ข้ามไปเนื้อหา

การระบาดทั่วของโควิด-19 ในสหรัฐ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บทความหลัก: การระบาดของโคโรนาไวรัส พ.ศ. 2562–2563 เรียงตามประเทศและดินแดน
ดูเพิ่ม: การระบาดของโคโรนาไวรัส พ.ศ. 2562–2563
การระบาดของโคโรนาไวรัสในสหรัฐ พ.ศ. 2563
แผนที่รัฐของสหรัฐที่พบผู้ติดเชื้อต่อประชากรล้านคน
ผู้ป่วยยืนยันต่อรัฐ ข้อมูลเมื่อ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 (2020 -07-29).
  ไม่มีการยืนยัน
  ยืนยันน้อยกว่า 5,000 คน
  ยืนยัน 5,000–10,000 คน
  ยืนยัน 10,001–125,000 คน
  ยืนยัน 125,001–325,000 คน
  ยืนยันมากกว่า 325,000 คน
โรคCOVID-19
สถานที่สหรัฐ
การระบาดครั้งแรกอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน[1]
ผู้ป่วยต้นปัญหาเอเวอร์เรตต์ รัฐวอชิงตัน (รายงานคนแรก)[2]
ชิคาโก, รัฐอิลลินอย (ผู้มาเยือนคนแรก)
วันแรกมาถึง15 มกราคม พ.ศ. 2563 [2]
(4 ปี 11 เดือน 7 วัน ที่แล้ว)
ผู้ป่วยยืนยันสะสม
  • 1,274,036 คน (CDC, รวมการยืนยันที่เป็นไปได้)[3]
  • 1,309,164 คน (JHU, รวมการยืนยันที่เป็นไปได้)[4]
  • 1,275,916 คน (CTP)[5]
ผู้ป่วยปัจจุบัน1,017,884 คน (JHU)[4]
หาย212,534 คน (JHU)[4]
เสียชีวิต
  • 77,034 คน (CDC, รวมการตายที่เป็นไปได้)[3]
  • 78,746 คน (JHU, รวมการตายที่เป็นไปได้)[4]
  • 71,762 คน (CTP)[5]
วันที่ 6 มีนาคม: ประธานาธิบดีทรัมป์ มาเยี่ยมศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ

บทความนี้เกี่ยวกับผลกระทบของการระบาดของโคโรนาไวรัส พ.ศ. 2562–2563 ต่อสหรัฐ

เส้นเวลา

[แก้]

ผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันรายแรกในสหรัฐ เป็นชายอายุราว 30 ปีจากสโนโฮมิชเคานตี รัฐวอชิงตัน ซึ่งถูกประกาศโดย CDC เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2563[6] เขาเดินทางมาจากนครอู่ฮั่นมายังท่าอากาศยานานาชาติซีแอตเทิล–ทาโคมาในวันที่ 15 มกราคม และถูกรายงานในอีกสี่วันต่อมาไปยังศูนย์การแพทย์ภูมิภาคพรอวิเดนซ์ในเอเวอเรต รัฐวอชิงตัน หลังจากรู้สึกป่วยด้วยอาการของโรคปอดอักเสบ[7][8][9] วันที่ 24 มกราคม มีรายงานยืนยันผู้ติดเชื้อรายที่สองในชิคาโก รัฐอิลลินอย เป็นหญิงอายุราว 60 ปี[10] 43 คนที่มีการสัมผัสกับชายคนแรกถูกเฝ้าระวัง[11] วันที่ 25 มกราคม ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคได้สอบสวนคนสามคนที่แสดงอาการของโคโรนาไวรัสในรัฐมิชิแกน[12]

วันที่ 24 มกราคม มีรายงานอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐ ว่ากำลังมีการตรวจสอบกรณีที่อาจเป็นไปได้อีก 63 กรณีในสหรัฐ มีการตรวจสอบขยายไปทั่ว 22 รัฐ รวมถึงผู้ป่วยรายแรกในรัฐวอชิงตัน และรายที่สองในรัฐอิลลินอย[10]

วันที่ 25 มกราคม ผู้ติดเชื้อรายที่สามมีการยืนยันจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเดินทางมาจากนครอู่ฮั่น[13]

วันที่ 26 มกราคม มีการยืนยันผู้ติดเชื้อรายที่สี่และห้า ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากอู่ฮั่น ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย และเทศมณฑลแมริโคปา รัฐแอริโซนา ตามลำดับ[14][15] ผู้ติดเชื้อที่รัฐแอริโซนา "เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา ที่ไม่สามารถอยู่อาศัยภายในอาคารของมหาวิทยาลัยได้"[16] และมีการร้องขอจากนักศึกษาให้ยกเลิกชั้นเรียน "จนกว่าจะมีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจในความเป็นอยู่ที่ดีของนักศึกษา"[17]

