ข้ามไปเนื้อหา

อาสนวิหารน็องต์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อาสนวิหารนักบุญเปโตร
และนักบุญเปาโล
แห่งน็องต์
ด้านหน้าของอาสนวิหาร
แผนที่
47°13′06″N 1°33′03″E / 47.21833°N 1.55083°E / 47.21833; 1.55083
ที่ตั้งน็องต์ จังหวัดลัวรัตล็องติก
ประเทศ ประเทศฝรั่งเศส
นิกายโรมันคาทอลิก
เว็บไซต์http://nantescathedrale.free.fr/index.htm
สถานะอาสนวิหาร
ประเภทสถาปัตย์กางเขน
รูปแบบสถาปัตย์กอธิก
แล้วเสร็จค.ศ. 1891
ความสูงอาคาร49 เมตร
อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ (ค.ศ. 1862)

อาสนวิหารน็องต์ (ฝรั่งเศส: Cathédrale de Nantes) หรือมีชื่อเต็มว่า อาสนวิหารนักบุญเปโตรและนักบุญเปาโลแห่งน็องต์ (Cathédrale Saint-Pierre-et-Saint-Paul de Nantes) เป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิกและที่ตั้งของมุขนายกประจำมุขมณฑลน็องต์ ตั้งอยู่ที่ปลัสแซ็ง-ปีแยร์ (Place Saint-Pierre) ในเขตเมืองน็องต์ จังหวัดลัวรัตล็องติก ในแคว้นเปอีเดอลาลัวร์ ประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่สองอัครทูตสำคัญ คือ นักบุญเปโตรและนักบุญเปาโล

อาสนวิหารน็องต์ได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เมื่อปี ค.ศ. 1862[1]

ประวัติ

[แก้]

อาสนวิหารแห่งน็องต์สร้างขึ้นบนพื้นที่วิหารเดิมที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1434 จนแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1891 โดยใช้เวลาสร้างรวมทั้งสิ้นถึง 457 ปี อาสนวิหารอันเป็นอาคารขนาดใหญ่มาก เริ่มสร้างในสมัยที่เมืองน็องต์และภูมิภาคเบรอตาญ ซึ่งมีความร่ำรวยทางเศรษฐกิจ ในช่วงที่ปกครองโดยฌ็องที่ 6 ดุ๊กแห่งเบรอตาญ โดยมีสถาปนิกชาวฝรั่งเศส กีโยม เดอ ดามาร์แต็ง เป็นผู้ดูแลการก่อสร้าง และมาตูว์แร็ง รอดีเย ในภายหลัง โดยวางศิลาฤกษ์ในปี ค.ศ. 1434 และเริ่มก่อสร้างจากหน้าบันฝั่งทิศตะวันตก ทางเดินด้านข้าง โถงทางเดินโบสถ์ และหอสวดมนต์เล็ก[2] ได้แบ่งการก่อสร้างวิหารแบ่งเป็น 5 ช่วงหลัก ๆ[3]

  • ช่วงปี ค.ศ. 1434–1470 เป็นช่วงที่มีการสร้างหน้าบันทิศตะวันตกและฐานสำหรับหอระฆัง รวมทั้งทางเดินด้านข้างฝั่งทิศใต้ ส่วนโถงทางเดินโบสถ์ และหอสวดมนต์เล็ก และโครงเสาด้านทิศใต้ซึ่งมีลักษณะที่คล้ายกับเสาของมง-แซ็ง-มีแชลเริ่มก่อสร้างหลังปี ค.ศ. 1444 ตราประจำของดุ๊กฌ็องที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1442 ถูกตั้งไว้ที่โถงบันไดทางขึ้นระเบียงทางทิศใต้ เพดานโค้งฝั่งหอระฆังตกแต่งด้วยตราประจำของบิชอปกีโยม เดอ มาลทรัว (1443-1462) ระเบียงเหนือทางเดินข้างสร้างในแบบที่เก่าแก่กว่า (ฟล็องบัวย็อง) และเป็นคนละแบบกันกับส่วนโถงทางเดินโบสถ์ ประตูทางเข้าวิหารทำด้วยทองแดงสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1482
  • ส่วนสุดท้ายเป็นช่วงที่แขนกางเขนทางทิศเหนือและบริเวณร้องเพลงสวดได้เสร็จสิ้นช่วงปี ค.ศ. 1840 และ ค.ศ. 1891 อันเป็นยุคที่กำลังฟื้นฟูความเชื่อทางคริสต์ศาสนา ความล่าช้าส่วนใหญ่มากจากการรื้อถอนโบสถ์เก่า(โรมาเนสก์) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บริเวณกำแพงเมือง เพื่อมาทำการสร้างส่วนบริเวณร้องเพลงสวดของอาสนวิหารแห่งใหม่

