศ. 2515 เขาได้พบกับบิดาอีกครั้งด้วยน้ำตา บิดาของเขาซึ่งผ่านการใช้แรงงานมาอย่างหนักกว่าสิบปีไม่สามารถจำใบหน้าของลูกชายตนเองได้[1] สิ่งเดียวที่ผูกพันสองพ่อลูกคือบุหรี่มวนที่เขายื่นให้แก่บิดา

ท่านถามผมว่า ‘ทำไมแกถึงสูบบุหรี่ด้วยหล่ะ?’ ผมก็ตอบไปว่า ‘ผมเครียด ที่เราผ่านความลำบากหลายปีมานี้ได้ก็เพราะมันนี่แหล่ะ’

เมื่อชื่อเสียงของบิดาได้รับการฟื้นฟูภายหลังการอสัญกรรมของเหมา เจ๋อตง เขากลับมาศึกษาต่อจนกระทั่งสำเร็จการศึกษาด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยชิงหวา และเริ่มมีสายสัมพันธ์กับบุคคลในกองทัพ หลังจากนั้น เขาทำงานรับใช้พรรคที่มณฑลเหอเป่ย์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการผสมพันธุ์สุกร

ที่ฝูเจี้ยน สี จิ้นผิง เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับไต้หวัน จนได้เป็นรักษาการเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ สาขาเซี่ยงไฮ้ ระหว่าง 7 เดือนที่รักษาการ เขาพัฒนาความสัมพันธ์ กับ เจียง เจ๋อหมิน อดีตเลขาธิการพรรคและแกนนำคนสำคัญของกลุ่มผู้นำรุ่นที่ 3 ของจีน

สี จิ้นผิง ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ หลังจากการประชุมใหญ่ครั้งที่ 18 ในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 และขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางแห่งสาธารณรัฐในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2556

ชีวิตส่วนตัว

สีแต่งงานครั้งแรกกับ เค่อ หลิงหลิง บุตรีของเค่อ หัว อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำอังกฤษ ก่อนที่ทั้งคู่แยกทางกันหลังจากแต่งงานเพียงไม่กี่ปี [2]

ต่อมา พ.ศ. 2530 สีแต่งงานกับ เผิง ลี่หยวน เธอเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ ซึ่งเธอเป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกครั้งเมื่อนายสีได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และภายหลังสามีได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ นางเผิง เริ่มที่จะเข้ามามีบทบาทในด้านการเป็นเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศในฐานะที่เธอเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของจีน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ภริยาผู้นำสูงสุดออกมามีบทบาทต่อสาธารณชน ทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคน ชื่อว่า สี หมิงเจ๋อ [3][ลิงก์เสีย] ซึ่งปัจจุบันเธอกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยใช้นามแฝง [4]

นางเผิงเคยกล่าวถึงชีวิตในครอบครัวว่า "พอเขามาถึงบ้าน ดิฉันไม่เคยรู้สึกเลยว่ามีผู้นำกำลังอยู่ในบ้าน ในสายตาฉันเขายังคงเป็นแค่สามี" [5]

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 Cultural Revolution Shaped Xi Jinping, From Schoolboy to Survivor Christ Buckley and Didi Kirsten Tatlow. The New York Times. 24 กันยายน 2015.
  2. Elizabeth Yuan (2012-11-08). "Xi Jinping: From 'sent-down youth' to China's top". CNN. สืบค้นเมื่อ 2012-11-08.
  3. "习近平 彭丽媛:携手19年 家有小女习明泽(translation:Xi Jinping and Peng Liyuan: tied the knot for 19 years, had bred a daughter named Xi Mingze)" (ภาษาChinese). Xinhua News Agency.{{cite news}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  4. Liu, Melinda (18 January 2011). "Can't we just be friends?". Newsweek. สืบค้นเมื่อ 19 January 2011.
  5. "In depth". BBC. สืบค้นเมื่อ 11 September 2012.
ก่อนหน้า สี จิ้นผิง ถัดไป
หู จิ่นเทา เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน
(15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - ปัจจุบัน)
อยู่ในวาระ
หู จิ่นเทา ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
(15 มีนาคม พ.ศ. 2556 - ปัจจุบัน)
อยู่ในวาระ