เปรมศักดิ์ เพียยุระ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เปรมศักดิ์ เพียยุระ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น
ดำรงตำแหน่ง
6 มกราคม พ.ศ. 2544 – 6 มกราคม พ.ศ. 2548
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด10 มิถุนายน พ.ศ. 2508 (58 ปี)
จังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย
พรรคการเมือง
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น

นายแพทย์ เปรมศักดิ์ เพียยุระ หรือ พระเปรมศักดิ์ เปมสกฺโก (เกิด 10 มิถุนายน 2508) เป็นนักการเมืองชาวไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่[1]

การศึกษา[แก้]

นายแพทย์ เปรมศักดิ์ เพียยุระ จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระดับปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง และระดับปริญญาโทพุทธศาสนามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและระดับปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาพัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

งานการเมือง[แก้]

เปรมศักดิ์ เพียยุระ เริ่มงานการเมืองโดยเป็น ส.ส.ขอนแก่น ในสังกัดพรรคความหวังใหม่ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม (พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ) เมื่อพรรคความใหม่ควบรวมกับพรรคไทยรักไทย นายแพทย์เปรมศักดิ์ได้ย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย โดยเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ[ต้องการอ้างอิง]

การอุปสมบทในระหว่างการเลือกตั้ง พ.ศ. 2549[แก้]

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2549 นายแพทย์เปรมศักดิ์ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคพรรคไทยรักไทยอย่างกะทันหัน และเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดพิกุลทอง จากนั้นได้เดินทางไปจำวัดที่วัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีพระพยอม กัลยาโณ เป็นเจ้าอาวาส[ต้องการอ้างอิง]

การลาออกของนายแพทย์เปรมศักดิ์ ส่งผลให้พรรคไทยรักไทยมี ส.ส.บัญชีรายชื่อ เหลือเพียง 99 คน เมื่อรวมกับ ส.ส.ระบบเขตอีก 400 คน เป็น 499 คน ไม่ครบตามที่ระบุไว้ในมาตรา 98 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และมีคำวิพากษ์วิจารณ์ว่า เมื่อจำนวน ส.ส.ไม่ครบที่จะเป็นองค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่สามารถประกอบรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร [2] และไม่สามารถประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อคัดเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและนายกรัฐมนตรีได้[ต้องการอ้างอิง]

การเมืองหลังรัฐประหาร[แก้]

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล) โดยมอบหมายให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรและผู้ยากจนทั่วประเทศ รวมทั้งให้คำปรึกษาเพื่อเสนอแนะรัฐมนตรีโดยตรง[ต้องการอ้างอิง]

ต่อมานายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ เข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย[3]ภายหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557

จากนั้นในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 ได้ย้ายมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ[ต้องการอ้างอิง] แต่ในเวลาต่อมาย้ายมาสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไท[4] เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 สังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไท แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง[5] ต่อมานายแพทย์เปรมศักดิ์ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังท้องถิ่นไท กระทั่งวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 นายแพทย์เปรมศักดิ์ได้เปิดตัวเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 11 จังหวัดขอนแก่น พรรครวมไทยสร้างชาติ[6]

คดีความ[แก้]

เขาถูกสื่อมวลชนแจ้งความตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา กักขัง หน่วงเหนี่ยว[7] และเขาแจ้งความสื่อมวลชนด้วยเช่นเดียวกัน ฐานบุกรุกและละเมิดสิทธิ์[8]

ในวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ได้มีการเผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 50/2559 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 พักงานนายแพทย์เปรมศักดิ์ในฐานะนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองบ้านไผ่ โดยไม่พ้นจากตำแหน่งจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงพร้อมกับ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ที่ถูกพักงานในฐานะ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร [9]

วันที่ 21 มิถุนายน 2561 ศาลจังหวัดพล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่สื่อมวลชน จังหวัดขอนแก่น 5 คน เป็นโจทก์ฟ้อง นายแพทย์ เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จำเลยที่ 1 และ ว่าที่ร้อยตรี บัวทอง โลขันธ์ อดีตเลขานุการนายกรัศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จำเลยที่ 2 ในข้อกล่าวหากระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัน จับผู้สื่อข่าวผู้ชายแก้ผ้า ขณะเข้าไปสอบถามหลังมีภาพภายในห้องปฏิบัติราชการนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่นโดยทางศาล ได้มีคำพิพากษาจำคุก นพ.เปรมศักดิ์ และ ร.ต.โพธิ์ทอง คนละ 2 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ภายหลังศาลได้ให้ประกันตัวจำเลยทั้งสองด้วยหลักทรัพย์คนละ 120,000 บาท โดยทนายได้นำหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินยื่นประกันตัว โดยทั้งนี้ ศาลได้ให้โจทก์สามารถยื่นอุทธรณ์ได้[10]

ทนายความฝ่ายโจทก์ เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดพล จ.ขอนแก่น ได้ส่งหนังสือมายังฝ่ายโจทก์ โดยแจ้งว่า นพ.เปรมศักดิ์ จำเลยที่ 1 และ ร.ต.บัวทอง ที่ 2 ได้ยื่นคำร้องขอรับสารภาพผิดตามฟ้องตลอดข้อกล่าวหา และให้ยกเลิกหมายนัดการฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 4 ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 โดยการรับสารภาพผิดตามฟ้องเป็นการรับสารภาพในชั้นอุทธรณ์[11]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. 'พลังท้องถิ่นไท' โหวต 'ชัช เตาปูน' หัวหน้าพรรค ลั่นพร้อมเป็นนายก
  2. "'หมอเปรม'บวชผ่าทางตัน!ทรท.ระส่ำกลัวสภาไม่500". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-29. สืบค้นเมื่อ 2021-09-02.
  3. เปรมศักดิ์ เพียยุระย้ายพรรคภูมิใจไทย[ลิงก์เสีย]
  4. 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' ถูกซื้อตัว30ล้าน เชื่อ 'เปรมศักดิ์' ได้เป็นส.ส.แน่
  5. พลวุฒิ สงสกุล (19 กันยายน 2561). "แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ เตรียมหย่อนบัตรปี 62 ส.ส. ลด 23 จังหวัด อีสานหด 10 ที่นั่ง". THE STANDARD. สืบค้นเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  6. "รวมไทยสร้างชาติ"เปิดตัว"หมอเปรม-วุฒิพงศ์"ลงส.ส.ขอนแก่น ชูนโยบาย"กองทุนฉุกเฉิน-กองทุนสร้างชาติ"แก้หนี้สินปชช.
  7. 5 นักข่าว จ่อแจ้งความ 'หมอเปรม'-ส.สื่อขอนแก่นประณาม โหดร้าย-ป่าเถื่อน
  8. 'หมอเปรม' แจ้งความนักข่าวบุกรุกห้องทำงาน บีบคั้นกดดัน ละเมิดสิทธิ
  9. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 133 ตอน 188 ง พิเศษ หน้า 17 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559
  10. ข้อกล่าวหากระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัน จับผู้สื่อข่าวแก้ผ้า[ลิงก์เสีย]
  11. เลื่อนอีก! ตัดสินอุทธรณ์คดี “หมอเปรม” แก้ผ้านักข่าว เจ้าตัวยื่นคำร้องรับสารภาพผิดตามฟ้อง
  12. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2022-11-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๒ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๒, ๓ ธันวาคม ๒๕๔๘
  13. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย[ลิงก์เสีย], เล่ม ๑๑๙ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๙, ๔ ธันวาคม ๒๕๔๕

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]