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อาสนวิหารได้ถูกทิ้งระเบิดโดยฝ่ายสัมพันธมิตร ในวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1944 ต่อมาเมื่อ 28 มกราคม ค.ศ. 1972 ได้มีเพลิงไหม้โดยเริ่มมาจากบริเวณหลังคาของวิหาร ถึงแม้ว่าเพลิงจะถูกควบคุมได้ในที่สุด แต่ก็ยังสร้างความเสียหายในวงกว้าง โดยเฉพาะโครงสร้างหลังคาที่ทำจากไม้ อัคคีภัยครั้งนี้เป็นมูลเหตุของการบูรณปฏิสังขรณ์อาสนวิหารที่สมบูรณ์แบบที่สุดในยุคปัจจุบัน

หน้าบันของอาสนวิหารประกอบไปด้วยหอระฆังทั้งสองขนาบข้าง โดยยอดหอสูงเหนือระเบียงบนดาดฟ้าของอาสนวิหาร หน้าบันของอาสนวิหารแห่งนี้แสดงให้เห็นถึง 1) มุขด้านหน้าที่ยื่นออกมา เพื่อสามารถเทศน์ให้ฝูงชนที่อยู่บนจัตุรัสด้านหน้าได้อย่างชัดเจน 2) ซุ้มประตูที่ตกแต่งอย่างวิจิตรพิสดารถึง 5 ซุ้ม โดยมี 3 ซุ้มทางด้านหน้า และอีก 2 ซุ้มทางด้านข้าง (ดูผังประกอบ - หมายเลข 1 เป็นประตูกลาง หมายเลข 2 คือประตูนักบุญเปาโล หมายเลข 3 คือประตูนักบุญอีฟว์ หมายเลข 32 คือประตูนักบุญโดนาเทียนกับโรกาเทียน และหมายเลข 33 คือประตูนักบุญเปโตร)

ผังของอาสนวิหาร

รูปแบบทางสถาปัตยกรรมของอาสนวิหารเป็นสถาปัตยกรรมกอทิกแบบฝรั่งเศส แต่รายละเอียดส่วนใหญ่ล้วนเป็นกอธิกยุคปลายทั้งสิ้น อาทิ การยกเลิกการใช้หัวเสา ขอบหน้าต่างแบบฟล็องบัวย็อง (Flamboyant tracery) เป็นต้น[4]

ระเบียงภาพ

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. http://www.culture.gouv.fr/public/mistral/merimee_fr กระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส
  2. Frankl, P., Revised by Crossley, P. (2000) Gothic architecture, (Yale University Press, Pelican History of Art).
  3. Leniaud, J.-M., Bienvenu, G., Curie, P., Daboust, V., Eraud, D., Gros, C., James, F.-C. and Riffet, O. (1991) Nantes. La cathédrale Loire-Atlantique, Inventaire Général des Monuments et des Richesses Artistiques de la France. Nantes 1991
  4. Russon, J. B. and Duret, D. (1933) La cathedrale de Nantes. Savenay 1933