ข้ามไปเนื้อหา

โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2

พิกัด: 9°6′20.15″N 99°22′13.22″E / 9.1055972°N 99.3703389°E / 9.1055972; 99.3703389
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2
Suratthani 2 School
ที่ตั้ง
แผนที่
ข้อมูล
ชื่ออื่นส.ธ.๒ / S.T.2
ประเภทรัฐ
หน่วยงานกำกับกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
สี  ชมพู   เขียว
เพลงเพลงมาร์ชโรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2

โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 หรือ โรงเรียนจังหวัด 2 (อังกฤษ: Suratthani 2 School) เริ่มก่อตั้งใน เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2537 โดยใช้ชื่อว่า โรงเรียนสุราษฎร์ธานี สาขาท่าเพชร และเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2539 สุขวิช รังสิตพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้น ได้มีประกาศจัดตั้ง โรงเรียนสุราษฎร์ธานี สาขาท่าเพชร เป็น โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ซึ่งสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปัจจุบันเปิดทำการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 แบบสหศึกษา แผนจัดชั้นเรียนเต็มรูป 10-10-10 / 6-6-6

ข้อมูลทั่วไป

[แก้]
  • สถานที่ตั้ง : เลขที่ 164 หมู่ที่ 5 ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000
  • เนื้อที่  : 27 ไร่ 3 งาน 37.7 ตารางวา
  • อักษรย่อ  : ส.ธ.๒
  • สีประจำโรงเรียน  : ชมพู - เขียว
  • ปรัชญา  : คิดเป็นธรรม ทำเป็นธรรม แก้ปัญหาเป็นธรรม
  • คติพจน์  : นิมิตตํ สาธุรูปานํ กตญญู กตเวทิตา ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี
  • เข็มประจำโรงเรียน  : ตราประจำพระองค์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ซึ่งพระราชทานอนุญาตให้โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2
  • ตราประจำโรงเรียน  : พระบรมธาตุไชยาลอยอยู่เหนือเมฆ ช้างสามเศียร ดวงประทีป เอราวัณทรงเครื่อง ประกอบกันภายในวงกลมล้อมรอบด้วยอักษรคติพจน์ของโรงเรียน
  • พระพุทธรูปประจำโรงเรียน  : เป็นพระพุทธรูปปางลีลา ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทรงเบิกพระเนตรพระพุทธรูปประจำโรงเรียน พร้อมพระราชทานนามพระพุทธรูปประจำโรงเรียนว่า “พระพุทธบารมีสุราษฎร์ธานีพิพัฒน์”[1]

ประวัติโรงเรียน

[แก้]

กรมสามัญศึกษาได้อนุมัติให้โรงเรียนสุราษฎร์ธานีเปิดสาขาขึ้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้ชื่อในขณะนั้นว่า “โรงเรียนสุราษฎร์ธานีสาขาท่าเพชร” โดยใช้ที่ดินที่ซื้อไว้เพื่อใช้ในการเรียนวิชาเกษตรกรรมของโรงเรียนสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2537

การรับนักเรียนรุ่นที่ 1 ทางโรงเรียนเปิดรับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2 101 คน แยกออกเป็น 2 ห้องเรียน โดยมี นายอภินันท์ พาหะมาก ผู้อำนวยการโรงเรียนสุราษฎร์ธานีในขณะนั้นปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้บริหาร และนายอภินันท์ พาหะมาก ได้มอบหมายให้ นายสุวิทย์ เทโหปการ อาจารย์ 2 ระดับ 7 โรงเรียนสุราษฎร์ธานีเป็นผู้ดูแล

การจัดการเรียนการสอนในช่วงแรกได้ใช้ครูโรงเรียนสุราษฎร์ธานีมาปฏิบัติการสอน การวัดผล การประเมินผล และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับนักเรียนของโรงเรียนสุราษฎร์ธานี

ดำเนินการรับนักเรียน ม.1 รุ่นที่ 2 ของโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2538 จำนวน 155 คน มีครู - อาจารย์ย้ายเข้ามาประจำที่โรงเรียนสุราษฎร์ธานี สาขาท่าเพชร จำนวน 10 คน สุขวิช รังสิตพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้น ได้มีประกาศจัดตั้งโรงเรียนสุราษฎร์ธานีสาขาท่าเพชรเป็น “โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2” สังกัดกรมสามัญศึกษา เป็นลำดับที่ 44 ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 30 เมษายน 2539 และให้ นายสาธร ลิกขะไชย ผู้อำนวยการโรงเรียนสุราษฎร์ธานีในขณะนั้นปฏิบัติหน้าที่ผู้บริหาร และได้มอบหมายให้ นายสุวิทย์ เทโหปการ เป็นผู้ดูแลเช่นเดิม

โรงเรียนได้ดำเนินรับนักเรียนเข้า ม.1 ประจำปีการศึกษา 2539 ทั้งสิ้น 199 คน กรมสามัญศึกษาจึงได้จัดสรรงบประมาณให้สร้างอาคารเรียนเบ็ดเสร็จ แบบ ก. ข. และ ค. ด้วยงบประมาณ 9,834,000 บาท ทั้งนี้ยังมีสนามบาสเกตบอล ห้องน้ำ บ้านพักครู และบ้านพักภารโรง อย่างละ 1 หลัง

