การปฏิวัติ ค.ศ. 1989

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การปฏิวัติ ค.ศ. 1989
ส่วนหนึ่งของ สงครามเย็น
การทลายกำแพงเบอร์ลินในปี ค.ศ. 1989
วันที่9 มีนาคม ค.ศ. 1989 – 27 เมษายน ค.ศ. 1992
(3 ปี 1 เดือน 2 สัปดาห์ 4 วัน)
สถานที่ทวีปยุโรป (โดยเฉพาะยุโรปตอนกลาง ยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรปตะวันออก)
จีน
รัสเซีย
ประเทศคอมมิวนิสต์ในส่วนอื่นของทวีปยุโรปและของโลก
สาเหตุ
เป้าหมาย
วิธีการการประท้วงและอื่น ๆ
ผล
คู่ขัดแย้ง
ประชาชนในประเทศกลุ่มตะวันออก
ยังรู้จักกันในชื่อการเสื่อมอำนาจของคอมมิวนิสต์ การล่มสลายของลัทธิสตาลิน การล่มสลายของคอมมิวนิสต์ การล่มสลายของระบอบสังคมนิยม การเสื่อมอำนาจของระบอบสังคมนิยม ฤดูใบไม้ร่วงของประชาชาติ การเสื่อมอำนาจของประชาชาติ และยุโรปสปริง

การปฏิวัติ ค.ศ. 1989 (อังกฤษ: Revolutions of 1989) เป็นส่วนหนึ่งของคลื่นการปฏิวัติในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1980 และต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 อันส่งผลให้ระบอบคอมมิวนิสต์ในยุโรปตอนกลางและตะวันออกรวมถึงภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลกล่มสลาย ในบางครั้งช่วงสมัยนี้ถูกเรียกขานว่าเป็น ฤดูใบไม้ร่วงของประชาชาติ (Autumn of Nations)[1][2][3][4][5] ซึ่งเป็นวาทกรรมล้อเลียนของ ฤดูใบไม้ผลิของประชาชาติ (Spring of Nations) ที่บางครั้งใช้หมายถึงการปฏิวัติ ค.ศ. 1848 การปฏิวัตินี้เริ่มมาจากเหตุการณ์ที่สหภาพโซเวียตผ่อนปรนนโยบายต่างประเทศกับชาติตะวันตกส่งผลให้ระบอบคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกเริ่มสั่นคลอนนำไปสู่การเรียกร้องเสรีภาพและประชาธิปไตยในยุโรปตะวันออกให้มีสิทธิมากขึ้นส่งผลให้ประเทศคอมมิวนิสต์ในหลายๆประเทศล่มสลายและนำไปสู่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตอีกด้วย

ภูมิหลัง[แก้]

ในปี ค.ศ.1980 ประเทศโปแลนด์มีการรวมตัวและเรียกร้องของสหภาพแรงงานหรือโซลิดาริตีภายใต้การนำของแลค วาแวนซาซึ่งต่อมากลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของโปแลนด์ได้มีการเดินขบวนในการต่อต้านรัฐโดยใช้วิธีดื้อแพ่งเพื่อแสดงออกทางด้านสิทธิของชนชั้นแรงงานทำให้กองทัพโปแลนด์ซึ่งนำโดยวอยแชค ยารูแซลสกีได้ทำการประกาศกฎอัยการศึกในปี 1981

นโยบายของกอร์บาเชฟ[แก้]

ในช่วงที่ผู้นำสหภาพโซเวียตมีฮาอิล กอร์บาชอฟมีนโยบายปฎิรูปเศรษฐกิจภายในประเทศหรือที่เราเรียกกันว่าเปเรสตรอยคาซึ่งปัจจัยที่นายกอร์บาเชฟปฎิรูปนั้นก็คือเศรษฐกิจของสภาพโซเวียตในช่วงนั่นอยู่ในระดับต่ำเพราะงบประมาณที่โซเวียตได้นั้นหันไปทำสงครามในอัฟกานิสถานและผลิตยุทธโนปกรณ์จนหมดส่งผลให้ประเทศสหภาพโซเวียตขนาดนั้นมีรายได้ต่ำมากทำให้นโยบายของกอร์บาเชฟดังกล่าวมีการปฎิรูปให้ทันสมัยมากขึ้นรวมไปถึงให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและวิจารณ์การทำงานของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียตอีกด้วยซึ่งนโยบายดังกล่าวเรียกว่ากลัสนอสต์

การตื่นตัวทางการเมือง[แก้]

The 20–21 March 1981 issue of Wieczór Wrocławia (This Evening in Wrocław) shows blank spaces remaining after the government censor pulled articles from page 1 (right, "What happened at Bydgoszcz?") and from the last page (left, "Country-wide strike alert"), leaving only their titles as the printers—Solidarity-trade-union members—decided to run the newspaper with blank spaces intact. The bottom of page 1 of this master copy bears the hand-written Solidarity confirmation of that decision.

หลังจากเหตุการณ์ที่โปแลนด์ประกาศกฎอัยการศึกในปี พ.ศ.2524 ผู้คนต่างลี้ภัยและไปจัดตั้งกลุ่มโซลิดาริตีอย่างลับๆในช่วงกลางคริสตวรรษที่ 80 อย่างไรก็ตามในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ความเป็นปึกแผ่นเริ่มแข็งแกร่งพอที่จะขัดขวางความพยายามในการปฏิรูปของนายพลจารูเซลสกี้ได้มีการประท้วงใหญ่ในปี 1988 เพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งเสรีและสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกจนกระทั่งในปี 1989 ฝ่ายนิติบัญญัติของโปแลนด์มีมติเห็นชอบให้จัดการเลือกตั้งเสรีทำให้ประชาชนมีสิทธิมากขึ้น

ชุดแผนที่แบบเคลื่อนไหวที่แสดงการล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกและการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ซึ่งต่อมานำไปสู่ความขัดแย้งในพื้นที่หลังโซเวียต

การเลือกตั้งสายเสรีในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก ค.ศ. 1989–1991[แก้]

ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน และ มีฮาอิล กอร์บาชอฟ ขณะเยือนจัตุรัสแดงในกรุงมอสโกปี พ.ศ.2531

อ้างอิง[แก้]

  1. Nedelmann, Birgitta; Sztompka, Piotr (1 January 1993). Sociology in Europe: In Search of Identity. Walter de Gruyter. pp. 1–. ISBN 978-3-11-013845-0.
  2. Bernhard, Michael; Szlajfer, Henryk (1 November 2010). From the Polish Underground: Selections from Krytyka, 1978–1993. Penn State Press. pp. 221–. ISBN 0-271-04427-6.
  3. Luciano, Bernadette (2008). Cinema of Silvio Soldini: Dream, Image, Voyage. Troubador. pp. 77–. ISBN 978-1-906510-24-4.
  4. Grofman, Bernard (2001). Political Science as Puzzle Solving. University of Michigan Press. pp. 85–. ISBN 0-472-08723-1.
  5. Sadurski, Wojciech; Czarnota, Adam; Krygier, Martin (30 July 2006). Spreading Democracy and the Rule of Law?: The Impact of EU Enlargemente for the Rule of Law, Democracy and Constitutionalism in Post-Communist Legal Orders. Springer. pp. 285–. ISBN 978-1-4020-3842-6.