วันที่ 27 มกราคม CDC รายงานว่า มี "ผู้อยู่ภายใต้การสอบสวน" 110 คน ทั่วประเทศโดยเป็นผู้ที่มีอาการไข้และมีอาการป่วยในระบบหายใจ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตเพื่อตรวจสอบว่าอาจเป็นผู้ติดเชื้อ[18] วันที่ 29 มกราคม CDC รายงานว่า มีผู้ผู้อยู่ภายใต้การสอบสวนสะสมรวม 165 คน และมี 68 รายที่ผลการทดสอบเป็นลบและยังไม่มีผู้อยู่ภายใต้การสอบสวนใดมีผลเป็นบวก[19]

วันที่ 30 มกราคม CDC รายงานพบการติดเชื้อระหว่างมนุษย์สู่มนุษย์ในสหรัฐเป็นครั้งแรก โดยเป็นสามีของผู้ติดเชื้อรายที่สอง ซึ่งเป็นหญิงอายุราว 60 ปีที่เพิ่งเดินทางไปเที่ยวที่อู่ฮั่นมา ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่นั้นไม่ได้เดินทางไปด้วย[20][21]

วันที่ 31 มกราคม CDC รายงานพบผู้ติดเชื้อรายที่เจ็ด เป็นชายในเทศมณฑลซานตาแคลรา รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเพิ่งได้เดินทางไปยังอู่ฮั่นมา[22] ในวันเดียวกัน กรมอนามัยและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข มีการประกาศบังคับกักโรคสำหรับชาวสหรัฐที่เพิ่งเดินทางไปยังมณฑลหูเป่ย์มา และปฏิเสธการเข้าประเทศสำหรับชาวต่างชาติที่เพิ่งเดินทางไปยังประเทศจีนภายในสองสัปดาห์ นับเป็นคำสั่งกักโรคครั้งแรกในรอบกว่าห้าสิบปี[23]

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ CDC รายงานยืนยันผู้ติดเชื้อรายที่แปด เป็นชายอายุราว 20 ปีจากบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งเดินทางกลับมาศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัยแมสซาซูเซตส์บอสตันจากอู่ฮั่น[24][25]

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ CDC รายงานยืนยันผู้ติดเชื้อรายที่เก้า เป็นหญิงในเทศมณฑลซานตาแคลรา รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเพิ่งเดินทางไปยังอู่ฮั่นมา โดยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยรายแรกในเทศมณฑลนี้[26] ในวันเดียวกัน CDC รายงานยืนยันผู้ติดเชื้อรายที่สิบและสิบเอ็ดจากเทศมณฑลซานเบนิโต รัฐแคลิฟอร์เนีย และเป็นการแพร่ระหว่างมนุษย์สู่มนุษย์กรณีที่สอง[27] นอกจากนี้ กรมอนามัยและสุขภาพจิตนครนิวยอร์ก ได้ประการกรณีที่เป็นไปได้สามกรณี โดยเป็นหญิงอายุต่ำกว่า 40 ปี ซึ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในแมนแฮตตันเมื่อวันที่ 30 มกราคม และอีกสองเป็นบุคคลอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในควีนส์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์[28]

