โลกธรรม 8
ส่วนหนึ่งของ |
ศาสนาพุทธ |
---|
![]() |
โลกธรรม 8 หมายถึง ธรรมดาของโลก เรื่องของ ธรรมชาติของโลกที่ครอบงำสัตว์โลก และต้องเป็นไปตามนี้ โดยมี 8 ประการอันประกอบด้วย
โลกธรรมฝ่ายอิฏฐารมณ์ คือ พอใจของมนุษย์ เป็นที่รักเป็นที่ปรารถนา
- ลาภ หมายความว่า ได้ผลประโยชน์ ได้มาซึ่งทรัพย์
- ยศ หมายความว่า ได้รับฐานันดรสูงขึ้น ได้อำนาจเป็นใหญ่เป็นโต
- สรรเสริญ คือ ได้ยิน ได้ฟัง คำสรรเสริญคำชมเชย คำยกย่อง เป็นที่น่าพอใจ
- สุข คือ ได้ความสบายกาย สบายใจ ความเบิกบาน บันเทิงใจเริงใจ
โลกธรรมฝ่ายอนิฏฐารมณ์ คือ ความไม่พอใจของมนุษย์ ไม่เป็นที่ปรารถนา
- เสื่อมลาภ หมายความว่า เสียลาภไป ไม่อาจดำรงอยู่ได้
- เสื่อมยศ หมายถึง ถูกลดอำนาจความเป็นใหญ่
- นินทาว่าร้าย หมายถึง ถูกตำหนิติเตียนว่าไม่ดี ถูกติฉินนินทา หรือถูกกล่าวร้ายให้เสียหาย
- ทุกข์ คือ ได้รับความทุกขเวทนา ทรมานกาย ทรมานใจ[1]
โลกธรรม8 แบบ ธรรมจักรกัปปะวัตตะนะสูตรตัง อริยะธรรม แก่นธรรม แห่งอริยะ สิ่งที่เกิดขึ้นแต่เก่าก่อนมีอยู่เดิมแต่หลังแล้วในโลก
โลกธรรม8คือ แปดข้ออันเป็นอุปนิสัยอาการอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ที่มีอยู่ มีตั้งต้นจากหนึ่ง และแปรเปลี่ยนตามกันไป ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในขณะนั้น อันอุปนิสัยสันดารของมนุษย์ มีตั้งอยู่ในความรู้สึกนั่นเองว่าอาการอันมีแรกเริ่ม ก่อนและตาม ติดต่อกันมาจาก1-8โดยอาการแรกเริ่มที่1คือตั้งต้นของอาการต่อๆไป วกวนสับกันไปมาในอาการต่างๆและวนมายังอาการแรกมีดังนี้ 1.รัก อาการที่สัตว์โลกมีแรกเริ่มความรู้สึกแรก "(และจะตามติดต่อกันมาดังนี้)" 2.โลภ อยากได้ไม่รู้พออยากมีไว้ครอบครองเพียงแค่ตนเองเท่านั้น 3.โกรธ ความไม่พึงใจ ในสิ่งอื่น 4.หลง ความเข้าใจที่ไม่ถูก หักเห โลเล งมงาย 5.ลาภ. ล้วนได้มาจากไม่รู้ แต่รู้แล้วยังพึงเอามาแก่ตน 6.ยศ ถานันดรยกขึ้นมาว่าเหนือกว่าให้ผู้อื่นเกรงกลัว ในฐานันดรสูงกว่าไห้ผู้อื่นสักการะ หยิ่งยโสยกยอตนก็มีนั่นเอง 7.สรรเสริญ การถูกยกย่องโดยร่วมตามมาจากยศ สร้างให้มี ทั้งอีกหลายๆอย่างมารวมเข้าด้วย 8ติฉินนินทา ติ. การว่ากล่าวในสิ่งที่ตนเองผู้อื่นกระทำแล้วดูไม่เหมาะไม่ควรเกิดความไม่พึงใจ ในสิ่งนั้น ฉิน. การดูถูกเหยียดหยาม ว่าร้าย ไม่พึงใจกับการที่ตนมีนั้นว่าน้อยกว่า ด้วยอาการต่างๆเช่นสายตา ปาก ใบหน้า(สบัดหันหน้าไปทางอื่น)และทางวาจาการพูด นินทา. การพูดคุยกันหลายคนและต่อๆกันไปเรื่อยๆในทุกๆทางทุกอย่างทุกด้านของผู้อื่น และมีเพิ่มเติมลดลงบ้างในเรื่องนั้นที่พูดกัน. ก็มีพอใหสังเขปดังนี้
ดูเพิ่ม