กรมสามัญศึกษา ได้แต่งตั้งให้ นายวิรัช เศวตศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนสุราษฎร์ธานีในขณะนั้น ให้ปฏิบัติหน้าที่ครูใหญ่โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ในวันที่ 16 ตุลาคม 2539

นายวิรัช เศวตศิลป์ ครูใหญ่โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ได้นำคณะครู อาจารย์ เข้าเฝ้าสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เพื่อให้สมเด็จพระสังฆราช ทรงเบิกพระเนตรพระพุทธรูปประจำโรงเรียน พร้อมพระราชทานนามพระพุทธรูปประจำโรงเรียนว่า “พระพุทธบารมีสุราษฎร์ธานีพิพัฒน์” ในวันที่ 23 มีนาคม 2540

โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ได้มีหนังสือกราบทูลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก เพื่อขอพระราชทานนามอาคาร ก ซึ่งเป็นอาคารหลังแรกของโรงเรียนว่า “อาคารสมเด็จพระญาณสังวร ๘๔” และพระราชทานอนุญาตให้ใช้ตรา “ญสส” ซึ่งเป็นตราประจำพระองค์ ให้ใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำโรงเรียน และเข็มติดหน้าอกเสื้อเครื่องแบบของนักเรียน

กรมสามัญศึกษาได้แต่งตั้งให้ นายวิรัช เศวตศิลป์ ครูใหญ่โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ปฏิบัติหน้าที่อาจารย์ใหญ่โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2540

ชมรมสังสรรค์สามัคคีสุราษฎร์ธานี (3ส) ได้มอบเสาธงให้แก่โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2541 ค่าก่อสร้าง 116,073 บาท

ต่อมากรมสามัญศึกษาได้แต่งตั้งให้ นายวิรัช เศวตศิลป์ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ในวันที่ 30 ธันวาคม 2542

กรมสามัญศึกษา ได้จัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 สร้างอาคารเรียนแบบ 342 (ล)/41 (หลังคาทรงไทย) 1 หลัง งบประมาณ 19,837,000 บาท เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2543

กรมสามัญศึกษาได้จัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 สร้างหอประชุม/โรงอาหาร (อาคารสมเด็จฯ 91) งบประมาณ 7,194,000 ในปี พ.ศ. 2546

กระทรวงศึกษาธิการได้ ประกาศให้โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 เป็นโรงเรียนรางวัลพระราชทาน ขนาดใหญ่ ระดับประเทศ ในปี พ.ศ. 2546

กรมสามัญศึกษาได้จัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 สร้าง อาคารเรียนแบบ 108 ล/30 งบประมาณ 4,360,583 บาท ในปี พ.ศ. 2547

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่งตั้ง นายบัญญัติ สุขขัง มาปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2547 จนถึงปัจจุบัน[2]

อนุสรณ์จากศิษย์เก่า

[แก้]

ศิษย์เก่า ม.ต้น รุ่นแรก (รุ่นกาญจนาอภิเษก) ได้ร่วมกันหารายได้สร้างศาลากาญจนาภิเษก มอบให้แก่โรงเรียน เพื่อเป็นอนุสรณ์ งบประมาณ 140,000 บาท

ศิษย์เก่า ม.ต้น รุ่น 2 (สสร.) และศิษย์เก่า ม.ต้น รุ่น 3 (เอเชี่ยนเกมส์) ได้ก่อสร้างป้ายชื่อโรงเรียนให้แก่โรงเรียน ค่าก่อสร้าง 305,330 บาท

ศิษย์เก่า ม.ต้น รุ่นที่ 4 (เทิดพระเกียรติ 72 พรรษา) ได้สมทบเงินก่อสร้างห้องโสตเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา ค่าก่อสร้าง 183,000 บาท

ศิษย์เก่า ม.ต้น รุ่นที่ 5 (100 ปี สมเด็จย่า) ได้สมทบเงินก่อสร้างห้องพยาบาล 100 ปี สมเด็จย่า มูลค่า 185,000 บาท[3]

อ้างอิง

[แก้]

9°6′20.15″N 99°22′13.22″E / 9.1055972°N 99.3703389°E / 9.1055972; 99.3703389

  1. ฝ่ายบรรณาธิการ หนังสืออนุสรณ์, หนังสืออนุสรณ์ รุ่น ประกายเพชร 5, โรงพิมพ์อุดมลาภ, 2544, หน้า 6
  2. ฝ่ายบรรณาธิการ หนังสืออนุสรณ์, หนังสืออนุสรณ์ รุ่น ประกายเพชร 5, โรงพิมพ์อุดมลาภ, 2544, หน้า 19
  3. ฝ่ายบรรณาธิการ หนังสืออนุสรณ์, หนังสืออนุสรณ์ รุ่น ประกายเพชร 5, โรงพิมพ์อุดมลาภ, 2544, หน้า 20