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ CDC และกรมบริการอนามัยรัฐวิสคอนซิน รายงานยืนยันผู้ติดเชื้อรายที่สิบสองในแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน[29] โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า ผู้ป่วยถูกส่งตรงไปยังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน หลังจากที่เดินทางถึงยังท่าอากาศยานภูมิภาคเทฑมณฑลเดนในแมดิสัน โดยผู้ป่วยไม่ใช่นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน[30]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. ↑ Sheikh, Knvul; Rabin, Roni Caryn (March 10, 2020). "The Coronavirus: What Scientists Have Learned So Far". The New York Times. สืบค้นเมื่อ March 24, 2020.
  2. ↑ 2.0 2.1 Holshue ML, DeBolt C, Lindquist S, Lofy KH, และคณะ (March 2020). "First Case of 2019 Novel Coronavirus in the United States". N. Engl. J. Med. 382 (10): 929–936. doi:10.1056/NEJMoa2001191. PMC 7092802. PMID 32004427.
  3. ↑ 3.0 3.1 "Coronavirus Disease 2019 (COVID-19): Cases in U.S." Centers for Disease Control and Prevention.
  4. ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 Johns Hopkins CSSE. "Coronavirus COVID19 (2019-nCoV)" (ArcGIS). Coronavirus COVID-19 Global Cases. สืบค้นเมื่อ May 9, 2020.
  5. ↑ 5.0 5.1 https://covidtracking.com/data
  6. ↑ Sun, Lena H.; Bernstein, Lenny (21 January 2020). "First U.S. case of potentially deadly Chinese coronavirus confirmed in Washington state". The Washington Post. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 January 2020. สืบค้นเมื่อ 21 January 2020.
  7. ↑ "First Travel-related Case of 2019 Novel Coronavirus Detected in United States". 21 January 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 January 2020. สืบค้นเมื่อ 21 January 2020.
  8. ↑ "Snohomish County man has the United States' first known case of Wuhan coronavirus". The Seattle Times. 21 January 2020. สืบค้นเมื่อ 22 January 2020.
  9. ↑ Schnirring, Lisa; 2020. "US detects first novel coronavirus case, in traveler". CIDRAP. สืบค้นเมื่อ 21 January 2020.{{cite web}}: CS1 maint: numeric names: authors list (ลิงก์)
  10. ↑ 10.0 10.1 Lovelace Jr, Berkeley (24 January 2020). "CDC confirms second US case of coronavirus and is monitoring dozens of other potential cases". CNBC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 January 2020. สืบค้นเมื่อ 24 January 2020.
  11. ↑ Corcoran, Kieran (24 January 2020). "43 people are being monitored after contact with the single US patient with Wuhan coronavirus, a ratio that could turn scary". The Business Insider. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 January 2020. สืบค้นเมื่อ 24 January 2020.
  12. ↑ "Michigan gealth officials confirm three cases related to the Coronavirus". CBS Detroit. 24 January 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-01-26. สืบค้นเมื่อ 24 January 2020.
  13. ↑ "Third US case of coronavirus confirmed in California, health officials say". cnbc.com. สืบค้นเมื่อ 2020-01-26.
  14. ↑ "Public Health Officials Confirm First Case Of Novel Coronavirus In LA County". CBS. 26 January 2020. สืบค้นเมื่อ 26 January 2020.
  15. ↑ "One case of coronavirus confirmed in Maricopa County, ADHS says". ABC 15. 26 January 2020. สืบค้นเมื่อ 26 January 2020.
  16. ↑ Feibel, Carrie (26 January 2020). "Coronavirus Case Confirmed In Arizona, Bringing U.S. Total To 5". NPR. สืบค้นเมื่อ 26 January 2020.
  17. ↑ แม่แบบ:Cite Web
  18. ↑ "US has 110 patients under observation for virus, health officials say". South China Morning Post. 2020-01-28. สืบค้นเมื่อ 2020-01-27.
  19. ↑ "2019 Novel Coronavirus (2019-nCoV) in the U.S." Centers for Disease Control. 2020-01-29. สืบค้นเมื่อ 2020-01-29.
  20. ↑ "CDC confirms first human-to-human transmission of coronavirus in US". CNBC. 2020-01-30. สืบค้นเมื่อ 2020-01-30.
  21. ↑ "Coronavirus update: First U.S. case of person-to-person transmission confirmed, 195 U.S. citizens in isolation and WHO declares a public health emergency". Marketwatch. 30 January 2020. สืบค้นเมื่อ 30 January 2020.
  22. ↑ Lovelace, Berkeley, Jr.; Feuer, William (31 January 2020). "CDC officials confirm 7th US case of coronavirus, in California man who traveled to China". CNBC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 February 2020. สืบค้นเมื่อ 31 January 2020.
  23. ↑ แม่แบบ:Cite Web
  24. ↑ แม่แบบ:Cite Web
  25. ↑ Sullivan, Josh; Klein, Asher (1 February 2020). "Massachusetts' First Case of New Coronavirus Diagnosed in Boston Student". NBC-TV 10 Boston. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 February 2020. สืบค้นเมื่อ 1 February 2020.
  26. ↑ "Ninth case of fast-moving coronavirus confirmed in U.S." Reuters. 2 February 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 February 2020. สืบค้นเมื่อ 3 February 2020.
  27. ↑ "2nd person-to-person transmission of coronavirus reported in US; 1st death confirmed outside China". 3 February 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 February 2020. สืบค้นเมื่อ 3 February 2020.
  28. ↑ Goldstein, Joseph (2 February 2020). "Coronavirus in New York: 2 More Possible Cases in City Are Identified". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 February 2020. สืบค้นเมื่อ 3 February 2020.
  29. ↑ Wisconsin Department of Health Services (5 February 2020). "2019 Novel Coronavirus Case is Confirmed in Wisconsin". Wisconsin DHS. สืบค้นเมื่อ 5 February 2020.
  30. ↑ Heim, Madeline; Marley, Patrick (5 February 2020). "The coronavirus has reached Wisconsin; case is the 12th in U.S." The Post-Crescent, Appleton, WI, US. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 February 2020. สืบค้นเมื่อ 6 February 2020.
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/w/index.php?title=การระบาดทั่วของโควิด-19_ในสหรัฐ&oldid=10425956"